ช่อดอกไม้ กับเจ้าสาวนั้น คือของคู่กัน ซึ่งอย่างที่เห็นในงานแต่งงาน เจ้าสาวจะถือช่อดอกไม้แสนสวย หรูหรา
การโยนช่อดอกไม้ ก็จะมีเพื่อนๆ เจ้าสาวและเหล่าหญิงสาวที่มาร่วมงาน วิ่งมารอรับช่อดอกไม้เพียงช่อเดียวให้ได้ เพราะเชื่อว่า การได้รับช่อดอกไม้ต่อจากเจ้าสาว นั้นหมายถึงว่า ตนจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไปในเร็วๆนี้ หลายคนจึงเรียกช่อดอกไม้นี้ว่า เป็นช่อดอกไม้แห่งความโชคดี ซึ่งในอดีตนั้น ช่อดอกไม้ ไม่ได้เป็นตัวแทนเครื่องรางแห่งความโชคดีนี้ แต่เป็นชุดเจ้าสาว หากแต่ชุดเจ้าสาวนั้น มีเพียงชุดเดียวเท่านั้น จึงเปลี่ยนมาเป็นช่อดอกไม้
ดอกไม้ที่นำมาใช้ทำ ช่อดอกไม้สำหรับเจ้าสาวนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายดอกแต่โดยส่วนมากแล้วจะมีเพียง 3 ดอกที่ได้รับความนิยม คือ ดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความปรารถนา ต่อมาคือ ลิลลี่ ที่สื่อถึงความประทับใจและความสมบูรณ์แบบ และดอกคาร์เนชั่น เป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ช่อดอกไม้ ของเจ้าสาวแต่ละช่อ มีความแตกต่างกัน เพราะความรักแต่ละคนที่มีนั้นต่างกัน ดังนั้นในงานแต่งงานเราจึงเห็นช่อดอกไม้ในมือเจ้าสาวที่ไม่เหมือนกันเลย หลังจากเจ้าสาวกล่าวคำขอบคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเจ้าสาวต่างก็ต้องเตรียมตัวเพื่อมารอรับช่อดอกไม้ช่อนั้นๆ ใครรับได้ถือว่าโชคดี ซึ่งนี่ถือว่าเป็นที่มาของคำว่าเครื่องรางแห่งความโชคดีที่เหล่าสาวๆให้ความสำคัญ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
