Photo Book รวมภาพภูกระดึง
สวัสดีครับ บล็อกภูกระดึงออนแอร์ค้างเติ่ง จขบ.ปั่นบล็อกใหม่ไม่ทันเนื่องจากติดเทศกาลขี้เกียจ ตรุษสงกรานต์ตัวเป็นขนไปหลายวัน จึงจัดหัวหมู่่ทะลวงฟัน Photo Book รวบ 24 ภาพสุดสวาทภูกระดึงมาให้ชมกันไปพรางๆ เป็นการขัดตาทัพ ภาพเกือบทั้งหมดก็เป็นการฉายซ้ำล่ะครับอย่าว่าโง้นงี้เลยเน้อะ และเพื่อไม่ให้ไร้สาระจนเกินไป //เคยมีสาระเหรอ จะขอสอดแทรกเกร็ดถ่ายรูปเล็กๆ น้อยๆ ประกอบแต่ละภาพนะครับ แหม่ เอาล่ะ
ไปกัน
เอ้าะ ลืมไป*- ในสนามจริงจขบ.บันทึกทุกภาพด้วย RAW file เสมอ *- ข้อดีของการบันทึกด้วย RAW file คือไม่ต้องไปสนใจ WB ตั้งมัน AutoWB รวด *- ข้อดีต่อมาคือเนื้อสีเยอะ เพราะมันบันทึกในระดับ เกิน 8bit/channel เฮ้ยๆ! ชักลึก! *- ประการต่อมา จขบ.ลืมเรื่องวัดแสงไปนานแระ ตั้งแต่มีระบบ live histogram คุม highlight & shadow อย่างเดียว อิอิ //มรึงจะลึกไปถึงไหน >"< งั้นไปชมภาพกันเลยดีกว่า โอ้ว อีกนิส ทางยาวโฟกัสที่ระบุทุกภาพ จขบ.เทียบกับระบบ 35mm.film เรียบร้อยแล้น โย่ว ปะปะไปกัน
1.) โคตรกว้างลูกพ่อ! shot landscape with landscape lens
โคตรกว้างเป็นนิกเนมเลนส์โคตรอุลต้าไวด์ตัวใหม่ของผมครับ ได้มาแบบมือสอง แต่ราคาก็หนักอยู่ นอกจากราคาหนักแล้ว นน.เลนส์ก็โคตรหนักอีก เทอะทะ งุ่นง่าน แบกขึ้นภูกระดึงมาประเดิมทริปแรกเกือบจะโยนทิ้งหน้าผาซะก็หลายครั้ง แต่แล้วก็โคตรประทับใจกับมุมมองกว้างไกล ถึง 114 องศา มันกว้างซะจนกวาดเกือบทุกอย่างด้านหน้าเข้ามาในภาพ อย่างภาพนี้มันยังเก็บเลยหัวหูขึ้นไปข้างบนเชียว ดูสิ กิ่งก้านสนเหนือหัวลามปามเข้ามาในขอบเขตของภาพด้วย ได้มิติแปลกใหม่อย่างไม่เคยได้มาก่อน เหมาะกับมือแลนด์สเครปอย่างนายน้ำฟ้ายิ่งนัก เย้ ... ภาพนี้ 14mm. f8.0
2.) ฉากหน้าที่รัก benefit of foreground
มาเฝ้าอาทิตย์ตกครับ ดีว่าทำการบ้านก่อนมาจึงรู้ว่าที่ผาหมากดูกเนี่ยให้เดินเลยๆ จุดชมวิวตรงป้ายไปหน่อย เดินไปเรื่อยๆ 50เมตรมั้ง ก็จะเจอกิ่งสนงามๆ ย้อยๆ ของสนต้นนี้มาสร้างฉากหน้าหวานแหววซิกเนเจอร์ภูกระดึงเค้าเลย ... ภาพนี้ 34mm. f8.0
3.) เปลี่ยนมุมเลนส์เปลี่ยนมุมถีบ! change Focal Length
perspective ครับ เรียกย่อๆ ว่า'ถีบ 555 ภาพนี้มุมเดียวกันกับภาพที่ 2 แหละ แต่ว่าเปลี่ยนจาก 34mm. มาเป็น 14 mm.บ้าง จะเห็นว่าเปอร์สเป็คถีบเปลี่ยนทันที มุมมองจาก 70องศาถูกพลักมาเป็น114 ํ ถีบเหลี่ยมภูฉากหลังให้ถอยห่างดูเวิ้งว้างกว้างไกล แถมเก็บฉากหน้ากิ่งสนเข้ามาในภาพอีกเพียบ ลองเปลี่ยนมุมเลนส์ไปเรื่อยๆ ไม่เสียหลายนะครับ ... 14mm. f9.0
4.) ตกปุ๊บอย่าเพิ่งกลับปั๊ป waiting for Twilight time
พอดวงอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้วอย่าเพิ่งรีบเก็บกล้องกันนะเออ เห็นผู้คนส่วนใหญ่เก็บกล้องแบกของเดินกลับกันยังกะหนังโรงเลิก รอต่อไปอีกสักสิบถึงสิบห้านาทีฟ้ามักจะค่อยๆ เปลี่ยนสีสัน ช่วงนี้แหละมักให้ภาพงามๆ หลายครั้งภาพที่ได้มันงามกว่าตอนมีตะวันอีก ... 14mm. f9.0
5.) ฟ้ามืดค่อยกลับ waiting until Twilight end
แสงสุดท้ายที่รอคอย ไหนๆ ก็ต้องมืดกลางทางระหว่างเดินกลับอยู่แล้ว เก็บแสงกันไปเรื่อยๆ ดีกว่า อย่า อย่า เพิ่งรีบไปไหน หมดแสงแล้วค่อยกลับก็ยังไม่สาย รู้นะว่าพกไฟฉายกันมาทั้งนั้นแหละ ขออีกแช๊ะนึงน่ะนะ ... 14mm. f9.0
6.) ฉากหน้าฉากหลังช่วยกันเล่าเรื่อง Close-Up with Wide Angle lens
วัตถุทำมือชิ้นเล็กๆ 2ชิ้นนี้ ตั้งใจจะถ่ายโคลสอัพ แต่เลือกใช้เจ้าโคตรกว้างมาทำหน้าที่ ให้ฉากหน้าฉากหลังเติมเต็มเรื่องราวซึ่งกันและกัน ... 14mm. f8
7.) กลางโด่อะโช๊ะๆ Symmetry Balance
เค้าว่าวางซับเจ็คกลางภาพผิดหลักศิลป์ แต่แหม่ บางครั้งมันก็ต้องอะลุ่มอล่วยกันมั่งเน้ ภาพนี้ให้วางเฉไปทางอื่นก็ตัดใจไม่ไหว ในเมื่อวางกลางแล้วรู้สึกจะทรงพลังเหลือเกิน โอ้ว มีอยู่อีกกฏนึงนี่นา นั่นคือ สมดุลอย่างสมมาตรนั่นเอง ... 14mm. f8.0
8.) สีไม่สวย! เปลี่ยนเป็นจอขาวดำซะเลย Black & White for Art
ตอนถ่ายก็มองแล้วว่าสวยนะ แต่พอกลับมานั่งดูภาพ ต้นไม้ยืนต้นตายมันกลืนกับฉากหลังมากจนหมดความสวย พอทดลองเปลี่ยนไปปรับแต่งในโหมดขาวดำบ้าง ปรากฏว่าชอบครับ ต้นไม้กลับแยกเด่นออกจากฉากหลังได้ เอ้าะ ขาวดำก็เข้ากันดีกับอารมณ์ภาพที่อยากได้พอดีด้วย ... 14mm. f8.0
9.) หยอดแฟลร์ไม่ผิดศิลป์ lens Flare
แสงแยงตานิดๆ อีตอนถ่ายก็กลัวแฟลร์ แต่พอภาพออกมาไม่มีแฟลร์ก็ดูเบื่อๆ น่าจะมีแสงแฟลร์ๆดีกว่า เลยใช้ PS หยอดฟิลเตอร์ render>lens flare ลงไปหน่อยนึง นิดนิส ... 14mm. f11
10.) มุมเจาะๆ บ้าง Tele Photo view
หิ้วเลนส์เทเลกระบอกโตนี่มันหนักนะครับ ภาระสิ้นดี บางทริปหิ้วไปแทบไม่ได้ใช้ ภาพนี้ก็จัดซะหน่อยไหนๆ ก็ห้อยข้างเอวมาแล้ว อย่าให้เมื่อยเก้อ ส่องไปที่ใบสน โอ้ว ออกมายังกะหอยเม่น ทรงกลมดิ๊กเลย ... 100mm. f5.0
11.) ฟ้าไม่เป็นใจ ไม่เป็นไร find beautiful in unbeautiful time
ที่ผาหล่มสักเราอับโชคมาก อุตส่าห์เดินกันขาแทบลากกลับต้องมาเจอมวลมหาประชาเมฆบดบังชนิดที่แทบไม่เหลือบรรยากาศดีดีให้ถ่าย หลังดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว //แน่นอนมองไม่เห็นดวงตะวัน ก็เฝ้าฟ้าไปอีกสิบกว่ายี่สิบนาทีตามสูตร คอยแล้วคอยเล่าฟ้ามันก็มืดเอาๆ เอากะฟ้าสิ ฟ้าไม่ยอมเปล่งแสงเสียแล้ว ความจริงก็คือฟ้าเปล่งแสงเรืองรองแบบเบาๆ เท่านั้นเอง ตาเปล่ามองก็งั้นๆ แต่จากประสบการณ์ก็พอรู้ว่าตามองไม่เห็นสีแสงแต่เลนส์เห็น แล้วค่อยไปเร่งสีเอาเองอีกทีด้วย Ps ฮี่ ยกประโยชน์ให้ไฟล์ RAW ครับ ที่ทำหน้าที่เก็บแสงดิบๆ เก็บข้อมูลเม็ดสีมาก่อนอย่างเหลือเฟือ //แสงแดงๆ 2จุดข่างล่างนั่นคือไฟป่าจ้ะ อย่าเผาป่ากันเลยนะจ๊ะ .... ภาพนี้ 14mm. f8 ตามเคย
12.) จะถ่ายซะอย่างแม้ฟ้าจะเป็นยังไง อิอิ shot in variety time
14mm. f4 s29วิ iso400 ขนาดไอโซ่สี่ร้อย fกว้างตั้ง 4 (เอฟกว้างสุดแค่นี้สำหรับเลนส์ตัวนี้) สปีดยังล่อไปครึ่งนาที คิดดูว่าถ้าอยากได้ไฟล์เนียนปรับไอโซต่ำๆ สปีดจะปาไปขนาดไหน ง่ายๆ ถ้าไอโซ่ร้อยสปีดก็โน่นล่ะครับ 2นาที ไม่พอลากดาวให้เป็นสายแถมหยุดดาวเป็นเม็ดๆก็ไม่ได้ delelt ลูกเดียว สถานะการณ์แบบนี้ก็ดันไอโซ่ล่ะครับ ลดน๊อยซ์ทีครับ ฟ้าเมฆกวนมาก แต่อย่างว่ายุคนี้ต้องถ่ายได้ในฟ้าทุกแบบ เพราะอากาศดาวโลกแปรปรวนไปหมดแล้ว
13.) รมณ์เสียเมื่อเมฆกวน Human Scale in Landscape Photography
อาทิตย์ขึ้นในม่านเมฆ สถานการณ์วันนั้นถ่ายภาพนิ่งดีดียาก เลยเปลี่ยนใจไปตั้งกล้องบันทึกภาพเป็นคลิบวีดีโอแบบ time lapse คือเป็นภาพ motion ที่ประกอบขึ้นมาจากภาพนิ่งจำนวนมากๆ ที่ตั้งเวลาให้กล้องบันทึกภาพเอง เช่น 5วินาทีภาพนึง เวลาเล่นคลิบก็จะเห็นเมฆเคลื่อนสนุกๆ คลิบนี้เล่น 10วิ ด้วยภาพนิ่งทั้งหมด 105เฟรม! (คลิบอยู่ในภูกระดึงตอน4) ส่วนภาพนี้ดึงเอาเฟรมนึงจากไฟล์ภาพนิ่งมาใช้ คนเล็กๆ ในภาพช่วยเป็นสเกลเทียบความสูงใหญ่ของเหล่าต้นสน .... 16mm. f5.6
14.) มุมไวด์สร้างมุมมอง ยังสนุกกับเจ้าโคตรกว้าง ยิ่งใช้ยิ่งรู้สึกว่ามุมภาพที่เราได้มามันสร้างมุมมองใหม่ๆ ดี ... 14mm. f7.1
15.) มองหาสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าชีวิต จุดสนใจเล็กๆ มักสังเกตยาก ต้องตั้งใจสอดส่ายสายตา บางทีมันก็ทั้งเล็กทั้งไกล อยู่ข้างทางหลบสายตา ก็เพียรพยายามฝึกนะยังทำได้ไม่ดีพอ ต้องฝึกสมาธิในการมองให้เห็นในขณะที่ร่างกายเหนื่อยล้าด้วย เมื่อมองเห็นก็ต้องไม่ขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์อีก จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน ... 108mm. f3.5
16.) post process จ๋าช่วยข้าด้วย 1ในภาพยอดแย่ ฟ้าขมุกขมัว สลัวๆ อมแดด อมเงา ไม่เอาดีสักอย่าง ภาพเดิมๆ ถ้าเป็นยุคฟิล์มสไลด์ผมก็ปาใส่กระป๋องลูกเดียว มายุคนี้ post process พระเอกขี่ม้าขาวก็มาช่วยเรา ลองแก้ไขให้เป็นภาพกึ่งๆ HDR ครับ ขอบัญญัติศัพท์เองว่า semi HDR ละกัน 555 คือไม่ปรับให้เว่อร์เกินจริงจนหลุดโลก ให้มันยังคงความ realistic อยู่บ้าง สูตรที่ใช้ก็คือกระทืบ contrast กระแทก highlight ให้ยวบลง จากนั้นก็ กระชาก shadow+กระซวก clarity ให้สุกสว่างขึ้น ฟังดูดุดันชะมัด แหม่ แนวภาพดุดันก็เลยต้องบรรยายเข้มๆหน่อย อิอิ เท่านั้นล่ะครับ ต่อจากนั้นจะเร่งสีให้สดหรือจะลดสีให้จืดก็จัดไปตามรสนิยม ภาพที่เกือบจะเสียก็กลายเป็นภาพที่เกือบจะไม่!สวยจนได้ ฮวี่ 14mm. f8
17.) ค่อยๆ เปลี่ยนปืน ค่อยๆ บรรจุกระสุน จ้ะเอ๋เจ้ากวางป่า ทันทีที่รู้ว่าอะไรไปอะไรในพุ่มไม้ ก็นิ่งไว้ครับ ค่อยๆ ขยับตัว เป้าหมายของผมคือหยิบเลนส์กระบอกโตขึ้นมาเปลี่ยน แต่เพื่อกันพลาดกันมันกระโดดหนีไปก่อนที่เราจะได้ภาพ ก็ถ่ายด้วยเลนส์ตัวที่อยู่บนกล้องก่อน ซัดส่งๆ ไปก่อนหนึ่งภาพกันพลาด จากนั้นก็บรรจงกดอีกหนึ่งภาพ นิ่งไว้ๆ ค่อยๆลดกล้อง ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเลนส์ ค่อยๆยกบรรจงถ่าย อีกแช๊ะไกลๆ สาดๆไป บรรจงอีกที จากนั้นก็ขยับเข้าใกล้ทีละนิ่ง ก้าวนึงก็กดแช๊ะนิ่มๆทีนึง เข้าไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะกระโดดหนีล่ะหรือจนกว่าเราจะได้ภาพเป็นที่พอใจ 400mm. f4.5
18.) ขอเป็นพระเอกในภาพบ้าง ชีวิตคนถ่ายภาพ นานๆ ทีจะมีภาพตัวเองกะเค้าซักหน อิอิ แบบว่าอย่างทำท่าเหินฟ้าที่มุมนี้มว้าก จัดภาพจัดเฟรมจัดองค์เสร็จก็แช๊ะซะเลย ขอหน่อย 14mm. f8
19.) จากไม่ค่อยมีอะไร กลายเป็นมีอะไร Looking for interested subject
จากทุ่งหญ้าทอแสงทองแยงตาธรรมดา อยู่ๆ ก็มีกลุ่มก๊วนจักรยานภูเขาขี่เข้ามาจอดพัก เอ้า สวยเข้าท่าคันหน้าสีแดงเด่นหราแถมพาดผ้าไว้อีก โอ้ว ฟิน สลับเลนส์ตัวโตเก็บภาพทันใด ได้ภาพถูกใจไม่นึกไม่ฝัน 134mm. f5
20.) ที่เก่าวันใหม่ ซ้ำที่เดิมไม่เสียหลาย Sweet Hour
ผานกแอ่นกับการกลับมาซ้ำอีกครั้งก่อนลงภู คนเราจะผิดหวังอะไรซ้ำซ้อน มันต้องสลับมาสมหวังบ้าง จากมวลมหาประชาเมฆก่อกวนเมื่อวันวาน เช้ามืดวันนี้ทุกอย่างแจ่มใส ธรรมชาติกลับมาเป็นใจอีกครั้ง ฟ้าแจ่มแล้ว 54mm. f4
21.) ช่วงเวลาจ้วงสุข
ตักตวง เก็บทั้งภาพ อาบทั้งบรรยากาศห่อหุ้มรอบตัว หายง่วงกันทุกคนกับช่วงเวลาฟ้าวันใหม่ขอบฟ้าเปล่งแสงอีกครั้ง ขาดอยู่อย่างเดียวในมือที่มีเบียร์เย็นๆ ซักกระป๋อง ฮวี่ 14mm. f4
22.) อันตัวเรายืนถ่ายภาพอยู่เดียวดาย Movement in Nature
มองดูคนอื่นกางขาตั้งเก็บแสงบ้าง มีคู่รักยืนเคียงคอยเป็นลูกมือ ไม่น่ะ คอยเป็นกำลังใจ ใช่สิ เอ๊ะ หรือค่อยเร่งเมื่อไหร่จะกลับ 555 แหม่ เห็นภาพแล้วก็ให้อิจฉานะครับ เราเดินแบกขาโดดเดี่ยวเดียวดาย อิอิ 14mm. f4
23.) ตะวันจ๋ามาแล้ว
มาเป็นไข่แดงเลย ประสบความสำเร็จในการเก็บภาพตะวันขึ้นเอาวันสุดท้ายก่อนปิดทริปนี่เอง สอนให้รู้ว่าพลาดแล้วต้องซ้ำ ความสำเร็จซ่อนอยู่หลังโค้งใดโค้งหนึ่งข้างหน้านี้เสมอ ตัดสินใจถูกที่กัดฟันแหกตาตื่นเดินฝ่าความมืดฝืนความเมื่อยมา โย่ว 108mm. f8
24.)ลาไปด้วยนี้ งานล่าฝันfollow your Heartมาคิดๆ ดูถ้าเราไม่ได้ชอบถ่ายภาพป่านนี้หลับคุดคู้สบายอยู่ใต้ถุงนอนอุ่นๆ ในเต้นท์แระ แต่ทำไงได้เน้อะ ดันเป็นคนชอบบันทึกภาพธรรมชาติไปซะแล้วเรา เป็นมานานรักษาไม่หาย 28mm. f11
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม ฝากคอมเมนท์ไว้เป็นกำลังใจหรือฝากร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา นายน้ำฟ้า นะครับ โย่ว :)
Create Date : 18 เมษายน 2557 |
Last Update : 19 เมษายน 2557 8:53:02 น. |
|
79 comments
|
Counter : 8989 Pageviews. |
|
|