My husband makes my dream come true
มาดูกระเป๋า รองเท้า กระโปรง กางเกงราคาแสนถูกและชุดสวยๆ ในราคา 1 เซนต์กันค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ และน้องๆ ชาวบล๊อกแก็งค์



เพื่อนๆ และน้องๆ ที่ตามอ่านบล๊อกของดิฉัน จะทราบว่าดิฉันมีงานอดิเรกที่รักเป็นชีวิตจิตใจคือการช๊อปปิ้ง เหตุผลที่มีงานอดิเรกนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งคือดิฉันทำงานอยู่ที่ห้างขายเสื้อผ้า แล้วเสื้อผ้าที่ห้างที่ดิฉันทำงานก็สวย แต่ล่ะสัปดาห์ก็จะมีแบบใหม่ๆ ออกมาให้ดิฉันอยากได้ ไม่ว่าแฟชั่นจะเป็นอย่างไร ดิฉันคนหนึ่งจะมีเสื้อผ้าตามแฟชั่นตลอด


การทำงานที่ห้างทหารเรือแก่ๆ สาขานี้ดิฉันทำงานมาได้เกือบปีแล้ว สาขาใหม่ที่ดิฉันย้ายมานี้ ดิฉันต้องทำงานหลากหลายเพราะเป็นห้างที่ใหญ่กว่าสาขาเก่ามากๆ ลูกค้าก็เป็นอีกระดับคือระดับมีอันจะกิน ช่วงแรกๆ ที่ดิฉันทำงานที่สาขานี้ ดิฉันอยากจะลาออกมาก เนืองจากทนแรงกดดันของลูกค้าไม่ได้ ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจลูกค้า ลูกค้าบางคนก็ดีให้อภัย แต่บางคนก็หยาบคาย เช่นกันลูกค้าบางคนไม่พอใจอะไรก็ฟ้องผู้จัดการ บางครั้งทำให้ดิฉันท้อใจ ไม่อยากทำงานที่ห้างฯ นี้อีกต่อไป


ช่วงแรกๆ ดิฉันคิดจะลาออกหลายครั้ง ได้เอาปัญหาความกดดันจากลูกค้าไปเล่าให้สามีฟัง สามีดิฉันก็บอกว่าถ้าดิฉันทำงานไม่สบายใจ จะลาออกก็ได้ แต่ก็ควรจะไปพูดกับผู้จัดการ สำหรับดิฉันนั้นการทำงานที่ห้างฯ แห่งนี้เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะรายได้หลักมาจากสามี รายได้ดิฉันคือรายได้เสริม แต่ที่ดิฉันทำงานเพราะไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ เช่นกันอยากมีสังคมของตัวเองคือได้มีเพื่อนที่ทำงาน และได้ฝึกภาษาไปในตัว แต่พอจะเข้าไปลาออกกับผู้จัดการ ก็ไม่มีโอกาส เช่นผู้จัดการยุ่ง ดิฉันก็ทำงานเพลิน เลยไม่ได้ลาออก หลังจากนั้นก็ทำงานมาเรื่อยๆ ท้อใจก็มีบ้าง เวลาลูกค้าชมก็มีความสุข


สมัยที่ทำงานที่ห้างสาขาเก่านั้น ผู้จัดการเค้าทนุถนอมดิฉัน ดิฉันไม่ต้องรับโทรศัพท์ อาจจะเพราะผู้จัดการกลัวว่าลูกค้าจะฟังไม่เข้าใจ เพราะห้างดิฉันเป็นห้างของคนอเมริกัน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนอเมริกัน และดิฉันก็ไม่ต้องทำงานแคชเชียร์ ถ้าไม่จำเป็น แต่สาขาใหม่นี้ดิฉันต้องทำทุกอย่าง ยิ่งดิฉันอยู่ในห้องลองเสื้อผ้า ต้องรับโทรศัพท์ แล้วถ้าแคชเชียร์ไม่พอ ลูกค้ามาก ก็ต้องไปทำหน้าที่แคชเชียร์ แรกๆ ก็ติดขัดเพราะไม่ได้ทำประจำ เช่น เวลาลูกค้าจ่ายเช็คหรือมีเครดิตกับห้างฯ แต่งานแคชเชียร์ต้องทำบ่อยๆ ถึงจะคล่อง


เวลาลูกค้ามารอแถวจ่ายเงินแถวยาว ดิฉันจะพยายามเคลียร์ให้ลูกค้าออกไปเร็วที่สุดเพราะเครียดไม่อยากเห็นแถวยาวของลูกค้าและลูกค้าก็จะหงุดหงิด ลูกค้าบางคนก็น่ารัก บางคนก็ร้ายเอาทีเดียว สำหรับที่ดิฉันจะเขียนเล่าต่อไป ถือว่าเป็นประสบการณ์ทำงานของดิฉัน และดิฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะแบ่งแยกสีผิวหรืออย่างไร แต่เขียนจากประสบการณ์ที่ได้รับ ถ้าเพื่อนๆ และน้องๆ จะไม่อ่านก็ได้


สำหรับประสบการณ์ของดิฉันนั้นลูกค้าที่เป็นพวกอเมริกันจะเกรงใจ ถ้าเห็นแถวยาวเค้าจะรีบจ่ายเงินหรือถ้าเค้าลืมคูปองหรืออะไรเค้าก็จะบอกไว้ครั้งต่อไป หรือไปต่อแถวใหม่ ไม่รั้งแถวการจ่ายเงินไว้ สำหรับลูกค้าคนจีนบางคนก็ดี แต่ก็มีบางคนที่ไม่มีความเกรงใจ เช่น เอาเศษตังค์เป็นกำมือใส่ถุงพลาสติกมาให้ดิฉันนับ แล้วเศษตังค์ที่ใส่ถุงพลาสติกก็ยังขาดอีก แล้วก็มีลูกค้าต่อแถวยาว พอดิฉันบอกว่ายังขาดอีก เค้าก็บอกว่านับใหม่ เป็นอันว่าเงินไม่ถึงหนึ่งดอลล่าร์ต้องนับใหม่ถึงสองครั้ง แล้วก็ไม่ใช่สิบเซนต์ หรือยี่สิบห้าเซนต์ เป็นเศษหนึ่งเซนต์ ห้าเซนต์ ปนกัน พอนับสองครั้งก็ยังขาดอีก เธอถึงให้เศษตังค์มาเพิ่ม แล้วก็บอกว่าขอโทษน่ะที่ให้เศษตังค์เพราะต้องกลับประเทศไม่ได้ใช้เศษตังค์ ถ้าแถวไม่ยาวหรือไม่มีลูกค้ารอคิว ดิฉันก็จะไม่เสียความรู้สึก แต่นี่เพราะแถวยาว ลูกค้าบางคนขาดเศษตังค์ก็บอกให้ดิฉันออกให้ ดิฉันก็ย้อนไปว่าออกให้ไม่ได้หรอก ถ้าจะซื้อก็หาเศษตังค์มา ซึ่งก็เป็นคนจีนอีกล่ะ บางที่ลูกค้าก็จ่ายเงินมาสองดอลล่าร์แต่เป็นเศษสตางค์ทั้งนั้น เธอค่อยๆ ควักมาที่ละเซนต์ ห้าเซนต์ นานประมาณเกือบสิบนาที ยังดีที่วันนั้นเป็นไม่ลูกค้ามาต่อแถว ดิฉันปล่อยให้เธอนับตามสบายใจเลย แล้วคิดในใจทำไมเธอถึงไม่เตรียมเงินมาให้ครบถ้ารู้ว่าจะมาจ่ายเงินแค่สองดอลล่าร์เป็นเศษสตางค์ การที่ได้มาทำงานแคชเชียร์ทำให้ดิฉันได้เห็นอกเห็นใจแคชเชียร์ตามห้างขายของต่างๆ เวลาดิฉันจ่ายเงิน ถ้าคิดจะจ่ายเศษสตางค์จะจ่ายแค่เศษน้อยๆ ยิ่งถ้าเห็นแถวยาวจะพยายามรีบจ่ายเงินแล้วรีบเดินออกมาให้เร็วที่สุด



แล้วถ้ามีลูกค้าพวกผิวดำเดินเข้ามา พนักงานอย่างพวกดิฉันก็จะต้องคอยจับตามากๆ เพราะพวกเค้าได้สร้างภาพพจน์เอาไว้คือชอบมาขโมยของ พอจับได้ก็ทิ้งของไว้แล้ววิ่งหนีไป ห้างฯ ดิฉันนั้นถ้าลูกค้าออกจากประตูแล้ว เราไม่สามารถไปทำอะไรได้ ลูกค้าพวกนี้จะมากันเป็นกลุ่มแล้วชอบถือมือถือทำเป็นคุยโทรศัพท์ บางครั้งก็มาขโมยชุดบีกินนี้หรือชุดออกกำลังที่มีบราแล้วถอดบราเก่าของตัวเองทิ้งไว้ที่ห้องลองเสื้อผ้า บางครั้งก็มีลูกค้ามาสกิดบอกดิฉันว่าเธอคนผิวดำขโมยของ เธอเห็นกับตา ให้ดิฉันคอยสังเกต ดิฉันก็ต้องไปบอกผู้จัดการ แต่ก็มีคนผิวดำที่ดีๆมาก


เช่นกันบางครั้งก็ทำให้ดิฉันได้เจอดารา โดยไม่คาดคิด เพราะพวกดาราที่มาเดินที่ห้างฯ ดิฉันจะไม่แต่งตัวอะไรเลย มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ดิฉันกำลังทำหน้าที่แคชเชียร์ มีลูกค้ามาจ่ายตังค์ ไม่แต่งหน้าหรือแต่งตัวอะไรเลย เหมือนลูกค้าธรรมดา พอเธอจ่ายเงินเสร็จ ลูกค้าคนถัดไปก็มาบอกดิฉันว่าลูกค้าก่อนหน้าเธอเป็นดารา เล่นเป็นแม่ของดาราที่ได้ออสการ์ปีนี้ ดิฉันถึงกับตกใจเพราะเธอดูเรียบง่ายมากๆ เพื่อนดิฉันบอกเธอมาซื้อเสื้อผ้าที่ห้างบ่อย ครั้งที่แล้วก็มากับดาราอีกคน เช่นกันเพื่อนดิฉันยังบอกอีกว่าถ้าเธอเป็นดาราเหมือนดาราคนนี้เธอก็จะทำตัวติดดิน ซื้อของถูกเหมือนเธอ


สำหรับหน้าที่ของดิฉันที่ได้รับมอบหมายแทบทุกครั้งที่ทำงานคืออยู่ห้องลองเสื้อผ้า แล้วก็ต้องเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ด้วย แรกๆ ที่ทำหน้ารับโทรศัพท์ดิฉันรู้สึกท้อมากๆ อาจเนื่องด้วยเวลาดิฉันพูดออกไป ลูกค้าบางคนไม่เข้าใจ แล้วลูกค้าที่โทรฯมาก็จะมาสอบถามเสื้อผ้าแบบต่างๆ ลายต่างๆ ซึ่งก็จะเป็นศัพท์เฉพาะ ซึ่งไม่ได้ใช้กันบ่อยๆ แต่พอทำประจำก็พอเข้าใจกับเสื้อผ้า ศัพท์ต่างๆ ของเสื้อผ้า เช่นต้องการผ้าลูกฟูก เสื้อผ้าลายจุด ต้องการกางเกงที่สั้นแค่เข่า หรือยาวมาถึงน่อง ต้องการเสื้อระบาย หรือต้องการเสื้อคอกลม เป็นต้น


สำหรับดิฉันจะพยายามมองในแง่ดีว่าห้างฯ สาขาใหม่นี้ให้โอกาสดิฉันคือให้ดิฉันได้ทำหน้าที่แคชเชียร์ และที่สำคัญกว่าอื่นใดคือได้เป็นพนักงานรับโทรศัพท์ซึ่งงานประเภทนี้จะหาโอกาสได้ทำน้อยมากๆ ถ้าเราภาษาไม่ดีพอ ดิฉันถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งก็ท้อเหมือนกันเพราะดิฉันไม่ได้เติบโตมาในอเมริกา สำเนียงดิฉันจึงติดสำเนียงไทย ดิฉันก็พยายามพูดให้ช้า พูดให้ชัด คำไหนออกเสียงหรือจีบปากก็ต้องทำตามเจ้าของภาษาเค้า แล้วที่สำคัญเราต้องเน้นเสียงสูง เสียงต่ำด้วย



ทุกครั้งที่ดิฉันมาทำงาน ดิฉันจะคิดเสมอว่าต้องทำงานให้ดีที่สุด อาจจะด้วยเหตุที่ดิฉันเป็นคนร่าเริง ยิ้มง่ายและสนุกสนาน ผู้จัดการหรือผู้ช่วยฯ หรือลูกค้าก็จะบอกว่าดิฉันเป็นคนที่ Active มากๆ ก็คล้ายๆ กับว่าดิฉันเป็นผู้หญิงพลังช้าง ไม่เคยเห็นดิฉันหมดพลังในการทำงานเอาเลย อย่างว่าล่ะดิฉันเป็นคนที่มักจะทักทายกับลูกค้า กระโดดไปมาแบบสนุกสนาน แล้วที่สำคัญห้องลองเสื้อผ้าอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ พอดิฉันเป็นเงาหรือได้ยินเสียงคนเดิน ดิฉันก็จะส่งเสียงเจี้อยแจ้วทักทายลูกค้าก่อน โดยไม่ต้องเห็นหน้า


ด้วยความที่ดิฉันเป็นคนที่ชอบทักทายคนที่เดินผ่านไปผ่านไป มีวันหนึ่ง District Manager ได้มาตรวจงานที่ห้างฯ ดิฉัน ดิฉันไม่เคยเห็นหน้าท่านมาก่อน เผอิญท่านเดินมาเข้าห้องน้ำ ดิฉันก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วทักทาย สบายดีน่ะค่ะ พอท่านเข้าห้องน้ำเสร็จจะเดินออกไป ดิฉันก็ส่งเสียงเจี้อยแจ้วอีกว่าสวัสดีค่ะ บ๊ายบายน่ะค่ะ หลังจากนั้นสิบนาทีผู้ช่วยฯ ก็เดินมาบอกดิฉันว่า District Manager พูดชมดิฉันใหญ่เลยและดูท่าทางจะเอ็นดูดิฉันมากๆ เพราะทักทายท่าน บางครั้งท่านมาตรวจงานอีก ถ้าดิฉันอยู่หน้าที่แคชเชียร์หน้าร้าน ดิฉันก็จะส่งเสียงการต้อนรับท่าน แล้วก็มีผู้ช่วยฯ อีกคนมาบอกดิฉันอีกว่า District Manager ท่านนี้ดูจะรักดิฉันมากๆ จากการที่ดิฉันเป็นคนที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส ทักทายลูกค้า เช่นกันผู้จัดการบอกว่า District Manager บอกว่าไม่มีพนักงานคนไหนให้การทักทายท่านเลย มีดิฉันคนเดียวเท่านั้นที่ทักทายท่าน


มีวันหนึ่งผู้จัดการได้มาบอกดิฉันว่า มีผู้จัดการอีกห้างฯหนึ่งชอบสำเนียงดิฉันเวลารับโทรศัพท์น่ารักดี ดิฉันก็ได้แต่ยิ้มเพราะทราบดีว่าตัวเองติดสำเนียงไทย บางครั้งดิฉันก็รับโทรศัพท์ District Manager รู้สึกกลัวเหมือนกันว่าจะทำให้ห้างฯ พัง กลัวท่านจะไม่เข้าใจเวลาที่ดิฉันพูดทางโทรศัพท์กับท่าน แต่มีวันหนึ่งขณะที่รับสายท่าน ท่านต้องการพูดกับผู้จัดการ ดิฉันจึงบอกผู้จัดการ พอคุยกันจบ ผู้จัดการก็มาบอกกับดิฉันว่า District Manager ท่านชมว่าน้ำเสียงดิฉันน่ารัก อยากให้อัดบันทึกเสียงดิฉันลงในบันทึกโทรศัพท์ ดิฉันก็บอกกับผู้จัดการไปตรงๆ ว่าตลกดี เพราะดิฉันทราบว่าเวลาดิฉันพูดยังติดสำเนียงอยู่แล้วคงไม่เอาหรอก เพราะไม่สะดวกใจ


ลูกค้าบางคนก็บอกว่าตั้งแต่เกิดมาเค้าไม่เคยเห็นพนักงานที่ไหนมีความสุขเหมือนดิฉันเลย ดูดิฉันเป็นคนมีความสุขมากๆ บางคนก็บอกว่าดิฉันดูเป็นมิตรกับพวกเค้ามาก บางคนก็บอกว่าทำไมดิฉันถึงมีพลังงานมากมายเหลือเกิน สังเกตเวลาทำงานไม่เห็นดิฉันรู้สึกเหนือยเลย สำหรับคำชมเหล่านี้ก็ทำให้ดิฉันมีกำลังใจในการทำงาน แต่ก็มีลูกค้าบางคนทำให้ดิฉันอารมณ์เสีย ดิฉันก็พยายามที่จะไม่คิด แต่ก็อดคิดไม่ได้ นี่ล่ะค่ะชีวิตการทำงานของสาวห้างฯ ที่ต้องเจอกับลูกค้ามากมาย เวลาไปไหนดิฉันจึงไม่อยากจะทักทายพูดคุยกับใครเลย อาจจะด้วยว่าตัวเองทำงานกับการทักทายมา เช่นกันการทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์ทำให้ดิฉันเข้าใจหัวอกแคชเชียร์ ถ้าเวลาจ่ายเงิน แล้วอยากจะให้เศษตังค์ที่แคชเชียร์ต้องใช้เวลานับ ถ้ามีแถวยาวจะพยายามไม่เอาเศษตังค์มาจ่ายเพราะไม่อยากทำให้แคชเชียร์ลำบากใจ และจะรีบจ่ายเงินและเดินออกไปให้เร็ว


หลังจากที่ฟังเรื่องราวความในใจของดิฉัน แล้วก็มาเข้าเรื่องสนุกสนานกันค่ะ และดิฉันขอเตือนให้เพื่อนๆ และน้องๆ เตรียมผ้าซับน้ำลายไว้หลายๆ ผืนค่ะ เพราะดิฉันคิดว่าต้องใช้ผ้าซับน้ำลายจำนวนมาก





นี่คือกระเป๋าและรองเท้าที่ดิฉันได้มาค่ะ








ทั้งๆ ที่มีรองเท้าบู๊ตมากมายใส่ไม่หมด พอเห็นคู่นี้แล้วชอบมากๆ ที่สี แล้วรองเท้าหนังบู๊ตสีน้ำตาลที่ไม่มีส้น เวลาเดินสบาย สามารถใส่กับกางเกงยีนส์สกินนี่และกระโปรงได้ ราคาเต็มประมาณเกือบห้าสิบเหรียญ ดิฉันซื้อได้ประมาณสิบแปดเหรียญค่ะ










มาดูด้านข้างค่ะ เพราะไม่มีส้น ดิฉันชอบมากๆ สามารถใส่ไปทำงานในช่วงอากาศเย็นๆ ดีและเวลาใส่กับกางเกงยีนส์ดูเก๋มากๆ เลยค่ะ














ดิฉันเหมือนเป็นโรคจิตจริง ๆ ทั้งๆ ที่มีรองเท้าบู๊ตมากมาย พอเห็นคู่นี้ลดราคาก็อยากได้อีก ราคาเต็มเกือบยี่สิบเหรียญค่ะ ซื้อตอนลดราคาเหลือสิบเหรียญค่ะ












รองเท้าสามคู่นี้ ชอบมากๆ เลยเพราะเหมือนรองเท้าผ้าใบ ใส่ไปทำงานได้แถมสีสันยังสดใส ซื้อมาตั้งนานยังไม่ได้ใส่เลยค่ะ อาจจะเพราะตัวเองมีรองเท้ามาก ก็ได้แต่เอาออกมาดูค่ะ


คู่สีชมพูราคาเต็มเกือบสิบเจ็ดเหรียญค่ะ ซื้อตอนลดราคาเหลือเจ็ดเหรียญ


ส่วนสีเขียว ไม่ได้ตั้งใจซื้อค่ะเพราะซื้อชมพูแล้ว แต่พอมาดูราคาแล้วตัดใจไม่ได้ค่ะ คู่นี้ไม่ถึงหนึ่งเหรียญค่ะ


สำหรับคู่สุดท้าย ที่ซื้อเพราะรองเท้านี้สามารถใส่ไปทำงานได้ ราคาเต็มประมาณสิบห้าเหรียญค่ะ ซื่อตอนลดราคาประมาณสี่เหรียญค่ะ


รองเท้าพวกนี้ก็คือรองเท้าใส่ออกกำลังกายค่ะ











สำหรับรองเท้าส้นสูงสีฟ้าคู่นี้ ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเท่าไร เพราะตัวเองตั้งแต่มาอยู่อเมริกา ไม่ค่อยได้ใส่รองเท้าส้นสูงเท่าไร แต่พอเห็นราคาแล้วคิดว่าซื้อเก็บไว้ก็ไม่เสียดาย ราคาเต็มยี่สิบกว่าเหรียญค่ะ ซื้อตอนลดราคาเหลือประมาณหนึ่งเหรียญหรือไม่ถึงสองเหรียญ จำไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะซื้อมาก็เก็บๆ ไว้ มาดูความน่ารักค่ะ










ไม่ซื้อได้อย่างไรใช่ไหมค่ะ ความน่ารักเวลาใส่คือเอามาผูกแบบนี้ค่ะ











กระเป๋าและรองเท้าสีแดงนี้ พอดิฉันเห็นก็อยากได้ค่ะ เพราะเข้าชุดกันได้พอดีเลย อีกเหตุผลก็คือดิฉันมีชุดสีแดงและสีดำเยอะมาก ดิฉันว่าเวลาใส่ไปออกงานใส่ชุดสีแดงหรือชุดดำ แล้วถือกระเป๋าสีแดง และใส่รองเท้าสีแดง น่ารักดี


กระเป๋าใบนี้ราคาเต็มเกือบสิบห้าเหรียญค่ะ ดิฉันซื้อตอนลดราคาเหลือใบละสามเหรียญค่ะ

ส่วนรองเท้าสีแดงคู่นี้ราคาเต็มเกือบสิบเจ็ดเหรียญค่ะ ดิฉันซื้อตอนลดราคาเหลือคู่ล่ะประมาณสามเหรียญค่ะ

สวยอย่างนี้จะอดใจได้อย่างไร ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ตอนคุณแหม่มมาเยี่ยมดิฉัน ดิฉันได้เอากระเป๋าและรองเท้าสีแดงนี้อวดเธอด้วยค่ะ









สำหรับเสื้อผ้าต่อไปนี้ ดิฉันคิดว่าเพื่อนๆ ต้องอยากได้กันแน่ๆ ค่ะ เหตุผลเพราะราคายั่วน้ำลายมากๆ ซื้อแล้วไม่ได้ใส่ก็ขอให้ได้ซื้อ ดิฉันต้องบอกกับเพื่อนๆ ก่อนเลยค่ะ นี่ล่ะเหตุผลที่ทำไมดิฉันต้องถือถุงเสื้อผ้ากลับบ้านแทบทุกครั้งที่มาทำงาน เชื่อไหมค่ะตอนนี้ย้ายมาอยู่บ้านที่ใหญ่และมีตู้เสือผ้าเพิ่ม ตู้เสื้อผ้าก็อัดแน่นอีกแล้วค่ะ เมื่อเดือนก่อนได้เอาเสื้อผ้าไปให้เพื่อนที่ทำงาน เพราะต้องล้างสต๊อกของเก่า แล้วยังมีอีกหลายถุงที่จะเอาไปบริจาค ยังไม่ได้ไปสักที ไม่อยากให้บ้านรกค่ะ


มาดูเสื้อผ้ายั่วน้ำลายเพื่อนๆ กันค่ะ ต้องบอกเลยว่าราคาไม่ถึงหนึ่งดอลล่าร์ค่ะ และชุดอีกสองชุดราคาชุดล่ะหนึ่งเซนต์เองค่ะ ดิฉันคิดว่าดิฉันเป็นคนที่ซื้อเสื้อผ้าได้ถูกที่สุดในโลกก็ว่าได้


กระโปรงสั้นสีน้ำตาลนี้ ดิฉันเห็นตั้งแต่ตอนออกใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่สนใจเพราะไม่ชอบสไตล์แบบนี้ แต่พอดิฉันเห็นราคาแล้วต้องเอาผ้ามาซับและคิดในใจว่าต้องซื้อ ถึงไม่ได้ใส่ก็ขอให้ได้ซื้อก็แล้วกัน ราคาเต็มเกือบสิบเจ็ดเหรียญ ลดราคาเหลือไม่ถึงหนึ่งดอลล่าร์แต่จำไม่ได้ว่ากี่เซนต์ ก็เลยซื้อค่ะ












กระโปรงสั้นสีน้ำเงินตัวนี้ ดิฉันเคยอยากได้ แต่เพราะทำงานเป็นสาวห้างฯ ก็เลยไม่คิดจะซื้อ แต่เพราะลดราคา ดิฉันเลยคิดว่าซื้อเก็บมาดูเล่นแก้เหงาก็แล้วกัน ราคาเต็มเกือบยี่สิบห้าเหรียญค่ะ ลดราคาเหลือสีสิบเจ็ดเซนต์ค่ะ ไม่ถึงครึ่งดอลล่าร์ด้วยซ้ำ ตัดสินใจไม่ซื้อได้ไง ซื้อเก็บก็ยังดี








เพื่อนๆ และน้องๆ เตรียมผ้าเช็คน้ำลายผืนใหญ่ๆ เตรียมไว้เลยค่ะ เพราะต้องซับน้ำลายหลายผืน เนื่องจากจะได้เห็นกางเกงสวยๆ ราคาไม่ถึงหนึ่งดอลลาร์แล้ว ยังจะได้เห็นชุดที่สวยและน่ารักในราคาาหนึ่งเซนต์ค่ะ


กางเกงขาสั้นแค่เข่าตัวนี้ ไม่ได้คิดจะซื้อเพราะตัวเองมีกางเกงแบบนี้มาก แต่พอเห็นราคาแล้วอดใจไม่ได้ เลยต้องซื้อค่ะ ราคาเต็มเกือบสิบเจ็ดเหรียญ ลดเหลือแปดสิบเจ็ดเซนต์ค่ะ ไม่ถึงหนึ่งดอลล่าร์ ไม่ซื้อได้ไง











กางเกงขายาวสีส่วนตัวนี้ ก็เช่นกันไม่คิดจะซื้อ เพราะตัวเองมีกางเกงแบบนี้มากมายใส่ยังไม่หมดเลย แต่พอเห็นราคาแล้วคิดว่าต้องซื้อ ไม่ซื้อต้องเสียใจแน่ๆ ราคาเต็มเกือบสามสิบเหรียญ ซื้อลดราคาเหลือสีสิบเจ็ดเซนต์ ถูกเอามากๆ เลย ซื้อไว้ดูก็ยังดีค่ะ









ชุดสวยๆ สองชุดนี้ ราคาชุดล่ะหนึ่งเซนต์ค่ะ สำหรับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้กับดิฉันคือคุณวิสกี้โซดาค่ะ วันนั้นเธอมาลองกางเกงที่ห้างฯ ดิฉัน



ชุดเกาะอกสีขาว ลายดอกไม้นี้ ที่แรกดิฉันไม่ได้คิดจะซื้อ และไม่คิดว่าดิฉันจะใส่ได้ แต่เพราะเห็นราคาก็เลยพลาดไม่ได้ ราคาแค่หนึ่งเซนต์เอง แต่พอกลับมาบ้านลองใสดู ใส่ได้พอดีเลย เป็นชุดเกาะอกที่ใส่แล้วน่ารัก สามีดิฉันบอกน่ารักดีค่ะ








มาดูลายใกล้ๆ ค่ะ น่ารักมากๆ ค่ะ ดิฉันตั้งใจจะใส่ตอนหน้าร้อนนี้ค่ะ








ชุดเกาะอกสีดำตัวนี้ก็น่ารักค่ะ ราคาหนึ่งเซนต์เหมือนกันค่ะ








มาดูใกล้ค่ะ ลายน่ารักมากๆ เลย เหมาะกันใส่หน้าร้อนนี้มากๆ เลยค่ะ












นี่่ค่ะเสื้อผ้าบางส่วนที่ดิฉันได้ซื้อ ยังมีเสื้อผ้าอีกมากมายที่ยังไม่ได้เอามาให้เพื่อนๆ และน้องๆ ดู อย่างที่บอกแทบทุกครั้งที่มาทำงานดิฉันจะต้องซื้อเสื้อผ้ากลับบ้านเพราะราคายั่วยวนมากๆ







ขอขอบคุณเพื่อนๆ และน้องๆ ที่มาเยี่ยมดิฉันน่ะค่ะ แล้วดิฉันจะไปเยี่ยมค่ะ



Create Date : 29 มีนาคม 2554
Last Update : 29 มีนาคม 2554 5:50:01 น. 30 comments
Counter : 2017 Pageviews.

 
พยานความถูกแสนถูกมาเยี่ยมคุณไก่แล้วค่ะ คิคิ วิสกี้เองก็ทึ่งจริงๆ กับราคาที่เห็นนะคะ ไม่อยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ถึงกับบอกคุณ supervisor ของคุณไก่ในวันนั้นที่ไปว่า ไม่เคยเห็นเสื้อผ้าที่ราคาถูกอย่างนี้มาก่อนเลยจริงๆ ค่ะ

เสื้อผ้าและรองเท้าข้างบนสวยหมดทุกชิ้นเลยนะคะ วิสกี้ขอแอบเป็นสไตล์ลิสต์ให้คุณไก่ละกัน สำหรับรองเท้ามีส้นและผูกเป็นโบว์ได้สีฟ้าคู่นั้น ใส่กับเสื้อเกาะอกสองตัวนั้นเลยค่ะ หรือจะใส่กับกางเกง capri หรือกับกางเกงขาสั้นๆไปเลย สวยเก๋ได้อีกค่ะ

ปล เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนไป old navy ที่ Westfield มอลล์ มา โอ้ว ประทับใจกับเสื้อยืดแขนยาวตัวละ $1.49 มากๆ เลยค่ะ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:6:40:07 น.  

 
สวยสวยทั้งนั้นเลยค่ะพี่สาว
ชอบชุดรองเท้ากระเป๋าสีแดงค่ะ


รองเท้าสีฟ้าก็น่ารัก

ว้าววววววววว..ชอบไปหมด


โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:6:48:23 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไก่

เห็นราคาสินค้า
แล้วมาดามคงตาลุกวาวเลยล่ะครับ 555








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:6:52:19 น.  

 
รองเท้ากัยกระเป๋าแดงสวยมากๆเลยค่ะพี่ไก่


โดย: Roseshadow วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:7:02:12 น.  

 
ขออนุญาติเรียกพี่ไก่ว่าพี่ไก่นะคะ...

น้ำลายไหลด้วยความอิจฉาจริงๆด้วยค่ะ
ชุดเกาะอกสีดำน่ารักจังเลยค่ะ

ท่าทางทำงานที่ห้างจะน่าสนุกนะคะ
แต่มันก็คงเป็นธรรมดาที่ต้องเจอคนหลายแบบหลายประเภทนะคะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:8:46:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาดูด้วยคนนะคะ

รองเท้าสีสดใสจังเนอะ


โดย: แม่น้องพี (แม่น้องพี ) วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:9:59:41 น.  

 
ขอนุญาตเรียกว่าพี่ไก่ตามท่านอื่นนะคะ

หนูไม่น้ำลายไหลค่ะพี่
หนูกรี๊ดดดดดดดดดดดด เลยค่ะ
ตอนเห็นเกาะอกสีขาว อยากได้ๆๆๆๆๆๆ

ฮือๆ
ที่เมืองไทย ขอนแก่นบ้านหนู แอบหาซื้อถูกใจยากค่ะ
ถูกใจ ก็แพง สองสามร้อยบาทเลย
แบบถูกสุดก็ร้อยกว่าบาท

นี่เซนต์เดียว โอววววววววววว.........T_T


โดย: แมวตัวกลม (darthcony ) วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:10:50:13 น.  

 
แวะผ่านเข้ามา ชอบรองเท้าค่ะ น่ารักทุกคู่เลย ชอบแนวเดี่ยวกันแน่เลย คิคิ:))


โดย: APPLEAIR วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:11:25:45 น.  

 
สวัสดค่ะ พี่ไก่ สาวดูเพลินนนนนนนนเลยค่ะ แต่ดันลืมไปหยิบผ้ามาด้วย ตอนชม ของช๊อปปิ้งของพี่ไก่ ปรากฏว่า แป้นคีบอร์ด เริ่มแฉะๆแล้วค่ะ อิอิ น้ำลายหกกกกกกใส่ น่ะเอง อิอิแซวๆๆ ก็มันถูกจริงๆ หืมมม ครึ่งดอล 47 เซ็น หุยยย ขายแบบนี้ห้างเค้าไม่กลัวขาดทุนเหรอ แหะๆ ถามแบบคนบ้านน่ะคะ

วันก่อน สาวก็ไปเดินเล่นๆ ใน big k ในเมืองจิลเล็ต กะว่าไม่ซื้ออะไร หมดไป 65 ดอล แต่ได้ของมาเยอะมากกกกกก เสื้อโค้ตสีดำ แบบเลยเข่า จากราคาป้าย 100$ ลดเหลือ 16 ดอลค่ะ ลอยสอยมาซะ แล้วก้เสื้อหนังเจ็ตเกตเด็ก 40 $ ลดเหลือ 6 $ แต่ยังไงก็สู้ของพี่ไก่ไม่ได้จริงๆค่ะ แหม ตัวละแค่ดอลกว่าๆ ถูกมากกกกกกก สาวก็ชอบคิดแบบนี้ไม่ใส่ซื้อมาดูก็ยังดี ตกลงตอนนี้มีเสือผ้าไว้ดุเล่นหลายตัวแล้วเหมือนกันค่ะ กะกลับไทย จะเอาไปฝากหลานๆ พี่ๆ

สาวยังไม่ได้ทำแยมส้มเลยค่ะ กะจะทำพรุ่งนี้ (ถ้าอากาศเป็นใจ )วันนี้สโนวตกอีกแล้ว เลยอบขนมซะบ้านหอม พร้อมทั้งหม่ำซะพุงกาง ตัวขี้เกียจเลยเกาะได้อีก หุหุ

ขอบคุณพี่ไก่มากๆนะคะ ที่ชอบดัสติน เด็กลูกครึ่งนะคะพี่ ยังไงๆ เค้าก็ดูดีเนอะ เพราะได้เชื่อพ่อ มาเยอะ ถ้าเหมือนแม่ ก็ไม่รุ้เหมือนกัน ว่า หน้าตาจะเป็นแบบใหน 55 สาวก็เป็นคนหนึ่ง ที่ชอบดูเด็กลูกครึ่งมกาๆๆ ชอบมากๆ เลย เห็นเด็กลูกครึ่งน่ารักๆ แล้วชอบมองตามจนสุดสายตา พร้อมทั้งฝันเพ้อประจำว่าอยากได้แบบนี้บ้าง ตอนนี้ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ แต่ ยุ่งวุ่นวายมากกเพราะได้ลูกผุ้ชายเหมือนได้ลูกลิงเลยค่ะ 55

ปล อ่านเรืองชีวิตสาวแคชเชียร์แล้ว นึกภาพออกเลยค่ะ ว่าพี่ไก่ เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใสน่ารัก จนทำให้ district manager ประทับใจ แบบนี้น่าภูมิใจแทนคนไทยจังคะ เพราะว่าพี่ไก่ทำให้ฝรั่งประทับใจกับนิสัยคนไทย ที่ ยิ้มง่าย ดั่งคำที่ว่า สยามเมืองยิ้ม สาวไทยยิ้มเก่ง

พรุ่งนี้ถ้าได้ทำ เสร้จแล้ว สาวจะแวะมาบอกนะคะ

เรืองรสชาติฝรั่ง ส่วนมากไม่ชอบรสจัด เช่นๆเปรี้ยวๆ เอ แต่แฟนพี่ไก่เก่งออกนะคะ กินอาหารไทยเผ็ดๆก็ได้



โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:12:08:00 น.  

 
คุณไก่ขา บูทสวยทุกคู่เลยค่ะ ไม่น่ามาชวนน้ำลายหกเล๊ย ...เืดือนนี้ว่าจะไม่ซื้ออะไรแล้วนะเนี่ย


โดย: Jujastar วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:12:14:23 น.  

 
ชอบเรื่องประสบการณ์การทำงานของพี่ค่ะ
อ่านแล้วได้ประโยชน์มาก
เชื่อว่าตอนนี้พี่คนสวยคงทำงานอย่างมีความสุข
ผู้หญิงทุกคนคงเป็นนะคะ ซื้ออยู่นั่นแหละ
กระเป๋ากับรองเท้า แฮ่ แฮ่ หนูก็เป็นค่ะ



โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:13:01:41 น.  

 
The power of Positive thinking ช่วยได้นะคะ
คิดถึงจังเลยค่ะไม่ได้อ่านเรื่องจาก old navy นานมากแล้ว
ดีใจที่กลับมาแล้วค่ะ
น้ำลายหยดแหมะๆ จริงด้วย
บูทคู่สีน้ำตาล สวยซะใจสั่นเลยค่ะ


โดย: kim_tiger วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:13:19:50 น.  

 
ถูกแถมสวยอีกตะหาก เลือกเก่งมากนะคะ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย


โดย: We Are FroM BeLGiUM วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:14:15:07 น.  

 
รองเท้าสีฟ้าน่าร๊ากกก หวานจริงๆ


โดย: ดูดีในที่มืด วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:14:25:03 น.  

 
ป้าอิ๋วอ่านเรื่องการทำงานของคุณไก่แล้วน่าเห็นใจมากเลยค่ะ แต่จริงๆนะคะ พนักงานห้างในต่างประเทศ ทำงานด้วยความแอคทีพ หลายๆคน ป้าอิ๋วก็เคยเห็นค่ะ และเห็นใจพนักงานขายค่ะ เพราะบางครั้ง เขาห้ามนั่งก็มีค่ะ

ถ้าป้าอิ๋วยืนต่อท้ายคนที่จ่ายเงินแบบนั้น ป้าอิ๋วคงเซ็งเหมือนกันนะคะ คนที่ไม่มีความเกรงใจคนอื่น ไม่เคารพสังคมน่ะค่ะ ป้าอิ๋วเคยยืนต่อท้ายคนที่ พอแคชเชียรกดราคาเสร็จ แล้วควักเครื่องคิดเลขตัวเอง มากดราคาของอีกครั้งค่ะ เพื่อความชัวร์ แล้วเขาซื้อของเยอะมาก ข้างหลังก็คิวยาว แต่แคชเชียร์ก็ว่าอะไรเขาไม่ได้ จนต้องเชิญให้เขาหลบไปกดเครื่องคิดเลขอยู่ข้างๆ แล้วตัดให้คิดต่อไปเข้ามาค่ะ ซึ่งดีนะคะ ที่ไม่ใช่ห้าง แต่เป็นร้านเล็กๆ

ดูคุณไก่มีความสุขกับการทำงานนะคะ งานอะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีความสุข ก็ถือเป็นงานที่ดีทั้งนั้นค่ะ

มาดูเรื่องรองเท้าดีกว่า ป้าอิ๋วก็อยากใส่บู๊ทนะคะ คุณไก่ แต่ป้าอิ๋วมีปัญหาตรงที่ใส่รองเท้าส้นสูงไม่ได้ค่ะ ขาไม่ค่อยดี แล้วรองเท้าบู๊ทเมืองไทย ส่วนใหญ่ส้นสูง หรือมีส้นทั้งนั้นค่ะ ป้าอิ๋วเลยอดใส่เลย

แต่บู๊ท 2 คู่นั้น ถูกมากจริงๆ ค่ะ น่าอิจฉาจังค่ะ

รองเท้าสีฟ้าก็สวยนะคะ สดใสรับหน้าร้าน

ชุดเดรสเกาะอก นั่น ลั่นล้าเชียวค่ะ อิอิ ใส่เมื่อไร อย่าลืมถายรูปมาให้ชมกันนะคะ อิอิ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:16:45:46 น.  

 
รองเท้าน่ารักทุกคู่เลยค่ะ ฮิ้วววว อิจฉาจัง


โดย: แป้งสีฝุ่น วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:19:37:25 น.  

 
.
.

สามีคุณไก่เธอก็แสนดี ตามใจภรรยาให้ซื้อของ เพราะเห็นว่าเป็นความสุขของคนรัก
ลองเป็นสามีของแพรสิคะ ป่านนี้จับแพรมัดเสาบ้าน ยุดกระเป๋าตังส์ และล๊อคประตูไม่ให้ออกแล้วค่ะ ^^


โดย: MollyJinx วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:19:39:57 น.  

 
ได้แนวคิดดีๆ อีกด้านหนึ่งดีจังเลยครับ


โดย: herepin วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:20:21:35 น.  

 
....มาช่วยยืนยันกับเพื่อนๆ ว่าเสื้อผ้าคุณไก่แยะจริงๆ จนจะต้องหาซื้อตู้ใบยักษ์ๆ ใส่อีกใบ(ก็ยังไม่พอ )
ตอนไปเยี่ยมคุณไก่เอาเสื้อผ้าที่คุณไก่ซื้อมาให้ชมหลายชิ้น โห...ไม่ซื้อไม่ได้จริงๆ เพราะราคาที่คุณไก่บอกมา
แต่ละชิ้น เป็นใครก็อดไม่ไหว ^^
----------
เพิ่งแวะมาชมของสวยๆ งามๆ พักนี้วิ่งรอกแยะ เลยได้เข้าเวปแบบแว่บไปแว่บมา
แถมยังขยันเล่นทั้งบล๊อกทั้ง FB อีก เลยยังวิ่งไม่ทั่วเลยค่ะ

ดีใจแทนคุณไก่นะคะ ที่ไปทำงานที่ไหน ผู้ใหญ่ชื่นชม อย่างที่แหม่มเคยเห็นคุณไก่ทำงานที่ร้าน
ทำให้ไม่แปลกใจ เพราะคุณไก่ดู active และ friendly กับลูกค้าทุกคน
ขนาดแฟนเห็นคุณไก่ทำงานยังชมคุณไก่ให้แหม่มฟังเลย

ชอบรองเท้าคู่สีฟ้าที่สุดค่ะ ชอบรองเท้าแบบพันข้อเท้าเป็นทุนอยู่แล้ว
รองเท้าบู้ทก็สวยนะคะ แต่อีกแหละไม่รู้จะใส่ไปไหน
ตอนอยู่โน่นออกบ้านทีก็คว้าแต่รองเท้าคู่เดิมแบบเอาง่ายเข้าไว้
แต่รองเท้าที่คุณไก่ให้เมื่อปีที่แล้วมาปีนี้ได้ใช้ไปหลายครั้งเหมือนกันน๊า

กรุงเทพอากาศเย็นๆ มา 2-3 วันแล้วล่ะค่ะคุณไก่
แต่นี่เห็นว่าหลังจากนี้ก็จะร้อน(ตับแล่บ)แล้วล่ะค่ะ ^^








โดย: narellan วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:10:10:09 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่ไก่ ตามมาช๊อบปิ้งด้วยค่ะ
โห สวยแล้วถูกหาได้ที่ไหน...555 ที่นี่เลย
พี่ซื้อได้ราคาถูกแล้วน่ารักอีกต่างหาก
รองเท้าน่ารัก หวานมากโดยเฉพาะบู๊ต

หลังไมค์นิ๊ดหนึ่งค่ะ



โดย: kamonorchids วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:22:07:27 น.  

 
คุณไก่คะ งานสงกรานต์มีวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้พอดีค่ะ ส่วนที่วัดไทยวันอาทิตย์หน้าค่ะ หากไปกระซิบด้วยนะคะเผื่อเจอกัน


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:2:00:22 น.  

 
พี่ไก่ สวัสดีค่ะ สาวอัพบล๊อคแยมส้มเสร็จแล้วจ้าพี่ไก่ พี่ไก่ลองดูนะคะเผือจะชอบ หากสงสัยฝากเม้นไว้นะคะ ยินดีจ้าพี่


โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:1:06:44 น.  

 
พีไก่ขา อ่านเม้นพี่ไก่แล้วอิจฉาจังค่ะ แหมมๆ ๆเอา laptop มานั่งเล่นในสวน มีน้องหมาเป็นเพือน แล้วเจ้าตัวชอบปีนต้นไม้ ไม่อยู่แต่บนต้นไม้เหรอคะ

นึกแล้ว อยากไปแย่งปีนเก็บส้มด้วยจังเลยค่ะ นึกภาพส้มบ้านพี่ไก่ เยอะๆ แล้ว มันเขี้ยวจังเลยค่ะ ความจริง สาวเป็นคนไม่ชอบกินผลไม้สดเท่าไร แต่ชอบเก็บจากต้น ค่ะ ชอบปีนไปเก็บ ยิ่งกิ่งใหน ที่อยุ่ใกลๆ ถ้าได้ปีนได้เอื้อม ๆ เอื้อมไม่ถึงก็พยายามเอื้อม เก็บมาให้จงได้ พอได้แล้วรู้สึกว่า มันสมหวังยังไงไม่รุ้ (อันนี้ออกแนว ทะเยอะทะยานค่ะ เหมือนดั่งตอนนี้ที่ได้มาอยู่เมกา ก็เอื้อมมกันสุดมือเหมือนกันค่ะกว่าจะได้มา แต่มาแล้วก็อยากกลับบ้านมากๆเลย ........... ขอโทษค่ะพี่ไก่ นอกเรืองงไปซะใกลเลยเรา หุหุ )

แยมเปลือกส้ม สรุป ง่ายๆ คือ ล้างน้ำเกลือ 3 ครั้ง ขยำๆๆๆ ให้ผิวส้มหายเหม็นกลิ้นน้ำมันผิวส้ม แล้ว ลวกน้ำร้อน 3 ครั้ง จากนั่นนำไปเคี่ยวจนข้น ค่ะ แต่ในบล๊อค สาวเขียนไปตามที่คิด ไม่ได้เรียบเรียงให้สวยงาม กล้วเหมือนกันค่ะ กลัวพี่ไก่จะไม่เข้าใจ เพราะสาวเขียนไม่ค่อยเก่งค่ะ

อย่างเจ้าส้มลูกเล็กๆที่พี่ไก่เอามาเชื่อม ทำเค้กส้ม พี่ไก่ขยำน้ำเกลือ ก่อนใหมคะ หรือลวกก่อนใหม ถ้าขยำน้ำเกลือก่อน น่าจะไม่มีกลิ่นเฝื่อน แฟนพี่ไก่อาจจจะชอบขึ้นอีกก็ได้ค่ะ


บ้านพี่ไก่ส้มเยอะ หากมีเพือนฝูงเยอะๆ ทำแยมส้ม ขายได้สบายเลยค่ะ แต่ มันเสียเวลา หน่อย ตรงหั่นส้ม ถ้ามีมีดคมๆ รับรอง หั่นเพลินเลยค่ะ สาวชำนาญเรื้องหั่นๆ ฝอยๆ เพราะที่บ้านแม่ที่หาดใหญ่ ทำขิงซอย ขายส่งตลาดสดหาดใหญ่ค่ะ ทำทีนึง 40 -50 กิโลทุกวันค่ะ

เลยได้วิชา ซอยขิง หั่นขิง มาด้วย เวลาหั่นขิง มือหั่นขิงไป ตาก็ดูทีวีไปด้วย เพลินดีค่ะ (พี่ไก่คงนึกเสียวอีกแน่เลยว่า มีดอาจบาดนิ้วได้ อิอิ)

เพคติน กล่องแบบที่สาวลงไว้ในบล๊อค กล่องสีเขียวๆ ยี่ห้อ ball หาซื้อได้ในวอลมาร์ท ค่ะ ถ้าจำไม่ผิด 2.50 $ ค่ะ เพคตินจะทำให้สี แยมสวยใส น่าทานค่ะ และอร่อยน่ากินกว่าใส่ เจลลาติน (ความคิดสาวนะ ) และเพคตินจะมีรสเปรี้ยวในตัว ละลาย ง่ายด้วยค่ะ


บ้านพี่ไก่มีเลม่อนด้วยหรือค่ะ แหมๆๆ น่าทำแยมเลม่อนมากเลยค่ะ ราชาติจะหอมมม มากๆเลยค่ะ หอมคนละแบบกับ แยมเปลือกส้ม แต่ความอรร่อยไม่ต่างกันเลยค่ะ
อยากไปช่วยพี่ไก่ ทำสวน สาวชอบมากค่ะ อยู่กับต้นไม้ คุยกับต้นไม้ รอมันโตทีละวัน รดน้ำไปด้วยคุยไปด้วย ทำให้ต้นไม้โตเร็วดีค่ะ

สาวขอขอบคุณพี่ไก่มากๆเลยค่ะ สำหรับน้ำใจของพี่ไก่ ที่ชวนสาวไปเที่ยวบ้าน อยากไปมากๆเลยจ้าพี่ ไว้รอโอกาศเหมาะ สาวจะบอกสามีไว้ก่อนนะคะ อยากพาดัสตินไปปีนต้นส้มด้วย อิอิ


ปล ไม่รู้ทำไมมาบล๊อคพี่ไก่ แล้วโม้ ได้ยาวๆๆๆๆ จริงๆเลยเรา หุหุ


โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:7:36:52 น.  

 
สวัสดีวันสมุยมีแดดค่ะพี่ อ้อเพิ่งจะมีเน้ตใช้หลังจากนิ่งไปหลายวันเพราะน้ำท่วม ฝนตกหนัก สมุยแย่มากๆ เลย โชคดีที่โรงแรมอ้อไม่ค่อยเป้นไรเลย เพราะมีเครื่องปั่นไฟใช้ แต่แขกก็ยกเลิกเยอะ วันนี้มีแดด แขกวิ่งลงทะเลกันใหญ่เลยพี่

มาบ้านพี่ต้องพกผ้าเช็ดน้ำลายมาด้วยเสมอ เพราะมาทีไรน้ำลายสอทุกที อิอิ อิจฉาค่ะ ช้อปปิ้งมีความสุขจริงๆ พี่ไก่ .. คนดูก็พลอยสนุกไปด้วย ...


โดย: ladysamui วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:9:55:26 น.  

 


WOW !!!!!! พี่ไก่อัพบล็อกแล้วเหรอคะ (ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ)

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่จะตอบกลับเม้นท์ของหนู มันนานมากเลยนะคะเนี่ย ตั้งแต่หนูยังอยู่ที่ไทยน่ะ

ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่พี่ไก่เข้าไปเยี่ยมที่บล็อกหนูน่ะค่ะ

หนูอ่านและติดตามบล็อกของพี่ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วน่ะค่ะ ตั้งแต่ก่อนที่หนูจะมีบล็อกเป็นของตัวเองอีกนะคะ

ถูกใจรองเท้าสีเขียวสดใสจัังเลยคร่าาา หนูเคยไปช้อปฯที่ห้างทหารเรือเหมือนกันค่ะ แต่ว่าของไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ น่าจะเป็นเพราะร้านย่อยน่ะค่ะ แต่ว่าไปของถูกเยอะนะคะห้างทหารเรือเฒ่าเนี่ย

พี่หนูเป็นกำลังใจให้นะคะ เข้าใจเลยค่ะว่าพนักงานห้างที่นี่ต้องทนรับอารมณ์ลูกค้า แถมบางลูกค้าไม่มีระเบียบด้วย ห้างที่นี่ของหล่นเรี่ยราดตามพื้น ตอนแรกที่เห็นหนูก็นึกว่าพนักงานกำลังจะจัดของ เลยมีทั้งรองเท้าเสื้อผ้าร่วงเต็มไปหมด แต่ที่ไหนได้ฝีมือลูกค้าล้วนๆ บางคนเค้าเลือกมาลองแล้วก็โยนกองๆก็มี ดูแล้วเหมือนสินค้าไม่มีค่าเลยน่ะค่ะ

สู้ๆนะคะพี่ ถือว่าเป็นประสบการณ์ค่ะ

GOD BLESS.....


โดย: แป้งหมี่กะปอเปี๊ยะ วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:1:22:27 น.  

 
อยากได้รองเท้าสีฟ้าและเกาะอกราคา1เซนต์นี่เท่ากับกี่บาทไทยคะ??
ขอส่งน้องเม่นไปกินส้มบ้านพี่ไก่อีกตัวนึงนะคะ


โดย: quilt วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:17:18:23 น.  

 


แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่...

อืมมม...หนูเห็นแค่ปลอกคอมันน่ะค่ะ แต่ป้ายชื่อหนูไม่เห็นค่ะ...หนูก็เป็นคนรักมาหมาค่ะ ตั้งแต่เด็กจนโตเลี้ยงหมาตลอด แต่พอมาอยู่ที่นี่มีแต่แมวค่ะ หนูเห็นน้องหมาของพี่เมื่อบล็อกที่แล้วค่ะ น่ารักดี หนูก็เคยมีหมาพันธุ์ค็อกเกอร์ผสมกับมิเนเจอร์ค่ะ มันฉลาดมากเลยค่ะ...

ส่วนอาการทอนซิล ตอนนี้ยังไม่หายเลยค่ะ กินแอดวิลแล้ว แต่ก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นค่ะ เจ็บมากตอนนี้ แล้วหนูอ่านเกี่ยวกับอาการและการรักษาน่ะค่ะ คือถ้าเป็นทอนซิล ต้องใช้ยาปฏิชีวนะค่ะถึงจะช่วยได้ อย่างงี้หนูคงต้องไปหาหมอแล้วล่ะค่ะ

หลับฝันดีนะคะพี่ ตื่นขึ้นมาพบกับเช้าวันใหม่ที่สดใส และขอพบแต่สิ่งดีๆตลอดการทำงานนะคะ

GOD BLESS.....


โดย: แป้งหมี่กะปอเปี๊ยะ วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:12:41:14 น.  

 
อิจฉาพี่ไก่จัง ได้ซื้อของราคาถูกๆ อีกแล้ว
บ้านเราไม่เห็นมีอย่างนี้บ้างเลย
ติดป้ายลด 50% ก็แล้ว ยังซื้อไม่ลงเลยอ่ะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:13:04:00 น.  

 
แวะมาอ่าน blogจร้าแนะนำเว็บเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรีใครอยากขายของสามารถขายได้ที่นี่เลยนะค่ะ


โดย: onlineshop (loveyoupantip ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:08:14 น.  

 


โดย: onlineshop (loveyoupantip ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:52:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สวยตลอดกาล
Location :
Southern California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]






Group Blog
 
 
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สวยตลอดกาล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.