สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ว่า
งูที่มีลายบนหัวเป็นสายรุ้ง และสัตว์เลื้อยคลานจำพวกจิ้งเหลนกิ้งก่าที่มีรูปร่างคล้ายมังกร อยู่ในบรรดาสัตว์และพืช 163 สายพันธุ์
หรือสปีชีส์ ที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบใหม่ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง พร้อมระบุว่า การพัฒนาที่รวดเร็วในภูมิภาค
ตั้งแต่การสร้างเขื่อนไปจนถึงการทำเหมืองแร่ เป็นภัยคุกคามต่อการอยู่รอดของสัตว์ป่า
ตุ๊กแกบอนคอฟสกี้ 1 ใน 163 สปีชีส์ที่ค้นพบใหม่ / WWF/Thomas Calame/Handout via Reuters
การค้นพบดังกล่าวที่ตีพิมพ์ในรายงานเผยแพร่วันเดียวกันนี้ ยังรวมถึงตุ๊กแกที่มีผิวสีฟ้าซีดในลาว
และกล้วยสายพันธุ์หายากทางตอนเหนือของไทยที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากมีการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มมากขึ้น
มูซา นาเนนซิส หรือ กล้วยศรีน่าน 1 ใน 163 สปีชีส์ที่ค้นพบใหม่ / WWF/Sasivimon Swangpol/Handout via Reuters
ลุ่มแม่น้ำโขงถือเป็นที่อยู่ของสปีชีส์ที่อยู่ในข่ายใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด โดยชิ้นส่วนอวัยวะของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
อาทิ กระดูกเสือและนอแรด ถูกมองว่าเป็นของสะสม และบางชนิดถูกใช้เป็นส่วนผสมของตำรับยาพื้นบ้านด้วย
ค้างคาวมูรีนา คอนตูเมนซิส/WWF/Nguyen Truong Son/Handout via Reuters
นายจิมมี โบราห์ ผู้จัดการโครงการสัตว์ป่าของดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระบุว่า
การค้นพบสปีชีส์ใหม่เป็นการแสดงให้เห็นว่า ยังมีความหวังในช่วงเวลาที่อัตราการสูญพันธุ์ของสปีชีส์ต่างๆ เพิ่มขึ้นในระดับที่น่าตกใจ
ทั้งนี้ ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายของโลก
นายโบราห์ระบุว่า นักสะสมจำนวนมากยอมจ่ายเงินหลายพันหลายหมื่นดอลลาร์
เพื่อให้ได้สปีชีส์ที่หายาก เป็นเอกลักษณ์ และใกล้สูญพันธุ์ และเพื่อป้องกันสปีชีส์เหล่านี้
เราต้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นต่อผู้ล่า และทลายแหล่งค้าผิดกฎหมายให้หมด
ที่มา
matichon