Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
2 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
ความร้อน(อินเดีย)ถึงตายได้





1 มิ.ย.เหยื่อคลื่นความร้อนในอินเดียพุ่งทะลุ 2,200 ศพ แม้เริ่มมีสายฝนโปรยปราย

ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของคลื่นความร้อนในอินเดียล่าสุดพุ่งทะลุ 2,200 ศพในวันอาทิตย์ (31พ.ค.) ขณะที่ฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาในหลายพื้นที่ของอินเดีย ได้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดที่สุดในรอบมากกว่า 2 ทศวรรษทั้งในรัฐอานธรประเทศและเตลันกานา รวมถึงในกรุงนิวเดลีได้บ้าง แม้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจะยังคาดการณ์ว่าหลายพื้นที่ทางตอนใต้ ทางตะวันตกและทางเหนือของแดนโรตีจะยังต้องเผชิญอุณหภูมิ “สูงกว่า 45 องศาเซลเซียส”ในอีกหลายวันจากนี้


ด้านรายงานข่าวซึ่งอ้างพี. ตุลศรี รานี เจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งสำนักจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินเดียระบุ ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของคลื่นความร้อนในรัฐอานธรประเทศล่าสุดเพิ่มเป็น 1,636 ราย ส่วนในรัฐเตลันกานามีผู้เสียชีวิต 541 ราย ขณะที่พบผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 21 รายในรัฐโอริสสา และอีก 9 รายในพื้นที่อื่นๆ ของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรงพยาบาลต่างประสบปัญหาในการรับมือกับจำนวนของผู้ป่วยที่ล้นทะลักจากผลพวงของคลื่นความร้อน

ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากจนปีละหลายร้อยคน เพราะสภาพอากาศร้อนในอินเดียแต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1995 ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแถลงผ่านรายการวิทยุรายเดือนเมื่อวันอาทิตย์ เตือนให้ชาวอินเดียรักษาสุขภาพและรู้จักดูแลตัวเองในช่วงสภาพอากาศร้อนจัด และว่ารัฐบาลจะเร่งจัดหาความช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อลดทอนผลกระทบ

//manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…



29 พ.ค.ผู้ป่วยลมแดดล้นโรงพยาบาล ยอดตายคลื่นความร้อนอินเดียพุ่ง1,700ศพ

“แผนกต่างๆ ของเราเต็มไปด้วยคนไข้” เจ วี ซับบาเรา แพทย์จากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ราจีฟ คานธี ในรัฐอานธรประเทศบอกกับผู้สื่อข่าว “ผมทำหน้าที่แพทย์ในเขตนี้มานาน 40 ปี และผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มีผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลมากมายเหลือเกิน” พร้อมเผยว่าเหล่าผู้ป่วยที่มีอาการสาหัสหนักหนาที่สุด ส่วนใหญ่เป็นคนยากจนและผู้สูงวัยที่ไม่ทราบถึงอันตรายของโรคลมแดดซึ่งสามารถคร่าชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา


โรงพยาบาลหลายแห่งในอินเดียเมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) ต้องตะเกียกตะกายรักษาผู้ป่วยจำนวนมากจนล้นโรงพยาบาล ขณะที่สภาพอากาศอันร้อนระอุจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมประเทศแห่งนี้ได้คร่าชีวิตชาวบ้านเพิ่มเป็นมากกว่า 1,700 รายในช่วงเวลาแค่สัปดาห์เดียว ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ

ในช่วงฤดูร้อนของแต่ละปี มักมีประชาชนในอินเดียส่วนใหญ่เป็นคนยากจน เสียชีวิตจากสภาพอากาศร้อนจัดหลายร้อยคน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในปีนี้ได้ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1995 โดยคราวนั้นข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดด 1,677 คน

ที่รัฐอานธรประเทศ รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากอุณหภูมิร้อนระอุถึง 47 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,334 คนนับตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม โดยคณะแพทย์ยอมรับว่าพวกเขาไม่เคยพบเห็นผู้ป่วยอาการสาหัสมีจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อน

สื่อมวลชนของอินเดียรายงานว่า ยังมีผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในรัฐเตลันกานาที่อยู่ติดกัน อีก 340 คน หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเผชิญอุณหภูมิสูงลิ่ว 48 องศาเซลเซียส ในขณะที่ตลอดทั้งปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดแค่ 34 คนเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการของผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอากาศที่ร้อนจัดถือว่าต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะว่าอุณหภูมิที่ร้อนระอุนี้ส่งผลกระทบรุนแรงกับคนยากจน ที่คงไม่ได้ไปเสียชีวิตตามโรงพยาบาลต่างๆ

//manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…


27 พ.ค. ยอดตายคลื่นความร้อนอินเดียทะลุ 1,100 ศพ ทางม้าลายถึงขั้นหลอมละลาย - เตือน ปชช.อยู่แต่ที่ร่ม


ยอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมหลายรัฐในอินเดีย ทะลุ 1,100 ศพ โดยบางพื้นที่อุณหภูมิพุ่งขึ้นไปเฉียดๆ 50 องศาเซลเซียส ทำเอาทางม้าลายถึงขั้นหลอมละลาย ขณะที่ทางการเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในที่ร่ม

กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียระบุว่า คลื่นความร้อนครั้งนี้มีต้นตอจากภาวะแล้งฝน พร้อมเตือนว่าในรัฐโอริสสา รัฐฌาร์ขันฑ์และรัฐรัฐอานธรประเทศ อุณหภูมิสูงสุดจะยังคงอยู่เหนือ 45 องศาเซลเซียส

พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดคือรัฐอานธรประเทศ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ หลังพบผู้เสียชีวิต 852 ศพ ส่วนอีกแห่งคือรัฐเตลันกานาที่อยู่ติดกัน มีผู้เสียชีวิต 266 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากพิษคลื่นความร้อนนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วใน 2 รัฐนี้ ขยับขึ้นเป็นอย่างต่ำ 1,118 คน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวระบุว่ายังพบผู้เสียชีวิตสืบเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุในรัฐเบงกอลตะวันตกกับรัฐโอริสสา อีกอย่างต่ำ 24 ศพ

โรงพยาบาลต่างๆ ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมรักษาคนไข้ที่มีอาการของโรคลมแดดและทางการแนะนำประชาชนให้อยู่แต่ในที่ร่ม อย่างไรก็ตาม ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อมีความเป็นไปได้ที่อุณหภูมิในบางพื้นที่จะลดลงในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า

คลื่นความร้อนเข้าปกคลุม 2 รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน แต่กรณีเสียชีวิตส่วนใหญ่เพิ่งเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในรัฐอานธรประเทศ ที่สภาพอากาศเลวร้ายที่สุด พบว่าอุณหภูมิพุ่งทะยานถึง 47 องศาเซลเซียสในวันจันทร์ (25 พ.ค.)

ฝ่ายบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐอานธรประเทศ ระบุว่า ได้ดำเนินการให้ความรู้ผ่านทางโทรทัศน์และสื่ออื่นๆ โดยบอกประชาชนว่าไม่ควรออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีหมวก รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากและใช้มาตรการป้องกันอื่นๆ

“เรายังได้ร้องขอไปยังเอ็นจีโอและหน่วยงานรัฐให้เปิดจุดบริการน้ำดื่ม เพื่อให้มีน้ำไว้คอยบริการแก่ผู้คนในเมือง” เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี

ในรัฐเตลังคานา เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึง 48 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์

อัลเฟรด อินเนส ที่พักอาศัยในเมืองไฮเดอร์ราบัด เมืองหลวงของรัฐเตลันกานา บอกว่าประชาชนแทบไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการเลย “ผมได้เห็นเด็กชายวัย 3 ขวบที่พักอยู่ใกล้ๆ กันเสียชีวิตกับตา นั่นเพราะอากาศร้อนจัดมาก มันน่าเศร้าอย่างยิ่ง รัฐบาลไม่ทำอะไร แต่ละคนต้องพยายามช่วยเหลือตนเอง”

อุณหภูมิในเตลันกานา ลดลงเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร (26 พ.ค.) ส่วนในรัฐอานธรประเทศ คาดหมายว่าจะเริ่มลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ และเชื่อว่าอุณหภูมิจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฤดูมรสุมเริ่มขึ้นในสิ้นเดือนนี้

หนังสือพิมพ์ ฮินดูสถาน ไทม์ รายงานว่า อากาศในนิวเดลีเมืองหลวงของอินเดีย ทำสถิติร้อนระอุที่สุดในรอบ 2 ปี ด้วย 45.5 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) และบนหน้า 1 ของสื่อฉบับนี้ยังได้ตีพิมพ์ภาพถนนเส้นหนึ่งภายในเมือง ที่หลอมละลายเพราะความร้อน โดยจะเห็นได้ชัดเจนว่าทางม้าลายที่เป็นแถบสีขาวนั้นกลายเป็นเส้นโค้งผสมปนเปกับยางมะตอยสีดำ

มีความกังวลว่าในบางรัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงอาจเผชิญกับภัยแล้งจนกระทั่งฝนฤดูมรสุมจะมาถึง ทั้งนี้คาดหมายว่าฤดูมรสุมจะเล่นงานรัฐเกรละราวๆ สิ้นเดือน ก่อนพัดพาไปทั่วประเทศ

//manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…











Create Date : 02 มิถุนายน 2558
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 10:23:47 น. 0 comments
Counter : 1979 Pageviews.

ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.