รัฐสวัสดิการทางเลือกที่ดีกว่าประชานิยมของ ไทยรักไทย
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์ และ เก่งกิจ กิติเรียงลาภ พรรคแนวร่วมภาคประชาชน
การสร้างรัฐสวัสดิการในประเทศไทยเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ แต่อุปสรรคหลักคือการคัดค้านทางการเมืองจากคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจและกลัวจะเสียผลประโยชน์ อุปสรรคหลักไม่ใช่ปัญหาเทคนิคหรือการจัดการแต่อย่างใด กลุ่มคนที่เป็นอุปสรรคในการสร้างรัฐสวัสดิการคือ (1)พวกนักวิชาการเสรีนิยมและพรรคเสรีนิยม เช่นพรรคประชาธิปัตย์ และ(2)กลุ่มคนที่อยากให้สวัสดิการแบบเศษเล็กๆ โดยไม่แตะโครงสร้างความเหลื่อมล้ำแต่อย่างใด เช่นพรรคไทยรักไทย
1. รัฐสวัสดิการ (Welfare State) คืออะไร? ในยุคปัจจุบัน ไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีสวัสดิการสำหรับคนจนบางคนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วระบบ สวัสดิการที่พบในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีลักษณะที่ไม่ครอบคลุม แยกส่วน และไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนได้ เรียกว่าเป็น สวัสดิการรัฐ
รัฐสวัสดิการ (Welfare State) เป็นระบบสวัสดิการรูปแบบที่พัฒนาไปถึงระดับสูงสุดสำหรับระบบทุนนิยม และถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดสังคมนิยมประชาธิปไตย (Social Democrat) รัฐสวัสดิการมีลักษณะพิเศษคือ
(ก) เป็นระบบครบวงจรที่ดูแลพลเมือง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต (ข) เป็นสวัสดิการถ้วนหน้า คือพลเมืองทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับ ไม่เจาะจงว่าต้องเป็นคนจนสุดเท่านั้น (ค) เป็นระบบสวัสดิการเดียวสำหรับพลเมืองทุกคนที่อาศัยรัฐเป็นผู้บริหาร ไม่ใช่ว่ามีหลายระบบซ้ำซ้อนกัน (ฆ) เป็นระบบสวัสดิการที่อาศัยงบประมาณจากการเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า คือคนรวยจ่ายมาก คนจนจ่ายน้อย
Download Full article
Create Date : 24 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 14:53:11 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1595 Pageviews. |
|
|
..ถ้าจะมีคนไทยสักคนหนึ่ง ซึ่งทำให้(เฒ่าสารพัดพิษ)รัฐบุรุษอาวุโสของสิงคโปร์ ลีกวนยู ค้อมหัวยอมรับในความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริตและคุณธรรม
เห็นจะมีแต่ท่านอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากร คนร่วมยุคสมัย
โครงสร้างของสังคมประชาธิปไตยก้าวหน้าในก้าวต่อ
ไปของไทยที่จะเกิดเป็นรูปธรรมเด่นชัดคู่ขนานไปกับ
ระบบ Logistics ก็คือเรื่องรัฐสวัสดิการ(Welfare State)
โดยเกิดขึ้นมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ยุติใหม่ๆ
ทั้งอาจารย์ป๋วย และลี กวนยู ต่างก็นำเข้ามาเผยแพร่
ปลูกฝังในประเทศของตน เพียงแต่ ลี กวนยู ได้เป็นผู้
กุมชะตากรรมประเทศสิงคโปร์เมล็ดพันธุ์นี้จึงงอกงาม
จนกลายเป็นประเทศรัฐสวัสดิการ ที่มีระเบียบวินัยยิ่ง
น่าเสียดายที่คนดี คนเก่ง คนกล้าหาญ และจงรักภักดีอย่างอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากร ระบอบการเมือง"ทรราช"
เผด็จการทหาร+เผด็จการทุนนิยมสามานย์ไม่ต้องการ
เพราะไปขัดขวางขบวนการคอร์รัปชั่น ระบบอุปถัมภ์ฯ
ขุมอำนาจในกลุ่มชนชั้นปกครองซึ่งไม่ต้องการให้เกิด
การเรียนรู้การมีส่วนร่วมในการปกครองภาคประชาชน
รัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตย สังคมนิยม รัฐสวัสดิการ ฯ
จะเป็นเพียงวาทกรรมสวยหรูขึ้นหิ้งสำหรับใช้หาเสียง
หากปราศจากซึ่งการปฏิบัติ ความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทฤษฎีใหม่
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงลงมือทดลอง
ปฏิบัติตั้งสหกรณ์ชุมชนในนิคมฯ โครงการหลวงต่างๆ
ถ้าจะกล่าวว่า พระองค์ท่านทรงเป็นกษัตริย์สามัญชน
ที่ติดดินทำงานหนักและยาวนานกว่านักปฏิวัติคอมมูน
นักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน คนไทยคนไหนๆ
ก็คงไม่ผิดนัก ที่อุทิศตัวมีอุดมการเพื่อประชาชนจริงๆ
แล้วไม่ต้องไปคิดหาต้นแบบฮีโร่จากไหนให้เสียเวลา
โดยปรับให้เหมาะสมกับวิถีประชาธิปไตยแบบไทยๆ
เหมือนสังคมนิยม-ประชาธิปไตยมีกษัตริย์แบบสวีเดน
หรือประชาธิปไตยชาตินิยมรัฐสวัสดิการแบบอังกฤษ ญี่ปุ่น ที่ประชาชนยังยกย่องเทอดทูนสถาบันกษัตริย์
ไม่ใช่ไปลอกเลียนแบบสังคมนิยมมาร์กคอมมูนทั้งดุ้น
จนที่สุดล่มสลาย กลายเป็นประเทศกึ่งประชาธิปไตย
ทั้งอดีตสหภาพโซเวียต จีนแผ่นดินใหญ่ เวียตนาม ฯ
๗๕ ปี..ประชาธิปไตยไทยจึงต่วมเตี้ยมไปไม่ถึงไหน
มีอนุสาวรีย์ประชาธิไตยไว้แหกตาชาวบ้านตาสีตาสา
ให้ยกมือกราบไหว้บูชาถือเป็นของดีวิเศษ ของศิวิไล
ถึงเวลาเลือกตั้งก็พวกเสือสิงห์กระทิงแรดโกงกินชาติ
หมุนเวียนกันอยู่ไม่กี่ก๊วนตระกูล อย่างนี้ชาติล่มสลาย
เพราะมีแต่คณะผู้อยากปกครองที่เก่งแต่โกงกินต่อคิว
ยาว วงจรอุบาทปฏิวัติซ้ำซากล้าหลังจึงต้องล้มเกมฯ