<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
7 กันยายน 2558

**กว่าจะเป็นพวกเธอในวันนี้ (The sperm's story) บทที่ 6..อุโมงค์มหัศจรรย์**

บทที่6

อุโมงค์มหัศจรรย์

รรยากาศอึมครึมปกคลุมห้องเรียนอยู่เป็นเวลานานนักเรียนสเปิร์มกำลังรอให้คุณครูกรีสซี่ขยับทำอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำสักที

“หนังจบแล้วเหรอคะ” จนในที่สุดเสียงของสเปิร์มไข่มุกก็ดังขึ้นท่ามกลางความโล่งอกของเพื่อนสเปิร์มหลังจากรอคอยมานาน

“หนังจบแล้วแต่บทเรียนยังไม่จบ” คุณครูกรีสซี่ตอบอย่างงัวเงีย หน้าตาของเขาเหมือนเพิ่งตื่นนอนมาอย่างหมาดๆ หรือไม่เขาก็เหนื่อยหน่ายเต็มทีหากลุกออกจากห้องไปได้เสียในตอนนี้เขาคงทำไปแล้ว

“จำได้ไหมที่ครูบอกว่าห้องเรียนแห่งนี้สร้างจำลองแบบมาจากภายในช่องคลอดของมนุษย์เพศหญิงน่ะ” คุณครูกรีสซี่ทวนความจำ มีนักเรียนเพียงบางตัวที่พยักหน้าแต่ส่วนใหญ่นิ่งเฉย

“เราจะเริ่มต้นทดสอบสมรรถภาพเพื่อเตรียมความพร้อมในการออกไปปฏิบัติภารกิจจริงกันที่นี่ตัวที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจนมาพบเซลล์ไข่และเจาะไชผ่านเข้าไปก็จะจบการศึกษาในชั้นมัธยมและได้รับสิทธิ์ในการเดินทางไปสู่ฐานยิงจรวด”

“คุณครูหมายความว่า หากใครผ่านด่านนี้ไปได้ก็หมายถึงจบการศึกษาแล้วใช่ไหมครับ” สเปิร์มโดโด้ถามเพื่อความแน่ใจ

“แน่นอน..! หากว่า..เธอสามารถผ่านได้” คุณครูกรีสซี่ให้คำยืนยันหนักแน่นแต่ประโยคท้ายกลับทำให้รู้สึก

เคลือบแคลง

“เรียนจบปุ๊บก็ถูกส่งไปตายปั๊บ” สเปิร์มดีดี้ปากเปราะขึ้นมาทันทีที่คุณครูกรีสซี่กล่าวจบ ทำเอาเพื่อนๆหลายตัวสะอึก คุณครูกรีสซี่ต้องหันมาถลึงตาใส่

“ที่นี่เราไม่ได้สอนให้พวกเธอไปตายแต่เราสอนวิธีรอดชีวิตให้พวกเธอต่างหาก.. ” คุณครูกรีสซี่ตวาดเสียงเข้ม เล่นเอาสเปิร์มดีดี้หน้าถอดสีไปทันที

สเปิร์มทั้งหลายก็พากันแปลกใจและกังวลกับบทบาทของคุณครูกรีสซี่ที่เปลี่ยนไป

“เอาล่ะนะ..ถ้าพวกเธอพร้อมแล้วครูจะนำพวกเธอไปสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่..ใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเธอเคยพานพบมาเลยในชีวิต” กล่าวจบคุณครูกรีสซี่ก็ทำมือเป็นสัญญาณให้ทุกตัวลุกขึ้นยืน

“ฉันสังหรณ์ใจว่าการผจญภัยคราวนี้อาจทำให้เราไม่ได้เห็นหน้าเพื่อนๆ อีกหลายตัวดังนั้น..ขอให้ทุกตัวโชคดีนะ” สเปิร์มไข่มุกที่เป็นเสมือนหัวหน้าชั้นกล่าวเสียงเครือกับเพื่อนๆที่รายรอบอยู่

เมื่อหัวหน้าที่สเปิร์มฝากความหวังให้ทำแทนได้ทุกเรื่องยังหางสั่นมีหรือลูกน้องทั้งหลายจะไม่หวั่นไหว

“เธอล่ะ..พร้อมหรือยัง” สเปิร์มพิณหันไปถามสเปิร์มปันโดยพยายามทำหน้าระรื่นเข้าไว้

สีหน้าของสเปิร์มพิณอาจอำพรางสายตาผู้อื่นได้แต่ไม่ใช่สเปิร์มปันแววตาที่สะท้อนความกังวลคู่นั้นไม่อาจรอดพ้นการสังเกตของเขาไปได้

“ฉันพร้อมเสมอ..เธอต่างหากล่ะที่ยังไม่พร้อม”

คำทักของสเปิร์มปันทำให้สเปิร์มพิณอึ้งอยู่ครู่หนึ่งเธอสู้อุตส่าห์ซ่อนความวิตกกังวลเอาไว้แต่เขายังสังเกตเห็นจนได้

“หวังว่า..เธอคงไม่สูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเพียงเพราะลางสังหรณ์ของตัวอื่นหรอกนะ” สเปิร์มปันกล่าวต่อ

“ไม่..ไม่เลย” สเปิร์มพิณตอบอย่างแผ่วเบาสเปิร์มปันรู้ว่าเธอกังวลใจอยู่ก็จริงแต่เขาเดาผิดที่คิดว่าเธอนำลางสังหรณ์ของสเปิร์มไข่มุกมาคำนึง แท้จริงแล้วเธอกังวลว่าจะไม่ได้พบหน้าเขาอีกต่อไปต่างหากแต่ก็ไม่คิดจะบอกความนัยนี้ให้เขาทราบ

“งั้นเธออาจกังวลที่จะไม่ผ่านด่านนี้แต่เชื่อฉันเถอะ เธอจะผ่านมันไปได้ตราบใดที่เธอยังคงมีความตั้งใจจะไปเกิดเป็นมนุษย์อยู่ ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอเช่นนั้น” สเปิร์มปันยังเดาสุ่มต่อไปเขาหวังให้สเปิร์มพิณคลายกังวล

สเปิร์มทิณยิ้มให้อย่างเสียมิได้ถึงสเปิร์มปันจะเชื่อมั่นในตัวเธออย่างไรก็ไม่มีวันเทียบเท่ากับที่เธอเชื่อมั่นในตัวเขา

“แล้วเธอล่ะ..ความตั้งใจของเธอยังคงอยู่ไหม” สเปิร์มพิณย้อนถามบ้าง

“ฉะ..ฉันน่ะหรือ..” สเปิร์มปันไม่คาดว่าจะต้องเป็นฝ่ายตอบคำถามนี้ เขาอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจตอบออกไป

“ฉันน่ะ ไม่เคยคิดอยากไปเกิดเป็นมนุษย์มาแต่แรกแล้วแต่ยังไม่อยากตายตอนนี้ เพราะฉันหวังที่จะได้เห็นวินาทีที่เธอทำความตั้งใจของเธอให้สำเร็จ” ความตั้งใจของสเปิร์มปันเป็นเช่นนั้นจริงๆเขา และสเปิร์มพิณก็เชื่อโดยสนิทใจว่าเขาพูดออกมาจากใจจริง

“ทำไม..ความฝันสูงสุดของสเปิร์มมิใช่การไปเกิดเป็นมนุษย์หรอกหรือ” สเปิร์มพิณยังอยากรู้ต่อไปอีก

“ก็อาจใช่..แต่ไม่ใช่ความใฝ่ฝันของฉันนี่นา” สเปิร์มปันไม่บอกเหตุผลแน่ชัดและไม่อยากให้สเปิร์มพิณเซ้าซี้ด้วย

ทั้งสองตัวต่างปกปิดความในใจของตนเองเอาไว้ตัวหนึ่งเป็นกังวลเกรงว่าจะไม่ได้พบหน้ากันอีกส่วนอีกตัวยอมทำลายความฝันของตัวเองเพราะไม่ต้องการเป็นคู่แข่งของเพื่อน

“ปัน..” สเปิร์มพิณเอ่ยขึ้น เธอต้องเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เสียงที่จะลอดออกมาสั่นกระพือ

“การได้ไปเกิดเป็นมนุษย์เป็นความหวังสูงสุดของฉันก็จริงแต่หากได้มาโดยการยินยอมยกให้ของเธอ มันก็ไม่มีความหมายอะไรต่อฉันเช่นกัน ในเมื่อการไปเกิดไม่มีความหมายต่อเราทั้งสองการออกไปตายในด่านต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกแล้ว” ดูเหมือนว่าสเปิร์มพิณจะอ่านความในใจของสเปิร์มปันได้อย่างกระจ่างแจ้ง

“ไม่..ไม่ได้..! เธอยังต้องยึดมั่นในความหวังสูงสุดของเธอต่อไปจะละทิ้งเพราะฉันเป็นต้นเหตุไม่ได้เด็ดขาด” สเปิร์มปันละล่ำละลักออกมาเขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันที ด้วยคำพูดที่เคยหวังจะคลายกังวลให้สเปิร์มพิณได้ย้อนกลับมาสร้างความกังวลให้กับตัวเองบ้างแล้ว

“ถ้างั้น..” สเปิร์มพิณตั้งเงื่อนไขขึ้นมา

“สัญญากับฉันนะว่าเราจะทำหน้าที่ของสเปิร์มให้ดีที่สุด แม้จะต้องแข่งขันกันเองในวาระสุดท้ายก็ตามเราจะไม่อ่อนข้อให้กันและกัน ตัวที่เก่งกว่าแข็งแรงกว่าจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ตามปณิธานของโรงเรียน และหากว่า..” สเปิร์มพิณเว้นวรรคเพื่อต้องการมองหน้าสเปิร์มปันให้เต็มตาสักครั้งก่อนคำกล่าวต่อไป

“หากว่า..มีตัวใดตัวหนึ่งตายไปก่อนอีกตัวจะต้องเดินหน้าต่อไปจนถึงที่สุดเพื่อนำความหวังของอีกตัวไปสานต่อเป็นความสำเร็จ” สเปิร์มพิณกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

สเปิร์มปันได้ฟังกึถึงกับหางอ่อนระทวยหากเกิดสถานการณ์ที่จะต้องแข่งขันกับสเปิร์มพิณเพื่อหาผู้ชนะเขาจะแข่งไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่อาจทนเห็นเธอเป็นผู้พ่ายแพ้ได้ และเขาจะรู้ได้อย่างไรว่า สเปิร์มพิณจะไม่เป็นฝ่ายอ่อนข้อเพื่อให้เขาเป็นฝ่ายชนะ

“ว่ายังไงปัน.สัญญาได้มั้ย” สเปิร์มพิณเร่งเร้าเมื่อเห็นท่าทีอึกอักของอีกฝ่าย

“ได้..ตกลง” สเปิร์มปันจำต้องตอบรับออกไป เป็นคำตอบรับที่เขาไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่นเลยโดยหวังว่าการตอบรับครั้งนี้จะทำให้สเปิร์มพิณคลายกังวลได้แต่ความทุกข์แสนสาหัสจะมาตกอยู่ที่เขาแทน

“ดี..ปันฉันรู้ว่าเธอทำได้ ฉันเองก็เชื่อมั่นในตัวเธอเสมอ” สเปิร์มพิณโผเข้ากอดสเปิร์มปันโดยไม่ให้เขาได้ตั้งตัวเธอรู้อยู่แก่ใจว่า สเปิร์มปันมีศักยภาพดีกว่าที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ ขอเพียงเขารับปากว่าจะทำให้เป็นจริงขึ้นมาเท่านั้น

แม้จะรู้สึกยินดีแต่สเปิร์มพิณกลับมีน้ำตาเอ่อคลอออกมาเต็มสองเบ้าและเธอก็ไม่ปรารถนาจะให้เขาได้เห็นมันจึงใช้วิธีซบหน้าในอ้อมกอดอยู่เนิ่นนาน

“มีสเปิร์มตายทุกชั่วโมงที่นี่ขณะเดียวกันก็มีสเปิร์มเกิดขึ้นมาทดแทนด้วยเช่นกัน ฉันได้แต่ภาวนาขอให้เธออยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงด่านสุดท้ายได้แต่ถ้าเราต้องตายจากกันไป ฉันก็อยากจะเกิดมาเป็นเพื่อนของเธออีก..จริงๆ นะ” คำกล่าวของสเปิร์มปันหาได้เป็นคำปลอบใจแต่เป็นความจริงใจที่เขามอบให้

สเปิร์มพิณไม่กล้าเอ่ยคำพูดใดๆออกจากริมฝีปากที่สั่นระริกเธอพรั่งพรูความรู้สึกที่มีต่อคำกล่าวของเขาออกมาเป็นหยดน้ำที่ไหลเป็นทาง ผ่านร่องแก้มทั้งสองลงสู่เนินบ่าของสเปิร์มปัน

บรรยากาศในห้องเรียนดูเศร้าสลดไปถนัดใจเมื่อสเปิร์มนับล้านๆตัวโผเข้าหากันเพื่อกล่าวคำอำลาแก่เพื่อนสนิทของตน

คุณครูกรีสซี่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกชาชิน สิ่งที่เห็นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจบจักสิ้นความรู้สึกอาวรณ์เกิดขึ้นกับเขาแค่ชั่ววูบ พอขึ้นชั้นเรียนใหม่ เห็นหน้าเด็กใหม่ๆเข้ามา ความรู้สึกนั้นก็หายไป

“เอาล่ะนักเรียนทุกตัวสั่งเสียกันพอแล้ว ต่อจากนี้ ให้ทุกตัวเลื้อยเรียงแถวเข้าไปอยู่ในอุโมงค์มหัศจรรย์ที่จำลองมาจากผนังช่องคลอดของมนุษย์ได้แล้ว” พูดจบคุณครูกรีสซี่ก็โผนตัวขึ้นไปเกาะบนเพดานด้านบนห้อยศีรษะลงมาโบกมือต้อนให้สเปิร์มจัดแถวหน้ากระดานซ้อนกันเป็นชั้นๆเหมือนกำลังจะเดินสวนสนาม

“นักเรียนทั้งหมด..แถวตรง..!”

คุณครูกรีสซี่ที่ห้อยหัวอยู่ตรงหน้าขบวนตะโกนสั่งให้ยืนตรงนักเรียนสเปิร์มสะบัดหางแล้วเหยียดตัวขึ้นในแนวตั้งอย่างพร้อมเพรียงราวกับฝักถั่วงอกในแปลงเพาะ

“ดีมาก..! ต่อไป เมื่อครูนับหนึ่งถึงสามให้นักเรียนเลื้อยเรียงหน้าเข้าไปในอุโมงค์ด้านใน เมื่อพ้นปากอุโมงค์ไปแล้วการจัดระเบียบถือว่าสิ้นสุด ให้ทุกตัวยึดพื้นที่กันตามสบาย”

ตอนที่ยังไม่ทันนับนักเรียนทุกตัวก็ดูท่าเชื่อฟังดีอยู่..

“หนึ่ง..สอง....”

แต่พอนับถึงสองและเว้นช่วงการนับให้ยาวขึ้นเท่านั้นเองสเปิร์มก็เริ่มแตกแถวกันแล้ว นำโดยบรรดาตัวที่อยู่แถวหน้าขยับตัวก่อน ทำให้แถวถัดๆมาฮือตามขึ้นมาแล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้นเมื่อสเปิร์มที่ไร้ระเบียบเฮโลแย่งกันกระโดดเข้าไปในปากอุโมงค์ที่มีลักษณะเป็นหูรูดมีรูตรงกลางขนาดใหญ่กว่าประตูทางเข้าออกเล็กน้อยทำให้เกิดคิวแออัดที่หน้าปากทางเข้าจนมีการทับถมกันขึ้นเป็นชั้นๆ

“..สะ..สาม” กว่าที่คำว่า ‘สาม’จะหลุดออกมาก็ไม่มีความจำเป็นแล้วเพราะนักเรียนแทบจะเหยียบกันตายอยู่ที่ปากทางเข้าอุโมงค์ในเวลานี้

เมื่อผ่านเข้าไปได้แล้วสเปิร์มก็กระจายตัวกันออกไปอย่างรวดเร็ว ภายในอุโมงค์ซึ่งมีลักษณะเหมือนท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ที่ลาดลึกลงไปสู่เบื้องล่างทำให้สเปิร์มที่เข้าไปได้ก่อนเลื่อนตัวตามๆกันไปอย่างฉลุย พวกเขาคาดหมายว่า เส้นชัยอยู่ในหุบลึกข้างหน้า การชิงเข้าไปก่อนย่อมได้เปรียบ

ผนังอุโมงค์แม้จะมีผิวเป็นตะปุ่มตะป่ำเหมือนหนังคางคกแต่ก็นุ่มนิ่มเหมือนกับผ้าบุนวมแถมยังชุ่มชื้นตลอดเวลาเพราะมีน้ำเมือกสีขาวใสเคลือบผิวอยู่นั่นทำให้การเคลื่อนตัวของสเปิร์มที่อยู่ด้านในทำได้ง่ายขึ้น หลายตัวใช้วิธีกลิ้งตัวไปตามพื้นที่ลาดลงไปแทนการเลื้อยด้วยหางเพราะไปได้รวดเร็วกว่า

ยิ่งลึกเข้าไปเท่าใดแสงสว่างภายในอุโมงค์ก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไปเป็นลำดับสเปิร์มที่อยู่ด้านในสุดจึงเคลื่อนที่ได้ช้าลงเพราะต้องใช้หางคลำทางไปตลอด

“เราจะมองเห็นทางออกได้อย่างไรในเมื่อทางข้างหน้ามันมืดอย่างนี้” สเปิร์มจิงเป็นสเปิร์มตัวเล็กที่มักจะขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าสุดเสมอส่งเสียงดังกังวานออกมาจากด้านใน

“ก็นั่นมันทางออกที่ไหนกันล่ะ!..ทางออกอยู่ด้านนี้ต่างหาก” คุณครูกรีสซี่ตะโกนสวนมาจากปากอุโมงค์ด้านนอก

เสียงของคุณครูกรีสซี่สะท้อนเป็นห้วงๆกลับไปกลับมาภายในอุโมงค์แล้วค่อยๆ จางหายไปในก้นอุโมงค์ สเปิร์มที่อยู่ปลายอุโมงค์พอได้ยินดังนั้นก็พากันกลับตัวเป็นการใหญ่เพราะมันหมายถึงว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ด้านหน้าอีกต่อไปแล้ว

“ซวยล่ะสิ..! พวกเราหลงกลแล้ว”

ความโกลาหลอุบัติขึ้นทันทีที่ด้านในของอุโมงค์เมื่อสเปิร์มจำนวนมากพยายามยื้อแย่งจะกลับออกมาแต่ติดที่ตัวข้างหน้าขยับได้ช้าประกอบกับทางกลับกลายเป็นทางขึ้นที่ลาดทำให้ต้องออกแรงมากกว่าตอนขาลงทำให้ไม่สามารถกลับออกมาได้เร็วอย่างที่คิดไว้

ขณะที่ตรงปากทางเข้าซึ่งได้กลายเป็นปากทางรอดไปแล้วนั้น คุณครูกรีสซี่ได้ยืดตัวออกกลายเป็นจอหนังขนาดใหญ่ขึงปิดปากทางออกเอาไว้จนเกือบมิดแล้วฉายภาพผนังมดลูกสีแดงอมชมพูขนาดใหญ่กำลังเต้นตุ้บๆบนจอหนังของตนเอง

“เห็นไหม..! นี่คือเยื่อบุผนังบริเวณปากมดลูกที่กำลังพองตัวขึ้นมาจนอวบอิ่มรอพวกเธอและเซลล์ไข่มานอนฮันนีมูนกันที่นี่ว่ายเข้ามาเลย..เร็วๆ ด้วย ใครที่ว่ายมาแตะจอหนังนี้ได้จะพบทางออกไปสู่ภายนอก แต่พวกเธอจะต้องว่ายทวนกระแสน้ำเข้ามาให้ทันก่อนที่เยื่อบุนี้จะแห้งเหี่ยวลงและหลุดลอกตัวออกหาไม่แล้ว..หึ หึ หึ..ก็จะต้องเป็นผีเฝ้าอุโมงค์แห่งนี้”

สิ้นคำประกาศของคุณครูกรีสซี่ผนังอุโมงค์ทั้งสองด้านก็มีการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ ผิวผนังที่มีลักษณะหยุ่นเหมือนอาการบวมน้ำเริ่มสั่นระริกๆขึ้นก่อน จากนั้นก็บีบตัวเข้าหากันแล้วคลายตัวออกไป ทำเช่นนี้เป็นจุดๆ กระจายไปตลอดทั้งอุโมงค์จนดูเหมือนแนวผนังกำลังเคลื่อนตัวเป็นเกลียวคลื่นทุกครั้งที่ผนังบีบตัวเข้าก็จะพ่นน้ำสีขาวขุ่นออกมาจากรูพรุนที่ข้างผนังเป็นริ้วๆ เหมือนสายน้ำพุพอผนังคลายตัวออกน้ำก็หยุดไหลทันที ในยามที่พ่นน้ำออกมาและหยุดลงไม่พร้อมกันในแต่ละช่วงของผนังนี้เองได้เนรมิตภาพอันงดงามของละอองน้ำที่กำลังเริงระบำขึ้นมา

เมื่ออาการบีบแล้วคลายของผนังกระชั้นขึ้นเรื่อยๆปริมาณน้ำในอุโมงค์ก็ยิ่งมากขึ้นทุกทีจนกลายเป็นธารน้ำสีขาวขุ่นที่ไหลจากปากอุโมงค์ลงไปสู่ก้นอุโมงค์ทางเบื้องล่าง การว่ายกลับขึ้นมาที่ปากอุโมงค์ของสเปิร์มทำได้เฉพาะตอนที่ผนังคลายตัวออกเท่านั้นเพราะเมื่อผนังบีบตัวเข้ามาก็มีน้ำทะลักออกมาอีกพร้อมกับส่งให้น้ำในบริเวณนั้นเอ่อสูงขึ้นมาชั่วขณะเมื่อระดับน้ำลดลงจากการคลายตัวออกของผนังก็จะพัดพาสเปิร์มให้ถอยกลับไปสู่เบื้องล่างอีกครั้งทำให้สเปิร์มถูกโล้กลับไปกลับมาเหมือนการโล้ชิงช้า

ขณะที่สเปิร์มที่อยู่ด้านในสุดเมื่อถูกเพื่อนๆที่ไหลตามกระแสน้ำลงมาชนก็กระเด็นถอยหลังลึกเข้าไปด้านในเรื่อยๆ โดยไม่อาจคะเนได้เลยว่าสเปิร์มเหล่านี้จะถูกพัดลึกลงไปถึงไหน สเปิร์มที่เอาตัวรอดกลับขึ้นมาได้เป็นสเปิร์มที่อาศัยจังหวะที่แรงบีบของผนังไม่เท่ากันตลอดทั้งอุโมงค์เมื่อเห็นว่าข้างหน้าของตนมีแรงบีบของผนังก็ชิงหลบไปอยู่ในหลืบข้างผนังเสียก่อนปล่อยให้น้ำซัดร่างของสเปิร์มที่อยู่ข้างหน้าให้กลับลงไปอยู่ข้างหลังแล้วรีบฉวยโอกาสว่ายชิงพื้นที่กลับขึ้นมาตอนที่กระแสน้ำยังนิ่งอยู่ทำซ้ำอย่างนี้เป็นระยะๆ ก็จะสามารถคืบหน้าขึ้นไปได้

“อะไรกันนี่..! แผ่นดินขยับ..!”

สเปิร์มที่อยู่ใกล้ปากทางออกก็ใช่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบเสมอไปเพราะจู่ๆ ก็เกิดการสั่นสะเทือนแบบถี่ๆ เหมือนแผ่นดินไหวขึ้นที่ปากอุโมงค์ใกล้กับมดลูกในจอภาพคอยขย้อนให้สเปิร์มที่กำลังจะไต่ขึ้นฝั่งถูกส่งกลับลงไปเบื้องล่างอีก แรงสั่นสะเทือนนี้ค่อยๆจางหายไปเมื่อเข้าสู่อุโมงค์ชั้นใน ถือเป็นโอกาสได้เปรียบของสเปิร์มที่อยู่ด้านในได้พักหายใจบ้าง

แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มีอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่อาจคาดหมายได้ว่าจะเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงเมื่อใดสเปิร์มจึงต้องรีบฉวยโอกาสขณะที่ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพนิ่งรีบปีนขึ้นฝั่งและเจาะผนังจอภาพของคุณครูกรีสซี่ผ่านออกไป

ถือได้ว่าการคัดเลือกสเปิร์มโดยใช้อุโมงค์จำลองนี้จึงเป็นการทดสอบที่ให้รายละเอียดเหมือนจริงเกือบทุกประการเพราะสเปิร์มที่ฉลาดกว่า..ว่ายทวนกระแสน้ำได้เร็วกว่า..แข็งแรงกว่าจะว่ายแซงขึ้นหน้าตัวที่อ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็เป็นไปตามกฎเกณฑ์ความยุติธรรมในการคัดเลือกที่ใช้ความสามารถเป็นหลัก

แต่ความสามารถและความแข็งแกร่งบางครั้งก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จเสมอไป อุโมงค์มหัศจรรย์แห่งนี้จึงได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่อ่อนแอกว่ามีโอกาสแก้ตัวโดยอาศัย..โชค

และแล้ว..จู่ๆก็มีเสียงเพลงจังหวะแซมบ้าอันเร้าอารมณ์ในแบบลาตินดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แรกทีเดียวเป็นเสียงหึ่งๆ เหมือนเสียงของฝูงแมลงหวี่กำลังบินตอมต่อจากนั้นจึงค่อยๆ ทวีความเร่าร้อนขึ้นทีละนิดละน้อยจนถึงขีดสุด ผนังอุโมงค์โดยรอบที่มีลักษณะผิวตะปุ่มตะปั่มอยู่แล้วกลายเป็นลำโพงขนาดเล็กใหญ่ที่ดูดซับเสียงและกระจายเสียงไปด้วยการยุบตัวเข้าและผลุบตัวออกตามจังหวะเสียงเพลงแรงพะเยิบพะยาบของการพองแล้วยุบ ยุบแล้วพองที่ไม่เท่ากันสักครั้งนี่เองทำให้น้ำในอุโมงค์แกว่งไกวไปมาจนเกิดเป็นเกลียวคลื่นเสียงน้ำบนยอดคลื่นกระทบกันดังเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ คล้ายเสียงของ มาราคัส ที่ใช้เขย่าประกอบจังหวะดนตรี สภาพภายในอุโมงค์เวลานี้เหมือนลูกโป่งบรรจุน้ำที่กำลังถูกนิ้วมือนับสิบขยำตามจังหวะเพลงอยู่ด้านนอก

“โอ้..ว..ตายละวา”

“ทะ..ทำ..ไม..เปะ..เป็น..หยั่ง..งี้”

สเปิร์มที่ถูกแรงแกว่งของเกลียวคลื่นเล่นงานร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษาเมื่อจู่ๆร่างของพวกเขาก็ถูกส่งให้ลอยละลิ่วขึ้นไปอยู่บนยอดคลื่น แล้วก็ร่วงลงมาตามเกลียวคลื่นที่ยุบตัวลงจมหายลงไปใต้น้ำ เปิดโอกาสให้สเปิร์มที่ถูกเกลียวคลื่นโยนจากด้านล่างโถมข้ามศีรษะไป

“ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์มนุษย์เพศหญิงจะหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาจากผนังช่องคลอด และภายในช่องคลอดจะมีการบีบรัดตัวเป็นระยะๆ จนเมื่อถึงจุดสุดยอดร่างกายจะเกร็งแข็งแต่ภายในช่องคลอดจะมีการบีบรัดอย่างถี่ยิบและรุนแรงขึ้น จากนั้นจะค่อยๆผ่อนคลายลงไป ครูขอเรียกช่วงเวลานี้ว่า ช่วงสุขสมอารมณ์หมายของฝ่ายหญิงเธอจะรู้สึกผ่อนคลาย..ปลอดโปร่ง..โล่งสบาย..สดชื่น เหมือนยืนอยู่บนยอดเขาฮ่า..ฮ่า..อ่า หลังากนั้น การบีบและคลายตัวภายในช่องคลอดจะยังคงมีอยู่ต่อไปสักระยะหนึ่งจึงค่อยสงบลงไปเอง ก็เหมือนการเล่นกีฬาน่ะแหละ มีวอร์มอัพก็ต้องมีวอร์มดาวน์ไง” คุณครูกรีสซี่บรรยายประกอบเสียงเพลงจังหวะแซมบ้าอย่างออกรสออกชาติ ซึ่งพอให้เสียงประกอบจบลงเสียงเพลงก็แผ่วลงไปด้วยจนเหลือเพียงเสียงหึ่งๆ เหมือนในคราแรก

ดูเหมือนทุกสิ่งกำลังคืนสู่ความสงบอีกครั้งหนึ่ง..แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ




Create Date : 07 กันยายน 2558
Last Update : 7 กันยายน 2558 8:57:50 น. 3 comments
Counter : 594 Pageviews.  

 
“มีมนุษย์เพศหญิงจำนวนไม่น้อยเลยที่เมื่อการมีเพศสัมพันธ์สิ้นสุดลงจะต้องลุกไปล้างในห้องน้ำ และนี่เองเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่” ทันทีที่คุณครูกรีสซี่กล่าวจบ ภายในอุโมงค์ก็เกิดแรงเหวี่ยงขึ้นอย่างรุนแรง ระดับของอุโมงค์เอียงไปทางซ้ายแล้วย้ายมาทางขวาอย่างฉับพลันก่อนจะเทลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ทำให้สเปิร์มถูกกระแสน้ำซัดลงไปสู่ก้นอุโมงค์เกือบทั้งหมดไม่ต่างจากสิ่งปฏิกูลที่ถูกน้ำในชักโครกชำระให้จมหายไปจากคอห่าน

อ๊าก..ก..ก..ก..ก..ก..ก....!!!!!

เสียงของสเปิร์มร้องออกมาจนสุดเสียงพร้อมๆ กัน ร่างของพวกเขาเกือบทั้งหมดพร้อมน้ำสีขาวขุ่นถูกเทหายเข้าไปในอุโมงค์ชั้นในจนบริเวณปากอุโมงค์เหลือแต่ความแห้งเหือด มีสเปิร์มจำนวนหนึ่งติดอยู่ตามซอกตามหลืบของปุ่มข้างผนังไม่ได้จมหายไปด้วยและกำลังพยายามไต่กันยั้วเยี้ยขึ้นมาสู่ข้างบน

แต่แล้ว..ทุกอย่างก็พลิกกลับ..! เมื่อระดับพื้นในอุโมงค์เหวี่ยงกลับขึ้นมาสู่แนวระนาบที่ปกติอีกครั้ง ส่งผลให้น้ำผสมสเปิร์มที่จมหายไปสู่เบื้องล่างเมื่อสักครู่ไหลย้อนขึ้นมาใหม่
สเปิร์มที่หลุดรอดจากแรงเหวี่ยงเมื่อสักครู่และกำลังไต่ตัวยั้วเยี้ยอยู่ใกล้กับตลิ่งถูกคลื่นน้ำโถมทับแล้วโกยให้กลับไปผสมปนเปกับสเปิร์มที่กลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเสมอภาคกันหมดโดยมี..โชค..เป็นตัวกำหนดชะตากรรม

“หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเรียบร้อย มนุษย์ผู้หญิงก็กลับมานอนบนเตียงอีกครั้ง คราวนี้เธอจะไม่ลุกไปไหนอีกหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ จึงเป็นโอกาสดีของพวกเธอที่จะว่ายเข้าสู่โพรงมดลูก ตามหาเซลล์ไข่อันเป็นสุดยอดปรารถนา การแข่งขันอย่างเป็นทางการได้เริ่มต้น ณ บัดนี้แล้ว” คุณครูกรีสซี่ประกาศก้อง

การเกลี่ยสเปิร์มใหม่ทั้งหมดโดยให้โชคมีส่วนในการกำหนดชะตากรรมนี้ ทำให้สเปิร์มปันและสเปิร์มพิณต้องแยกจากกันอย่างช่วยไม่ได้ เพราะทันทีที่ร่างตกลงสู่พื้นน้ำ สเปิร์มทุกตัวก็ว่ายน้ำไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ว่ายอย่างไม่คิดชีวิต ว่ายโดยไม่ต้องรอให้สมองสั่งการให้ทำ นี่เป็นสัญชาตญาณของการเอาชีวิตรอดที่ได้รับการปลูกฝังมาในสเปิร์มทุกตัวตั้งแต่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ ได้อุบัติขึ้นมาบนโลก สเปิร์มปันและสเปิร์มพิณเองก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่ได้นึกถึงอีกฝ่ายเลยในขณะนั้น

“โอกาสได้เข้าใกล้ที่อยู่ของเซลล์ไข่มาถึงแล้ว หลังจากร่างกายของมนุษย์เพศหญิงเข้าสู่ช่วงเวลาพักผ่อนก็เป็นเวลาที่สิ่งมีชีวิตจำนวนหนึ่งที่รุกล้ำเข้ามามีการเคลื่อนไหวกันอย่างขมีขมัน” ขณะที่คุณครูกรีสซี่สาธยายไป ภาพบนร่างของเขาก็เปลี่ยนฉากไปด้วย เซลล์ไข่ใบเล็กๆ สีใส ที่มีนิวเคลียสสีดำดวงกลมโตอยู่ตรงใจกลางกำลังกลิ้งออกมาจากมุมทางด้านขวามือของเขาอย่างช้าๆ และค่อยๆ ขยายขนาดใหญ่ขึ้นๆ จนเห็นเป็นฟองกลมโตอยู่กึ่งกลางจอภาพพอดี นิวเคลียสที่เปรียบเสมือนดวงตาของเซลล์ไข่ชม้ายตามองสเปิร์มในธารน้ำด้วยลีลาเย้ายวน

“ว่ายเข้ามา..ปีนขึ้นมาบนนี้..คลานเข้ามาใกล้ๆ..แล้ว..ใช้ปากของเธอจิกเข้าที่ตำแหน่งของเซลล์ไข่บนตัวของครู.. กัดและทึ้งให้สาแก่ใจ จากนั้นก็ชอนไชเข้าไปด้านใน แล้ว..ทะลุผ่านไปเลย” คุณครูกรีสซี่ส่งเสียงชักชวนอย่างกับเป็นพ่อค้าเร่ ดูท่าทางเขาจะสนุกอยู่เพียงลำพัง

“โอ้..ดูสิ..อะไรกันนั่น..! ผนังมดลูกกำลังพองตัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เวลาของพวกเธอเริ่มนับถอยหลังแล้ว” คุณครูกรีสซี่แสร้งทำเป็นใจหายวาบเมื่อเห็นผิวของผนังอุโมงค์รอบๆ จอภาพที่มีการพองตัวขึ้นมาจนนูนเด่นพร้อมอาการพองแล้วยุบ ยุบแล้วพอง เหมือนหนังหน้าท้องที่กระเพื่อมเข้าออกขณะกำลังหายใจ สีผิวของผนังเปลี่ยนเป็นแดงวูบวาบๆ ตามจังหวะของการพองตัว

“ผนังมดลูกจะหนานุ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรอรับการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้ว แต่ถ้าเวลาล่วงเลยไปโดยไม่มีการปฏิสนธิ เซลล์ไข่ที่แก่ตัวและผนังมดลูกที่เหี่ยวเฉาจะหลุดลอกออกมาและกลายเป็นประจำเดือน ถึงเวลานั้น..น้ำในอุโมงค์จะกลายเป็นทะเลเลือด..เลือด..ด..ด..ด” คุณครูกรีสซี่คำรามอย่างน่าสะพรึงกลัว

ภายในอุโมงค์ขณะนั้น จำนวนสเปิร์มได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน ส่วนที่กำลังว่ายแข่งกันอย่างขมักเขม้นเข้าหาเซลล์ไข่อยู่ทางครึ่งบนของอุโมงค์ อีกส่วนหนึ่งอยู่ทางครึ่งล่างต้องต่อสู้กับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากขึ้นเพื่อไม่ให้ตนเองถูกพัดลงไปสู่ก้นเหวเบื้องล่าง สเปิร์มที่อยู่ในส่วนนี้ทำได้แค่ประคองตัวให้รอดชีวิตเท่านั้นไม่สามารถว่ายขึ้นไปแข่งกับสเปิร์มในส่วนแรกได้

แต่พิษสงของอุโมงค์แห่งนี้ก็ยังไม่หมดสิ้นเสียที ยังมีด่านทดสอบสุดท้ายที่คอยดักจับสเปิร์มที่กำลังว่ายขึ้นฝั่ง..

“โอ๊ย..ย..! อะไรอีกเนี่ย” เสียงของสเปิร์มที่ว่ายอยู่แถวหน้าดังลั่นขึ้นมาเมื่อว่ายชนเข้ากับผนังบางๆ หน้าตาเหมือนกระจกสีขุ่นที่ผุดออกมาจากข้างผนังโดยไม่มีสัญญาณบอกเหตุ ทำให้สเปิร์มที่ว่ายตามหลังมาอย่างกระชั้นชิดยั้งตัวไม่ทันชนเข้ากับสเปิร์มตัวหน้าและเกิดการชนซ้อนๆ กันจนติดเป็นคิวยาว

“ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า เจอพังผืดเข้าไป สะดุดกันใหญ่เลยนะ” แต่คุณครูกรีสซี่กลับหัวเราะชอบใจ

“พังผืดเป็นเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นได้ในผนังช่องคลอดโดยเฉพาะบริเวณโพรงมดลูกหรือในท่อนำไข่ สาเหตุอาจเกิดจากมีการอักเสบ..มีการฉีกขาดของเยื่อบุในบริเวณนั้น หรือการเจริญเติบโตอย่างผิดที่ผิดทางของเนื้อเยื่ออันเกิดจากมีฮอร์โมนบางชนิดมากเกินไป พังผืดพวกนี้ยึดโยงอยู่ตามริมผนังโดยมีลักษณะทางกายภาพไม่แน่นอน เปลี่ยนแปรได้ตามกาลเวลาและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของมัน เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักไม่สลายตัวได้เองตามธรรมชาติ บางครั้งถูกกำจัดโดยประจำเดือนหรือเครื่องมือแพทย์แต่ก็กลับเกิดขึ้นได้ใหม่เรื่อยไป พังผืดเจริญเติบโตได้ดีในช่วงที่ฮอร์โมนถูกสร้างขึ้นมาหล่อเลี้ยงผนังมดลูกโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ตกไข่ มันไม่ทำอันตรายพวกเธอหรอก แต่จะทำให้พวกเธอช้าลงและหมดแรงไปเรื่อยๆ เจ้าของร่างที่มีพังผืดเป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้มีเลือดคั่งที่กำจัดไม่หมดในรอบเดือนหนึ่งแล้วทำให้เกิดอาการปวดท้องในรอบเดือนต่อไปได้ นอกจากนี้มันยังกีดขวางทางสัญจรของสเปิร์มและเซลล์ไข่ทำให้มีบุตรยาก โอ้..พังผืดหนอพังผืด หากเกิดในส่วนอื่นของร่างกายเจ้าอาจช่วยสมานเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายได้แต่ถ้าเกิดในบริเวณมดลูกเจ้าคงมีแต่โทษสถานเดียว มิน่าล่ะ..ใครๆ ก็เกลียดเจ้า..ฉันเกลียดพังผืด..เกลียดคุณครูด้วย ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า” คำพูดตอนท้ายคุณครูกรีสซี่ทำเสียงล้อเลียนสเปิร์มจิงอย่างสนุกสนานอีกครั้ง

และก็เป็นจริงดังที่คุณครูกรีสซี่ว่า ผนังพังผืดที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ อย่างไม่เป็นระเบียบทำให้สเปิร์มเสียเวลาถอยหลังและว่ายอ้อมกลับไปกลับมา นับเป็นอุปสรรคที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขัดขวางสเปิร์มที่กำลังจะเข้าเส้นชัยเป็นด่านสุดท้ายโดยแท้ ในแบบจำลองนี้ มันอาจไม่ส่งผลให้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ในเวลาที่ปฏิบัติการจริง มันอาจส่งผลต่อชัยชนะของสเปิร์มที่กำลังว่ายนำขึ้นมาได้

“ทุกตัวฟังทางนี้..! ลองสังเกตดูสิ พังผืดจะงอกออกจากผนังทั้งสองข้างเพื่อบีบช่องทางให้แคบลง ฉะนั้น..พวกเราต้องว่ายอยู่แนวตรงกลางของธารน้ำ ซึ่งจะเป็นทางโล่งตลอด” สเปิร์มทโมนที่ว่ายผ่านเขตอุปสรรคผนังพังผืดได้ก่อนใครเพื่อน หันมาตะโกนเตือนเพื่อนๆ ที่กำลังว่ายตามขึ้นมา ทำให้สเปิร์มเหล่านั้นเตรียมตัวทันและว่ายหลบผนังพังผืดมาออกันอยู่กึ่งกลางอุโมงค์กันหมด

“ช่างสังเกตดีจริงนะ..เจ้าหนูทโมน ถูกต้องแล้ว ผนังพังผืดทำให้ช่องว่ายเหลือแคบลง บีบให้พวกสเปิร์มต้องแย่งพื้นที่กัน โอกาสหลุดรอดไปเกิดก็น้อยลงไปอีก นี่ถ้า..เป็นการแข่งขันกันจริงจัง คงไม่มีใครหันหลังกลับมาตะโกนเตือนกันอย่างนี้หรอกนะ ฮ่า..ฮ่า” คุณครูกรีสซี่กล่าวพร้อมกับยื่นลูกตาสองลูกออกมาจนถึงจุดที่สเปิร์มทโมนกำลังว่ายอยู่แล้วส่งเสียงหัวเราะชอบใจ

ในที่สุดก็มีสเปิร์มตัวแรกที่ว่ายมาถึงขอบฝั่งและกำลังไต่พ้นขอบตลิ่งขึ้นมา

“ยินดีด้วยที่เธอว่ายมาถึงเป็นตัวแรก..นักเรียนปัน เธอจะเป็นผู้ชนะในการทดสอบครั้งนี้หากคว้าเซลล์ไข่ไปครองได้” คุณครูกรีสซี่ยืดลูกตาออกมาทักทายทันทีที่สเปิร์มปันปีนขึ้นมาอยู่บนปากอุโมงค์ที่เป็นจุดสูงสุดได้สำเร็จ สร้างความประหลาดใจให้สเปิร์มปันไม่น้อยเลยที่คุณครูกรีสซี่รู้จักชื่อของเขาทั้งๆ ที่ไม่เคยแนะนำตนเองหรือตั้งคำถามในชั้นเรียน

“ทำไมคุณครูรู้จักชื่อผม”

“ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ สำหรับนักเรียนบางตัวที่มีหมายเหตุในรายงานให้จับตาดูเป็นพิเศษ” คุณครูกรีสซี่ตอบหน้าตาเฉย เหตุผลที่รับฟังนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่า เหตุไรก่อนหน้านี้ เขาจึงเรียกชื่อสเปิร์มทโมนได้อย่างถูกต้อง

“พวกเราทำอะไรผิดหรือเปล่า” สเปิร์มปันถามอย่างสนเท่ห์

“พวกเธอบางตัวเป็นเด็กพิเศษที่ทางโรงเรียนให้ความสนใจ..มันก็เท่านั้น ไม่มีอะไรมากหรอก อย่าตระหนกไปเลย ไม่มีใครขัดขวางการปฏิบัติตนของพวกเธอ ตราบใดที่..” ยังไม่ทันที่คุณครูกรีสซี่จะกล่าวจบ ก็มีเสียงเรียกแทรกขึ้นมา เป็นเสียงที่ดังกว่า หวานกว่า และคุ้นเคยกว่าจนทำให้เขาต้องหยุดชะงักไป

“คุณครูขา..พวกเราต้องทำอย่างไรจึงจะออกไปจากที่นี่ได้คะ” เป็นเสียงเจื้อยแจ้วของสเปิร์มไข่มุก สาวน้อยตัวเก่งของนักเรียนชั้นนี้นั่นเอง เธอยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อนๆ อีกสามตัวที่กำลังรอให้ผู้นำทำหน้าที่ก่อน

“นี่ก็เป็นอีกตัวนึง..ไข่มุก..สาวน้อยผู้ชาญฉลาด..อ่อ..เธอถามถึงทางออกเหรอ..ก็แค่เอาปากจิกที่รูปเซลล์ไข่ฟองนี้ให้แตกแล้วเอาหัวมุดออกไปแค่นั้นเอง” คุณครูกรีสซี่หันไปสนใจสเปิร์มไข่มุกแทนโดยพักกรณีของสเปิร์มปันไว้ชั่วขณะและเขาต้องทำหน้าแตกตื่นทันทีหลังจากกล่าวจบเมื่อสเปิร์มไข่มุกและเพื่อนๆ กรูเข้ามาพร้อมๆ กัน

“เฮ่ย..เฮ่ย..ทีละตัวนะ..ทีละตัว”

ผิวของคุณครูกรีสซี่เป็นมันวาววับและเปล่งปลั่งราวกับผิวของฟองสบู่ที่กำลังรอเวลาแตก แต่เมื่อสเปิร์มไข่มุกกระโดดพุ่งเอาศีรษะเข้าชนอย่างแรง ร่างของเธอก็กระดอนกลับออกมานั่งก้นจ้ำเบ้าตรงจุดเดิม

“ฮ่ะ..ฮ่ะ..ฮ่า..ใครให้ใช้หัวชนล่ะ” คุณครูกรีสซี่หัวเราะชอบใจ เขาสามารถทำให้จอภาพเหนียวหนึบรับแรงกระแทกแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องการสอนให้สเปิร์มไข่มุกใช้วิธีการเจาะที่ถูกต้องมากกว่าเพราะเธอกำลังทำหน้าที่เป็นต้นแบบให้กับเพื่อนๆ

สเปิร์มไข่มุกยันตัวลุกขึ้นมาใหม่ เจ็บกายยังไม่เท่าเจ็บใจที่ถูกหัวเราะเยาะ เธอตั้งท่าใหม่ สายตาที่จ้องเขม็งไปยังเป้าหมายไม่ต่างจากนางสิงห์ร้ายที่หมายพิฆาตเหยื่อ และแล้วเธอก็พุ่งตัวเข้าหาเซลล์ไข่อีกครั้งโดยมีแรงแค้นเป็นตัวส่งอีกแรงหนึ่ง

“เฮ่ย..เฮ้ย..! เบาๆ” คุณครูกรีสซี่เปลี่ยนเป็นร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสเปิร์มไข่มุกโผนเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ว๊าก..ก..ก..!” สเปิร์มไข่มุกอ้าปากร้องตะโกนจนสุดเสียงขณะลอยตัวขึ้นไปในอากาศจนถึงจุดสูงสุดแล้วหล่นลงมางับที่ผิวหนังรูปเซลล์ไข่พอดี ผิวของเซลล์ไข่ยุบตัวลงไปเล็กน้อยตามแรงกระแทกแต่มันก็ดีดกลับออกมาทันทีด้วยแรงยืดหยุ่น หากแต่คราวนี้ ไม่สามารถสลัดสเปิร์มไข่มุกให้ร่วงลงสู่พื้นได้อีก หนำซ้ำยังถูกปากของสเปิร์มไข่มุกจิกเอาไว้อย่างแนบแน่นและเมื่อเธอสะบัดศีรษะไปมาหลายๆ ครั้ง ผิวของเซลล์ไข่ก็เริ่มปริเป็นทางยาว

“อุ๊ย..ย จิกเบาๆ สิจ๊ะ ครูจั๊กจี้นะ..อิ๊..อิ๊” คุณครูกรีสซี่ทำท่าสะบัดสะบิ้งไปมาเมื่อผิวหนังของเขาถูกสเปิร์มไข่มุกจิกจนขาดเป็นรูโหว่ขนาดพอให้เธอสามารถใช้ศีรษะชอนไชเข้าไปด้านในได้

ศีรษะของสเปิร์มไข่มุกจมหายเข้าไปในจอภาพที่เป็นรูปเซลล์ไข่จนเห็นแต่หางห้อยโตงเตงอยู่ข้างนอก เมื่อเธอโบกหางไปมาสามสี่ครั้งมันก็ผลุบหายเข้าไปในจอภาพทั้งหมด

เมื่อสเปิร์มไข่มุกทะลุไปอีกฟากหนึ่งแล้ว ผิวของเซลล์ไข่ก็รีบซ่อมแซมตัวเองให้ติดกันสนิทดังเดิม ขณะที่บนปากประตูทางออกก็ขึ้นจำนวนตัวเลขของสเปิร์มที่รอดชีวิตออกไปทันที

เมื่อมีผู้นำทำตัวอย่างให้ดูแล้ว สเปิร์มตัวถัดๆ ไปก็ใช้วิธีอย่างเดียวกันและผ่านพ้นออกไปได้ทั้งหมด สเปิร์มที่ทยอยขึ้นมาบนฝั่งได้แล้วก็ต่อแถวกันตามคิวเพื่อเจาะผนังเซลล์ไข่ผ่านออกไป คงมีแต่สเปิร์มปันเท่านั้นที่ยืนแตกแถวอยู่ตัวเดียว

“อ้าว..ทำไมไม่ผ่านออกไปล่ะ อุตส่าห์ขึ้นมาเป็นตัวแรก” คุณครูกรีสซี่เพิ่งนึกได้และหันกลับมาสนใจสเปิร์มปันอีกครั้ง เขายืดลูกตาทั้งสองข้างออกมาตรงหน้าสเปิร์มปันแล้วถามขึ้น

“ผมรอเพื่อนอยู่ครับ” สเปิร์มปันตอบโดยไม่ได้สนใจมองลูกตาของคุณครูกรีสซี่ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ธารน้ำเบื้องล่าง

“อ๋อ..รอนักเรียนพิณน่ะเอง” คำตอบแบบไม่ใส่ใจนักของคุณครูกรีสซี่สามารถเรียกความสนใจจากสเปิร์มปันได้เป็นอย่างดี เขาหันขวับมามองลูกตาสองดวงที่ลอยอยู่ด้านข้างของลำตัวด้วยสายตาที่ไม่วางใจ

“พิณก็เป็นเด็กพิเศษที่ต้องถูกจับตามองด้วยยังงั้นหรือครับ”

“นักเรียนพิณน่ะเหรอ..อืมม์..ก็ไม่เชิงนะ พฤติกรรมของเขาไม่โดดเด่นเหมือนนักเรียนไข่มุก..ทโมนและก็เธอหรอก แต่ในเมื่อต้องจับตาดูเธออยู่แล้วก็เลยต้องจับตาพิณด้วย เพราะพวกเธอติดกันยังกะปาท่องโก๋ นักเรียนพิณมีอิทธิพลต่อจิตใจของเธอและอาจจะทำให้พฤติกรรมของเธอแปรเปลี่ยนได้” คำกล่าวของคุณครูกรีสซี่มิได้ผิดไปจากความจริง เห็นได้จากอาการพะวักพะวงของสเปิร์มปันในเวลานี้

สเปิร์มปันไม่ได้สนใจสอบถามอะไรเพิ่มเติมอีก สายตาของเขาเริ่มวนเวียนไปจับจ้องที่ผนังมดลูกทั้งสองด้านและ ตัวเลขบนขอบประตูทางออกด้วยนอกเหนือจากสเปิร์มที่กำลังว่ายอยู่ในน้ำ ตามความคาดหมายของเขา จะต้องมี อย่างหนึ่งอย่างใดในสองสิ่งนี้เป็นตัวกำหนดการสิ้นสุดของการคัดเลือกสเปิร์มในไม่ช้านี้

ในขณะนั้น..ผนังมดลูกยังคงพองและยุบตัวอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิมในขณะที่ตัวเลขบนขอบประตูแสดงจำนวน 4,539 ตัวแล้ว

“คุณครูครับ ผนังมดลูกจะหลุดลอกออกมาเมื่อไรครับ” สเปิร์มปันเริ่มร้อนใจจนไม่อาจทนรอความไม่ชัดเจนต่อไปได้อีก

“หือ..อ.. ตอนนี้ได้ 4,543 ตัวแล้ว ยังเหลือเวลาอีกนาน ตราบใดที่ยังมีสเปิร์มผ่านออกไปได้อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ก็แสดงว่ายังมีการปฏิสนธิอยู่ตลอดเวลา ผนังมดลูกก็จะยังคงอยู่ในสภาพพร้อมรับการฝังตัวอย่างนี้อยู่ เธอสังเกตไหมล่ะว่า ถ้าเซลล์ไข่ถูกผสมเมื่อใด ผนังมดลูกก็จะพองตัวขึ้นมารับเมื่อนั้น ถ้าไม่มีการผสมพันธุ์แล้ว เซลล์ไข่ก็จะฝ่อ ผนังมดลูกก็จะฟีบตัวลง แต่..ยังไม่ใช่เวลานี้” คุณครูกรีสซี่ให้ความชัดเจนได้อย่างนั้น

เวลาผ่านไปอีกหลายนาที แม้จะยังมีสเปิร์มผ่านออกไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่คิวที่ต้องรอก็เริ่มสั้นลงๆ ทุกขณะ ทำให้สเปิร์มปันร้อนใจจนอยู่ไม่สุข เมื่อมองลงไปเบื้องล่างก็ยังไม่เห็นวี่แววของสเปิร์มพิณ ขณะที่ตัวเลขบนขอบประตูก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

“เหลืออีกกี่ตัวครับ” สเปิร์มปันทนต่อไปไม่ไหวต้องถามขึ้นมาอีกครั้ง

“หา..ว่าไงนะ”

“ผมอยากทราบว่า..คุณครูต้องการสเปิร์มอีกกี่ตัวจึงจะยอมให้ผนังมดลูกถล่มลงมาได้” สเปิร์มปันใช้เสียงที่ดังกว่าเคยเป็นมา

คุณครูกรีสซี่ไม่ได้ตอบในทันที สร้างความอึดอัดให้กับสเปิร์มปันเป็นอย่างยิ่ง ลูกตาสองดวงที่ส่งออกมาจ้องมองสเปิร์มปันที่กำลังยืนตัวเกร็งด้วยความรู้สึกฉงนฉงาย

“อืมม์..ดูท่าเธอจะเป็นเอามากแฮะ นี่ถ้าเพื่อนเธอไม่กลับมาเธอคงไม่ยอมไปไหน”

“ผมแค่อยากทราบว่า..เหลือเวลาให้เธออีกนานแค่ไหนเท่านั้นเอง” สเปิร์มปันรู้สึกตัวจึงค่อยลดเสียงลงมา

“ถึงครูบอกเธอ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก ถ้าเพื่อนของเธอยังอยู่ส่วนล่างของอุโมงค์ ยังไงซะก็ต้องตายอยู่ดี นี่แน่ะ..เจ้าหนุ่มน้อยเอ๋ย..เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคลาสของคุณครูบาลเฮดไม่มีวันที่จะเกิดซ้ำในชั้นเรียนนี้หรอก เพราะทุกอย่างถูกกำหนดโดยระบบอัตโนมัติ จำนวนสเปิร์มจะผ่านออกไปได้ไม่เกิน 1,000,000 ตัวเท่านั้น หรืออาจก่อนหน้านั้นหากเซลล์ไข่ไม่ได้รับการผสมภายในระยะเวลาที่กำหนด ระบบสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงผนังมดลูกจะหยุดทำงานในทันที เปลือกมดลูกจะแห้งเหี่ยวลงและหลุดลอกออก”

“1,000,000 ตัว” สเปิร์มปันพึมพำกับตัวเองก่อนแหงนหน้ามองบนขอบประตูอีกครั้ง ตัวเลขสีแดงแสดงจำนวน 256,700 ตัวแล้ว ถ้าสเปิร์มพิณจะรอด เวลานี้เธอคงต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งของกระแสธารที่ไม่ใช่ส่วนล่าง จะให้เขาทำอย่างไรดีกับห้วงเวลาที่ต้องรอคอยนี้ หรือจะปล่อยให้มันผ่านไปจนถึงตัวที่ 999,999

“อ้าว..ว ขึ้นมาแล้วเหรอ นึกว่าเธอจะไม่ยอมขึ้นจากน้ำแล้วเสียอีก” คุณครูกรีสซี่ส่งเสียงทักทายสเปิร์มทโมนที่เพิ่งไต่ขอบตลิ่งขึ้นมา สเปิร์มทโมนควรจะขึ้นมาก่อนหน้าสเปิร์มปันเสียอีก หากเขาไม่มัวแต่คอยช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ติดอยู่ในซอกระหว่างพังผืดที่ซ้อนทับกันและคอยอำนวยการจราจรเพื่อให้สเปิร์มที่กำลังว่ายเข้ามาไม่หลงเข้าไปในกับดักพังผืด จนเมื่อจำนวนของสเปิร์มลดน้อยลงไปแล้วเขาจึงว่ายเข้าหาฝั่ง

“เธอแน่มากนะที่กล้าทำอย่างนั้น ไม่มีสเปิร์มตัวไหนแข็งแรงพอที่จะอยู่ในน้ำได้นานขนาดนั้นหรอก” คุณครูกรีสซี่กล่าวยกย่อง สมแล้วที่ทางโรงเรียนให้จับตามองสเปิร์มตัวนี้

สเปิร์มทโมนคลานเข้ามาหาจอภาพอย่างเชื่องช้า ท่าทางของเขาดูอิดโรย สเปิร์มปันรีบปรี่เข้าไปดักหน้าเอาไว้ก่อน

“ทโมน..ทโมน..!” สเปิร์มปันเรียกเขาด้วยอาการตื่นเต้น

สเปิร์มทโมนแหงนหน้าขึ้นมองอย่างเสียมิได้

“นายเห็นพิณไหม” สเปิร์มปันลืมตัว เอาหางเขย่าร่างสเปิร์มทโมนเป็นการใหญ่

สเปิร์มทโมนจ้องสเปิร์มปันเนิ่นนานโดยไม่ปริปากพูดอะไรเลยสักคำก่อนจะสะบัดทีหนึ่งให้หางของสเปิร์มปันหลุดออกจากการเกาะกุมแล้วเบนหน้าไปทางเซลล์ไข่ในจอภาพซึ่งขณะนั้นยังมีคิวก่อนหน้าเขาอยู่อีกสามตัว

“เดี๋ยว..ขอถามหน่อย นายอยู่ที่กลางลำน้ำนั่นนานกว่าใคร เห็นทุกตัวที่ว่ายเข้ามา บางทีนายอาจสังเกตเห็น..” สเปิร์มปันยังตามไปกระตุกหางของสเปิร์มทโมนเอาไว้ไม่เลิกรา

“ถ้าเทียบกับชีวิตของสเปิร์มทั้งหมดในนั้น พิณก็แค่ชีวิตเดียว ทำไมฉันต้องใส่ใจด้วย นี่..จะบอกให้นะ..ถึงรู้..ฉันก็ไม่จำเป็นต้องบอกนาย” สเปิร์มทโมนยอมเปิดปากในที่สุด แต่กลับใช้คำพูดที่ทิ่มแทงความรู้สึกของสเปิร์มปันอย่างร้ายกาจ

“นะ..นาย..ย มัน..” สเปิร์มปันอยากจะด่าออกมาจนปากคอสั่น คิดไม่ถึงว่าสเปิร์มทโมนจะใจไม้ไส้ระกำเช่นนี้

“ปล่อย..! ฉันจะรีบไปแล้ว ฉันเสียเวลากับนายมานานมากพอแล้ว” สเปิร์มทโมนตะคอกใส่ สะบัดหางให้หลุดจากการเกาะกุมของสเปิร์มปันอีกครั้งแล้วหันหน้าไปทางเซลล์ไข่ซึ่งถึงคิวของเขาพอดี

สเปิร์มปันยืนมองร่างที่เลื้อยจากไปของสเปิร์มทโมนแล้วเหลือบสายตาขึ้นไปบนขอบประตู มีสเปิร์มผ่านออกไปแล้ว 298,120 ตัว


โดย: *bonny วันที่: 7 กันยายน 2558 เวลา:8:59:41 น.  

 
ทันใดนั้นเอง..!

ท่ามกลางความตกตะลึงของสายตาทุกคู่ที่เห็นเหตุการณ์ มีเสียงน้ำกระจายตัวขึ้นมาซ่าหนึ่ง พร้อมกับร่างของสเปิร์มปันที่จมหายไปในธารน้ำนั้นอีกครั้ง

“เฮ้ย..! นั่นนายทำอะไรน่ะ” สเปิร์มทโมนเป็นตัวแรกที่ตะโกนสวนออกไปในขณะที่สเปิร์มทุกตัวยืนตะลึงงันอยู่

แม้แต่ลูกตาทั้ง 2 ดวงของคุณครูกรีสซี่ก็ยังเบิกโพลงเหมือนไฟฉายถูกส่องลงไปในน้ำ

“กลับมาเดี๋ยวนี้นะ..ครูขอออกคำสั่งให้นักเรียนปันกลับเข้าฝั่งด่วน..!” เสียงคุณครูกรีสซี่ที่แผดร้องออกไป ดังกึกก้องไปทั้งอุโมงค์ก่อนจะสะท้อนกลับมาเป็นห้วงๆ แล้วจางหายไปกับความว่างเปล่า

“เขาเป็นบ้าไปแล้ว ปล่อยเขาไปเหอะ” สเปิร์มปีนที่ยืนต่อคิวอยู่เห็นเหตุการณ์โดยตลอดกล่าวพลางสั่นศีรษะไปพลางก่อนจะหันหน้าไปที่จอภาพแล้วกระโดดขึ้นจิกเซลล์ไข่อย่างบ้ำระห่ำเป็นการระบายอารมณ์

“โอ๊ย..ย..จ๊าก..ก..ก.!”

คุณครูกรีสซี่เจ็บจนน้ำตาเล็ด รีบถอนดวงตาคู่นั้นกลับคืนอย่างรวดเร็วหมายจะดูหน้าสเปิร์มผู้ก้าวร้าวตัวนั้นสักหน่อย แต่ก็เห็นแค่ปลายหางผลุบออกไปไวๆ พร้อมกับตัวเลขบนขอบประตูที่เปลี่ยนเป็น..298,121 ตัว


*******************************


โดย: *bonny วันที่: 7 กันยายน 2558 เวลา:9:02:29 น.  

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:18:26:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

*bonny
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add *bonny's blog to your web]