5 ผลข้างเคียงร้ายแรงจากการใช้สมาร์ทโฟนที่คุณควรทราบ คุณมองมันอยู่ตลอดเวลา เมื่อคุณไม่มีมันใกล้ๆตัวคุณจะรู้สึกกังวลและคุณต้องได้มันมา นี่คือทั้งหมดที่คุณคิด ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงสมาร์ทโฟนของคุณ ความหลงใหลต่อแกดเจ็ตมือถือกลายเป็นตำนานไปแล้ว ทุกวันนี้คนหนึ่งในห้าคนทั่วโลกเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน และนี่คือโรคใหม่ที่เริ่มเกิดขึ้นในหมู่คนติดสมาร์ทโฟน
Text Claw ไม่ใช่ศัพท์ทางการแพทย์แต่ใช้อธิบายถึงอาการเกร็งข้อนิ้วและเจ็บกล้ามเนื้อจากการพิมพ์ข้อความอย่างต่อเนื่องรวมถึงการเล่นเกมจากสมาร์ทโฟนมากเกินไป อาการนี้อาจทำให้เกิดเอ็นอักเสบได้ เช่นเดียวกับอาการ Smartphone Elbow ใช้อธิบายอาการรู้สึกเสียบแปลบหรือชาตามนิ้วก้อยจนถึงข้อศกเป็นระยะเวลานาน หากคุณใช้สมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่องจนรู้สึกเจ็บหรือเมื่อยล้า ลองยืดเหยียดกล้ามเนื้อโดยวางโทรศัพท์ลง เหยียดเอวไปด้านหลังประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันแล้วก้มหน้าลง จากนั้นคลายกล้ามเนื้อข้อมือ หากอาการเจ็บมีขึ้นเป็นระยะเวลากว่าสัปดาห์แล้ว ไปพบแพทย์จะดีที่สุด
ก้มหน้ามองมือถือเป็นช่วงเวลาที่ทำร้ายกล้ามเนื้อคอและหลัง iPosture หรือ Text Neck เป็นเพียงวลีของแพทย์ที่ใช้อธิบายความตึงเครียดที่กล้ามเนื้อคอ จากการศึกษาในคนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักร พบ 84% ของผู้ที่มีอาการปวดหลังในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากการก้มโค้งมากกว่าปกติเพราะสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ การแก้ไขท่าทางของคุณสามารถบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่างและการจำกัดการใช้โทรศัพท์สามารถบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อคอ พยายามมองโทรศัพท์ตรงๆในด้านหน้า หลีกเลี่ยงที่จะมองก้มต่ำ
การจ้องมองที่ตัวอักษรเล็กๆในข้อความและการเลื่อนผ่านงทวิตเตอร์หลายสิบอันสามารถนำไปสู่การปวดตา ตาพร่าวิงเวียนศีรษะ และตาแห้ง รวมถึงมองเห็นภาพซ้อน ปวดกล้ามเนื้อคอและยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้อีกด้วย หากคุณรู้สึกไม่สบายตา ลองทำให้ขนาดตัวอักษรของโทรศัพท์ใหญ่ขึ้น มาร์ค โรเซ่นฟิลด์ OD, Ph.D. , บอกว่าผู้ใช้โทรศัพท์ควรพยายามที่จะถือโทรศัพท์ของพวกเขาห่างจากใบหน้าอย่างน้อย 16 นิ้ว และพักสายตาโดยการมองไกลๆจากหน้าจอเป็นช่วงสั้นและต้องอล่าลืมกระพริบตาด้วย
Nomophobia หรือก็คือ ความหวาดกลัวเมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือ จากการศึกษาคน 1,000 คนในสหราชอาณาจักร 66% ของประชากรกลัวการสูญเสียหรือต้องห่างจากโทรศัพท์ของพวกเขาไม่ว่าเวลาใดก็ตาม บางส่วนของอาการของ nomophobia รวมถึงอาการทางกายภาพ ความวิตกกังวล หรือความคิดเชิงลบหากคุณไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือของคุณได้ หมกมุ่นอยู่กับการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีโทรศัพท์อยู่กับตัวตลอดเวลา และกังวลเกี่ยวกับการทำมันหาย ที่น่าสนใจคือจากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการนี้มากกว่าผู้ชาย จากผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากต้องการบรรเทาอาการนี้ ใช้เทคนิคผ่อนคลายความกังวลทั่วไปเช่น โยคะ และการหายใจเข้าออกลึกๆ
ไม่! คุณไม่ได้รับข้อความใหม่หรอก อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยอินเดียนาพบว่า 89% ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในชั้นเรียนของเธอ หลอนว่าโทรศัพท์ของพวกเขาสั่นแม้ว่าที่จริงมันไม่ได้สั่นก็ตาม การศึกษายังพบว่านักเรียนที่มีอาการหลอนขึ้นอยู่กับการติดการได้รับข้อความและการแจ้งเตือนโซเชียลมีเดีย มักจะกังวลมากขึ้นเมื่อโทรศัพท์ของพวกเขาไม่ได้สั่นจริงๆ วิธีที่ดีที่จะตรวจสอบว่าคุณเกิดอาการเสพติดนี้หรือไม่ ลองปิดฟังก์ชั่นการสั่นสะเทือนและมุ่งมั่นที่จะการตรวจสอบโทรศัพท์ของคุณในช่วงเวลาที่กำหนด หรือไม่ก็ลองนำโทรศัพท์ไปใส่ไว้ในกระเป๋าถือของคุณแทน และพยายามที่จะต่อต้านอาการอยากตรวจสอบกระเป๋าของคุณทุกห้านาที มิฉะนั้นคุณอาจจะกลายเป็น Phantom Pocket Vibration Syndrome ได้ ขอบคุณที่มา //www.healthydeejung.com/ |
สมาชิกหมายเลข 1022049
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |