H E L L O !_! i_lingnoi รักกันนานๆนะ
Group Blog
 
All blogs
 

Ps 3 มาดูกันดีกว่าว่าเป็นยังไง

Product name: PlayStation 3
Logo: PLAYSTATION(R)3

CPU

Cell Processor
PowerPC-base Core @3.2GHz
1 VMX vector unit per core
512KB L2 cache
7 x SPE @3.2GHz
7 x 128b 128 SIMD GPRs
7 x 256KB SRAM for SPE
* 1 of 8 SPEs reserved for redundancy
total floating point performance: 218 GFLOPS

GPU
RSX @550MHz
1.8 TFLOPS floating point performance
Full HD (up to 1080p) x 2 channels
Multi-way programmable parallel floating point shader pipelines

Sound
Dolby 5.1ch, DTS, LPCM, etc. (Cell- base processing)

Memory
256MB XDR Main RAM @3.2GHz 256MB GDDR3 VRAM @700MHz

System Bandwidth
Main RAM 25.6GB/s
VRAM 22.4GB/s
RSX 20GB/s (write) + 15GB/s (read)
SB< 2.5GB/s (write) + 2.5GB/s (read)

System Floating Point Performance
2 TFLOPS

Storage
Detachable 2.5" HDD slot x 1

I/O
USB Front x 4, Rear x 2 (USB2.0)
Memory Stick standard/Duo, PRO x 1
SD standard/mini x 1
CompactFlash (Type I, II) x 1

Communication
Ethernet (10BASE-T, 100BASE-TX, 1000BASE-T) x 3 (input x 1 + output x 2)
Wi-Fi IEEE 802.11 b/g
Bluetooth 2.0 (EDR)

Controller
Bluetooth (up to 7)
USB 2.0 (wired)
Wi-Fi (PSP)
Network (over IP)

AV Output
Screen size: 480i, 480p, 720p, 1080i, 1080p
HDMI: HDMI out x 2
Analog: AV MULTI OUT x 1
Digital audio: DIGITAL OUT (OPTICAL) x 1

Disc Media
CD PlayStation CD-ROM, PlayStation 2 CD-ROM, CD-DA, CD-DA (ROM), CD-R, CD-RW, SACD, SACD Hybrid (CD layer), SACD HD, DualDisc, DualDisc (audio side), DualDisc (DVD side)
DVD: PlayStation 2 DVD-ROM, PlayStation 3 DVD-ROM, DVD-Video, DVD-ROM, DVD-R, DVD-RW, DVD+R, DVD+RW
Blu-ray Disc: PlayStation 3 BD-ROM, BD-Video, BD-ROM, BD-R, BD-RE

อย่าเพิ่งงงกันนะเพราะว่าเราก้อไม่ค่อยเข้าจัย 555

ราคา คิดคาดกันไว้ ถ้าซื้อตอนนี้ เครื่อง PS3 จะมีมูลค่าถึง USD 460 - US 1000 ประมาณ 20000 บาท ถึง 40000 บาท เลยทีเดียว เขาคิดว่า PS3 นี้ มีประสิทธิภาพดีกว่า PS2 ถึง 35 เท่า (จอห์น มาน ยอด มักๆๆ)

ใครมีเกม PS2 แท้ อยู่ ก็สามารถกับ เครื่องนี้ ได้ นะ PS1 ด้วย
จอย PS3 ไม่สายแล้ว เพราะใช้ bluetooth แทน ใช้ได้สูงสุด 7 คน อ่า ยอดมากเลย



วางจำหน่าย คาดว่าประมาณ ฤดูใบไม้ผลิ ปี2006(ประมาณเดือน มี.ค.-พ.ค. ในบ้านเรา)

อยากรู้ มากกว่านี้ ชมได้ ที่
//www.gconsole.com ครับ

ปล.ซื้อแน่ ถ้ามีเงิน ซื้อ แน่ แต่ไม่ซื้อปีหน้าหรอ เอา ซักขายไป 2 ปี ค่อยซื้อ น่าจะมีงานทำ แล้ว เงินมาซื้อ ตอนนั้น คงมี แผ่น ก๊อป แล้ว ละ อิอิอิ

อันนี้ไม่มีรูปนะ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2550 23:03:03 น.
Counter : 370 Pageviews.  

ของกินทั้งน้าน.....

จันทร์เจ้าขา

ส่วนผสม(สำหรับ 3 ที่)
ไข่ดาว 3-4 ฟอง
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเจียวพอเหลือง 1/4 ถ้วยตวง
คาร์เนชันครีมกะทิ 7 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปึก 7 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแห้งทอดหั่นตามขวาง 5 เม็ด
ซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ
ผักสดตามชอบ

วิธีทำ

1. เคี่ยวน้ำตาลปึกกับน้ำมะขามเปียก ปรุงรสด้วยซอสปรุงอาหารตราแม็กกี้ ชิมรสตามชอบ เคี่ยวพอข้นยกลงใส่คาร์เนชันครีมกะทิลงไปคนให้เข้ากันแล้วเติมถั่วลิสงคั่วและพริก
2. นำไข่ดาวจัดลงจาน ตัดเป็นชิ้นพอคำหรือทั้งฟอง โรยหน้าด้วยหอมเจียว ราดซอสที่เตรียมไว้จัดรับประทานพร้อมผักสดและพริกขี้หนูทอด



อย่าแอบไปทำกินกันนะ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2550 22:35:07 น.
Counter : 199 Pageviews.  

สิงโตน้ำเงินคราม Chelsea

ประวัติทีมเชลซี (Chelsea )
ชื่อทีม : เชลซี (Chelsea)
ประธานสโมสร : โรมัน อับราโมวิช
ผู้จัดการทีม : โจเซ่ มูนินโญ่
ฉายาสโมสร : เดอะ บลูส์ (The Blues) สิงโตน้ำเงินคราม
เริ่มก่อตั้งสโมสร : ในปีค.ศ. 1905
ที่อยู่สโมสร : Stamford Bridge,Fulham Road,London,SW6 1HS
เบอร์โทรศัพท์ : (020) 738 5545
แฟกซ์ : (020) 7381 4831
จำหน่ายตั๋ว : 09068 121011
เวบไซต์ : //chelseafc.co.uk/
ข้อมูลจำเพาะสนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ (Stamford Bridge)
ขนาดสนาม : 113x 74 หลา
ความจุสนาม : 42,449 ที่นั่ง
ชุดแข่งขัน เหย้า : เสื้อน้ำเงินแถบขาว, กางเกงน้ำเงินแถบขาว, ถุงเท้าขาวแถบน้ำเงิน
ชุดแข่งขัน เยือน : เสื้อดำแถบขาว, กางเกงดำแถบขาว, ถุงเท้าดำแถบขาว
สปอนเซอร์สนับสนุน : Adidas


สถิติผู้ชมสูงสุด : ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ นัดพบกับอาร์เซน่อล ในวันที่ 12 ตุลาคม 1958 มีผู้ชมเข้ามาชมถึง 82,905 คน สถิติผู้ชมน้อยที่สุด : ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ นัดที่พบกับ ลินคอล์น ซิตี้ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1906 มีผู้ชมเพียง 3,000 คน สถิติชนะสูงสุด : ในนัดพบกับ จิวเนส ฮัทคาเรจ ซึ่งถูกพวกเขาถลุงไปถึง 13-0 ในวันที่ 29 กันยายน 1971 สถิติแพ้สูงสุด : ในนัดพบกับ วูล์ฟแฮมตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่อัดพวกเขาไป 8-1 ในวันที่ 26 กันยายน 1953 ผู้เล่นในลีกสูงสุด : รอนแฮร์ริส, 655 นัด, 1962-80 สถิติซื้อนักเตะค่าตัวแพงที่สุด : 24 ล้านปอนด์, ดิดิเย่ร์ ดรอกบา จาก มาร์กเชย, กรกฏา 2004 สถิติขายนักเตะแพงที่สุด : 12 ล้านปอนด์, ทอเร่ อังเดร โฟล ไปเรนเจอร์ส, พฤศจิกายน 2000 นักเตะที่ทำประตูรวมสูงสุดใน 1 ฤดูกาล : จิมมี่ กรีฟส์, 41 ประตู, 1960-61 นักเตะที่ทำประตูรวมสูงสุดในช่วงที่อยู่กับ : บ๊อบบี้ แทมบลิง, 164 ประตู, 1958-70


เกียรติประวัติ : สโมสรสิงโตน้ำเงินคราม เชลซีนั้นก่อตั้งขึ้นในปี 1905 และพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษไปครองได้ 1 ครั้ง ในปี 1955 นอกจากนั้นยังคว้ารางวัลต่าง ๆ มาได้อีกดังนี้(เดิมก่อนเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ชิีพในฤดูกาล 1992-1993)
ชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ 3 ครั้ง ในปี : 1970, 1997, 2000
รองแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ : 1951, 1697, 1994
ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพในปี : 1998
ได้แชมป์คัพวินเนอร์สคัพ ในปี : 1971 และ 1998
ได้แชมป็ลีกคัพในปี : 1965 และ 1998
แชมป์ชาริตี้ชิลด์ ปี : 1956 และ 2000
แชมป์ดิวิชั่นสอง ปี : 1984 และ 1989
แชมป์ (ZDS CUP) : 1986 และ 1990
แชมป์ (Makita/Umbro Trophy) : 1994 และ 1997


ทำเนียบผู้จัดการทีม : 2004-ปัจจุบัน โชเซ่ มูริณโญ่ 2000-04 เคลาดิโอ รานิเอรี่ 1998-00 จิอันลูก้า วิอัลลี่ 1996-98 รุด กุลลิท 1993-96 เหลนน์ ฮอดเดิ้ล 1993 เดวิด เวบบ์ 1991-93 เอียน พอร์เตอร์ฟิลด์ 1988-91 บ็อบบี้ แคมป์เบลล์ 1985-88 จอห์น ฮอลลินส์ 1981-85 จอห์น นีล 1979-81 เจฟฟ์ เฮิร์สต์ 1978-79 แดนนี่ บลังค์ฟลาวเวอร์ส 1977-78 เคน เชลลิโต้ 1975-77 เอ็ดดี้ แม็คเครดี้ 1974-75 รอน ซอวร์ต 1967-74 เดฟ เซ็กตัน 1962-67 ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้ 1952-61 เท็ด เดร็ค 1939-52 บิลลี่ แบร์เรลล์ 1933-39 เลสลี่ ไนท์ตัน




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2550 22:12:20 น.
Counter : 503 Pageviews.  

มารู้จักเทศกาลโคมไฟกันเถอะ

: เทศกาลโคมไฟ :.

เมื่อถึงวันที่ 15 เดือน 1 ของจีน คนจีนจะมีไหว้ เรียกว่า ไหว้วันกลางเดือนหรือเทศกาลโคมไฟ แล้วเมื่อไหว้วันนี้เสร็จแล้วจึงจะถือว่าจบครบถ้วนเทศกาลตรุษจีน หรือที่คนจีนโบราณเรียกว่า เทศกาลชาวนา
ที่เรียกว่า เทศกาลโคมไฟ เพราะในคืนวันนี้ที่เมืองจีนแต่โบราณ จวบจนปัจจุบันในประเทศใดที่มีคนจีนอยู่มากๆ เช่น สิงคโปร์ ก็จะมีการประดับโคมไฟอย่างยิ่งใหญ่ มีชาวบ้านถือโคมไฟแห่ไปตามถนนดูสวยงาม

ธรรมเนียมที่มาของเทศกาลนี้ มีเรื่องเสาเหตุมรจากองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ที่แม้นจะอยู่สุขสบาย หากก็ทรงเหงา ที่เมื่อทรงได้สดับว่า มนุษย์บนโลกอยู่กันอย่างมีความสุขสนุกสบาย พระองค์ทรงกริ้วมาก พระองค์จึงทรงตรัสเรียกสัตว์เทพที่ทรงเลี้ยงไว้เป็นห่านพ่นไฟ ให้ลงไปบนโลกหายใจหนักๆ แล้วพ่นไฟเผาโลกนี้ โดยให้เผาวันที่ 15 เดือน 1 เป็นวันผาโลกให้เป็นจุณ

ให้บังเอิญว่านางฟ้าใจดีได้ยินพระรับสั่ง นางเทพธิดาคิดว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ ต้องทรงมีปัญหาอะไรบางอย่าง จึงคิดผิดทำพลาดไป นางเทพธิดาตัดสินใจรีบเหาะไปยังโลกเพื่อเตือนเหล่ามนุษย์ พร้อมบอกเคล็ดว่า ห่านมนต์นี้กลัวกรงไม้ไผ่ ให้ทำกรงไว้จับห่านมนต์ขัง

พร้อมกันนี้มีชายหัวใจคนหนึ่งให้ข้อคิดเห็นเพิ่มว่า เราน่าจะจุดโคมไฟกันมากๆ เพื่อให้โลกดูสว่างไสวให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเข้าใจผิดคิดว่าโลกกำลังถูกไฟไหม้ตามพระประสงค์ แล้วก็จริงๆ ด้วยที่เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงคิดว่า โคมไฟที่จุดสว่างไปทั่วคือโลกที่กำลังถูกไหม้ จึงเกิดเป็นธรรมเนียมนิยมจุดโคมไฟแล้วเดินแห่ไปตามถนนในคืนวันที่ 15 เดือน 1 ของจีน
ต่อมาก็มีตำนานเล่สืบมาอีกว่า ฮั่นหวุ่ตี้ฮ่องเต้ (พ.ศ.405-458) ทรงริเริ่มให้ปั้นขนมบัวลอยต้มน้ำตาล กินฉลองเทศกาลง่วนเซียวนี้ แล้วต่อมาก็เริ่มมีการประดิษฐ์โคมไฟแบบสวยๆ พิสดาร เกิดมีการประชันขันแข่งประกวดโคมไฟว่าใครจะทำได้สวยงามกว่ากัน จนถึงสมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1160-1540) เทศกาลโคมไฟถูกขยายออกเป็น 3 วัน เพื่อให้ชาวบ้านได้ฉลองกันให้จุใจ ครั้นถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ.1403-1822) ขยายเวลาเป็น 5 วัน 5 คน เมื่อถึงสมัยราชวงศ์เหม็ง (พ.ศ.1911-2189) และราชวงศ์เช็ง (พ.ศ.2179-2454) เทศกาลโคมไฟก็ถูกนับให้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลตรุษจีน




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2550 14:14:02 น.
Counter : 341 Pageviews.  

ตำนานและประเพณี วันไหว้พระจันทร์

ประเพณีไหว้พระจันทร์นั้นนอกจาก ประเทศไทยแล้ว ประเทศอื่นๆทั่วโลกที่มีชน ชาวจีนไปตั้งถิ่นฐาน ก็จะปฏิบัติเช่น เดียวกัน
คือทุกปีในวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนแปดชาวจีนจะ ตั้งโต๊ะจัดของสักการะบูชาพระจันทร์ เพื่อเป็น การขอพรให้กับครอบครัวและให้กับชีวิตของ ตนเอง ของแต่ละอย่างบนโต๊ะก็จะมีความหมาย ต่างๆ กันไปหากวิธีการจัดโต๊ะของแต่ละประเทศก็ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสิ่งของที่หาได้และผลไม้ ในประเทศที่มีซึ่งโดยปรกติก็จะไม่ฟันธงกำหนด ตายตัว หากแต่ผลไม้ที่ใช้ก็จะเน้นให้เป็นผลกลมเพื่อ ความกลมกลึงของชีวิตและหมายถึงความกลมของ พระจันทร์


แต่ที่จะขาดไม่ได้เลยคือขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งจะเป็นขนมอบใส่ไส้ผลไม้กวนหรือถั่วแดงกวน เม็ดบัว และไข่เค็มเฉพาะไข่แดง สิ่งของอย่างอื่นๆ บนโต๊ะก็จะประกอบไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อย ที่มีความ หมายแตกต่างกันไปอย่างเข่น ขนมอี้ ซึ่งเป็นแป้งลูกกลมๆสีแดงสดใสใส่ในน้ำเชื่อมหวาน ซึ่งเปรียบเหมือนชีวิตที่หวานสดชื่น

ขนมโก๋ ที่เป็นแป้งหวานสีขาว รูปทรงต่างๆ ลวดลายสวยงามเพื่อเป็นการขอผิว พรรณที่ขาวสวย ผลไม้ต่างๆ 5 ชนิดที่มีผลกลม เหมือนพรที่ขอเพื่อให้ชีวิตสุขสดชื่นรวมไปถึง ชีวิต ครอบครัวที่มีความสุขความสามัคคี ในบ้านเจดีย์น้ำตาล เป็นตัวแทนของ ปราสาทแห่งสวรรค์ถั่วหวานขนมหวาน เคลือบน้ำตาล ขนมเปี๊ยที่มีอักษรมงคล ประทับสีแดงอยู่กลางขนม ของประดับอื่นๆ ก็จะมีกระดาษรูปเซียน 8 องค์ คำกลอนต่างๆ ในกระดาษสีแดงสดใส เทียนดอกใหญ่ สีแดงที่เขียนคำขอพรไว้ กิ่งหลิว ดอกไม้สีสัน สดสวยอ้อยต้นโตเพื่อนำมาทำ เป็นซุ้มประตู โคมไฟลวดลายงามตา การตั้งโต๊ะจะต้องตั้งให้เรียบร้อยก่อน พระจันทร์จะลอยสูงเกินขอบฟ้า และเก็บก่อนที่ พระจันทร์จะเลยหัวไปหรือเมื่อเทียนดอก ใหญ่ดับลง หันโต๊ะไปทางทิศตะวันออก

โดยเริ่มด้วยซุ้มประตูที่ทำจากต้นอ้อยผูกโคมไฟ ไว้กับต้นอ้อย ให้สวยงามวางกระถางธูป เทียนไว้ด้าน หน้าสุด ดอกไม้วางไว้สองข้าง ขนมอี้ใส่ถ้วยแล้วแต่ พื้นที่บนโต๊ะจะอำนวย 5 - 8 ถ้วยก็ได้วางถัดมา แล้วนำ เจดีย์น้ำตาลวางไว้สองข้างถัดจาก ขนมอี้ ขนมเปี๊ยใส่ จานจัดไว้ถัดมา ใต้เจดีย์อาจนำคำกลอนในกระดาษ แดงมาวางก็ได้ผลไม้ 5 ชนิดจัดวางตาม ความ สวยงาม ต่อด้วยขนมไหว้พระจันทร์ที่จัดเป็น เรียงชั้นๆ ขนมโก๋ และขนมหวานเคลือบน้ำตาลต่างๆ รอบโต๊ะวางประดับประดาด้วยกระดาษลวดลาย ต่างๆ ที่มี อย่างไรก็ดีการจัดตั้งโต๊ะนั้นไม่ตายตัวเสมอไป แล้วแต่ใครมีวิธีการที่ ต่างกันไปเน้นความสวยงามเป็น หลักดังนั้น ใครคิดว่าจัดอย่างไรจึงสวยที่สุดก็ให้จะจัด กันตามนั้น
ทุกวันนี้วันไหว้พระจันทร์มีความหมายที่ เปลี่ยนไปแล้ว สำหรับบางคน ในวันนี้เป็นวันที่ครอบครัว ซึ่งได้ห่างจากกันไป ลูกสาวที่แต่งออกจากบ้าน บุตรหลานที่ โยกย้ายออก ไปมีบ้านใหม่ ก็จะกลับมาเยี่ยมเยี่ยนให้พร้อม หน้าพร้อมตา กินขนมหวาน ชมพระจันทร์ในคืนที่มี ความสุกสว่างกลมโตที่สุดในรอบปี ไม่แน่คืนนี้คุณ อาจเห็นนางฟ้าผู้งดงามที่อาศัยอยู่ในพระจันทร์กำลัง มองลงมาที่คุณก็ได้
การจัดโต๊ะหมู่บูชา นำของกิน ขนมหวาน และขนมไหว้พระจันทร์มาเซ่นไหว้ พระจันทร์ ที่ในวันนี้จะสวยงามกลมใหญ่และส่งแสง สว่าง เป็นพิเศษเหมือนจะเล่าเรื่องราวของนางใน พระจันทร์ ให้แก่ลูกหลานที่เฝ้ามองความงามของ ดวงจันทร์ที่ทอแสงสาดส่องทำให้พื้นโลกได้เรืองรอง ไปด้วยแสงเหลืองนวล เรื่องราวของนางในพระจันทร์ เป็นเหมือนนิทานที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ซึ่งมี หลาย Version และนี่คือหนึ่งในจำนวนนั้น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อสมัยที่โลกยังคง มีดวงอาทิตย์ สิบดวงล้อมรอบผลัด เปลี่ยนหมุนเวียน ให้แสงสว่างและความร้อน พื้นพิภพเต็มไปด้วยจอม ยุทธ์ และผู้กล้า ผู้คน อาศัยอยู่กันอย่างสงบสุขจน ทำให้เป็นที่อิจฉาของเหล่าเซียนเทวดา และพวก เขาก็มีรู้สึกว่าผู้คนเริ่มไม่ให้ความเคารพนับถือ จึงพากันฉุดรั้ง ดวงอาทิตย์ทั้งสิบดวงให้สาดส่อง แสงอันแรงกล้าลงมายังพื้นโลกพร้อมกัน ทำให้โลก ร้อนระอุและเผาไหม้เป็นไฟ เพื่อหวังที่จะให้ผู้คน ขอร้องและกลับมาเกรงกลัวเหล่าเซียนอีกครั้ง แต่แผนการก็ต้องล้มเหลวเมื่อมีชายหนุ่มนักแม่นธน ูนาม ฮัวหยี่ อาสาที่จะช่วยเหลือโดยยิงธนูเพื่อดับ ดวงอาทิตย์และฮัวหยี่ก็ทำได้สำเร็โดยยิงดวง อาทิตย์ไปเก้าดวง เหลือดวงที่สิบไว้เพียงดวงเดียว เพื่อยังคงส่งแสงสว่างให้แก่โลก ทำให้พื้นพิภพ กลับมาสงบสุขอีกครั้งผู้คนต่างร่ำร้องสรรเสริญ ฮัวหยี่ว่าเป็นวีรบุรุษและแต่งตั้งให้เขาเป็นฮ่องเต้ แต่ก็โชคร้ายเหลือเกินอาทิตย์ดวงที่เก้าที่ เขายิงตก เป็นราชบุตรขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ พระจักรพรรดิ์ แห่งสวรรค์ ซึ่งทรงกริ้วและเสียพระทัยกับการ สูญเสียราชบุตรสุดรักไป จึงสั่งให้นางกำนัลแห่งสวรรค์ นาม ฉางอี นำยาพิษไปให้ ฮัวหยี่ โดยให้หลอกว่าเป็นยา อายุวัฒนะหากกินก็จะทำให้สามารถมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์ ฉางอีได้รับคำสั่ง จึงนำยาไปมอบให้แก่ ฮัวหยี่ แต่เมื่อนาง เห็นหน้าชายหนุ่มก็เกิดความรักและเห็นใจ
ฮัวหยี่ก็เช่นกันเมื่อได้เห็นความงามของ ฉางอีก็เกิด ความรักขึ้น แต่นางฉางอีก็คงส่งมอบยา ให้แก่ฮัวหยี่ตามคำสั่งที่ได้รับมาหากแต่บอกว่ายานี้ จะยัง ไม่สามารถกินได้จนถึง วันที่ 15 ค่ำเดือนแปด ด้วยความหวังว่านางอาจจะสามารถหาวิธีที่ทำ ให้เง็กเซียน ฮ่องเต้ทรงเปลี่ยนพระทัย หรือหาวิธีช่วย ชีวิตชายคนรักได้ นางใช้ชีวิตอยู่กับ ฮัวหยี่ถึง 7 วัน จนเมื่อถึงวันที่ 15 ค่ำตามที่นางได้กล่าวไว้กับ ฮัวหยี่ นางก็ยังคงไม่สามารถคิดหาวิธีช่วย ชีวิตฮัวหยี่ได้ ดังนั้น ในคืนวันที่ 15 ค่ำเดือนแปดก่อนที่ฮัวหยี่จะ ไว้ทันกินยาพิษ นางจึงตัดสินใจ ชิงกินยาพิษเม็ดนั้น แทนสามีสุดรัก แต่ยากลับไม่ได้ทำให้นางตาย ชั่วอึดใจนางก็รู้สึกว่าตัวของนางเบาและเริ่มล่อง ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าเบื้องบน ลอยสูงจนไปถึงดวงจันทร์ ด้วยความตื่นตระหนกนางเริ่มที่จะหายใจไม่ออก และเริ่มไอ ซึ่งทำให้ยาหลุดออกมาจากลำคอ ของนาง ด้วยนางนั้นไม่สามารถบินได้อีกนาง จึงไม่สามารถลอยกลับลงมายังโลกได้อีก นางจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในพระจันทร์นั้นเอง

ตำนานนี้เป็นที่เล่าขานต่อๆ กันมาและนี่คือ เหตุผลว่าทำไมชาวจีนจึงนับถือนางในพระจันทร์ กราบไหว้เพื่อให้ความดี ความงามของนางได้สาด ส่องลงมายังโลกมนุษย์ ให้เกิดความสงบสุขไป ทั่วหล้า ทำให้มนุษย์ที่เป็นหญิงได้มีรูปโฉมที่ งดงามเช่นนาง และขอให้ความดีงาม ของนางปกปักรักษา คุ้มครอง โลกมนุษย์ต่อไป




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2550 14:07:11 น.
Counter : 302 Pageviews.  


i_lingnoi
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ช่ายเข้ามาดูอย่างเดียวนะ
-o-o-เม้นให้ด้วยนะโฟ้ย-o-o-
Friends' blogs
[Add i_lingnoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.