เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2559
 
All Blogs
 
อิตาลี : Calcata ไม่ใช่เมืองแขก แต่เป็นความแปลกแบบยุโรป









ห่างจากโรมไปแค่ 50 กม. ขับรถไม่ถึง ชม. ก็จะถึงเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งชื่อว่า Calcata พอบอกใครต่อใครว่าไปเมืองชื่อนี้ ร้อยเปอร์เซ็นต์จะต้องถามกลับมาว่าใช่กัลกัตตาที่อินเดียหรือเปล่า จะด้วยความฉงนในชื่อหรือคิดว่าผมจะไปอินเดียจริงๆ ก็ตาม เอาเป็นว่าเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเมืองนี้มาครับ เป็นเมืองในอิตาลีนี่แหละ ไม่ใช่ Calcutta ในอินเดียแต่อย่างใด


ที่นึกอยากไปเมืองนี้ขึ้นมาเพราะไม่ห่างจากโรมไปมาก ขับรถไม่ไกล มีลักษณะที่ตั้งคล้ายเมือง Bagnoregio ที่ผมชอบมากๆ แต่ไปมาแล้วสองครั้ง ที่สำคัญเป็นวันเสาร์ในหน้าหนาวที่แดดจัดมาก ทำเอาพี่ที่หนีหนาวมาจากสวีเดนถึงกับพ้อว่าไม่อยากกลับไปเจออากาศติดลบที่สต็อกโฮล์มอีกเลย 


ขับรถกันออกมาเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน


เข้าเขตเมือง Calcata ในจังหวัด Viterbo ใบไม้ได้ผลัดใบเปลี่ยนสีไปหมดแล้วตั้งแต่สองเดือนก่อน 


แม้ไม่สวยงาม ไม่มีใบไม้ที่สีแดงจัดๆ เหมือนในญี่ปุ่น แต่บรรยากาศระหว่างทางก็ทำให้แวะกดชัตเตอร์ได้อยู่เหมือนกัน


อากาศดี แดดจัด แต่ก็ใส่เสื้อผ้าจัดเต็มกันมาครับ เพราะคิดว่าแดดหมดแล้วคงหนาวเข้าขั้น


ได้ที่จอดรถที่หาแสนยากก็เริ่มเดินกันเลยครับ 


ได้รับการบอกเล่าจากพี่เดือนซึ่งเคยมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นเมืองเล็กๆ เดินแป๊บเดียวก็หมด และก็อย่าคาดหวังอะไรมาก


เมืองนี้คล้ายกับ Bagnoregio เมืองโปรดของผมตรงที่เป็นเมืองบนหน้าผาที่บริเวณโดยรอบพังทลายไปแทบหมดแล้ว เหลือตัวเมืองเก่าเล็กๆ อยู่บนหน้าผานิดเดียวเท่านั้น ก่อนหน้านี้เมืองนี้มีขนาดใหญ่กว่านี้มาก 


เจอธรรมชาติทั้งน้ำทั้งลม แผ่นดินไหว และอะไรต่ออะไร จนครั้งหนึ่งเมืองนี้ได้กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว รัฐบาลประกาศให้เป็นเมืองอันตราย อาจถล่มได้ตลอดเวลา ผู้คนจึงอพยพออกไปจากเมืองจนหมด และไม่มีใครสนใจดูแลอยู่หลายสิบปี 


จนช่วงปี 1960 เมืองกลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยพวกศิลปินรุ่นใหม่ ฮิปปี้ บุปผาชน ได้กลับเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ฟื้นฟูงานศิลปะ ทำผลงานออกมาขายให้นักท่องเที่ยว  


 เมืองนี้มองจากข้างนอกสวยงามกว่าเดินในตัวเมือง ตรงนี้ก็คล้าย Bagnoregio ในตัวเมืองเป็นตึกเก่าๆ ไม่ได้รับการบูรณะอะไร 


มีงานศิลปะ ทั้งที่น่าจะทำเองและน่าจะรับมาขายต่อวางขายอยู่แทบทุกตรอกซอกซอย


คนขายก็แต่งตัวออกแนวฮิปปี้ ซึ่งหากเห็นแต่งตัวแบบนี้ในโรมหรือเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ จะคิดว่าเป็นพวกยิปซี ที่ไม่ได้ทำงานการอะไร จ้องแต่จะขโมยของนักท่องเที่ยว บางทียิปซีกับฮิปปี้ก็แยกกันไม่ค่อยออก


ผมสังเกตว่าร้านอาหารซึ่งมีอยู่เป็นสิบๆ ร้านยังคงดำเนินกิจการและดูคึกคักเหมือนปกติ เป็นสัญญาณว่ายังมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาด 


ไม่เงียบเหงาจนพ่อค้าแม่ค้าต้องนั่งหาวเหมือนหลายเมืองที่เคยไปมา ทั้งที่เป็นเมืองเล็กและช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวในอิตาลี


นอกจากร้านขายงานศิลปะและร้านอาหารแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ ร้านกาแฟเก๋ๆ และโบสถ์ประจำเมือง


เดินเล่น ชม. เดียวก็หมดไม่มีอะไรจะดูแล้ว ถ้าจะกินอาหารกลางวันในเมืองนี้ด้วยอาจอยู่ได้ถึง 2 ชม. 


สิ่งที่ขัดใจผมทำให้ไม่อยากอยู่เมืองนี้นาน คือ แมวที่มีมากมากหลายสิบตัวหรืออาจจะถึงร้อยตัวก็ได้ มีทุกที่ทุกแห่ง


เดินสวนสนามกันเต็มเมือง ทำตัวเป็นเจ้าของเมือง


ผมไม่ได้ติดใจที่มีแมวเยอะนะครับ แต่เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นแมวเลี้ยงในบ้านหรือไม่มีเจ้าของ น้องเหมียวเหล่านี้จึงนิยมฉี่ตามทางเดิน ริมรั้ว ใต้ต้นไม้ และที่สาธารณะอื่นๆ


ทุกที่ทุกมุมมีกลิ่นฉี่แมวคลุ้ง ต้องบอกว่าผมทนกลิ่นฉุนของฉี่แมวได้ไม่นานครับ แพ้ทางจริงๆ สุดท้ายต้องยอมถอยออกจากเมืองแต่โดยดี (แต่หลังจากคิดว่าเดินชมครบทุกมุมแล้ว) 


1 ชม. เป็นระยะเวลาที่ใช้เดินในเมืองเล็กๆ เมืองนี้พอดิบพอดีครับ 








Create Date : 12 ธันวาคม 2559
Last Update : 2 เมษายน 2561 2:06:09 น. 1 comments
Counter : 1804 Pageviews.

 
เห็นชื่อเมือง ทีแรกคิดว่าใช่ครับ 555

ชอบเดินเที่ยวเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ ดูสบาย ๆ... ภาพแมว
ภาพแรก แสงสวย.. ชอบครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 ธันวาคม 2559 เวลา:11:42:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.