Enter At Your Own Risk!!
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
สงครามตำนานเทพ - นครแห่งอัคคี, ทัณฑ์สวรรค์ & ศตวรรษใหม่

เรื่อง สงครามตำนานเทพ ภาคนครแห่งอัคคี, ทัณฑ์สวรรค์ และศตวรรษใหม่
แต่งโดย เยี่ยนเหล่ยเซิง (Yan Lei-Sheng) รูปโดย Paparaya แปลโดย จิ้งจอกเพลิง


--- MAJOR SPOILER ALERT ---


ภาคนครแห่งอัคคี

แคว้นจักรพรรดิตั้งมาได้ถึงจักรพรรดิองค์ที่สิบเจ็ด ไท่หยางอ๋อง ที่ไม่สามารถและนิยมสตรี ขุนนางระดับสูงสุดคือสามกง สองโหว แต่การเก็บภาษี เกณฑ์คนซ่อมกำแพงเมืองจีนที่ไปสองแสนตายเกือบครึ่ง ทำให้ ชังเยว่กง ที่ปกครองทางใต้ประกาศแยกตนเป็นกลุ่มพันธมิตร การปกครองแบ่งเป็นเหนือใต้ถึงสามปี ชังเยว่กงนำพลบุกถึงตอนใต้แม่น้ำใหญ่ เหวินโหว (เจินลี่จือ) ใช้ทัพเรือทำลายกำลังหลักจนทัพพันธมิตรถอยร่นลงใต้แม่น้ำใหญ่ ส่วน อู่โหว (ถังเซิงไท่) รวบรวมกำลัง นำพลแสนนายยาตราลงใต้ ถึงอู่โหวและชังเยว่กงเคยสนิทสนมถึงหมั้นหมายบุตรในตระกูล แต่งานนี้ไม่มีทางไว้ไมตรี

ทัพหลวงของกองทัพปราบกบฏแดนใต้นำโดยอู่โหว เสริมด้วยสองขุนพลสองมหากาฬแห่งกองทัพคือ อิงหยางป๋อ ลู่จิงอวี แห่งทัพซ้ายผู้เป็นเหมือนลูกบุญธรรมของอู่โหว และจงอี้ป๋อ เสิ่นซือผิง แห่งทัพขวา ส่วนทัพหลังนำโดย หลัวจิงเหว่ย บุกลงใต้ฆ่าล้างไปแปดเมืองถึงเมืองเกาจิ้วที่เป็นเมืองหลวง ที่ปรึกษาของอู่โหว เกาเถี่ยงชง ก็แนะนำให้ล้อมเมือง กวาดต้อนผู้ลี้ภัยให้หนีเข้าในเมืองจนประชากรเพิ่มจากสามแสนเป็นแปดถึงเก้าแสน เพียงสองสามเดือนเสบียงในเมืองก็เหลือน้อย ขวัญกำลังใจลดฮวบ อดหยากขนาดกินเนื้อคน จนทัพจักรพรรดิตีเข้าเมืองได้อย่างง่ายดาย ทั้งฆ่าและฉุดคร่า ทำลายกำแพงไปไม่น้อย ในการรบลู่จิงอวีปล่อยให้หนีชังเยว่กงหนีไปได้ เลยโดนอู่โหวคาดโทษให้นำทหารม้าพันนายไปจับกลับมาในสิบวัน

ฉู่ซิวหง เป็นนายทหารที่มาจากสามัญชน ไม่มีเส้นสายอะไร หลังจบจากโรงเรียนฝึกทหารก็ค่อยๆ ไต่เต้าจนได้เป็นนายทหารระดับไป่ฟูจ่าง คุมกำลังร้อยนายในค่ายที่ห้าของทัพหน้า เมื่ออายุยี่สิบสองยี่สิบสามเข้าร่วมการบุกเข้าเมืองเกาจิ้ว ฉู่ซิวหงเข้าเมืองเกาจิ้วได้คนแรกจึงได้ดาบไป่ปี้เป็นรางวัลจากอู่โหว ได้สาวสวยสองพี่น้องเป็นสาวใช้คือ ไป๋เวย และ จื๋อเหลี่ยว ซึ่งเป็นโชคของทั้งคู่มากเพราะฉู่ซิงหงล้ากับความโหดร้ายและปฏิบัติต่อพวกเธออย่างดี และไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย (แอบประทับใจ เฟิง ที่งดงามและบรรเลงผีผาได้ยอดเยี่ยมจนอู่โหวคัดไว้เป็นบรรณาการต่อราชสำนัก)

หลังเมืองแตกไม่ก็วันก็พบเห็นสัตว์ประหลาดที่มีท่อนบนคล้ายคน ท่อนล่างเป็นงู มีกำลังกล้าแข็งยิ่ง และเพิ่มจำนวนมากขึ้จจนไม่นานก็กลายเป็นกองทัพมนุษย์งูนับแสนตนล้อมเมือง (สงสัยมากว่าถ้ามีมนุษย์งูเยอะขนาดนั้นแต่ไม่เคยรู้ระแคะระคายได้อย่างไร) ในการรบครั้งแรกเสิ่นซือผิงที่นำทัพก็โดนแยกหัวจากร่าง ฉู่ซิวหงไปเอาศีรษะกลับมาจึงได้เลื่อนไปเป็นผู้คุมทัพเกล็ดมังกรห้าร้อยนายที่ทัพขวา

กองทัพมนุษย์รักษาเมืองอย่างยากลำบาก เพราะกำแพงพังไปมาก อาศัยความสามารถในการประดิษฐ์สร้างอาวุธใหม่ คือ จางหลงโหย่ว นักประดิษฐ์สำนักพรตซ่างชิงตันติ่งที่ไม่ค่อยมีคนนิยมเรียนที่ทำดินปืน ลูกระเบิด เหล้าติดไฟ (หากำมะถันจากถ้ำ ดินประสิวจากกำแพงบ้านเก่า ?? จขบ. งงตึ๊บ) และ เซวียเหวินอี้ ช่างกลไกทัพขวา ฉายาเซวียเมี้ยวโซ่วหรือมือฉมังเซวียที่สร้าง ว่าว กล้องส่องทางไกล ธนูมังกรอัคคี ครื่องเหินเวหา แต่มนุษย์งูก็พัฒนารวดเร็ว เริ่มไม่กลัวไฟ มีการตั้งขบวนรบ สร้างเครื่องยิงกระสุน และพูดได้

แต่ที่สำคัญสุดคือเสบียงเริ่มร่อยหรอ กองทัพหาทางลดภาระโดยปล่อยเชลยศึกและชาวบ้านให้หนีไปเมืองอู่หยางที่ห่างไปสามร้อยลี้ (ฉู่ซิวหงเลยให้สองสาวหนีไปด้วย ภายหลังได้ ซูเหวินเยว่ ธิดาบัณฑิตมาเป็นสาวใช้คนใหม่ ซึ่งก็ผูกพันธ์ขนาดขอแต่งงาน) แถมฝนก็เริ่มตก อู่หยางต้องพิจารณาโดยด่วนว่าจะรักษาเมืองหรือตีฝ่าออกไป แม้แต่ชังเยว่กงก็กลับมาพร้อมลู่จิงอวีเพื่อหาทางรอด หลังจากความเสียหายซ้ำซ้อน ขุนพลเรืองนามตายติดต่อกัน ฉู่ซิวหงที่มีผลงานดีก็ถูกยกเป็นขุนศึกมังกรคู่ ร่วมกับ ลู่กงสิง ไป่ฟูจ่างค่ายที่หนึ่งพ่วงผู้คุมค่ายทัพหน้า แต่ในระหว่างคับขันเป็นตายยังมีเรื่องขัดขาหาผลประโยชน์ หักหลัง ทิษฐิ การรักษาวินัยทัพ และกบถ สุดท้ายทหารกว่าเก้าหมื่นก็ถูกล้อมในเมืองเกาจิ้ว อดอยากขนาดกินเนื้อมนุษย์งูก็ยังไม่พอ หลังจากยันไว้ได้สี่สิบวันก็สูญสิ้น
[26/05/14]


ภาคทัณฑ์สวรรค์

เมืองเกาจิ้วแตก กองทัพทลาย แต่มีขบวนทหารเล็กๆ ที่สามารถหนีเอาชีวิตรอดออกกลับไปเมืองหลวงได้ราวหนึ่งพันสามร้อยเท่านั้น ฉู่ซิวหงนำจางหลงโหย่ว เซวียเหวินอี้ อู๋ว่างหลิง (ลูกน้องในสังกัด) และนางรำสี่คนที่อู่โหวเตรียมไว้เป็นบรรณาการที่เฟิงด้วย หนีโดยใช้เครื่องเหินเวลา เดินทางในบริเวณป่าและเจออันนตรายอย่างยากลำบากจนเกิดความรักกันหลายคู่ จนกระทั่งถึงเมืองฝูตุนของแม่ทัพ โจวนั่ว และรองแม่ทัพ เถาโซ่วจั๋ว ก็ให้พวกฉู่ซิวหงติดตามเครื่องบรรณาการกลับเมืองหลวง พวกฉู่ซิวหงไม่คิดจะถวายนางรำ แต่ถูกตลบหลังจนอกหักยกแก๊ง

ฉู่ซิวหงได้เป็นแม่ทัพขั้นห้าและเป็นครูฝึกที่โรงเรียนฝึกทหาร สอนทหารที่มาจากสามัญชนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้า ถือว่าสงบสุขดี แถมยังสามารถส่งนักเรียน ฟางขื่อเจิน ที่มีความรู้ทางคำนวณดีเยี่ยมไปทำงานกับจางหลงโหย่วและเซวียเหวินอี้ที่ไปอยู่กรมโยธาธิการ ช่วยกันปรับปรุงอาวุธออกมาขนานใหญ่ ที่สำเร็จมากคือธนูฟ้าพิโรธกับระเบิดทลายปฐพี ส่วนอู๋ว่านหลิงก็ไปทำงานด้านการปรับเปลี่ยนระบบกองทัพให้สม่ำเสมอกับเหวินโหว

ในวงขุนนางที่เมืองหลวงมีการแบ่งแยกฝ่ายชัดเจน พวกแรกคือรัชทายาทที่นำโดยเหวินโหวผู้เจ้าเล่ห์มากกลจนสามารถยันรัชทายาทที่เพลย์บอยไร้ความสามารถไว้ได้ อีกฝ่ายคือรัชทายาทองค์รอง (ตำแหน่งแปลกจัง เพิ่งเคยเจอ) โอรสของสนมเจียงที่มีแววสามารถกว่า มีหัวหน้ากระทรวงกลาโหม ลู่เสียง (พ่อลู่กงสิง) ที่เป็นญาติแบ็คให้ ระหว่างนี้หัวเมืองต่างๆ ก็ทำท่าจะกระด้างกระเดื่อง มีการบุกเมืองทางชายฝั่งและทะเลทราย เมืองอู่หยางที่มีเจ้าเมืองสืบตระกูลปกครองแบบกึ่งอิสระได้ส่ง เจิ้งเจา ที่มีวิชาอ่านใจและสะกดจิตมาเป็นทูตอย่างน่าสงสัย

เมื่อมนุษย์งูรุกรานเมืองตงผิงที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เส้าเฟิงกวน ที่รักษาเมืองถึงจะเก่งอย่างไรก็ทำท่าแย่ รัชทายาทองค์รองยกทัพสองหมื่นไปช่วยเมืองแต่การรบคับขัน เหวินโหวส่ง ปี้เหว่ย นำกองทัพสามหมื่นไปช่วย โดยฉู่ซิวหงเป็นผู้คุมทัพหน้าที่รวบรวมจากทหารเดนตายและได้ที่ปรึกษาทางทหาร เจินอี่หนิง ที่ถึงอายุเพียงสิบเก้าและเพิ่งจบการศึกษาแต่ก็ฝีมือดีมีความสามารถมาก คราวนี้เดินทางทางน้ำ ฉู่ซิวหงนำทหารสามพันที่ใช้เรือเร็วล่วงหน้าไปก่อน ต้องฝ่าฟันไปจนเข้มเมืองได้ ในเมืองยังมั่นคงแต่การแก่งแย่งทางการเมืองหนักหนา ฉู่ซิวหงกลายเป็นเบี้ยที่ถูกสั่งให้บุกตลุยเข้าค่ายมนุษย์งูก็ทั้งบาดเจ็บและโดนข้อหาปองร้ายรัชทายาทองค์รอง จนถูกคุมตัวกลับเมืองหลวง ถึงรอดแต่ก็ถูกถอดยศ แป้กเป็นครูฝึกที่โรงเรียนทหาร

ระหว่างนี้การรบก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมืองตงผิงแตกแต่มีการเตรียมการที่ดีทำให้ไม่เสียหายมากนัก เส้าเฟิงกวนที่รู้เรื่องมากไปถูกปี้เหว่ยเตรียมกำจัดตามคำสั่งเหวินโหว แต่เจินอี่หนิงที่เป็นลูกชายคนเดียวกล้าขัดคำสั่ง เส้าเฟิงกวนจึงรอดตายก่อนถูกให้ออกจากกองทัพ ส่วนเจินอี่หนิงเสียชีวิตขณะล่าถอย กองทัพงูรุกผ่านเมืองตงหยางถึงเมืองเป่ยหนิงที่ห่างจากเมืองหลวงเพียงสองร้อยลี้ แต่อาศัยชัยภูมิที่เป็นเขาสองข้างและกำแพงสองชั้นยันได้อยู่

ทว่าเหวินโหวก็เกรงว่ากองทัพงูกำลังเตรียมการบุกจากหลายทาง เหวินโหวที่ลูกชายฝากฝังไว้ก่อนตายก็ให้ฉู่ซิวหงกลับมาคุมทหารค่ายทัพหน้าที่เหลือไม่ถึงพันไปเสริมกำลังเมืองฝูตุนที่มนุษย์งูโจมตี นอกจากต้องรับมือมนุษย์งูแล้ว เหวินโหวยังให้ร่วมมือกับเถาโซ่วจั๋วจัดการโจวนั่วด้วย ซึ่งก็ทำให้ เซียวซินอวี้ สาวที่เถาโซ่วจั๋วมอบให้ต้องตายอีก

เหวินโหวถอนกำลังออกจากเมืองเป่ยหนิงเพื่อต้านที่เมืองหลวง รวมกำลังทหารทั้งหมดต้านรับ ใช้อาวุธใหม่และกับดักเอาชนะมนุษย์งูหนึ่งแสนได้ แต่ทันทีที่สิ้นศึกนอก รัชทายาทที่มีเหวินโหวก็แตกหักกับรัชทายาทองค์รองและเอาชนะได้ ผู้สนับสนุนอย่างลู่กงสิงเสียชีวิต แต่ระหว่างการต่อสู้ องค์หญิงอิง ธิดา อ๋องอันเล่อ ที่เพิ่งหมั้นกับฉู่ซิวหงก็เสียชีวิต (แบบว่าดวงความรักของฉู่ซิวหงนี่แย่มาก) ก่อนตาย องค์หญิงได้เล่าให้ฉู่ซิวหงเรื่องความต้องการในการปฏิรูปโดยอาศัยความสนิทสนมกับรัชทายาท ภายหลังขุนนางขององค์หญิง หนานกงเหวินหลี่ จึงถือฉู่ซิงหงเป็นตัวแทน
[30/05/14, 15/12/16]

ภาคศตวรรษใหม่


ทัพงูถอยร่นไปเมืองตงถิงแล้วตั้งมั่นได้ เหวินโหวจึงต้องเจรจากับเมืองอู่หยางที่อยู่อีกด้านของกองทัพมนุษย์งู ฉู่ซิวหงที่ตอนนี้เป็นแม่ทัพขั้นสี่รับหน้าที่คุ้มกันหัวหน้าคณะทูตที่เดินทางไปทางเรือ ตอนนี้เจ้าเมืองอู่หยาง เหอฉงจิ่ง ชูงธงเป็นผู้นำทัพพันธมิตรคนใหม่ โดยมีผู้เฒ่า ไห่เหล่า เป็นที่ปรึกษาสำคัญ ในขณะที่บุตรชายของชังเยว่กง คุณชายหนานอู่ ก็ยังมีอิทธิพล คราวนี้ฉู่ซิวหงได้พี่น้องไป๋เวยจื๋อเหลี่ยวช่วยระวังให้ และยังสามารถต่อต้านวิชาอ่านใจของเจิ้งเจาได้ สุดท้ายเหอฉงจิ่งร่วมมือกับแคว้นจักรพรรดิชั่วคราว

ท่านเหวินโหวได้ตั้งกองทัพที่ใช้อาวุธแบบใหม่คือ อัคคี วารี วายุ และปฐพี (ประมาณทหารปืนใหญ่ เรือ กองทัพอากาศ และราบ/ม้า/รถถัง) เรียกรวมว่ากองทัพจตุรธาตุ ให้คนสนิทเป็นแม่ทัพ ฉู่ซิวหงได้เป็นขุนพลเหิงเหย่คุมกองทัพย่อยของกองทัพปฐพี หลังจากมีผลงานก็ได้ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการและสุดท้ายก็เป็นผู้บัญชาการ

ในปีที่สามสิบของศักราชเทียนเป่าจักรพรรดิสวรรคต รัชทายาทขึ้นครองราชย์ในรัชศกจื้อซิน และแสดงความสามารถในด้านการบริหารราชการพร้อมกับจัดการเสี้ยนหนามให้ราบคาบ ถึงมีความสำพันธ์อันดีกับเหวินโหว แต่ด้านหลังเริ่มสั่งสมกำลัง จัดผู้ตรวจการที่เป็นเชื้อพระวงศ์หรือขันทีให้มาประจำที่กองทัพเพื่อควบคุม ฉู่ซิวหงที่ถูกแอบจัดการให้เลือกข้างสาบานแสดงความภักดีต่อจักรพรรดิก็ได้ อ๋องน้อยอันเล่อ ที่เพิ่งจบการศึกษามาเป็นผู้ตรวจการ ทำให้ฉู่ซิวหงที่มีฐานะเป็นพี่เขยไม่ลำบากอะไรนัก

ทัพแคว้นจักรพรรดิและเมืองอู่หยางร่วมมือต้านทัพมนุษย์งูและเริ่มโต้กลับได้ แต่ไม่สามารถกวาดล้างให้สิ้นซากจนเมื่อสามารถจับมนุษย์งู หลางม่อ ที่มีตำแหน่งเป็นหนึ่งในสี่ผู้คุ้มกฏที่รองแต่เพียง อ๋องปาซาน และ นักพรตเทียน ที่ลึกลับ การสอบสวนทรมานทำให้รู้ว่ามนุษย์งูมาจากหุบเชาฝูซีทางใต้ เหวินโหวต้องการครอบครองกองทัพของมนุษย์งูก่อนจะแตกหักกับเมืองอู่หยาง จึงให้ฉู่ซิวหงยกพลไปจัดการ

จุดสิ้นสุดของมนุษย์งูและผู้อยู่เบื้องหลัง การแย่งชิงอำนาจในแคว้นจักรพรรดิ และการปะทะกับทัพเมืองอู่หยางและกลุ่มพันธมิตรก็มาถึงจุดสุดท้ายอันโหดร้าย ... ตำหนักวังหลวงตั้งตระหง่าน จักรพรรดิทั้งหลายใคร่บุกเบิกแคว้น เมืองตะวันออกเตรียมอานม้า เมืองตะวันตกเตรียมอาวุธ ทุกบ้านตัดชุดรบ ทุกบ้านเตรียมเสบียง ลูกน้อยในอ้อมกอด รอคอยพ่อกลับบ้าน ท่านไม่เห็นกระดูกขาวกองเต็มทุ่งดุจหิมะ ต้นไม้สูงใหญ่ สายลมพัดส่งเสียงโศกเศร้า เมื่อวีรบุรุษชักกระบี่ออกจากฝัก โลกหล้าต้องเผชิญภัยร้ายนับสิบปี
[08/01/17, 17/01/17]

เท่าที่อ่านมาห้าเล่ม เนื้อเรื่องน่าสนใจนะคะ แสดงถึงความทารุณของสงครามและการเอาชีวิตรอดที่โหดร้ายได้ถึงแก่น (ถ้าจะกราฟฟิกหน่อยมีหวังได้แหวะแน่) ตามด้วยเรื่องชิงอำนาจที่สลับซับซ้อน อ่านแล้วให้ความรู้สึกคล้าย 'ไตรภาคสุยถัง' ในด้านการรบและชิงอำนาจ กับ 'ผ่าพิภพไททัน' เรื่องภยันตราย แถมยังเอาตำนานฝูซี-หนี่วา มาใช้อย่างเนียนๆ และอาจจะแถมพกด้วยเรื่องปฏิวัติฝรั่งเศสของตอนจบที่ปวดตับไม่น้อย แต่การที่มีหลายปมมาปนกันก็ทำให้ความแรงของแต่ละปมลดลงไปบ้าง

เรื่องการพัฒนาอาวุธในช่วงแรกๆ ดูจะสมเหตุสมผล แต่ระยะหลังที่มีทัพจตุรธาตุก็ก้าวข้ามขอบเขตของยุคเทคโลโนยีมากไปจนขาดความรู้สึกโน้มน้าวว่าเป็นไปได้ คืออ่านแล้วมองไม่ออกเลยค่ะว่าทำงานได้อย่างไร อย่างรถถังที่เอาคนมาเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานให้เคลื่อนที่ ถึงจะทดแรงอย่างไรก็ไม่พอ อย่าว่าแต่เรื่องเครื่องร่อนกึ่งเครื่องบิน ฯลฯ

ปัญหาสำคัญที่สุดขอเรื่องนี้คือการแปลค่ะ ความจริงด้วยเรื่องที่ออกแฟนตาซีแบบนี้ จขบ. ว่าถ้าการที่ไม่แปลโดยใช้สำนวนแบบนิยายจีน ไม่ว่าจะกำลังภายในหรือแบบย้อนยุค ก็โอเคนะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะอ่านอยู่แล้วทั้งคู่ แต่อย่างน้อยก็ต้องรักษาระดับความเก่าของภาษาไว้ ไม่ใช้คำศัพท์หรือสำนวนใหม่ที่จะทำให้เสียอรรถรส มีศัพท์ไทยที่ใช้ผิดความหมายผิดที่ผิดทาง (อย่างทันสมัยคือผู้บัญชาการแทนค่ายทัพขวาก่อรัฐประหารต่ออู่โหว!) และศัพท์ที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษด้วยอย่างเมนู เซรามิก ฯลฯ ซึ่งต้องบอกว่าตอให้สะดุดแบบนี้โผล่มาเยอะมาก สำนวนก็ยังไม่นิ่ง ตัวอย่างคือร่ายช่วงจบที่รู้สึกว่าน่าจะใช้คำให้ประทับใจได้มากกว่านี้นะคะ

แถมโบนัสที่ทำให้อ่านได้มึนตึ๊บคือการเรียกชื่อตำแหน่งทางทหารที่ จขบ. ว่าสำคัญมากในนิยายสงครามแบบนี้ เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงระดับในการบังคับบัญชาและขอบเขตอำนาจหน้าที่ แต่ไหงไป่ฟูจ่างคุมทหารร้อยคนก็เป็นขุนพล ว่านฟูจ่างที่คุมหมื่นนาย แม่ทัพทั้งกองก็ขุนพล แบบว่าในนี้มีขุนพลเป็นร้อย! แยกยากมาก อ้อ ตำแหน่งผู้คุมที่เป็นนายทหารระดับกลางที่ไม่แน่ใจว่าทำอะไร แถมภายหลังยังดูเหมือนจะเป็นระดับผู้บัญชาการกองทัพด้วย เรื่องการแบ่งทัพก็ทำเอามึนกับการใช้ทัพปนกับค่าย ฯลฯ

สรุปความรู้สึกคือตื่นเต้นระทึกขวัญวางแผนซับซ้อน ตัวละครและสถานที่ชักเยอะมาก ถ้ามีแผนผังหรือแผนที่น่าจะช่วยให้อ่านง่ายอีกเยอะ แต่การแปลมีปัญหาชัด และเนื่องจากเป็นผลงานเรื่องแรกของผู้แปล จขบ. เลยอยากบ่นว่า บ.ก. น่าจะตรวจก่อนพิมพ์อย่างละเอียดมากกว่าปกติ ถ้าพบปัญหาก็จะได้พิจารณาหาคนมาเกลาสำนวนและการใช้ศัพท์สักหน่อย แบบว่า จขบ. รู้สึกเสียของเอามากๆ น่ะค่ะ เพราะเมื่อดูเฉพาะเนื้อเรื่องแล้วมีศักยภาพในความย่าประทับใจมาก แต่การแปลไม่สามารถดึงความซาบซึ้งออกมาได้ ในภาพรวมของเรื่อง ขอยก 'หงสาจอมราชันย์' ที่ว่า บทสรุปชีวิตข้า งดงามแต่ไม่ตระการตา ขึ้นและลงเป็นอนิจจัง
[26/05/14, 08/01/17]

ที่มา
[1] เยี่ยนเหล่ยเซิง (จิ้งจอกเพลิง แปล). สงครามตำนานเทพ ภาค 1 นครแห่งอัคคี (Tenchu Trilogy Book 1, The City of Fire). สำนักพิมพ์คิริน, 2 เล่มจบ, 304 + 288 หน้า, 2556 (ต้นฉบับ 2009).
[2] เยี่ยนเหล่ยเซิง (จิ้งจอกเพลิง แปล). สงครามตำนานเทพ ภาค 2 ทัณฑ์สวรรค์ (Tenchu Trilogy Book 2, Tenchu). สำนักพิมพ์คิริน, 4 เล่มจบ, 344 + 336 + 336 + 376 หน้า, 2557 (ต้นฉบับ 2009).
[3] เยี่ยนเหล่ยเซิง (จิ้งจอกเพลิง แปล). สงครามตำนานเทพ ภาค 3 ศตวรรษใหม่ (Tenchu Trilogy Book 3, Genesis). สำนักพิมพ์คิริน, 4 เล่มจบ, 384 + 384 + 344 + หน้า, 2557 (ต้นฉบับ 2010).


Create Date : 26 พฤษภาคม 2557
Last Update : 30 ตุลาคม 2560 6:55:23 น. 6 comments
Counter : 9186 Pageviews.

 
เรื่องนี้เหมือนคุณแฟนจะอ่านอยู่
ไปไถนางดีกว่า .... ไม่ต้องซื้อเอง เหอ เหอ


โดย: Pdจิงกุเบล วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:9:20:39 น.  

 
แวะมาอ่านรีวิวค่ะ เรื่องนี้มี ๒ ภาคเลยเหรอคะเนี่ย


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:9:22:45 น.  

 
เรื่องนี้คงผ่าน ต่อเนื่องเยอะเกิน


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:59:20 น.  

 
คุณหวานเย็นผสมโซดา > ลองดูข้อมูลหนังสือในเว็บเห็นว่ามีแปดเล่ม แต่ในเล่มไม่บอกค่ะ


โดย: jackfruit_k วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:45:29 น.  

 
อ่านภาคสามเล่มหนึ่งแระ ยังคงอ่านได้เรื่อยๆ แต่ไม่ถึงกับอ่านซ้ำ


โดย: ผ่านมา IP: 223.206.203.168 วันที่: 7 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:01:09 น.  

 
อย่าไปกลัวว่ามันมีหลายภาค เนื้อเรื่องมันก็ต่อๆกันไป ไม่เรียกภาค123 จะดีเสียกว่า เหมือนเหยี่ยวสิบทิศนั่นแหละ ภาคสอง มันก็ยังเขียนแนวเดีิม ตัวละครเดิมๆ จะเรียกเป็นภาค มันต้องมังกรหยกซิ แต่ละภาคตัวเอกคนละคน มีเนื้อความไปคนละทางคนละอารมณ์


โดย: ผ่านมา IP: 223.206.25.100 วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:44:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jackfruit_k
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 211 คน [?]




Latest Updates
นิยาย ไทย, จีนแปล, แปล, อังกฤษ; การ์ตูน ญี่ปุ่น, อื่นๆ; หนังสือ ไทย, แปล, อังกฤษ
New Comments
Friends' blogs
[Add jackfruit_k's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.