การสื่อสารแบบพิเศษที่นำไปใช้อธิบายธรรมชาติบางอย่างที่ยังลึกลับอยู่ได้
 //pantip.com/topic/33697354

ในธรรมชาติมีการสื่อสารกันตลอดเวลา แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร มีการส่งสัญญาณทั้งแบบทางตรงๆ ทางอ้อม แล้วก็ทางพิเศษชนิดที่คาดไม่ถึงหรือจะไม่เรียกว่ามีการสื่อสารก็ได้ 

อาทิเช่น เสปิม์กับไข่ ถ้ามองกันแบบกำปั้นทุบดิน เราจะเป็นว่าเสปิม์อยู่ในถุงอัณฑะ และไข่เองก็อยู่ในปีกมดลูก ผู้สังเกตการณ์คนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักร่างกายมนุษย์คงจะฉงนไม่น้อยว่าทั้งสองสิ่งนั้นมันนัดเจอกันได้อย่างไร

มันมีการสื่อสารกันอย่างไรถึงได้นัดเจอกันได้เป๊ะพอดี โทรศัพท์ก็ไม่มี แผนที่ก็ไม่ใช้ ตาก็ไม่มี หูก็ไม่มี ส่วนไข่เองก็เดินทางมาที่ปีกมดลูกแบบทุลักทุเล

จริงๆแล้วทั้งสองไม่ได้สื่อสารกันแต่รู้กันและดำเนินการไปเช่นนั้น เพราะอะไรบางอย่างในระบบใหญ่กว่าบางอย่าง (ซึ่งตรงนี้ต่อไปจะถูกสังเคราะห์กลายเป็นทฤษฎีใหม่อันหนึ่ง)

เหมือนๆกับเล่นกล เป็นทริกพิเศษ จนถ้าเราตัวเล็กเท่ากับสเปริม์หรือเม็ดเลือดเราจะสงสัยว่าเฮ้ยทำไมมันเป็นกันอย่างนั้นได้

นอกจากสเปิม์กับไข่ยังมีการสื่อสารอย่างนี้มากมาย ที่ชัดเจนส่วนมากจะเป็นระบบที่มันเล็กจนเราเห็นได้ทันชั่วชีวิตของมัน เช่น เม็ดเลือด การทำงานของสารเคมีต่างๆในร่างกาย สัตว์น้อยใหญ่ แมลง ฯลฯ 

การที่ระบบเล็กๆทำงานเพื่อระบบใหญ่ๆตรงนี้คือหนึ่งในทฤษฎีใหม่ที่น่าจะมีการคุ้ยเขี่ยต่อไป ลักษณะความเชื่อในเรื่องพระเจ้าก็เช่นกัน เขาเชื่อว่าธรรมชาติดำเนินไปภายใต้ระบบใหญ่เราบางอย่างอยู่ 

การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าก็มีในลักษณะนี้ เปรียบเสมือนธรรมชาติของโลกนั้นมีเมล็ดที่งอกออกมาทุกๆคาบเวลาที่ยาวนานมากๆ ธรรมชาติที่อยู่ภายใต้ระบบใหญ่อีกอันหนึ่ง

ชะตากรรม โชคชะตา หลายๆครั้งก็เสมือนกับเป็นรหัสทางกรรมพันธุ์ของเหตุการณ์ คือ เหตุการณ์ก็มีลักษณะใกล้เคียงกับการที่ดีเอ็นเอเก็บรหัสอนาคตของตนเองไว้ (คือเอาลักษณะที่ดีเอ็นเอเข้ารหัสแล้วอ่านรหัสออกมา ในกรณีนี้คือเพื่อสร้างมนุษย์ที่เป็นระบบใหญ่กว่าดีเอ็นเอหลายล้านเท่าตัว ความที่มันทำอย่างนี้ได้ เทคนิคเดียวกันกับเหตุการณ์ก็ทำได้)

ความรู้ .. บางทีที่มาจากตาหูจมูก ก็อย่างหนึ่ง ที่รู้ในแง่แบบพิเศษอย่างที่เม็ดเลือดเขารู้แล้วทำหน้าที่ของเม็ดเลือด ซึ่งเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งของธรรมชาติก็เช่นกัน หลายๆทีเรารู้จากการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าเลย แต่มันมาจากระบบ จากสัญชาติญาณ .. บางทีจะเรียกว่า six sense ก็น่าจะกระเดียดไปทางนั้นได้

การทำซ้ำ การเกิดซ้ำ จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกดึงเข้ามา

... ในเหตุการณ์สำคัญของพุทธศาสนา อาทิเช่น มาฆบูชา .. ในยุคสมณะโคดม มี 1250 รูป ที่ใช้พระจันทร์เต็มดวงเป็นรหัสในการเข้าไปประชุมพร้อมกันเป็นต้น (ในกัปท์อื่นๆ พระพุทธเจ้าอื่นๆ ก็มีเรื่องอยู่คล้ายๆกัน แต่มีสาวกมาประชุมไม่เท่ากันเป็นต้น) ... เรื่องอย่างนี้ มันมี pattern คล้ายๆกับธรรมชาติของร่างกาย ของต้นไม้ ของเมล็ด

เมล็ดไม่เคยมี Line Internet ... แต่ทำตัวเสมือนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปเพื่อเติบโตขึ้นเป็นพืช 

เหตุการณ์อื่นๆก็สามารถ copy pattern ที่มีอยู่ในธรรมชาติ อาทิเช่นของเมล็ด 

การที่คนจะไม่รู้ จะอ้าปากหวอว่า เมล็ดมันรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องโตเป็นพืชอะไร มันก็ประมาณเดียวกับที่มองธรรมชาติไม่ขาด แคบ เฉพาะหน้า และอิงเอากับอายตนะทางธรรมชาติที่จำกัดๆ



Create Date : 24 พฤษภาคม 2558
Last Update : 24 พฤษภาคม 2558 23:35:56 น.
Counter : 1544 Pageviews.

1 comments
  
น่าสนใจครับ
โดย: Sutthichai (ขอเปลี่ยนเป็นแบบหมายเลขครับ ) วันที่: 30 พฤษภาคม 2558 เวลา:6:55:30 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

HNAP
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พฤษภาคม 2558

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
25
26
27
28
29
30
31