Group Blog All Blog
|
[Review] แต่งตาสโมคกี้เบาๆด้วย Barry M Eyeshadow Glow palette 2 สวัสดีค่าาาาาา~ กลับมาพับกบพบกับรีวิวเสี่ยหน้าอีกครั้ง... วันนี้จะมารีวิวของเล่นใหม่เช่นเคย(อินี่ของเล่นใหม่อีกละ ) ของเล่นของเราวันนี้คือออออออ.... Barry M Eyeshadow Glow palette 2 ว่ากันว่าเป็นฝาแฝดพาเลตดังยี่ห้อนึงในราคาที่เบากว่าหลายเลเวล ส่วนหน้าตาของพาเลตก็แบบรุปด้านล่างเลยจ้ะ สวยเรียบแต่หรู น่าเสียดายที่แพคเกจเป็นกระดาษ ตรงมุมตลับเราเลยโดนพี่ไปรษณีย์ทำร้ายจนเป็นรอยย่นเลย เปิดมาข้างในก็จะเจอความงามของสีสัน ต้องยอมรับว่าสีดูสวยจริงๆ มีทั้งเนื้อแมตและชิมเมอร์ แถมในพาเลตยังมีไพรม์เมอร์มาให้อีก เรียกได้ว่างานสีสันเปลือกตามาครบค่ะ ชื่นชมกับสีสันกันไปแล้วก็มาทดสอบการใช้งานจริงกันดีกว่าเนอะ สิ่งแรกที่ทดสอบคือไพรม์เมอร์ที่มีมาให้ในตลับ เพราะเป็นสิ่งแรกที่ต้องทาก่อนแต่งตาค่ะ แต่ขอบอกเลยว่า... ไม่ผ่าน!!!! จริงปกติเราไม่ใช้ไพรท์เมอร์ก่อนทาอายแชโดว์ซักเท่าไหร่ แต่คือเราไม่ปลื้มค่ะเพราะเนื้อหยาบและเป็นก้อนมากๆอย่างที่เห็นในรูปด้านล่าง ยิ่งถ้าเป็นคนเปลือกตามันอาจจะไม่เหมาะอย่างแรง เป็นไพรม์เมอร์ที่อารมณ์เหมือนเอาขี้ผึ้งมาป้ายอ่ะ แล้วกว่าจะซึมกว่าจะเนียนก็ถูวนกันไปค่ะ เลยคิดว่าถ้าใช้จริงอาจจะต้องเอามาวอร์มจนละลายกลายเป็นน้ำมันแล้วค่อยป้ายตารึเปล่า แต่ถึงเป็นยังงั้นใช้ยากขนาดนี้ก็คงไม่เวิร์ก เสียเวลาและเสี่ยงคราบค่ะ เซ็งกับไพรม์เมอร์กันไปแล้วคราวนี้ก็มาลอง swatch กันดีกว่า ซึ่งในตลับเนี่ยมีมาทั้งหมด 6 สี เราจะ swatch กันทุกสภาพเท่าที่เรานึกออกเลยคือ - swatch แบบทาบนผิวเปลือยๆที่ไม่ได้ทาอะไรเลย - swatch แบบทาบนผิวที่ทาไพรม์เมอร์แล้ว - swatch บนกระดาษ A4 จะเห็นว่าการทาลงบนผิวตรงๆนั้นให้สีค่อนข้างตรงและชัดตามแบบในพาเลต ซึ่งสีทั้งหมดเป็นโทนนู้ดแบบ Natural สำหรับ soft smokey โดยเฉพาะเลย แต่ถ้าทาไพรม์เมอร์ก่อนความชัดก็จะมากขึ้นแต่แอบเป็นก้อน ส่วนทาลงบนกระดาษทำไมสีมันเพี้ยน? แต่ทาบนผิวสวยนะเออ ไหนๆก็เป็นเมคอัพทั้งทีก็เลยมารีวิวสอนแต่งตาง่อยๆ เอ๊ย ง่ายๆ ตามประสา เอาแบบสโมคกี้เบาๆเอาอยู่ทุกงานแต่งได้ทุกวันก็แล้วกันเนอะ สวยแบบนู้ดๆ คัดเบ้าเบาๆ มีประกายเล็กๆ ให้เข้ากับโทนสีในพาเลต เราแบ่งแต่ละสีเป็นหมายเลขตามด้านล่างนะคะเพื่อความเข้าใจง่ายในการบอกว่าใช้สีไหน เพราะเค้าไม่มีชื่อสีบอกมาให้ ขั้นแรกค่ะ ไหนๆก็มีไพรม์เมอร์ก็ใช้ซะหน่อยถึงจะไม่ปลื้มก็เถอะ ถูวนไปค่ะจนกว่าจะเนียนไปกับเปลือกตาเรา เพื่อความคมชัดและทนทาน จากนั้นเราก็ป้ายสีเบอร์ 1 มาทาให้ทั่วเปลือกตาเพื่อเพิ่มความสว่าง และปรับสีเปลือกตาให้ทาสีอื่นแล้วไม่เพี้ยนตามกรอบในรูปเลยนะคะ ป้ายเบอร์ 1 เสร็จเราก็ปาดเบอร์ 3 เป็นรูปตัว J ตะแคง ตามแนวรอยพับของชั้นตาและเบ้าตา ตัวแปรงหัวแบนขนาดเล็กค่ะ หลังจากปาดเบอร์ 3 เป็นรูปตัว J ตะแคงเสร็จแล้วก็เบลนค่ะ เบลนสีให้ฟุ้งกระจายแบบในรูปด้านล่างด้วยแปรงหัวกลม เราก็จะได้เงาเบ้าตามาแล้วค่ะ มาแบบเบาๆเหมือนตื่นมาเบ้าตาก็ชัดเอง ไม่ได้นอนดึกนะยะ ยังค่ะยัง เบ้าตามาแล้วก็ยังไม่พอหรอกค่ะ ต้องเบ้าชัดกว่านี้ มีมิติกว่านี้ ปาดสีเบอร์ 5 ตัวแปรงทาตาหัวมนที่ใหญ่หน่อยระบายบริเวณหางตา ระบายเป็นรูปจันทร์เสี้ยวค่ะ ใครว่าจะเป็นรูปอะไรก็เอาที่สบายใจ แต่เป็นตามแบบในรูปด้านล่างแล้วกันนะ จากนั้นก็เอาแปรงหัวตัดเล็กๆปาดเบอร์ 5 เช่นเดิม ระบายที่ขอบตาล่างจากหางตาเข้ามากลางตาเป็นระยะ 2/3 (งงมั้ยเนี่ย) ถ้าไม่เข้าใจดูกรอบในรูปปลากรอบด้านล่างค่ะ ยังค่ะยังไม่พอ สีมีตั้งเยอะ ใช้แค่นี้มันไม่คุ้มหรอก ปาดสีเบอร์ 6 จากพาเลตด้วยแปรงอะไรก็ตามแต่ที่ถนัด ระบายเป็นรูปไนกี้ตามแนวขนตาจนถึงหางตา แล้วเบลนสีให้ฟุ้งเนียนกลมกลืนไล่ระดับกับสีอื่นที่ปาดไปก่อนหน้านี้ค่ะ ยังค่ะ ยังไม่เสร็จ!!! ปาดสีเบอร์ 6 อีกครั้งด้วยแปรงที่แบนและเล็กที่สุดเพื่อง่ายต่อการเขียน ใช่ค่ะ เขียนเป็นอายไลน์เนอร์ตามกรอบสีส้มในรูปข้างล่าง จบงานสีเบอร์ 6 ก็ต่อด้วยสีที่จะทำให้ตาเราโดดเด่นๆวิ้งๆ ปาดสีเบอร์ 4 ด้วยแปรงใหญ่หัวมนฟู แล้วป้ายไปที่กลางตาเลยค่ะ เป็นการไฮไลต์ดวงตา ป้ายไปตามกรอบสีชมพูในรูปด้านล่างค่ะ จากนั้นก็ใช้แปรงเล็กๆแต้มสีเบอร์ 4 อีกครั้ง ระบายบริเวณหัวตาและขอบตาล่างจากหัวตาไปกลางตาค่ะ เพื่อให้ดวงตาดูสว่างสดใสบริ๊งๆ สบตาแล้วปิ๊งๆ จบขั้นตอนทาตาก็ปัดมาสคาร่าและกรีดอายไลน์เนอร์แบบน้ำ แบบเมจิก แบบอะไรก็แล้วแต่ตามอัธยาศัยค่ะ ออกมาก็จะได้แบบรูป Finish นั่นแล... มาดูตอนแต่งเสร็จทั้งหน้าแล้วแบบแสงในห้องและแสงธรรมชาติกันค่ะ ซ้าย: ในห้อง | ขวา: แสงธรรมชาติ จะเห็นว่ามันซอฟต์มากจริงๆ พาเลตนี้สีติดทนแต่ไม่สีไม่เข้มเท่าไหร่ เหมาะกับคนแต่งใสๆ หรือลุควันเบาๆมากกว่านะคะ ถ้าไปแฮงค์เอาท์ยามราตรีไม่แนะนำ สรุปคะแนน 3/5 แพคเกจ: แข็งแรงในระดับนึงแต่ไม่มากพอทนการกระเทือนหัก 1 คะแนน ราคา: กลางๆไม่แพง นักเรียนนักศึกษาสามารถเอื้อมถึงได้ คุณภาพ: หักคะแนนไพรม์เมอร์ ไม่ปลื้มค่ะ ส่วนสีสันสวยงามตามท้องเรื่อง อยากให้เม็ดสีแน่นกว่านี้แต่ก็เข้าใจว่าสีโทนนี้บางทีปาดไปมันก็ไม่เข้มเท่าไหร่หรอก (แปรงที่แถมให้มาค่อนข้างโอเค) ความคุ้มค่า: ค่อนข้างคุ้มค่าที่จะซื้อเพราะคุณภาพค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคา และเป็นโทนสีที่ใช้ได้ทุกวัน เรียกว่าใช้กันจนหมดตลับได้ ปล.ใครสนใจหาซื้อได้ที่นี่ สุดท้ายนี้ . . . บ๊ายบาย เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ Sponsor by: |
Tofu Bubble
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |