เขาวงกตมีพื้นกว้างมาก ที่ที่ฉันลอยมาอยู่นั้น อยู่ในโซนทุ่งหญ้า
มีต้นหญ้าสีรุ้งเป็นเสมือนไม้ใหญ่ที่คอยดูแลให้ร่มเงาแก่
ดอกหญ้าเล็กๆ อย่างพวกฉัน
ฉันรู้สึกทรมาณใจมาก ทำไมฉันต้องมาอยู่ที่นี่ ดอกหญ้าแก่ๆ
ดูไม่เป็นมิตรกับฉันสักเท่าไหร่ ใจฉันก็คิดว่า ทำไมต้นหญ้าพวกนั้นวันๆ ไม่เห็นทำอะไร แค่หายใจเข้าหายใจออกเท่านั้น
เมื่อฉันอยู่ในเขาวงกตมากว่า 3-4 ปี ฉันได้ค้นพบว่าที่นี่มีมิตรภาพ มีความรัก มีความเอื้ออาทรต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ดุจญาติมิตร ไม่คิดจะทำร้ายกัน จนทำให้ฉันหลงคิดไปว่าฉันจะอยู่ในเขาวงกตนี้จนสิ้นอายุขัย ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงไปไหนเพราะที่นี่คือบ้านของฉัน
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ลมพายุพัดกระหน่ำ 7 วัน 7 คืนในเขาวงกตต้นไม้ใหญ่ๆ ตายไปเกือบหมด เหลือแต่ต้นไม้น้อยๆ ต้นหญ้าเล็กๆ
จากลมพายุที่พัดมานี่เอง ทำให้หอบเอาต้นไม้น้อย ใหญ่ จากต่างแดนเข้ามาในเขาวงกต ต้นไม้สายพันธุ์ใหม่นี้ มีความแข็งแรงมาก เติบโตอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเบียดบังต้นไม้ ต้นหญ้าเดิมจนไม่มีที่จะหยั่งราก
ต้นหญ้าสีรุ้งที่เคยเป็นร่มเงาของพวกเรา
ได้จากพวกเราไปเสียแล้ว หญ้าบางต้นที่แข็งแรงพอก็เปลี่ยนที่หยั่งรากได้ บางต้นก็โดนเบียดบังไม่ให้ใหญ่ไปมากกว่านี้
บางต้นที่หยั่งรากลึกมานานก็รอวันเฉาตาย รอวันค่อยๆ
ร่วงโรยไป ขณะเดียวกันดอกหญ้าต่างแดน ต้นแล้ว ต้นเล่า
ก็เข้ามาเบียดบัง ดอกหญ้าเดิมๆ ไปหมดสิ้น
20 ปีผ่านไป ตัวฉันก็ยังคงอยู่ที่เขาวงกตเช่นเดิม แต่ฉันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันกลายเป็นต้นหญ้าแก่ๆ ที่หายใจไปวันๆ เพียงรอวันที่จะเหี่ยวเฉาตาย
นี่ล่ะมั้งที่เค้าเรียกกันว่า "วัฎจักร" สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีอะไรจีรัง
และยั่งยืน......