Group Blog All Blog
|
เที่ยวสวิสเองง๊ายง่ายวันที่13แซงต์กัลเลนและแอพเพ็นเซล สวัสดีค่ะ การเดินทางมาถึงวันที่ 13 ของทริปเที่ยวสวิสเองง๊ายง่าย 15 วัน ง๊ายง่ายเพราะใช้แอพพลิเคชั่น Google Map ตลอดการเดินทางค่ะ ก่อนมาแทบไม่ได้ทำการบ้านอะไร แค่วางแผนคร่าวๆให้เข้ากับที่พักและที่อยากไปและไปแบบช้าๆค่ะ วันที่ 13 - Lucern - St.Gallen - Appenzell - Lucern 4/11/2558 ค่อนข้างเหมือนกับทุกเช้าของการทำอาชีพนักท่องเที่ยวเป็นเวลา 15 วันคือเช้าตื่นขึ้นมาจัดการภารกิจส่วนตัวเสร็จก็ต้องรีบออกไปเที่ยว ระหว่างวันอาจต้องยุ่งนิดหนึ่งกับการหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ตอนเย็นอาจเครียดหน่อยว่าแล้วพรุ่งนี้ แต่ละวันต้องคอยคิดว่าจะหาอะไรอร่อยๆกินดี แหม่...ชีวิตนักท่องเที่ยวนี่ลำบากฝุดๆเลยค่ะ เอิ๊ก เอิ๊ก เรานั่งรถขึ้นไปทางเหนือเฉียงไปทางตะวันออกจากลูเซิรน์โดยต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่ซูริก จากลูเซิรน์ไปเมืองแซงต์กัลเลนก็ร่วมสองชั่วโมงนิดๆค่ะ เมืองแซงต์กัลเลน (St.Gallen) เป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านศาสนา การศึกษา เศรษฐกิจตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ
ออกจากสถานีรถไฟเดินไปตามถนนหลักไม่นานก็จะเจอบริเวณ Stadtlounge สีแดงเด่นสดใสดั่งกับปูพรมสีแดงไว้ แต่จริงๆเป็นลาดยางน่ะค่ะ บางมุมจัดแสดงเหมือนใช้เป็นที่นัดพบกัน ย่าน Old town ของเมืองแซงต์กัลเลนเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม คาเฟ่ ร้านอาหาร ในบรรยากาศแบบเมืองเก่า ย่านเมืองเก่านี้หลายโซนจัดเป็นถนนคนเดินค่ะ คือมีแต่คนเดินห้ามรถยนต์ผ่าน เดินช้อปปิ้งวินโดว์กันเพลินไปเลย ป้ายเหล็กดัดหน้าร้านแบบนี้ของแต่ละร้านแบบนี้ก็สวยงามดีนะคะ ดูกันเพลินเลย เคยเห็นป้ายแบบนี้เยอะหน่อยก็มาทางแถบยุโรปตะวันออก อีกอย่างที่น่าดูน่าชมภายในย่านเมืองเก่านี้ก็คือระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารบางห้องค่ะ ดูเผินๆก็แค่แปลกตา เดินเข้าไปส่องดูใกล้ๆ ฮาอะ เออนะ...ช่างคิด ช่างประดิษฐ์จริงๆ และดูหน้าตาสิคะ ให้อารมณ์ขนาดไหน อันนี้ป้าไม่ทราบว่าจะไปเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์หรือเรื่องเล่าอะไรของประเทศสวิสเขาหรือเปล่านะคะ ชอบค่ะ...ถ่ายมาฝากอีกอัน
ด้วยความเป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงแม้จะเดินไปตามถนนตรอกซอกซอยก็ไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะเชื่อมั่นในความปลอดภัยในระดับหนึ่ง The old town of St.Gallen มหาวิหารแซงต์กัลเลน (Stiftskirche St.Gallen)ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยตั้งชื่อตามนักบวชชาวไอริชชื่อGallus ที่ได้สร้างโบสถ์ณ.ที่นี้เมื่อปีค.ศ.612 วันนี้แดดแจ่มใสมากค่ะ หลายคนออกมารับแดดด้วยการอ่านหนังสือบ้าง ปิคนิคบ้าง
มีลักษณะเป็นหอคอยคู่สูงเด่นเป็นตระหง่านสไตล์บาร็อค
ด้านนอกว่าสวยงามอลังการแล้ว ด้านในยิ่งสวยงามไม่แพ้มหาวิหารอื่นใดๆในโลกค่ะ
ออกจากมหาวิหารแล้วเราเดินไปยังอาคารด้านหลังเพื่อไปห้องสมุดโบราณ
ห้องสมุด Abbey (Abbey Library) ห้องสมุดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในโลกเป็นห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในสวิสและสวยงามมากๆค่ะ เป็นห้องที่สวยงามที่สุดสำหรับเราเลยล่ะ เมื่อมาถึงเราก็เอาสวิสพาสไปแลกเป็นตั๋วเข้าก่อนค่ะ ตรงที่เขาขายโปสการ์ดนั่นแหละค่ะ อดใจไม่ไหวต้องซื้อโปสการ์ดส่งไปถึงเพื่อนคนหนึ่งซึ่งหวังว่าเธอจะชอบ และต้องเอาสัมภาระต่างๆไปเก็บไว้ในล้อคเกอร์ที่อยู่ห้องข้างๆก่อนนะคะ เพราะว่าด้านในห้ามถ่ายภาพ ก่อนเข้าก็ต้องถอดรองเท้าเปลี่ยนเป็นสลิปเปอร์ เมื่อเดินเข้าไปเหมือนกลับไปสู่อีกโลกหนึ่ง หนังสือบางเล่มอายุเป็นพันปี เราน่ะขนลุกสุดๆเลยค่ะ ออกจากห้องสมุดแล้วก็กดลิฟท์ลงไปข้างล่างชั้นใต้ดิน (อย่าลืมกลับไปเอาของในล้อคเกอร์นะคะ) ข้างล่างจะมีมิวเซียมที่จัดแสดงประวัติของมหาวิหาร มีวัตถุโบราณและอื่นๆค่ะ
อาคารบ้านเรือนเก่าที่สวยงามของเมืองแซงต์กัลเลนค่ะ เดินทางต่อไปอีก 50 นาทีเพื่อจะไปเมืองเล็กๆน่ารักอีกเมืองหนึ่งเมือง Appenzell เมืองนี้เป็นเมืองน่ารักตั้งอยู่เนินเขา อาคารบ้านเรือนในตัวเมืองเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบเมืองเก่า สีสันที่อยู่บนกำแพงเป็นอีกสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ เขาดูแลเอาไว้เป็นจุดขายนักท่องเที่ยวได้อย่างดี
ก่อนมาตั้งใจจะมาสอยกระดิ่งวัวกลับไปสักอัน ติดใจในเสียงก้องกังวานตั้งแต่มาสวิสกับทัวร์ครั้งแรก วัวที่บ้านจะต้องเท่มากๆ ฮ่าฮ่า แต่สู้ราคาไม่ไหวค่ะ อันที่ชอบอันใหญ่ๆแพงจัง อันเล็กๆก็ไม่ถูกใจ
เดินไปจุดหมายหลักของเราดีกว่า เอิ๊ก เอิ๊ก Appenzell Bier Museum ข้างนอกดูเงียบๆเหมือนจะไม่ใช่ ลังเลเล็กน้อย มาผิดที่หรือป่าวหว่า ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆเลย พอเดินเข้าไป อะ..ไม่ผิดที่แน่ พนักงานให้การต้อนรับกะเหรี่ยงไทย 2 คนเป็นอย่างดีค่ะ ให้ชุดหูฟังมา ก็ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้างฮ่าฮ่า เดินดูเอาตามสบายเลย เป็นส่วนจัดแสดงไม่ใหญ่มาก (ออกไปทางแบบสารพัดมิวเซียมในญี่ปุ่น ประมาณนั้นล่ะค่ะ) จัดแสดงหม้อต้มเบียร์หรือเขาเรียกหม้อหมักเบียร์นะ มีจัดแสดงส่วนผสมนานาชนิดที่ใช้ทำเบียร์ ถังนี่ก็คล้ายๆกับถังทองแดงที่ร้าน Est33 บ้านเรา ที่ญี่ปุ่นเคยไปที่โรงเบียร์โอตารุ ที่ไหนอีกจำไม่ได้ล่ะค่ะ
ที่นี่มีเบียร์หลากชนิดมาก เลือกไม่ถูกเลยค่ะ เลยขอให้คุณพนักงานคนเดิมช่วยแนะนำให้ทีเถอะค่ะ อันไหนขายดีสุดคะ อะไรประมาณนี้ แถมเราไปปล่อยไก่อีกต่างหากซื้อเสร็จบอกคุณเธอมีที่เปิดไหม ช่วยเปิดให้ทีเถอะค่ะ หล่อนหมุนคลิกเดียว เอิ๊ก เอิ๊ก เรางี้ขำกร๊ากเลย บอกขอโทษนะบ้านฉันไม่สามารถเปิดแบบนี้ได้ ฮ่าฮ่า แหม่ แหม่..อากาศเย็นๆ ดื่มเบียร์อร่อย ฟินน์สิคะ (แก่แล้ว เอ๊ยโตแล้ว ดื่มได้) ภาพนี้ถ่ายมาฝากค่ะ เผื่อใครสนใจรายละเอียดมากกว่านี้ (จะชัดพอไหมเอ่ย) ฟินน์อีกรอบค่ะ หลังจากที่ผ่านมาจะกินแต่สลัดกับไก่ย่างที่ Coop มาหลายมื้อ มื้อค่ำวันนี้เป็นมื้อพิเศษได้ทานอาหารที่ร้านอิตาเลี่ยนร้านหนึ่งที่ลูเซิรน์ (อยู่ไม่ไกลนักจาก Chapel Bridge) อร่อยมากๆค่ะ ติดใจจนอีกวันขอกลับไปกินอีกรอบ ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ร่วมติดตามนะคะ พบกันใหม่บล๊อกหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
|
hellojaae
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] เขียนบล๊อกเพราะอยากเขียน อยากแบ่งปัน ใช้วิธีจิ้มดีดจึงมีผิดๆถูกๆ (แม้จะพยายามตรวจทวนทุกครั้ง) เป็นบล๊อกอนุรักษ์รูปแบบเดิมๆคือเขียนไล่เรียงลงมา เพราะทำรูปแบบอื่นไม่เป็น 555 ยังเขียนต่อไปเพราะเห็นว่าก็ยังมีคนหลงๆเข้ามาอ่าน 555 สวัสดีและขอขอบคุณทุกคนค่ะ Friends Blog
Link |