|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความร้อน(อินเดีย)ถึงตายได้
1 มิ.ย.เหยื่อคลื่นความร้อนในอินเดียพุ่งทะลุ 2,200 ศพ แม้เริ่มมีสายฝนโปรยปราย
ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของคลื่นความร้อนในอินเดียล่าสุดพุ่งทะลุ 2,200 ศพในวันอาทิตย์ (31พ.ค.) ขณะที่ฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาในหลายพื้นที่ของอินเดีย ได้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดที่สุดในรอบมากกว่า 2 ทศวรรษทั้งในรัฐอานธรประเทศและเตลันกานา รวมถึงในกรุงนิวเดลีได้บ้าง แม้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจะยังคาดการณ์ว่าหลายพื้นที่ทางตอนใต้ ทางตะวันตกและทางเหนือของแดนโรตีจะยังต้องเผชิญอุณหภูมิ สูงกว่า 45 องศาเซลเซียสในอีกหลายวันจากนี้
ด้านรายงานข่าวซึ่งอ้างพี. ตุลศรี รานี เจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งสำนักจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินเดียระบุ ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของคลื่นความร้อนในรัฐอานธรประเทศล่าสุดเพิ่มเป็น 1,636 ราย ส่วนในรัฐเตลันกานามีผู้เสียชีวิต 541 ราย ขณะที่พบผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 21 รายในรัฐโอริสสา และอีก 9 รายในพื้นที่อื่นๆ ของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรงพยาบาลต่างประสบปัญหาในการรับมือกับจำนวนของผู้ป่วยที่ล้นทะลักจากผลพวงของคลื่นความร้อน
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากจนปีละหลายร้อยคน เพราะสภาพอากาศร้อนในอินเดียแต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1995 ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแถลงผ่านรายการวิทยุรายเดือนเมื่อวันอาทิตย์ เตือนให้ชาวอินเดียรักษาสุขภาพและรู้จักดูแลตัวเองในช่วงสภาพอากาศร้อนจัด และว่ารัฐบาลจะเร่งจัดหาความช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อลดทอนผลกระทบ
//manager.co.th/Around/ViewNews.aspx
29 พ.ค.ผู้ป่วยลมแดดล้นโรงพยาบาล ยอดตายคลื่นความร้อนอินเดียพุ่ง1,700ศพ
แผนกต่างๆ ของเราเต็มไปด้วยคนไข้ เจ วี ซับบาเรา แพทย์จากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ราจีฟ คานธี ในรัฐอานธรประเทศบอกกับผู้สื่อข่าว ผมทำหน้าที่แพทย์ในเขตนี้มานาน 40 ปี และผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มีผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลมากมายเหลือเกิน พร้อมเผยว่าเหล่าผู้ป่วยที่มีอาการสาหัสหนักหนาที่สุด ส่วนใหญ่เป็นคนยากจนและผู้สูงวัยที่ไม่ทราบถึงอันตรายของโรคลมแดดซึ่งสามารถคร่าชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา
โรงพยาบาลหลายแห่งในอินเดียเมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) ต้องตะเกียกตะกายรักษาผู้ป่วยจำนวนมากจนล้นโรงพยาบาล ขณะที่สภาพอากาศอันร้อนระอุจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมประเทศแห่งนี้ได้คร่าชีวิตชาวบ้านเพิ่มเป็นมากกว่า 1,700 รายในช่วงเวลาแค่สัปดาห์เดียว ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ
ในช่วงฤดูร้อนของแต่ละปี มักมีประชาชนในอินเดียส่วนใหญ่เป็นคนยากจน เสียชีวิตจากสภาพอากาศร้อนจัดหลายร้อยคน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในปีนี้ได้ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1995 โดยคราวนั้นข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดด 1,677 คน
ที่รัฐอานธรประเทศ รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากอุณหภูมิร้อนระอุถึง 47 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,334 คนนับตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม โดยคณะแพทย์ยอมรับว่าพวกเขาไม่เคยพบเห็นผู้ป่วยอาการสาหัสมีจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อน
สื่อมวลชนของอินเดียรายงานว่า ยังมีผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในรัฐเตลันกานาที่อยู่ติดกัน อีก 340 คน หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเผชิญอุณหภูมิสูงลิ่ว 48 องศาเซลเซียส ในขณะที่ตลอดทั้งปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดแค่ 34 คนเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการของผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอากาศที่ร้อนจัดถือว่าต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะว่าอุณหภูมิที่ร้อนระอุนี้ส่งผลกระทบรุนแรงกับคนยากจน ที่คงไม่ได้ไปเสียชีวิตตามโรงพยาบาลต่างๆ
//manager.co.th/Around/ViewNews.aspx
27 พ.ค. ยอดตายคลื่นความร้อนอินเดียทะลุ 1,100 ศพ ทางม้าลายถึงขั้นหลอมละลาย - เตือน ปชช.อยู่แต่ที่ร่ม
ยอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมหลายรัฐในอินเดีย ทะลุ 1,100 ศพ โดยบางพื้นที่อุณหภูมิพุ่งขึ้นไปเฉียดๆ 50 องศาเซลเซียส ทำเอาทางม้าลายถึงขั้นหลอมละลาย ขณะที่ทางการเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในที่ร่ม
กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียระบุว่า คลื่นความร้อนครั้งนี้มีต้นตอจากภาวะแล้งฝน พร้อมเตือนว่าในรัฐโอริสสา รัฐฌาร์ขันฑ์และรัฐรัฐอานธรประเทศ อุณหภูมิสูงสุดจะยังคงอยู่เหนือ 45 องศาเซลเซียส
พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดคือรัฐอานธรประเทศ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ หลังพบผู้เสียชีวิต 852 ศพ ส่วนอีกแห่งคือรัฐเตลันกานาที่อยู่ติดกัน มีผู้เสียชีวิต 266 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากพิษคลื่นความร้อนนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วใน 2 รัฐนี้ ขยับขึ้นเป็นอย่างต่ำ 1,118 คน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวระบุว่ายังพบผู้เสียชีวิตสืบเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุในรัฐเบงกอลตะวันตกกับรัฐโอริสสา อีกอย่างต่ำ 24 ศพ
โรงพยาบาลต่างๆ ได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมรักษาคนไข้ที่มีอาการของโรคลมแดดและทางการแนะนำประชาชนให้อยู่แต่ในที่ร่ม อย่างไรก็ตาม ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อมีความเป็นไปได้ที่อุณหภูมิในบางพื้นที่จะลดลงในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า
คลื่นความร้อนเข้าปกคลุม 2 รัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน แต่กรณีเสียชีวิตส่วนใหญ่เพิ่งเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในรัฐอานธรประเทศ ที่สภาพอากาศเลวร้ายที่สุด พบว่าอุณหภูมิพุ่งทะยานถึง 47 องศาเซลเซียสในวันจันทร์ (25 พ.ค.)
ฝ่ายบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐอานธรประเทศ ระบุว่า ได้ดำเนินการให้ความรู้ผ่านทางโทรทัศน์และสื่ออื่นๆ โดยบอกประชาชนว่าไม่ควรออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีหมวก รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากและใช้มาตรการป้องกันอื่นๆ
เรายังได้ร้องขอไปยังเอ็นจีโอและหน่วยงานรัฐให้เปิดจุดบริการน้ำดื่ม เพื่อให้มีน้ำไว้คอยบริการแก่ผู้คนในเมือง เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี
ในรัฐเตลังคานา เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึง 48 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์
อัลเฟรด อินเนส ที่พักอาศัยในเมืองไฮเดอร์ราบัด เมืองหลวงของรัฐเตลันกานา บอกว่าประชาชนแทบไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการเลย ผมได้เห็นเด็กชายวัย 3 ขวบที่พักอยู่ใกล้ๆ กันเสียชีวิตกับตา นั่นเพราะอากาศร้อนจัดมาก มันน่าเศร้าอย่างยิ่ง รัฐบาลไม่ทำอะไร แต่ละคนต้องพยายามช่วยเหลือตนเอง
อุณหภูมิในเตลันกานา ลดลงเล็กน้อยเมื่อวันอังคาร (26 พ.ค.) ส่วนในรัฐอานธรประเทศ คาดหมายว่าจะเริ่มลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ และเชื่อว่าอุณหภูมิจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฤดูมรสุมเริ่มขึ้นในสิ้นเดือนนี้
หนังสือพิมพ์ ฮินดูสถาน ไทม์ รายงานว่า อากาศในนิวเดลีเมืองหลวงของอินเดีย ทำสถิติร้อนระอุที่สุดในรอบ 2 ปี ด้วย 45.5 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) และบนหน้า 1 ของสื่อฉบับนี้ยังได้ตีพิมพ์ภาพถนนเส้นหนึ่งภายในเมือง ที่หลอมละลายเพราะความร้อน โดยจะเห็นได้ชัดเจนว่าทางม้าลายที่เป็นแถบสีขาวนั้นกลายเป็นเส้นโค้งผสมปนเปกับยางมะตอยสีดำ
มีความกังวลว่าในบางรัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงอาจเผชิญกับภัยแล้งจนกระทั่งฝนฤดูมรสุมจะมาถึง ทั้งนี้คาดหมายว่าฤดูมรสุมจะเล่นงานรัฐเกรละราวๆ สิ้นเดือน ก่อนพัดพาไปทั่วประเทศ
//manager.co.th/Around/ViewNews.aspx
Create Date : 02 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 10:23:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1979 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|