เมืองที่เป็นเกาะแก่งในหลายประเทศมักจะได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยมาเฟีย คงเพราะไม่ได้อยู่บนแผ่นดินใหญ่ การปกครองดูแลก็ไม่ทั่วถึง เปิดช่องทางให้ทำอะไรที่ไม่ค่อยถูกต้องตามกฎระเบียบนัก แต่ก็ไม่มีใครกล้าแหยม

เกาะของอิตาลีที่เป็นเกาะขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวและเรื่องมาเฟีย คงหนีไม่พ้นเกาะ Sicilia หรือ Sicily ตามที่เรียกกันอย่างสากล ที่ได้ยินมากในช่วงหลัง คือ ความสวยงามและเรื่องอาหารการกินที่อร่อยล้ำ เรื่องมาเฟียเป็นเหมือนเรื่องเล่าขำๆ มากกว่า ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

นั่งเครื่องบินจากโรมไปเกาะซิชิลีใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที ใช้บริการสายการบินโลว์คอสต์เป็นครั้งที่สองในยุโรป แต่เป็นสายการบินเดิมที่เคยใช้มาแล้วจึงไม่มีอะไรให้วิจารณ์

ลงที่สนามบิน Palermo เมืองเอกทางเหนือของเกาะแล้วก็เดินลากกระเป๋า

เดิน เดิน เดิน เดิน ไปหาบริษัทเช่ารถที่เช่าไว้ก่อนมา ไกลมาก ไม่รู้จะออกมาอยู่อะไรกันไกลจากสนามบินขนาดนี้

กว่าจะเดินเจอจุดเช่ารถ ทำเรื่องเช่ารถเสร็จก็ปาไปเกือบชั่วโมง 

รถเช่าคิดค่าประกันแบบคุ้มครองทุกอย่างแพงมากเกือบ200 ยูโร ในขณะที่ค่าเช่าสามวัน 200 กว่ายูโร แต่มาเที่ยวเมืองมาเฟียแบบนี้ใครจะไม่กล้าเอาประกัน แพงแค่ไหนก็คงต้องจ่าย ยิ่งค่าประกันแพงกว่าปกติยิ่งไม่อยากเสี่ยง

ขับรถเช่าออกจากสนามบิน ไม่ได้เข้าโรมแรมครับ เพราะรถติดมาก มากกว่าโรม

แวะทานข้าวกันที่ร้านเรทติ้งดีใน Trip Advisor

แต่กว่ากูเกิลแมพที่รักจะพาพวกผมไปถึงร้านได้

เดินผ่านตลาดสด 1 ตลาด

ไม่ใหญ่มากแต่ดูเหมือนจะเป็นที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว

หยุดถ่ายรูปมะเขือย๊าวยาวกันแทบทุกคน ทำให้ผมเริ่มโมโหหิว

โชคดีพอหลุดตลาดไปได้ก็ถึงร้านเลย ร้านชื่อว่า Trattoria ai Cascinari

จากภายนอก ทุกคนมองหน้าผมเหมือนจะถามว่าแน่ใจหรือว่าร้านนี้

พอเข้าไปแล้วปรากฎว่าข้างในดีแฮะ

อาหารดี คนนั่งกันเต็มร้าน มองจากข้างนอกไม่รู้เลยจริงๆ ผมเองเอนจอยอาหารของเมืองทางใต้มากกว่าที่อื่น เพราะเป็นอาหารทะเลซึ่งไม่ใส่ชีส

เราเดินทางต่อไป Valley of the Temples ออกจาก Palermo ไปประมาณ 2 ชม. ระหว่างทางทิวทัศน์สวยครับ

บ้านเรือนผู้คนปะปนภูเขา สำหรับผมซึ่งก็ยังไม่เคยไปมาทุกที่ในโลก ขอบอกว่ามองผ่านๆ บางช่วงคล้ายวิวเมือง Cape Town เพียงแต่ไม่เห็นคนมาเล่นเซิร์ฟบอร์ดเท่านั้นเอง

จ่ายค่าเข้า Valley of the Temples คนละ 10 ยูโร

ที่แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะและสถาปัตยกรรมของกรีซที่แผ่ขยายมาถึงอิตาลี 

ชื่อเรียกเป็นหุบเขา (Valley) แต่แท้จริงแล้วตั้งอยู่บนเนินเขา

เนื่องจากเก่าแก่หลายพันปี หลายส่วนจึงได้ปรักหักพังไปแล้ว 

หลายอาคารยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์แต่ก็ได้มีการปฏิสังขรณ์ให้คงทนถาวรขึ้น

มีรูปปั้นสัมฤทธิ์นอนอยู่ตามทางเดินด้วย ระเกะระกะหรือศิลปะ?

แดดจัดซากปรัก กับฟ้าไร้เมฆ ถ่ายรูปสวยจริงๆ สมาชิกได้รูปโปรไฟล์ใหม่กันมาหลายคน

เดินกันจนเกรียมได้ที่ก็ได้เวลากลับเข้า Palermo เพื่อค้างคืนครับ

ขับรถคลำทางมืดๆ ที่เต็มไปด้วยทางเบี่ยงกลับมาถึง Palermo โดยปลอดภัย ขอบคุณเฮียชิน พลขับอาสาที่ขับรถมือเดียวตลอดทริป ไม่มีบ่นสักคำ

โรงแรมที่ Palermo สามดาว ราคาไม่แพง สภาพใช้นอนได้ ไม่น่าเกลียดกะไร

ไปถึงตอนร้านอาหารในโรงแรมปิดไปแล้ว ต้องเดินออกมาข้างนอกหาร้านพิซซ่าไก่ย่างซึ่งเป็นร้านเดียวในละแวกนั้นที่ยังเปิดอยู่ เพราะเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นมานั่งดูฟุตบอลคู่สำคัญ

ของหาทานง่ายราคาไม่แพงสำหรับประเทศนี้คงหนีไม่พ้นพิซซ่า ยังดีที่ขายไก่ย่างคู่ด้วย ไม่งั้นผมอดแน่

จะว่าไปแล้วตัวเมือง Palermo ก็น่าเที่ยวครับ แต่ตารางเที่ยวพวกเราเต็มเอี้ยด

ตอนเช้าตื่นมา อากาศสดใส ออกเดินทางไปเมือง Taormina เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งทางตะวันออกของเกาะ

ก่อนมุ่งไป Taormina เราแวะไปที่ Royal Palace ที่ Palermo กันก่อน

รอคิวอยู่นานมาก แค่ซื้อตั๋วและปล่อยให้คนเข้าชมไปตามคิว ไม่น่าจะใช่เรื่องยากสำหรับเมืองท่องเที่ยว

แต่ที่นี่ยังขาดการบริหารจัดการที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

โชคดีที่มีอะไรหลายอย่างสวยงาม

หลายจุดอนุญาตให้ถ่ายรูปได้

ศิลปะในโบสถ์เขาก็แปลกดี ไม่ค่อยเห็นที่ไหน

ตะลอนกันไปในรถเช่าอีก 2 ชม. เพื่อแวะเที่ยว Villa Romana 

บ้านอายุหลายร้อยปีเต็มไปด้วยศิลปะกระเบื้องโมเสก

พื้น ฝาผนัง หลังคา มีศิลปะโมเสกอยู่ทุกส่วน

ถือเป็นที่ที่มีศิลปะโมเสกโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

หลายชิ้นแทบไม่อยากเชื่อว่าอายุเป็นพันๆ ปีแล้ว

สมบูรณ์และทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ

อย่างเช่นภาพสาวๆ ในชุดว่ายน้ำจากยุคที่ยังไม่มีไทรอัมพ์หรือซาบรีนา

มาถึงโรงแรม Sirius ที่ Taormina จวนมืดแล้ว

มีเวลามาสำรวจโรงแรมตอนเช้า

โรงแรมสวยมากครับ ทำเลดี

เห็นวิวทะเล

มีที่ทานข้าวเช้าที่ชวนให้เจริญอาหาร อาหารที่เสิร์ฟก็สดใหม่และดี

น่ากลัวก็แค่ที่จอดรถครับ ทั้งลาด ทั้งชัน ทั้งโค้งในร่างเดียว ขับขึ้นและลงยากมาก

โชคดีผมไม่ได้ขับรถเอง ไม่งั้นได้ใช้ประกันแน่ๆ

วันสุดท้ายของทริปเที่ยวเกาะมาเฟียนี้ เราวางแผนเดินเล่นในเมือง Taormina และไปชม Ancient Theatre of Taormina 

เป็นอัฒจรรย์ที่ยังตัดสินใจไม่ได้แน่ว่าสร้างโดยชาวกรีกหรือโรมัน

จะใครสร้างก็เก่าแก่มาก และเป็น highlight ที่สำคัญที่สุดของเมืองนี้

ที่ให้มันน่าสนใจขึ้นไปอีก ทั้งที่อิตาลีมี theatre หลายสิบแห่ง คือ สถานที่ตั้งของอัฒจรรย์โบราณแห่งนี้

อยู่ติดทะเล มองเห็นอ่าวชัดเจน จินตนาการว่าคนสมัยนั้นคงได้ชมมโหรสพแกล้มวิวทะเล

มีเรือสินค้าเข้าออกเป็นฉากหลัง คงสวยงามพึลึก

เมืองเขาเล็กๆ น่ารัก ใช้คำว่าเล็กๆ น่ารักบ่อยเพราะเมืองในอิตาลีส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นจริงๆ

จุ๋มจิ๋ม จิ้มลิ้ม บอกไม่ถูก

ทีมงานได้ของติดไม้ติดมือกันมาพอสมควร โดยเฉพาะเครื่องปั้นเซรามิกส์

กลับมาคืนรถที่สนามบิน Sicilia ได้อย่างปลอดภัยไร้ร่องรอย แอบเสียดายค่าประกันก็ตอนนี้ แต่ถ้าไม่ประกันมักจะโดนครับ 

เคยบอกหรือยังว่าคนอิตาลีส่วนหนึ่งมีนิสัยที่ไม่เหมาะกับการเป็นประชากรในประเทศพัฒนาแล้วเลย ค่อนข้างไร้ระเบียบ เห็นแก่ตัว ไร้แรงบันดาลใจ บลา บลา การแอ๊บแซงคิวแบบเนียนๆ อย่างเช่นหนุ่มสาวคู่นี้มีให้เห็นประจำ ขอประจานเบาๆ ไว้ ณ ที่นี้ คนอื่นเขายืนต่อคิวกันจนขาแข็งครึ่งค่อนชั่วโมง ทำกันไปได้

Create Date : 29 พฤษภาคม 2559
Last Update : 31 มีนาคม 2561 2:26:31 น.		1 comments
Counter : 2173 Pageviews.
Share Tweet