เหนือเมฆ2 ตอนสันกิ่วลม ที่สุดแห่งสวรรค์พรรณไม้ ดอยหลวงเชียงดาว ตอน2
อรุณสวัสดิ์ดอยหลวง อรุณสวัสดิ์สันกิ่วลมความเดิมจากตอนที่แล้วอ้า ใครจะขึ้นกิ่วลมลุกเลยนะครับ เสียงปลุกจากไกด์ลูกหาบตะโกนปลุกพวกเราตอนตีห้า อากาศวันนี้น่าจะไม่โหดร้ายมากอุณหภูมิน่าจะสูงกว่าสิบองศา เอาล่ะครับ เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือขอขึ้นชมสันกิ่วลมสักครั้งในชีวิตเถอะ นี่เป็นภารกิจหลักอีกหนึ่งของนายน้ำฟ้าในหนนี้ แก้ตัวจากหนก่อนที่หมดสภาพไม่เหลือแรงขึ้นไป
สันกิ่วลมในที่สุดผมก็มายืนอยู่บนนี้แล้ว อย่างไม่นึกไม่ฝันเพราะไม่คิดว่าจะได้ย้อนกลับมาดอยหลวงเชียงดาวอีกครา บริเวณสันกิ่วลมนี้มันแตกต่างที่สุดกับยอดสูงสุดของดอยหลวง สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยป่าดิบ ป่าระดับฐานเมฆแซมด้วยพื้นที่ที่เป็นหินปูนอยู่ทั่วไป และที่สำคัญบริเวณนี้คืออาณาจักรพันธุ์ไม้สุดยอดของดอยหลวง ของเมืองไทย และหลายชนิดไม่พบที่อื่นใดในโลก ด้านใต้และตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันมองลงไปทางด้านตะวันออกจะเห็นพื้นราบหุบอำเภอเชียงดาวที่อยู่ระดับความสูง 500 เมตรโดยเฉลี่ย ถัดไกลออกไปจะเป็นแนวเทือกเขาที่เกือบขอบฟ้าที่ซ่อนหุบอำเภอพร้าวไว้เบื้องหลัง ตอนเช้าที่นี่จะเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกที่สุดยอด ทะเลหมอกที่มองจากระดับสูง 2000 เมตร++ สวยงามอัศจรรย์ตาไม่อาจหาที่ใดเหมือน แต่!! วันนี้หมอกฟุ้งครับ
แค้มป์อ่างสลุง สู่ สันกิ่วลมระยะทางจากแค้มป์เดินลงทิศใต้แล้วไต่ไหล่ดอยขึ้นแตะขอบสันกิ่วลมเป็นระยะทางทั้งสิ้นราว 1 กิโลเมตร ว่าจะมาดักถ่ายแสงขอบฟ้าและทักทายตะวันและชมสุดยอดทะเลหมอกกัน แต่แล้วเรากลับเจอเข้ากับหมอกหนาทึบ ฟุ้งปกคลุมไปทั่ว หมดความหวังเรื่องฟ้าจะเปิด
มาครับ มานั่งพักกินกาแฟกันก่อน ไมโลก็มี คอฟฟี่เมด น้ำตาลเรามีพร้อม ส่วนน้ำร้อนๆในกาที่ไกด์ลูกหาบของเราหิ้วขึ้นมาให้นั้นคงเหลือแต่ความอุ่นๆครับ ถึงกระนั้นต้องถือว่าเป็นบรรยากาศจิบกาแฟดื่มไมโลที่สวดยอดมว้าก
และเพราะตะวันไม่มาตามนัดทะเลหมอกไม่มีตามหวัง เวลาเลยหมุนช้าลง ไม่เร่งไม่รีบไม่ต้องแข่งกับอะไรใดๆ จิบกาแฟ ขนมปังเสร็จก็ออกเดินเล่นมองหาดอกไม้สวยๆถ่ายกันล่ะครับ เป็นช่วงเวลาที่เพลินมาก บริเวณที่เราอยู่ตรงนี้เป็นสันกิ่วลมทางด้านใต้ ตอนที่เดินขึ้นมาถึงขอบสันนั้นมีแยกซ้ายขวา ด้านซ้ายแยกขึ้นสันกิ่วด้านเหนือ เราเห็นมีกลุ่มคนจึงแยกมาทางด้านขวาแทนซึ่งเป็นด้านใต้ ประเดี๋ยวค่อยไปด้านเหนือ
มาดูซิเราเจอดอกไม้อะไรบนนี้บ้าง
หนาดขาว น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มจิ้มลิ้ม ขึ้นตามทางเดินเนี่ยแหละไม่ต้องควานหาเลย
หญ้าดอกลาย โอ้วลายใบสวยมาก แปลกตาจัง เห็นว่าเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะที่และหาค่อนข้างยาก บนนี้เห็นอยู่หลายพุ่ม
เดินฝ่าหมอกแบกขากล้องมาอีกหน่อยก็เจอเข้ากับ.. แสงแดง เค้าว่ามันมีอีกชื่อคือฉัตรประทัดแดง สวยดีเน้อะ แต่ดูเยอะๆไปหน่อยอะ อิอิ
เราเจอ ฟองหินเหลือง บนนี้ด้วย ฉาบด้วยไอหมอกบางๆจางๆแซมตามหินได้อารมณ์หนาวๆสูงเสียดฟ้าดี
แล้วนั่นล่ะ เหยื่อเลียงผา โหใครช่างตั้ง หน้าตาเค้าก็เป็นเอกลักษณ์ดีครับเห็นอีกทีจำได้แน่ ว่าแต่ว่าทำไมต้องชื่อเหยื่อเลียงผานะ
คลิบเก็บเกี่ยวบรรยากาศสันกิ่วลมในวันนั้น ถ่ายทอดสิ่งที่ภาพนิ่งไม่อาจถ่ายทอดได้ sound: Shenandoah ซาวด์ประกอบอันแสนไพเราะและอบอุ่น ขอขอบคุณ Jacko Bosforus เพื่อนร่วมทริปผู้ผลิตและแบ่งปัน
สวรรค์ของมวลดอกไม้จริงๆ
คืบก็ดอกศอกก็ดอก มองไปทางไหนก้าวไปทิศทางใดเจอแต่ดอกไม้เปลี่ยนชนิดไปเรื่อยๆ สวยงามและแปลกตา
นี่ หรีดเชียงดาว ฟังชื่อแล้วคงเป็นพืชถิ่นเดียวพบที่นี่ที่เดียวอีกแน่
แล้วนั่น ฟ้าคราม วะว้าว สีฟ้าของเค้าครามๆงามๆไม่เหมือนฟ้าทั่วไปอ่ะ
ความสูงเทียมเมฆของป่าบนสันกิ่วลมนั้น ทำให้สภาพป่าเป็นอย่างที่เห็น นี่อาจจะเรียกกันว่าป่าเมฆก็เป็นได้ ด้วยความที่สูงทัดเทียมระดับฐานเมฆชั้นล่างและสภาพหน้าผาที่สูงชันมากๆ!! และสภาพภายในอ่างสลุงที่เป็นหุบนำพาเมฆให้หอบไหลม้วนตัวลงไปนำความชื้นจำนวนมหาศาลมาหล่อเลี้ยงป่า ลำต้นไม้ที่เห็นแต่ละต้นเต็มไปด้วยพืชชั้นต่ำจำพวกมอส เฟิร์น ไลเครน ฝอยลมเกาะเกี่ยวอยู่ราวกับป่าห่มผ้า
ขาวปั้้นหรือตุ้มมณีผมถ่ายดอกไม้เพลินจนมารู้ตัวอีกทีอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวบนยอดสัน สักพักเพื่อนที่ล่วงหน้าไปกลับออกมาบอกว่าเราเจอขาวปั้นริมหน้าผาข้างหน้า ไม่รอช้าผมรีบตามไปสบทบเดินมุดๆลงจากยอดผ่านป่าห่มผ้าสวยอลังใช้เวลาถ่ายป่าบริเวณนี้อีกครู่ใหญ่ สุดท้ายเพื่อนๆทยอยกลับออกมาหมด ผมได้แต่ถามทางไปดูขาวปั้น และเดินต่อไปคนเดียว
ที่ริมหน้าผา ขาวปั้นขึ้นเกาะอยู่นั่น ดีว่าไม่ลึก หย่อนตัวลงไปได้ถ่ายที่ระดับสายตาได้ หยิบจับอุปกรณ์ถ่ายภาพต้องระมัดระวังที่สุดหลุดมือไปก็ลืมได้เลย ดอกขาวปั้นเกาะกลุ่มกันอยู่ไกลเกินไปหน่อยต้องใช้เทเลโฟโต้ 400mm.ดึงภาพ ฝีมือถ่ายดอกไม้ของเรายังไม่เข้าขั้นทำดีที่สุดเพียงเท่านี้ จะพัฒนาฝีมือแล้วกลับขึ้นมาอีกครั้งปลายปีนี้สัญญากะตัวเอง
พิกัดริมผาที่พบขาวปั้น N19 23.283 E98 53.444 alt.>2142 m
กลับออกมาจากริมหน้าผานั่่น มาสมทบเพื่อนๆบนยอดกิ่วลมใต้ นั่งเล่นชมเมฆ ท้องฟ้ายังปิดอยู่แต่ดูเหมือนทุกอย่างกำลังดีขึ้น เมฆลอยสูงขึ้นไหลเร็วขึ้น หากรอสักพักเราได้เห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวจากตรงนี้แน่ ผมร้องทักไว้ก่อนที่พวกเรากำลังตัดสินใจจะกลับลงแค้มป์
และในที่สุด นาทีฟ้าเปิดก็เกิดขึ้น เสี้ยวของนาทีดีกว่า เพราะว่ามันเปิดแป๊บเดียวแค่ให้เราได้ทันยกกล้องเล็ง ประเดี๋ยวเดียวเมฆกลุ่มใหญ่ก็หอบมาปิดทัศนียภาพเบื้องหน้าเสียหมดสิ้นทุกอย่างกลืนกลับเข้าไปในม่านหมอกฟุ้งอีกครา ตอนนี้ดูชัดแล้วว่ามันน่าจะเรียกว่าเราอยู่ในม่่านเมฆมากกว่าม่านหมอก
ดอยหนอก
ดอยพีรามิด (ดอยเหนือ)
ยอดดอยหลวงเชียงดาว
ยอดสันกิ่วลมด้านเหนือ
สี่ชั่วโมงบนสันกิ่วด้านใต้ ชมบรรยากาศทั้งมวลหมู่ดอกไม้และอลังการยอดดอยตอนฟ้าเปิดกันจนเต็มอิ่มได้ที่ท้องก็เริ่มหิว จวนสิบเอ็ดโมงแล้วข้าวเช้ายังไม่ตกถึงท้อง ได้เวลาอำลาสันก่ิวลมกลับสู่แค้มป์ หิว หิว แต่เดี๋ยวก่อน นายน้ำฟ้ายังไม่หนำใจขอไปต่อสันกิ่วด้านเหนือ มีน้องฝนยกมือเห็นด้วยคนเดียวที่เหลือก็แยกย้ายกัน เราสองคนจึงตะเวนต่อ
สภาพทางด้านเหนือนี้ดูจะคับแคบว่าด้านใต้ นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าขึ้นมายามฤดูฝนจะลำบากกว่านี้ขนาดไหน ซ้ายก็ดอกขวาก็ดอก (ดอกไม้) ยังปรากฏให้เห็นตลอดทางสมเป็นขุนดอยแห่งพรรณไม้จริงๆ เคยอ่านเจอเวปหนึ่งเค้าว่าบนนี้มีการค้นพบพืชกว่า 1722 ชนิดจริงเท็จแค่ไหนไม่ทราบ แต่ว่าเยอะจริงๆแหละ
สู่ สันกิ่วลมฝั่งเหนือเราทำระดับความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ มองย้อนกลับไปด้านทิศใต้เห็นยอดกิ่วลมฝั่งนั้นตระหง่านอยู่ เมฆหอบข้ามสันมองเพลินเคลิ้มไปกับภาพตรงหน้าได้อีก
กุหลาบขาวเชียงดาวโชคดีจังเลยหลังจากเดินไต่ขึ้นมาได้ราว 220เมตรเราก็ได้พบกุหลาบดอยพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดและหายาก นี่ก็อีกหนึ่งเดียวในไทยแห่งเดียวในโลก ดอกมันใหญ่มากๆ ขาวสวยมีเหลืองเจือบางๆ ซูมเข้าไปดู โห แมลงตอมเพียบ และก็เหมือนกับขาวปั้น เจ้ากุหลาบดอยเลือกที่อยู่ริมหน้าผาอีกแล้ว ผมกับฝนพยายามไต่ออกไปถ่ายภาพกลับเข้ามาด้วย
เบื้องหลังการถ่ายทำ นายน้ำฟ้ากับกุหลาบขาวเชียงดาว
พิกัดที่พบกุหลาบขาวเชียงดาว N19 23.441 E98 53.479 alt.>2115 m.
รอบๆนี้ก็ดอกไม้เยอะเหลือเกิน มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้ ฟองหินเหลืองตรงซอกหินริมหน้าผาก็มี เจอ กระดูกไก่น้อยเป็นดงๆอยู่ตรงนี้ด้วย ชื่อแปลกดีจริงใครนะช่างตั้ง ดูลีลาน้องฝนซะหน่อย กำลังออกไปหาที่เล็งถ่ายกุหลาบขาวเชียงดาวกลับเข้ามา เอ๊ะนั่น! อ้าว หันกล้องไปไหนล่ะกุหลาบอยู่ข้างหลังนะ
ที่แท้ก็ส่องหาแค้มป์ของเรานั่นเอง จากตรงสันกิ่วด้านใต้ก็เห็น แต่ด้านเหนือนี่เห็นชัดและใกล้กว่า แต่เป็นแค้มป์คนอื่น ส่วนของคณะเราหลบเข้ารกเข้าพงมองไม่เห็น เราสองคนลองตะโกนดูเผื่อเสียงจะเดินทางไกลไปถึงและเผื่อว่าเราจะอยู่เหนือลม จะตะโกนบอกว่าอย่ากินข้าวหมดนะ เหลือให้ด้วย หิวแล้ว ท้องร้องจ๊อกๆกันแล้ว
เราเดินย้อนทางที่ย่ำผ่านมาเมื่อเช้ามืด ที่ส่องไฟฉายกันมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง สภาพเส้นทางสู่สันกิ่วลมและทัศนียภาพรอบข้างปรากฏให้เห็นชัดเจนหมดแล้ว นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเลยเที่ยงครึ่ง หิว หิว หิว ข้าวเช้ายังไม่ตกถึงท้อง แต่แม้นจะหิวแค่ไหนพวกเราทั้งหมดเชื่อได้เลยว่าอิ่มกันเต็มๆกับสันกิ่วลมในครึ่งแรกของทริปวันที่สองนี้ จะเสียดายที่สุดอยู่สองอย่างก็คือเราอดเห็นตะวันขึ้นและอดเห็นทะเลหมอกที่สวยงามไม่เหมือนที่แห่งใด
บ่ายโมงพอดี ยอดดอยหลวงเชียงดาวปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า กินข้าว พักผ่อนนอนเอาแรง บ่ายๆเย็นๆเราจะขึ้นพิชิตกันยังมีภารกิจของว่าที่บ่าวสาวบนนั้นกับพรีเวดดิ้งชุดกี่เพ้าบนยอดสูงสุด
โปรดติดตามตอนต่อไป .. เร็วๆนี้
ฝากคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจ หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา นะค้าบ ^___^
ความเดิมจากตอนที่แล้ว แต่งงานระฟ้า ณ ยอดดอยหลวงเชียงดาว
ความตอนถัดไป ดอยหลวงเชียงดาว ตอนที่3 (จบ) ... ตอน อะไรๆก็เกิดขึ้นได้สินะ
Create Date : 19 มกราคม 2556 |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2556 9:43:47 น. |
|
97 comments
|
Counter : 11555 Pageviews. |
|
|
หนทางการเดินทางลำบากเนอะ
แต่ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง
คุ้มค่ากับการเดินทางนะค่า
สวยงาม ธรรมชาติมากมาย
ไล้ท์ค่า