<<
มีนาคม 2559
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
7 มีนาคม 2559

**กว่าจะเป็นพวกเธอในวันนี้ (The sperm's story) บทที่ 22..When a child is born**

บทที่ 22

When a child is born

ผ่านบ่อโคลนพิษจนลิบตามาแล้วสเปิร์มปันก็ยังไปไม่ถึงต้นทางของแสงสีนวลที่ฉายออกมาระยะทางระหว่างตัวเขาและจุดสีขาวๆที่ปลายอุโมงค์ยังไม่เปลี่ยนไปจากตอนแรกที่เขาแลเห็นแสงนั้นสเปิร์มปันบอกไม่ได้ว่าเป็นเพราะหนทางอันแสนไกล หรือ เขาคืบคลานได้ช้าลงกันแน่

ยิ่งลึกเข้าไปด้านในอุปสรรคจากสภาพแวดล้อมก็ยิ่งน้อยลงจนแทบไม่มีเลย คงเหลืออุปสรรคเพียงอย่างเดียวนั่นคือเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ สเปิร์มปันเริ่มรู้สึกหิว เหนื่อยล้า และอยากพักผ่อนเต็มทีแต่เขาก็รู้ดีว่า หากหลับตาลงเมื่อใดโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งคงเป็นไปได้ยาก

มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากที่เดิมที่ใต้ท้องของสเปิร์มปันสัมผัสได้ถึงความสั่นสะเทือนของพื้นผิวแบบถี่ๆเหมือนมีประจุไฟฟ้าซ่อนอยู่ใต้พื้นมีอะไรบางอย่างกำลังทำให้อุโมงค์แห่งนี้สั่นสะท้าน..!

สเปิร์มปันมิได้ชะลอความเร็วลงเขากลับสะบัดหางอย่างเร็วรี่เมื่อได้รับสัญญาณนั้น

“พิณ..ฉันกำลังเข้าใกล้เธอเข้ามาในทุกขณะแล้ว” สเปิร์มปันรำพึงกับตัวเองอย่างมีความหวังพลังกายที่หลงเหลืออยู่ถูกระดมออกมาใช้อย่างเต็มที่

แสงสีขาวนวลที่เคยมองเห็นอย่างริบหรี่บัดนี้ได้ทอประกายแสงวูบวาบๆออกมาเหมือนดวงดาวที่กำลังกระพริบในยามราตรีบอกให้รู้ว่าต้นกำเนิดของแสงนี้กำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆเข้ามายังจุดที่สเปิร์มปันกำลังเลื้อยอยู่

ความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นกับสเปิร์มปันอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อนสิ่งต่างๆ รอบตัวเขาได้ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นทีละน้อยๆ เหมือนในสวนสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่เมฆหมอกแห่งความมืดมิดค่อยเคลื่อนคล้อยออกไปเปิดทางให้แสงจากดวงตะวันได้ส่องสว่างลงมา ดอกไม้พากันเบ่งบานชูช่อหมู่ภุมรินโบยบินกันเป็นรวง เหล่าปักษาเริงร่าออกหากิน กำเนิดของสรรพชีวิตอันเป็นความหวังกำลังรออยู่ปลายฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้เพราะทั่วโลกต่างกำลังเฝ้ารอ..รอชีวิตใหม่ที่จะถือกำเนิดขึ้นมา

“มันคือเนื้อหาของบทเพลงนั่นเองตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว” สเปิร์มปันยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น เสียงเพลง Whena child is born แว่วขึ้นมาในหูและเวียนวนอยู่เช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมา

“พิณ..รอด้วยนะ ได้โปรดรอดูใจของฉันก่อน..รอฉันก่อน..ก่อน..น..” สเปิร์มปันที่แน่ใจแล้วว่าเพื่อนสาวของเขาได้ปฏิสนธิอย่างแน่นอนร้องคร่ำครวญไปตลอดทางที่คืบตัวไปข้างหน้าเขาหวังให้เสียงของเขาก้องกังวานออกไปถึงหูของเธอก่อนที่การสูญเสียความเป็นสเปิร์มของเธอจะเป็นไปก่อนที่เขาจะไปถึง

มีอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งสเปิร์มปันคาดไม่ถึงมาก่อนนั่นคือตัวเขาเองกำลังเดินทางมาใกล้ถึงอวสานของชีวิตสเปิร์มแล้วการใช้พลังงานไปมากโดยไม่มีน้ำและอาหารหล่อเลี้ยงทำให้อายุขัยของเขาสั้นลงกว่าที่ควรเป็น

ระยะทางที่สเปิร์มปันคิดว่าใกล้แท้จริงแล้วไม่ได้ใกล้อย่างที่ตาเห็นแสงสีนวลดวงนั้นค่อยๆ แปลงเป็นภาพของเซลล์ไข่ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสเปิร์มหลายเท่าตัวกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆใกล้เข้ามาทุกขณะ แต่พละกำลังของเขาก็ลดน้อยถอยลงไปทุกขณะเช่นกัน

เซลล์ไข่ฟองโตที่เปลือกนอกบางใสแต่มีความนุ่มและเหนียวยืดหยุ่นตัวได้สูง สามารถรองรับแรงกระแทกจากการเคลื่อนตัวไปตามอุโมงค์แคบๆ ได้ การกลิ้งตัวของเซลล์ไข่เป็นไปตามแรงโน้มถ่วงและพลังงานกลบนพื้นที่ลาดเอียงของรางลำเลียงไปสู่ทางออกที่ปากมดลูกขณะที่สเปิร์มปันที่เคลื่อนตัวเข้าหาต้องใช้พลังงานจากร่างกายล้วนๆแม้วัตถุทั้งสองจะเคลื่อนที่เข้าหากันแต่ระยะทางและสมรรถนะก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้ฝ่ายที่ใช้กำลังต้องหมดแรงไปเสียก่อน

“พ..พิณ..” เสียงเพรียกหาของสเปิร์มปันเริ่มขาดหายเป็นห้วงๆแต่เสียงหอบหายใจแรงๆ กลับเข้ามาแทนที่ ตอนนี้เขารับรู้แล้วว่าคงเหลือชีวิตอยู่อีกไม่นานแล้วจะนานเกินพอที่จะเห็นสเปิร์มพิณก่อนแปรสภาพเป็นไซโกทหรือไม่เขาเองก็ไม่แน่ใจเพราะเวลานี้แม้แต่การยกศีรษะขึ้นมามองเซลล์ไข่ที่มีรูปร่างเหมือนเมล็ดแมงลักที่แช่น้ำจนอิ่มตัวที่กำลังเคลื่อนเข้ามาจนเหลือระยะประชิดหน้าของเขาแล้วยังทำได้อย่างยากเย็น

สเปิร์มปันพยายามยืดตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้หางยันตัวขึ้นเพื่อให้หลังเอนพิงไว้กับผนังด้านข้างได้อย่างมั่นคงและไม่ให้หน้าคะมำลงมาทำให้ขณะที่เปลือกของเซลล์ไข่กลิ้งอย่างช้าๆ เข้ามาถึงนั้นศีรษะของเขาอยู่ในระดับกึ่งกลางของเซลล์ไข่ซึ่งสูงเพียงพอที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนั้นแลเห็นได้อย่างถนัด

ขนาดของเซลล์ไข่ใหญ่โตกว่าขนาดของสเปิร์มหลายเท่าตัวผิวของมันอ่อนนุ่มเหมือนขนมเยลลี่และเป็นสีขาวใสจนมองทะลุเข้าไปยังภายในได้แต่กลับมองเห็นความเป็นไปที่อยู่ในนั้นได้ไม่ชัดเจนเนื่องจากในเซลล์ไข่มีน้ำหล่อเลี้ยงบรรจุอยู่ภายในและน้ำที่ว่าก็ไหลเวียนไปตามทิศทางของการเคลื่อนตัวทำให้ดูคล้ายมีผ้าแพรสีขาวบางกำลังสะบัดพลิ้วอยู่ในนั้น

เมื่อผนังของเซลล์ไข่เคลื่อนเข้ามาเบียดลำตัวของสเปิร์มปันอย่างฉิวเฉียดเขาก็รีบกระโดดขึ้นไปเกาะที่ด้านบนทันทีแล้วเอาปากจิกลงบนผิวของเปลือกไข่ มันเหนียวและแข็งเกินกว่าจะเปิดทางให้สเปิร์มตัวใดผ่านเข้าไปได้อีกครั้งนับตั้งแต่ถูกไชชอนเข้าไปโดยสเปิร์มตัวแรกมาจนถึงบัดนี้ เซลล์ไข่ได้มีวิวัฒนาการเกิดขึ้นแล้วมันสร้างผนังอันเหนียวแน่นขึ้นมาป้องกันการเจาะเข้ามาของสเปิร์มตัวอื่น

เมื่อมองผ่านเข้าไปด้านใน สเปิร์มปันเห็นภาพอันสลับซับซ้อนเหมือนมองผ่านกระจกลายคลื่นผ่านไปยังใต้น้ำในนั้นมีร่างของสเปิร์มพิณเกาะติดอยู่กับนิวเคลียสสีดำอย่างแนบแน่น ศีรษะของเธอฝังเข้าไปในเนื้อของนิวเคลียสขณะที่หางก็โบกไปมาอยู่ในน้ำเหมือนต่างฝ่ายต่างพยายามกลืนกินกันและกัน

แม้จะไม่เห็นหน้าอย่างชัดเจนแต่สเปิร์มปันจำรูปร่างท้วมกลมและลีลาการสะบัดหางของสเปิร์มพิณได้อย่างแม่นยำ

“พิณ..พิณ..! ฉันอยู่นี่” สเปิร์มปันพยายามร้องเรียกให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้สเปิร์มพิณจะได้ยินหรือไม่ได้ยินก็ไม่อาจทราบได้เพราะไม่มีการตอบสนองกลับมาร่างของเธอเหมือนถูกนิวเคลียสกำกับการเคลื่อนไหวไว้โดยสิ้นเชิงแล้ว สเปิร์มและนิวเคลียสกำลังมีการปฏิสนธิเพื่อวิวัฒนาการเป็นไซโกท(Zygote) และจะเข้าสู่กระบวนการแบ่งตัวแบบไมโทซีส(Mitosis) ในไม่ช้า

ขณะที่เซลล์ไข่กำลังกลิ้งไปข้างหน้าร่างของสเปิร์มปันก็หมุนตามเปลือกไข่ไปแต่ร่างของสเปิร์มพิณที่อยู่ใจกลางกลับมิได้หมุนตามทิศทางเดียวกันกับการกลิ้ง มีช่วงจังหวะหนึ่งที่ศีรษะของสเปิร์มทั้งสองเข้ามาอยู่ในระนาบเดียวกัน

“พิณ..! นี่ฉันเอง”

เสียงตะโกนของสเปิร์มปันทำให้หางของสเปิร์มพิณที่โบกสะบัดหยุดลงไปศีรษะที่ฝังอยู่ในนิวเคลียสกระตุกเป็นจังหวะถี่ๆเพื่อให้สามารถเผยอเปลือกตาขึ้นมามอง

สายตาของสเปิร์มทั้งสองประสานกันอยู่แวบหนึ่งก่อนที่แกนหมุนจะพรากสายตาของทั้งคู่ให้ห่างออกจากกันไป....ตลอดกาล

เพียงแวบเดียวที่ได้เห็นหน้า อาจเร็วเกินกว่าจะบอกความนัยแต่ก็นานพอที่จะให้ เก็บเกี่ยวความโหยหาอาลัย ผ่านแววตาของอีกฝ่ายหนึ่งได้

“เพื่อนร่วมทางของเธอฝากบอกรักเธอมาด้วย” สเปิร์มปันส่งเสียงตะโกนเร็วรี่ให้ทันก่อนที่ร่างของเขาจะหมุนลงสู่ใต้ท้องเซลล์ไข่ทำให้ไม่อาจเกาะกุมไว้ได้อีกต่อไปจำต้องปล่อยตัวให้ร่วงลงมาสู่พื้นแล้วจึงกลิ้งหลบให้ทันการเคลื่อนตัวของเซลล์ไข่ที่ผ่านหน้าไปอย่างช้าๆแล้วค่อยๆ ผ่านเลยไป ห่างออกไปทีละนิดทีละน้อย จนเกินความยาวของหางจะเอื้อมได้ถึงแล้วแม้คิดอยากจะกระโจนไปให้ทันก็เป็นได้แค่เพียงความคิดเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ของเขาทำได้แค่สูดและผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างรุนแรงเท่านั้น

“เธอเห็น..เธอเห็นฉันแล้ว” สเปิร์มปันพึมพำอยู่ในลำคอขณะมองดูไซโกทคล้อยหลังไปเรื่อยๆแสงสีขาวนวลเคลื่อนไปทางไหนก็นำพาความอบอุ่นและแสงสว่างแห่งความหวังไปยังทิศทางนั้น

สเปิร์มปันยิ้มอย่างมีความสุขสเปิร์มพิณสมหวังแล้วในการทำความฝันของเธอให้เป็นจริง เขาเองก็เช่นกัน เขาสมหวังที่ได้ทำตามความปรารถนาของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบแม้จะต้องจบชีวิตลงในเวลานี้ ก็เป็นการปิดฉากลงอย่างมีความสุข

ขณะที่ปิดเปลือกตาลงสเปิร์มปันนึกถึงความตายที่ต้องเผชิญ หากลมหายใจของเขาหยุดลงเมื่อใดก็หมายความว่าตายแล้วเช่นนั้นหรือ?

สิ่งมีชีวิตทุกรูปนามมีการเกิดดับของประชุมธาตุที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตคล้ายคลึงกันเมื่อลมหายใจสุดท้ายหายไป กายก็ดับ สติก็ดับ แต่ก่อนที่จิตจะดับสูญไปจากโลกนี้ร่างนั้นยังคงเหลือ ‘สัมปชัญญะ’อันเป็นความรับรู้ได้สิ่งสุดท้ายที่ยังรอเวลาอันเหมาะสมที่จะดับสลายไป

ในสัมปชัญญะที่เหลืออยู่อย่างเบาบางของสเปิร์มปันนั้นเรื่องราวในอดีตทั้งหวานชื่นและขมขื่นก็ฉายขึ้นมาในมโนภาพ มันเป็นหนังสั้นที่ไม่รู้ว่าเริ่มฉายเมื่อใดและจบลงเมื่อใดแต่เมื่อใดที่หนังจบลง ชีวิตของเขาบนโลกใบนี้ก็จบลงด้วย

ในโลกของสเปิร์มความตายมิใช่เรื่องน่ากลัว เพราะสเปิร์มเชื่อว่า ตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้ไปเกิดใหม่แล้ว แต่ที่น่ากลัวคือ ไม่รู้ตัวว่าตายแล้วหรือยังตายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และจะได้ไปเกิดเมื่อใดต่างหาก

ปุจฉาเหล่านี้กำลังวนเวียนอยู่ในมโนสติของสเปิร์มปันเขาไม่รู้ว่าตัวเองสิ้นสภาพการรับรู้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่และหากการลืมตาขึ้นในครั้งต่อไป เขาจะอยู่ในบ่ออนุบาลเหมือนเดิมหรือไม่

ตรงกันข้ามกับการตาย เมื่อสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นมาจิตจะอุบัติขึ้นก่อนเป็นสัญญาณชีพ ตามมาด้วยสติที่รับรู้ได้จากนั้นจึงเป็นร่างกายที่ตอบสนอง



เมื่อความหวัง ยังพร่างพราย บนปลายฟ้า

ถึงเวลา ดาราน้อย จะทอยแสง

ผ่านพิภพ จบนภา มาจำแลง

เป็นสำแดง ว่าเด็กน้อยจะเกิดมา

ความปรารถนาส่งผ่านไป เจ็ดย่านน้ำ

สายลมผ่าน กาลเปลี่ยนเวียนพรรษา

อุปสรรค ขวากหนาม ไม่คณนา

เป็นสัญญา ว่าเด็กน้อย จะเกิดมา


ความสดชื่นรื่นรมย์ ระงมถ้วน

ทุกสิ่งล้วน ผ่องผุด สุดหรรษา

ผู้ใดต้อง มนตร์นี้ จนตรึงตรา

พึงรู้ว่า มีเด็กน้อยจะเกิดมา

ปรากฏการณ์ ทั้งหลาย ทั้งปวงนี้

อุบัติมี ยามที่ โลกคอยท่า

ชีวิตหนึ่ง ถือฤกษ์ กำเนิดมา

เป็นประชา ผิวขาวเหลือง หรือ ดำ..เอ่ย?

เด็กจะนำ ความเปลี่ยนแปลงมาสู่โลก

เปลี่ยนวิโยค เป็นระรื่นชื่นเฉลย

เปลี่ยนสงคราม เป็นสันติ..สุขอย่างเคย

สิ้นสุดเลย ความเกลียดกลัวชั่วนิรันดร์

ความหวังนี้ มิอาจเป็นภาพลวงตา

ผู้โหยหา ความเป็นจริงใช่อิงฝัน
ยังรอแสงจากปลายฟ้า ดลสักวัน

พลิกความฝัน เป็นความจริงทุกสิ่งเทอญ




Create Date : 07 มีนาคม 2559
Last Update : 7 มีนาคม 2559 7:42:20 น. 2 comments
Counter : 645 Pageviews.  

 
เสียงขับลำนำเป็นบทกลอนอันไพเราะจากบทเพลง When a child is born ดังแว่วขึ้นมาในโสตประสาทที่อยู่ลึกสุดในภวังค์ ปลุกสติของสเปิร์มปันให้กลับคืนมา เมื่อสติกลับคืนมาได้ กายก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง..

“ดอกไม้..! ดอกไม้ นั่นเธอหรือ..?” สเปิร์มปันเปล่งเสียงออกมาเบาๆ เสียงขับลำนำนั้นจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากสเปิร์มดอกไม้ตัวเดียวเท่านั้น

“ว่าแต่..เธออยู่ตรงไหนในโพรงถ้ำแห่งนี้ล่ะ”

“ฉันอยู่นี่ปัน”

มีแสงสว่างที่เจิดจ้าพุ่งขึ้นมาในความมืด สเปิร์มปันต้องหยีตามอง แสงสว่างนั้นมาพร้อมกับเสียงที่เขาคุ้นเคย

“ดอกไม้..นั่น..เธอจริงๆ หรือ” สเปิร์มปันไม่แน่ใจนัก เขาเห็นภาพของสเปิร์มดอกไม้ที่มีแสงสีทองเรืองรองไปทั้งตัวกำลังลอยอยู่เหนือพื้น บนศีรษะของเธอมีมงกุฎดอกไม้ครอบอยู่ มงกุฎดอกไม้นี้ช่วยเพิ่มความงดงามให้กับใบหน้าซึ่งเขายกย่องเสมอมาว่าเป็นสเปิร์มที่สวยที่สุดเท่าที่เคยพบเห็น

“ใช่..ฉันเอง ดอกไม้เพื่อนของเธอไง” สเปิร์มดอกไม้ที่เรืองแสงได้กล่าวด้วยรอยยิ้ม ดวงตาทั้งสองข้างของเธอมิได้มองอย่างเลื่อนลอยเหมือนอย่างเคย

“ตาของเธอ..เธอมองเห็นแล้วหรือ” สเปิร์มปันสังเกตเห็นได้ แววตาคู่นั้นมีชีวิตชีวา มีความรู้สึกรับรู้และสนองตอบได้ซึ่งไม่ใช่ของสเปิร์มดอกไม้ตัวเดิม

“อืม..ฉันมองเห็นแล้ว ฉันเห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้แล้ว ฉันยังเห็นความมุมานะของเธอ ความรักที่เธอและพิณมีต่อกันอีกด้วย นอกจากนี้..ฉันยังรับรู้ความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีต่อฉันได้เช่นกัน” สเปิร์มดอกไม้กล่าวด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมกับรอยยิ้มที่พิมพ์ใจของเธอ

“ดอกไม้..” สเปิร์มปันพึมพำเบาๆ เขาเกือบจะเชื่ออยู่แล้วว่าเธออ่านความรู้สึกในใจของเขาได้ แต่สิ่งแรกที่เขาจะต้องเชื่อให้ได้ก่อนคือ เธอมีตัวตนจริงๆ หรือเปล่า

“นี่ฉัน..ยังไม่ตายใช่ไหม” สเปิร์มปันไม่ลืมที่จะตรวจสอบความมีตัวตนของตนเองด้วย สิ่งสุดท้ายที่ระลึกได้ คือ เขานอนระทวยอยู่ในความมืดแต่เพียงผู้เดียวและใกล้จะหมดลมหายใจลงไปแล้ว แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเป็นปกติ ไม่เหนื่อยอ่อน ไม่หิวโหย และยังกระฉับกระเฉงอย่างน่าประหลาด

“ยังหรอก..เธอยังไม่ตาย เพราะเธอยังไม่ได้เห็นความงดงามของโลกใบนี้เลยนี่นะ” สเปิร์มดอกไม้กล่าว น้ำเสียงและลีลาการพูดเปี่ยมไปด้วยความมีเมตตา

“โลกใบนี้ยังมีความงดงามอยู่อีกหรือ มันเป็นโลกที่ขาดแคลนความรัก ความเมตตา และมีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันมิใช่หรือ? โอ..ดอกไม้ ฉันไม่เคยอยากเห็นเลย เธอเข้าใจผิดแล้ว พิณต่างหากที่ใฝ่ฝันอยากจะเห็น และตอนนี้เธอก็ได้เห็นสมใจแล้ว แต่ไม่ใช่ฉันแน่นอน” สเปิร์มปันปฏิเสธทันควัน ความฝันของเขามันจบลงไปแล้วทันทีที่เห็นสเปิร์มพิณอยู่ในเซลล์ไข่ใบนั้น

“มาสิ..ลุกขึ้นมา ฉันจะพาเธอไปดูอะไรหน่อย” สเปิร์มดอกไม้กล่าวเชิญชวน เธอเอื้อมหางมาจูงหางของสเปิร์มปันไว้

ทันทีที่ปลายหางเรืองแสงของเธอสัมผัสถูกปลายหางของเขา สเปิร์มปันก็รู้สึกได้ถึงพลังอันซาบซ่านที่แผ่มาจากปลายหางไปจนถึงสุดยอดของศีรษะเหมือนกระแสไฟฟ้าที่ชาร์จเข้าไปยังขั้วแบตเตอรี่ยังไงยังงั้น

สเปิร์มปันไม่คิดว่าตนเองจะลุกขึ้นได้อย่างรวดเร็วและว่องไวเช่นนี้ เขาแทบจะกระโดดตัวลอยจากพื้นขึ้นมาได้ทันทีที่สัมผัสกับหางของสเปิร์มดอกไม้

“โอ้..ว..! อะไรกันเนี่ย เหมือนกำลังลอยได้” สเปิร์มปันอุทานอย่างตกตะลึง ร่างของเขาลอยขึ้นเหนือพื้นได้เหมือนกับที่สเปิร์มดอกไม้กำลังลอยอยู่ เขาเริ่มมั่นใจแล้วว่านี่เป็นชีวิตหลังความตายอย่างแน่นอน สเปิร์มดอกไม้และเขาคงตายไปแล้วและนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการไปเกิดใหม่ตามความเชื่อของเหล่าสเปิร์ม

“บินตามฉันมาเรื่อยๆ นะ เราจะออกไปจากที่นี่กัน” สเปิร์มดอกไม้กล่าวราวกับว่า การบินไปในอากาศไมได้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ

“เธอว่าไงนะ..บินเหรอ” สเปิร์มปันถามย้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แต่เมื่อลองสะบัดหางเบาๆ ในอากาศทีหนึ่งก็พบว่ามันน่าประหลาดที่ร่างของเขากระตุกไปข้างหน้าโดยไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายแตะถูกพื้นเลย และเมื่อลองตวัดหางไปมา ร่างของเขาก็ลอยไปข้างหน้าแล้ววกไปวนมาตามทิศทางที่เขาอยากให้เป็น

“โอ..มันเหลือเชื่อมาก” สเปิร์มปันทำตาลุกวาว ขณะที่สเปิร์มดอกไม้ยิ้มอย่างพอใจ

“ตามฉันมานะ” สเปิร์มดอกไม้กล่าวสั้นๆ ก่อนออกบินนำหน้าไป

“เดี๋ยว..เราจะไปที่ไหนกัน” สเปิร์มปันตะโกนไล่หลังไป แต่สเปิร์มดอกไม้มิได้ตอบกลับมา เธอชะลอตัวแล้วหันมาพยักหน้าให้ทีหนึ่งเป็นทำนองให้บินตามไป สเปิร์มปันเห็นว่าไม่มีทางเลือกอื่นจึงบินตามไป เขาพยายามที่จะสะบัดหางให้เร็วขึ้นเพื่อประกบถามให้ได้คำตอบ แต่ยิ่งเร่งความเร็วเท่าใด สเปิร์มดอกไม้ก็เหมือนรู้แกว เร่งความเร็วทิ้งห่างออกไปทุกที

สเปิร์มดอกไม้หันมายิ้มให้สเปิร์มปันเป็นระยะๆ เป็นทำนองยั่วยุและเชื้อเชิญให้ไล่ให้ทัน ร่างที่เรืองแสงของเธอเมื่อผ่านไปทางไหนก็ทำให้บริเวณรอบข้างสว่างไสว โพรงถ้ำที่เคยมืดมิดก็ถูกปลุกให้มีมีชีวิตชีวาขึ้นมาในบัดดล ผิวผนังโดยรอบต่างเบ่งตัวขึ้นอวดผิวพรรณอันอวบอูมราวกับมีเทศกาลประกวดประขันกันอยู่ น้ำเมือกสีใสหลั่งออกมาเคลือบผิวผนังจนเป็นมันงามวาววับประดุจเบาะหนังที่ผ่านการลงแว็กซ์มาเป็นอย่างดี

ระหว่างทางที่บินอยู่ สเปิร์มปันพยายามมองหาซากของเหล่าสเปิร์มที่เคยอยู่ในบ่อโคลนพิษและสเปิร์มสองตัวที่เขาลากไปนอนพิงไว้ข้างผนัง แต่ก็ไม่พบวี่แววเลยสักตัวจนกระทั่งถึงปากทางออกของปีกมดลูกก็ไม่พบอะไรที่เป็นที่สังเกตได้เลยว่าเขาเคยผ่านเส้นทางนี้มาก่อน
ไม่จำเพาะซากศพที่หายไปจนหมดสิ้น แม้แต่พังผืดและหยากไย่ริมผนังทั้งสองข้างก็ไม่ปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย

“พวกเขาเก็บกวาดจนเหี้ยนหมดเลยหรือ” สเปิร์มปันเฝ้าถามตัวเองถึงความเป็นไปได้ที่สเปิร์มอาสาสมัครเพียงไม่กี่ตัวจะทำงานได้อย่างรวดเร็วและหมดจดเพียงนี้

เมื่อผ่านออกมาปากทางด้านนอก อันเป็นบริเวณปากมดลูกและโพรงสู่ปากมดลูกอันกว้างใหญ่ไพศาล สเปิร์มปันก็มองไม่เห็นการไต่ตัวยั้วเยี้ยของสเปิร์มเลยสักตัวเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกวาดออกไปจากสายตาจนเหลือแต่ความสะอาดสะอ้าน แม้แต่บริเวณที่เขาทิ้งสเปิร์มดอกไม้ไว้กับศพของสเปิร์มแจกันและสเปิร์มโบโบ้ก็ไม่ปรากฏร่างของใครเหลืออยู่ทั้งสิ้น

สเปิร์มปันนึกเอะใจ..
นี่อาจไม่ใช่ร่างของมนุษย์ที่เขาคุ้นเคยมาก่อน หรือมิฉะนั้น เขาก็หมดสตินานเกินไป นานพอที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือ.. จากสมรภูมิที่แสนสกปรกเป็นวิมานผ่านฟ้า จากเสียงร้องระงมเป็นเสียงแซ่ซ้องยินดีปรีดา

แต่จะเป็นอะไรก็สุดแท้แต่ ไม่สำคัญเท่ากับคำตอบของคำถามที่ว่า.. เขากำลังจะเดินทางไปไหนกัน?

ทั้งสองตัวบินผ่านโพรงมดลูกมาจนถึงปากทางเข้าโพรงที่เล็กและแคบลงกว่าเดิม สเปิร์มดอกไม้หยุดรออยู่ตรงปากทางนั้น

“ปัน.. จากนี้ไปเป็นทางเดียวที่เราจะออกไปสู่โลกภายนอกได้ โพรงเล็กๆ นี้แคบและเต็มไปด้วยอุปสรรคที่เธอไม่เคยประสบมาก่อน จงใช้ความสามารถของเธอบินผ่านออกไปโดยอย่าได้หยุดหรือยอมแพ้” สเปิร์มดอกไม้ย้ำเตือนด้วยความเป็นห่วง เป็นครั้งแรกที่สเปิร์มปันเห็นแววตาของความกังวลปรากฏขึ้นมา

สเปิร์มปันยังไม่ทันอ้าปากถามอะไร สเปิร์มดอกไม้ก็หันหลังกลับบินนำหน้าผ่านโพรงเล็กๆ แคบๆ เข้าไปก่อน เขาจึงบินกวดตามเข้าไปทันที

พอผ่านเข้าไปในโพรงที่เล็กและแคบนั้น ความมืดมิดก็ปกคลุมอีกครั้งหนึ่ง ต้องอาศัยแสงเรืองๆ ของสเปิร์มดอกไม้เป็นตะเกียงนำทางไปข้างหน้า
ผิวของผนังทั้งสองด้านภายในโพรงนี้ไม่มีส่วนไหนเลยที่ราบเรียบ ลักษณะเหมือนเอาผ้าที่เป็นรอยยับย่นมาบุเอาไว้ทั้งสองฝั่งตลอดแนว นอกจากนี้ยังมีอาการพะยับพะเยิบอยู่ตลอดเวลา พอบินผ่านไปตรงไหน ผนังของอุโมงค์ในแนวนั้นก็จะบีบเข้ามา ทั้งด้านซ้ายด้านขวาต่างบีบตัวเข้าหาสเปิร์มปันทั้งสิ้น ต้องอาศัยความเร็วบินผ่านออกไปให้ทันก่อนที่จะถูกจับตัวไว้ ทำให้มีหลายครั้งที่สเปิร์มปันบินชนเข้ากับผนังที่โอบล้อมเข้ามาจนร่างของเขาเซถลาไปอีกทาง แต่ก่อนที่จะร่วงลงถึงพื้นเขาก็สะบัดหางไปมาอย่างรวดเร็วจนสามารถถีบตัวเองให้ลอยขึ้นมาได้อย่างหวุดหวิด

“นี่กระมังที่เราต้องบินได้ หากให้เลื้อยไปตามพื้นมีหวังถูกหนีบจนแบนแต๊ดแต๋ไปแล้ว” สเปิร์มปันคิดอยู่ในใจ ทางเดียวที่จะผ่านพ้นผนังที่บีบรัดเข้ามาได้ทุกเมื่อเช่นนี้คือโบยบินอยู่ในอากาศเท่านั้น

สเปิร์มดอกไม้ไม่ได้ประสบปัญหาอย่างเดียวกัน เธอบินอย่างฉวัดเฉวียนโดยไม่ได้ชนถูกอะไรเลย ราวกับผนังเหล่านี้คุ้นเคยกับเธอเป็นอย่างดี แต่ต้องการสกัดสเปิร์มปันเอาไว้เท่านั้น

ยิ่งลึกเข้าไปเท่าใด อากาศก็ยิ่งหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็แลเห็นแสงสว่างที่ปลายทางหลุดรอดเข้ามาขนาดเท่ารูเข็ม แสงสว่างนี้ค่อยๆ แผ่รัศมีอันเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสเปิร์มปันเคลื่อนตัวเข้าไปหา ในขณะที่แสงเรืองรองที่เคลือบตัวของสเปิร์มดอกไม้กลับค่อยๆ จางหายไปทีละน้อย

ในที่สุด สเปิร์มปันก็มองไม่เห็นแสงนำทางของสเปิร์มดอกไม้อีกต่อไป ข้างหน้าของเขาเป็นแสงสว่างสีขาวโพลนดวงใหญ่ที่ขยายขึ้นมาจนรู้สึกแสบตาไปหมด

สเปิร์มปันต้องบินช้าลงเนื่องจากมองไม่เห็นทางข้างหน้าและนั่นทำให้แนวผนังที่บีบรัดเข้ามาพร้อมๆ กันจับตัวของเขาเอาไว้ได้ในที่สุด

“ดอกไม้.. เธออยู่ไหน” สเปิร์มปันตกใจรีบร้องหาเพื่อนของเขา แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา เข้าใจว่าสเปิร์มดอกไม้คงบินผ่านแสงสว่างออกไปได้แล้ว เธออาจไม่รู้ว่าเขาติดอยู่ตรงนี้ แล้วเขาจะหาทางสื่อสารให้เธอทราบได้อย่างไรในเมื่อเสียงกู่ร้องของเขาดังไม่พอที่จะไปถึงปากทางออก

สเปิร์มปันพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิตแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการอันกระชับของผนังทุกด้านได้ ดูเหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกรัดแน่นขึ้นไปอีก แน่นจนเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดที่หน้าอกและหายใจได้ลำบากมากขึ้นทุกขณะ

ทันใดนั้นเอง..ก็มีเสียงเหมือนโลหะกระทบกันดังกุ๊กกิ๊กๆ ที่ด้านหน้าบริเวณทางออก มีบางสิ่งบางอย่างกำลังรุกล้ำเข้ามาข้างในนี้ เสียงของมันเหมือนรอยย่ำเท้าลงบนปุยหิมะอันหนานุ่ม ซึ่งไม่ใช่สเปิร์มดอกไม้อย่างแน่นอน สเปิร์มปันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจ้าสิ่งที่ล่วงล้ำเข้ามานั้นทำให้ผนังที่โอบรัดรอบตัวเขาอยู่คลายตัวออกอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าตนเองได้รับอิสรภาพอีกครั้งหนึ่งแล้ว จึงรีบสะบัดหางไปมาอย่างเต็มกำลัง

มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแล้ว ซึ่งสเปิร์มปันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรและเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

ปรากฏว่าหางอันเรียวยาวของเขาหายไป ที่สะบัดไปมาอยู่นั้นกลายเป็นขาที่มีสองง่าม ปลายข้อเท้าสะบัดได้เหมือนหางของปลาแต่ไม่อาจทำให้เขาโบยบินได้อีก สเปิร์มปันใช้มันทั้งสองข้างถีบตัวไปข้างหน้าเต็มกำลัง แสงสว่างสีขาวโพลนกำลังดูดร่างของเขาเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

“โอ้..ช่วย..ย..ด้วย..ย..ย..ย......แง้..แง้..อุแว้..แว้..อุแว้..!!!”

สเปิร์มปันรู้สึกแปลกใจที่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขาเปลี่ยนไป เขาร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษาเช่นนั้นได้อย่างไรกัน และเขาไม่ได้กำลังลอยอยู่ในอากาศอีกต่อไปแล้ว มีใครคนหนึ่งกำลังประคองเขาอยู่ในอุ้งมือขนาดยักษ์เพื่อไม่ให้เขาร่วงลงสู่เบื้องล่าง ใครคนนั้นกำลังจ้องมองลงมาด้วยสายตาอันแปลกประหลาดแล้วส่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้น

“อ่า..เป็นเด็กผู้ชายจ้ะ”

มีเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจจากผู้ที่อยู่รอบๆ ข้างดังตามขึ้นมา แต่แล้ว..จู่ๆ ก็มีเสียงร้องอย่างตื่นเต้นออกมาอีกครั้ง..

“คุณหมอคะ..! ในนี้ยังมีอีกคน.. ในนี้ยังมีอีกคน..!”


**************จบบทที่ 22**************


โดย: *bonny วันที่: 7 มีนาคม 2559 เวลา:7:44:19 น.  

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:16:18:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

*bonny
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add *bonny's blog to your web]