Washington, D.C. [Review] (part 2/3)

DAY 3

Washington Monument, World War II Memorial, Vietnam VeteransMemorial, Korean War Veterans Memorial, Lincoln Memorial, Franklin D. RooseveltMemorial, Martin Luther King, Jr. Memorial, and Jefferson Memorial

หลังจากเที่ยวรอบนอกมา 2 วันวันนี้เราจะเข้ามาเที่ยวใน National mall ซึ่งเป็น area หลักของที่นี่กันค่ะ National mall เป็นบริเวณพื้นที่สีเขียวใจกลางดี.ซี.ประกอบด้วยสนามหญ้าสลับกับบ่อน้ำขนาดใหญ่ ต้นไม้ก็ร่มรื่นพอสมควรค่ะ รอบๆ National mall เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์และอนุสาวรีย์/อนุสรณ์สถานต่างๆที่สร้างเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์หรือบุคคลสำคัญของอเมริกา วันนี้เราจะไปเที่ยวอนุสาวรีย์/อนุสรณ์กันค่ะ แต่ละที่ก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป..ครั้งนี้เราเที่ยวกับ DC by foot อีกแล้ว ทัวร์นี้ชื่อว่า All in one tour ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ชม.ไกด์วันนั้นชื่อ Becca อธิบายดีมากเลยสนุกและก็ได้ความรู้ค่ะ …ไปเที่ยวกันเล้ย

Washington Monument

อนุสาวรีย์วอชิงตัน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ตัวอนุสาวรีย์มีลักษณะเรียบง่ายเป็นแท่ง Obelisk แบบอียิปต์มีความสูง 170 เมตร ทำจาก หินอ่อน หินแกรนิต และหินทราย สร้างเมื่อปี 1848 แต่มาแล้วเสร็จในปี 1884 หลังจากมีการหยุดสร้างไป 20 กว่าปีจากการขาดเงินทุนและสงครามกลางเมือง ที่บอกว่าขาดเงินทุนเนื่องจากช่วงแรก รัฐบาลมีนโยบายที่ไม่อยากให้บุคคลใด หน่วยงานใดหรือบริษัทใดทำตัวเป็นนายทุน เป็นเจ้าของอนุสาวรีย์นี้จากการบริจาคเงินจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่อนุญาตให้บริจาคเกิน 1 USD!! และนี่เองที่ทำให้ขาดเงินทุนในการสร้าง จนเมื่อกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งจึงยกเลิกเพดานในการบริจาคออกไป ถ้าสังเกตอนุสาวรีย์วอชิงตันดีๆ จะพบว่าหินมันมี 2 สี ก็เพราะว่าหยุดไปนานเนี่ยหละค่ะ จะไปซื้อหินลอตเดิมสีเดิมมาต่อ มันก็คงจะไม่มีแล้ว ทำให้ Washington monument เป็น two-tone monument อย่างที่เห็น รอบๆอนุสาวรีย์ประดับด้วยธงชาติอเมริกา 50 ธง แทน 50 รัฐ

เมื่อก่อสร้างเสร็จ Washington monument กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก (จนต่อมาอีกไม่กี่เดือนก็โดนหอไอเฟลล้มแชมป์) อย่างไรก็ดี Washington monument ก็ยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้หินล้วนๆสร้างที่สูงที่สุดในโลก ข้างบนอนุสาวรีย์มีจุดชมวิวด้วยนะคะ ขึ้นลิฟท์ไปได้เลย ตั๋วเข้าชมสามารถรอรับฟรี first come first serve ได้ทุกวันตั้งแต่ 8.30 ที่ Washington monument lodge ข้างๆ Washington monument

วิวนี้ถ่ายจาก Lincoln Memorial ค่ะ

ที่ตั้ง: 15th street ระหว่าง Constitution avenue and Independence avenue

การเดินทาง: Metro Federal Triangle station

วันเวลาเปิดให้ชมภายใน: ทุกวัน ยกเว้น 4 กรกฎา และ 25 ธันวาคม ตั้งแต่ 9.00-17.00

World War II Memorial

อนุสรณ์เพื่อเชิดชูเกียรติทหารและพลเรือนในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวอนุสรณ์เป็นลักษณะวงรี มีหอคอย 2 ด้าน ด้านนึงแทนทวีป Pacific อีกด้านแทนทวีป Atlantic รอบๆยังมี เสาทั้งหมด 56 เสา แกะสลักเป็นชื่อรัฐและเขตปกครองอื่นๆ ตรงกลางเป็นน้ำพุ เรียกว่า Rainbow pool สวยมากเลยค่ะ ทำให้รู้สึกเย็นขึ้นมาเลย นอกจากนั้นยังมี Freedom wall ประดับดาวสีทองอยู่ที่ผนัง โดยดาว 1 ดวง แทนทหารอเมริกัน 100 คนที่เสียชีวิตไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 อนุสรณ์นี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2004 ตั้งอยู่ระหว่าง Washington monument กับ Lincoln memorial ค่ะ

Vietnam Veterans Memorial

อนุสรณ์ทหารผ่านศึกเวียดนามสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารในสงครามเวียดนาม ทั้งที่เสียชีวิตในสงคราม (Killed in Action) และหายในสงคราม (Missing in Action) ตัวอนุสรณ์ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ three soldiers statue, the Vietnam Women’s Memorial และ the Vietnam Veterans Memorial Wall

สงครามเวียดนามเกิดขึ้นในช่วงปี 1955-1975 สหรัฐอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามนี้จากการสนับสนุนฝ่ายเวียดนามใต้เพื่อต่อสู้กับฝ่ายเวียดนามเหนือที่เป็นคอมมิวนิสต์และได้การสนับสนุนจากโซเวียต สงครามสิ้นสุดลงโดยเวียดนามเหนือเป็นฝ่ายชนะ สงครามนี้ทำให้ทหารและพลเรือนในเวียดนามเสียชีวิตกว่า 8 แสนคน และทหารอเมริกันเสียชีวิตกว่า 58,000 คน

รายชื่อผู้เสียชีวิตและหายไประหว่างสงครามได้ถูกแกะสลักอยู่บนผนังหินแกรนิต หินนี้นำเข้ามาจากประเทศอินเดียเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีในการสะท้อน ผู้ที่มายืนอยู่หน้าผนังหินนี้จะเห็นเงาของตัวเองราวกับมองกระจก

ด้านหลังของชื่อจะมีสัญลักษณ์ ถ้าตายในหน้าที่จะแกะสัญลักษณ์เป็นรูปเพชร ถ้าหายไประหว่างสงครามจะเป็นรูปไม้กางเขน หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่ Missing in Action มีชีวิตรอด จะแกะสลักหินเป็นวงกลมล้อมรอบกางเขน (ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี) แต่ถ้าพบว่า Missing in Action เปลี่ยนเป็น Killed in Action จะแกะสลักหินเพิ่มจากกางเขนให้เปลี่ยนเป็นรูปเพชร

The Three Soldiers (White American,African American, and Hispanic American)

Women’s Memorial (ผู้หญิงที่เงยหน้ามองฟ้าชื่อ Hope ที่ก้มหน้าสวดมนต์อยู่ ชื่อ Faith ผู้ที่ดูแลทหารป่วยอยู่ชื่อ Charity)

Korean War Veterans Memorial

อนุสรณ์เพื่อระลึกถึงทหารที่รับใช้ชาติในสงครามเกาหลี สงครามเกาหลีเกิดขึ้นระหว่างปี 1950-1953 เป็นสงครามระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาหลีได้แบ่งออกเป็น 2 ประเทศ คือ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยใช้เส้นละติจูดที่ 38 เป็นเส้นแบ่งประเทศ แต่ในปี 1950 เกาหลีเหนือซึ่งขณะนั้นได้รับการสนุนจากจีนและโซเวียตได้ทำการบุกมายังเกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติอันมีอเมริกาเป็นหัวหอกหลัก สงครามเกาหลีจึงเกิดขึ้น

รูปปั้นทหาร 14 คนกำลังลาดตระเวน ประกอบด้วยทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ เวลาเราเดินชมรูปปั้นทหารเหล่านี้จะมีทหาร 1 นายสบตากับเราเสมอ รูปปั้นทหาร 14 นายจะสะท้อนเข้าไปในกำแพงหินแกรนิต ทำให้เห็นทหารทั้งหมด 38 นายเหมือนกับเส้นละติจูดที่ 38 กำแพงหินแกรนิตใช้เทคนิคแกะสลักหินเป็นรูปภาพทหาร อาวุธ และพลเรือนที่มีส่วนร่วมในสงคราม

Lincoln Memorial

อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีอับราฮัมลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศ อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมกรีก ด้านในมีรูปปั้นลินคอล์นนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำแพง 2 ข้าง แกะสลักคำปราศัย 2 ครั้งที่ดังๆคือ The Gettysburg Address และ Second Inaugural Address ลินคอล์นถือว่าเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เค้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงที่มีสงครามการเมือง การมุ่งเลิกทาสของเขาทำให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐทางใต้ หรือ สมาพันธรัฐ สงครามกลางเมืองก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงในชีวิตของทหารและพลเรือนอเมริกา เพียง 4 ปีเท่านั้นที่ลินคอล์นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ลินคอล์นก็เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรกที่ถูกลอบสังหาร

ลองมองด้านหลังของลินคอล์นดีๆ มีบางคนบอกว่าเป็นรูปหน้าของ Robert E. Lee ขุนพลทหารอเมริกาผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพรัฐทางใต้ในสงครามกลางเมือง เรียกง่ายๆว่าเป็นคู่ต่อสู้ของลินคอล์นนั่นเอง

Franklin D. Roosevelt (FDR) Memorial

สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีลำดับที่ 32 ของสหรัฐอเมริกา อนุสรณ์นี้ไม่เหมือนกับอนุสรณ์อื่น ประกอบด้วยห้องย่อยๆ 4 ห้องด้วยกัน เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในช่วงที่ Roosevelt ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 4 สมัย FDR ดำรงตำแหน่งในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก (The Great Depression) ซึ่งเค้าได้ออก New Deal Policy เพื่อลดอัตราการว่างงาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนั้น FDR ก็ยังดำรงตำแหน่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย เมื่อเราเดินเข้าไปใน FDR Memorial เราจะเห็นรูปปั้นและคำพูด/คำปราศัยของ FDR ใน FDR Memorial นี้ยังมีน้ำตก ซึ่งแต่ละน้ำตกก็แทนแต่ละเหตุการณ์ นอกจากนั้นด้วยความที่ FDR ป่วยเป็นโรคโปลิโอและต้องนั่งรถเข็น FDR Memorialจึงคำนึงถึงผู้พิการและได้มีการสร้างเสาอักษรเบลล์บอกเล่าเรื่องราวของอนุสรณ์ สำหรับผู้พิการทางสายตาด้วย

Martin Luther King, Jr. Memorial

อนุสรณ์นี้ระลึกถึงมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนผู้ยิ่งใหญ่ มาร์ติน ลูเธอร์ คิงใช้ชีวิตกับการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนให้กับชนผิวดำ เค้าตระเวนไปทั่วประเทศและกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการเหยียดสีผิว ในการเดินขบวนครั้งยิ่งใหญ่ในอเมริกา (March on Washington forJobs and Freedom) ในปี 1963 มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่เป็นที่จดจำไปทั่วโลกคือ “I have a dream” มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เป็นบุคคลอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพจากการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนโดยไม่ใช้ความรุนแรง

ภายในอนุสรณ์แห่งนี้มีรูปปั้นหินแกะสลักขนาดใหญ่ เป็นมาร์ตินลูเธอร์ คิง แบบเต็มตัว และโดยรอบจะเป็นผนังหินแกะสลักคำปราศัยต่างๆของมาร์ติน ลูเธอร์คิงค่ะ

Jefferson Memorial

อนุสรณ์ระลึกถึงประธานาธิบดี Thomas Jefferson ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา Thomas Jefferson เป็นประธานาธิบดีคนสำคัญของอเมริกาในช่วงก่อตั้งสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งใน Founding Father และเป็นผู้เขียนหลักของคำประกาศอิสรภาพ Jefferson Memorial ตั้งอยู่บริเวณ Tidal Basin ซึ่งจริงๆก็เป็นส่วนหนึ่งของ National Mall แต่จะอยู่รอบนอกออกมาหน่อยสถาปัตยกรรมภายนอกงดงามมาก โดยเฉพาะเมื่อสะท้อนกับน้ำ ภายในมีรูปปั้น Thomas Jefferson ในท่ายืนขนาดใหญ่

จบวันด้วยเฮลิคอปเตอร์ลำโต

ขอจบการท่องเที่ยววันที่ 3 แต่เพียงเท่านี้ เพราะหลังจากเดิน 4 ชั่วโมงรวด ก็เหนื่อยค่ะ 55 กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมแล้วออกไปรับประทานอาหารเย็น มื้อนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารฝรั่งมาทานอาหารเวียดนามดูบ้าง เนื่องจากโหยหาน้ำซุปร้อนๆ ร้านอาหารเวียดนามชื่อดังของที่นี่ ชื่อ Pho Viet ตั้งอยู่ในย่าน Columbia Heights ไกลนิดหน่อยค่ะ แต่นั่งใต้ดินสายสีเหลืองหรือสีเขียวไปถึง แต่พอไปทานจริงๆก็ไม่อร่อยขนาดนั้นนะ แอบผิดหวังเล็กๆแต่ยังดีที่ได้ทานเส้นในน้ำซุปร้อนๆค่ะ

---

Day 4

The U.S. Capitol

วันนี้ไปเที่ยวสถานที่สำคัญมากอีกที่หนึ่ง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของการปกครองประเทศสหรัฐอเมริกาเลยก็ว่าได้ นั่นคือ The U.S. Capitol หรือ รัฐสภานั่นเอง ภายในประกอบด้วยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (U.S. House of Representatives) และที่ประชุมวุฒิสภา (U.S.Senate) ซึ่งทั้ง 2 สภานี้ก็ประกอบเป็นสภาคองเกรส ทำหน้าที่ออกกฎหมาย

การเที่ยว The U.S. Capitol จะมีเจ้าหน้าที่พาชมแต่ละห้องค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากไปต่อคิวเข้าชม แนะนำว่าควรจองวันเข้าชมและรอบไปก่อนผ่านเวบไซต์ นี้ ไม่เสียเงินนะคะ พอถึงวันนัดจะได้ไม่ต้องไปรอคิวค่ะ แต่ควรไปก่อนเวลานัดซักค 45นาที เพราะจะมีการตรวจกระเป๋า ทัวร์เริ่มจากชม presentation สั้นๆเพื่อดูประวัติความเป็นมาของThe U.S. Capitol และประวัติศาสตร์การปกครองของอเมริกา หลังจากนั้นเราก็จะไปชมห้องต่างๆด้านใน

The old hall of the house ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น National Statuary Hall เป็นที่เก็บรูปปั้นขนาดใหญ่ แต่ละรัฐจะต้องส่งรูปปั้นบุคคลสำคัญมาเก็บไว้ที่นี่ 2 รูปปั้น

อีกห้องที่สำคัญคือห้องใต้หลังคาโดม หรือเรียกว่า Rotunda รูปใต้หลังคาโดมนี้ชื่อว่า “The Apotheosis of Washington” วาดขึ้นในปี 1865 สังเกตดีๆจะเห็น George Washington อยู่ในรูปภาพด้วย ด้านซ้ายของ George Washington คือ Goddess Victoria ส่วนด้านขวาคือ Goddess Liberty ส่วนที่เหลือคือ 13 สาวบริสุทธิ์ เป็นตัวแทนของ 13 อาณานิคมดั้งเดิม มี banner แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “out of many,one” ตอนที่ไปซ่อมอยู่ค่ะ ดีนะที่ยังเห็นภาพนี้อยู่

Under the Dome

The Statue of Freedom

รูปปั้นนี้ประดับอยู่ที่ยอดโดมตั้งแต่ปี 1863 เป็นรูปปั้นผู้หญิงตัวแทนแห่งอิสรภาพ รูปด้านล่างที่เห็นเป็นโมเดลขนาดเท่ารูปปั้นตัวจริง ตั้งอยู่ใน Emancipation Hall

While crossing the road

The U.S. Capitol เปิดวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 8.30 – 16.30 นั่งรถใต้ดินลงสถานี Capitol South สายที่ส้ม/น้ำเงิน/เงิน หรือใครอยู่ใกล้ๆจะเดินมาก็ได้นะคะ

Library of Congress

ห้ามพลาดค่ะ ห้ามพลาด ห้องสมุดนี้สวยมากถึงมากที่สุด เราสามารถเดินเชื่อมจาก The U.S. Capitol มาได้เลย Library of Congress แบ่งออกเป็น 3 ตึก คือ Thomas Jefferson building, James Madison Memorial building และ John Adams building ซึ่งตึกที่สวยที่สุดที่เราจะมาเที่ยวกัน คือ Jefferson Building แค่ก้าวเท้าเข้าไปก็อลังการแล้ว ตัวตึกและการออกแบบภายในใช้ศิลปะยุค Renaissance ชั้นล่างที่เด่นๆก็จะมี Gutenberg Bible ซึ่งเป็นไบเบิลเล่มแรกที่ใช้เทคนิคการพิมพ์แทนการเขียน และยังมี Abel Buell Map ซึ่งเป็น the first map of the new United States created by an American

Main hall

beautiful building

Main Reading Room

ห้องอ่านหนังสือหลักของที่นี่ค่ะ ใหญ่มากและสวยมาก เป็นห้องสมุดที่ดังมากที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ภายในมีคอลเลคชั่นหนังสือใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจาก British Library) ใน main reading room ประกอบด้วยรูปปั้นบุคคลสำคัญของโลกใน 8 ศาสตร์ด้วยกัน คือ Religion, History, Commerce, Art, Philosophy,Poetry, Law, และ Science..คนทั่วไปสามารถเข้าไปได้นะคะ แต่ต้องไปทำเรื่องลงทะเบียนที่ Madison building

เข้าชมฟรี เปิดวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 8.30-21.30 ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ The U.S. Capitol ค่ะ

US Botanic Garden

ที่นี่เป็นสถานที่เดียวในทริปนี้ที่รู้สึกผิดหวังค่ะ อาจเป็นเพราะต้นไม้ที่นี่เป็นต้นไม้เมืองร้อนหาดูได้ง่ายที่เมืองไทย จึงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น สวนด้านนอกก็จัดไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเดินผ่านมาจะแวะเข้าไปพักสายตาชมต้นไม้เขียวๆก็ไม่เลวนะคะ

Create Date : 20 กันยายน 2557 Last Update : 10 ธันวาคม 2558 20:42:53 น. Counter : 8603 Pageviews.		0 comments
Share Tweet