Healing home - healing at home
 
สาส์นจากนายกแพทยสภาถึงสมาชิก (ไม่ได้เป็นหมอก็อ่านได้นะครับ จะได้เข้าใจแพทย์มากขึ้น)

ข้อความเหล่านี้ เป็นข้อความของ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภานะครับ ถ้าคำไหนมันเป็นศัพท์เฉพาะจะแปลในวงเล็บไว้ให้ ที่เอามาให้เพื่อน ๆ อ่าน หวังว่าจะได้เข้าใจในแง่วิชาการทางการแพทย์มากขึ้น เพราะบางครั้งสื่อรวมทั้งผู้บริหารที่ไม่เข้าใจการทำงาน ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน (เน้นอีกครั้งไม่ได้ออกมาปกป้องพวกเดียวกันนะครับ อ.สมศักดิ์มีความเห็นเป็นกลางที่สุดแล้ว)


สวัสดีปีใหม่สมาชิกแพทยสภาทุกท่าน

ในช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่มีข่าวเกี่ยวกับแพทย์ในสื่อบ่อยมาก สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทราบรายละเอียด ผมจะขอสรุปข้อเท็จจริงไห้ทราบ

เรื่องที่ 1 เด็กอายุหนึ่งเดือนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เข็มที่สองเมื่ออายุ หนึ่งเดือนเมื่อตอนเย็นแล้วพบว่าเสียชีวิตตอนเช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่นอนอยู่ รัฐมนตรีสั่งปิดคลีนิก แต่เมื่อตรวจแล้วคลินิกทำถูกต้องตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ถ้าสั่งปิดไม่มีกฎหมายรองรับ กระทรวงอาจถูกฟ้องศาลปกครอง เลยได้ขอร้องให้แพทย์ช่วยปิดคลินิกเองชั่วคราวเพื่อไม่ให้บางคนเสียหน้า ปัจจุบันเปิดทำการปรกติแล้ว

ข้อเท็จจริง วัคซีนที่ใช้ฉีดให้เด็กคนนั้นได้ฉีดให้กับเด็กสองคน อีกคนปรกติไม่มีปัญหา ผลการตรวจศพพบว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน เด็กตายด้วยโรค Sudden Infant Death Syndrome (SIDS) หรือ Sudden Unexpected Death in Infancy (SUDI) ตรงตำแหน่งที่ฉีดวัคซีนไม่มีอาการบวมหรือแม้แต่เลือดออก โรคSIDS นี้พบในเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 1 ปี แต่ทีพบบ่อยสุดคืออายุ 1 ถึง 4 เดือน ซึ่งเป็นอายุที่เด็กเริ่มฉีดวัคซีนพอดี ถ้าบังเอิญเกิดหลังวันที่ไปพบแพทย์ผู้ป่วยก็จะโทษแพทย์ทันที Institute of Medicine ของสหรัฐได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดและได้ตีพิมพ์หนังสือ เรื่อง Immunization Safety Review: Vaccinations and Sudden Unexpected Death in Infancy ในปี พ.ศ. 2546 สรุปว่าไม่เกี่ยวกัน ในสหรัฐฯเคยพบโรคSIDS นี้ประมาณ 5000-6000 ตนต่อปี ปัจจุบันได้แนะนำให้เด็กนอนหงาย ไม่ให้นอนคว่ำ พบว่าอุบัติการณ์ลดลงเหลือ 2200 คนต่อปี

เรื่องที่ 2 เด็กอายุ 1 ปี 9 เดือน มีไข้มาสองวันมารดาซื้อยาลดไข้ให้กินเองอาการไม่ดีขึ้น จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลของรัฐในตอนเช้า เวลา 8.51 น. ผู้ป่วยมีไข้สูง พยาบาลได้ให้ยาลดไข้และเช็ดตัวให้ แพทย์ได้ให้ amoxy-clavulanic acid, benadryl expectorant และ paracetamol

ในตอนเย็นเวลา 17.19 น. มารดาได้พาเด็กกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลซ้ำเนื่องจากไข้ยังไม่ลดพบแพทย์คนที่ส อง แพทย์ตรวจไม่พบสิ่งผิดปรกตินอกจากไข้สูงและมี small VSD (ventricular septal defect หรือผนังกั้นห้องหัวใจห้องล่างรั่ว) ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีภาวะขาดน้ำ ไม่มีอาการชัก ไม่มีอาการหอบ แพทย์ได้ตรวจเลือด พบ wbc 7300 เกล็ดเลือด 297,000 cu.mm ลักษณะเหมือนการติดเชื้อไวรัส เนื่องจากผู้ป่วยมีบ้านอยู่ใกล้โรงพยาบาล แพทย์จึงให้ยาแก้อาเจียนและให้กินยาต่อและแนะนำให้กลับมาใหม่ถ้าอาการไม่ดีข ึ้น

หลังจากที่แพทย์ตรวจแล้วขณะที่รอยาผู้ป่วยมีอาการตาเหลือก ศรีษะและลำตัวแอ่นจากอาการชัก แต่มารดาเข้าใจว่าเป็นอาการตกใจ เลยไม่ได้เอากลับไปให้แพทย์ดูซ้ำ ถ้าแพทย์ทราบว่าชักแล้วไม่รับไว้ในโรงพยาบาลน่าจะเป็นความผิดของแพทย์ แต่มารดาผู้ป่วยไม่ได้แจ้งแพทย์แถมนำเด็กกลับไปบ้าน ไปชักต่อที่บ้านโดยไม่ทราบว่าบุตรชัก มารดาเข้าใจผิดว่าอาการชักคืออาการหมดสติ บิดาเด็กมาพบตอนค่ำพบเด็กมีอาการเกร็งมากจึงนำไปโรงพยาบาลเอกชน ได้รับยากันชัก

ต่อมาผู้ป่วยหยุดหายใจ ทำ CT scan (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง) พบสมองบวมทั่วไป ผู้ป่วยมีอาการเลวลงอย่างรวดเร็ว จนถึงอาการสมองตายในเวลา 72 ชั่วโมง ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน ผลการเพาะแบคทีเรียไม่พบเชื้อ ผู้ป่วยมี ไข้สูง อาการซึม ชัก hypotonia, hyperglycemia และ มี supraventricular tachycardia มี heart rate ขึ้นไปถึง 230/นาที เป็นระยะๆ มีอาการหอบอาการทีกล่าวมานี้ เป็นอาการของ brain stem encephalitis (ก้านสมองอักเสบ)ที่พบใน enterovirus 71 ผลการตรวจศพพบมีสมองบวมมาก แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจไม่ได้ตรวจ brain stem เนื่องจากสมองส่วนนั้น เละแล้ว และไม่ได้ส่งไปทำ PCR หา enterovirus โรคนี้มีรายงานในไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร ส่วนประเทศไทยก็เคยพบแต่ไม่ได้ครวจหาเชื้อไวรัส

เรื่องที่สาม ผู้ป่วยอายุ 35 ปีมีบุตรตายในครรภ์ ญาติต้องการให้ผ่าเอาเด็กออก อย่างที่ทราบกันดีในวงการแพทย์ว่าร้อยละ 80 ของเด็กที่ตายจะคลอดออกมาเองในเวลา 2 สัปดาห์ ถ้าปากมดลูกเปิดก็ให้ยากระตุ้นมดลูกให้คลอดได้ ส่วนเรื่องผ่าคลอดโดยทั่วไปเราเอาเป็นหนทางสุดท้าย ในรายนี้ขณะที่กระตุ้นให้เกิดการคลอดผู้ป่วยเกิดอาการของ amniotic emboli (น้ำคร่ำเข้าสู่กระแสเลือด แล้วไปอุดตามเส้นเลือดในที่ต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ปอด สมอง) เสียชีวิตปุบปับ

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ มารดาอายุเกิน 30 ปี มีเด็กตายในครรถ์ มดลูกบีบตัวแรง ผลการตรวจศพ พบว่ามีเลือดออกที่สมองซีกซ้าย มีเลือดออกบริเวณผิวตับจำนวนมากและมีเลือดในช่องท้องประมาณ 2000 มล. มดลูกไม่ได้แตก หัวใจข้างขวาโต การตรวจพบเข้าได้กับ amniotic emboli แต่ถ้าจะให้แน่ต้องตรวจดูปอดด้วยกล้องจุลทรรศ์ amniotic emboli ที่มีอาการรุนแรงรักษาไม่ได้ ตายทุกราย

เรื่องที่สี่ ผู้ป่วยชายอายุ 34 ปี ไปเที่ยวปีใหม่แล้วเกิดทะเลาะวิวาท ผู้ป่วยรู้สึกเสียวแปลบ มีเลือดออกที่อกด้านซ้าย ได้ไปที่โรงพยาบาลชุมชน 30 เตียงเวลาตี 2 พยาบาลได้ตรวจดูแผล พบว่ามีแผลถูกของมีคมขนาดกว้าง 2 ซม ลึก 1 ซม เลือดหยุดแล้ว ผู้ป่วยเดินได้ รู้สึกตัว มีกลิ่นเหล้า พยาบาลได้เย็บแผลให้ พยาบาลได้รายงานแพทย์หญิงใช้ทุนปี 2 .ให้ทราบแพทย์ได้แนะนำให้กลับมาถ้าอาการไม่ดีขึ้น อีกสองวันต่อมาผู้ป่วยมีอาการเจ็บที่แผลมากขึงไปรักษาอีกโรงพยาบาล เอกเรย์พบมีดหักฝังอยู่ในกล้ามเนื้อ หน้าอก ได้ส่งต่อให้โรงพยาบาลศูนย์ผ่าเอามีดออก ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ในรายนี้ผู้ป่วยก็ไม่ทราบว่าถูกแทง พยาบาลตรวจแผลไม่พบมีดเพราะกล้ามเนื้อหดปิด ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีมีดหักอยู่ในกล้ามเนื้อ

ปัญหาที่เป็นข่าวบ่อยในระยะนี้เพราะเป็นเรื่องกระแส มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและมีคนยุ แพทย์เราจะต้องปรับปรุงเรื่องการติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ต้องรีบแจ้งและอธิบาย อย่าหนีปัญหา มีการบันทึกเวชระเบียนมากขึ้น โรงพยาบาลจะต้องเข้ามาช่วยแพทย์ จะต้องให้ประชาชนมีความรู้ดีขึ้น ที่ผ่านมามีช่องว่างระหว่างความรู้ของแพทย์และประชาชนส่วนใหญ่ต่อนข้างมาก ประชาชนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจ และชอบโทษคนอื่น จะต้องปรามสื่อที่ลงข่าวโดยฟังความข้างเดียว ในต่างประเทศไม่มีการลงข่าวเรื่องการรักษาพยาบาลในหนังสือพิมพ์

แพทยสภากำลังดำเนินการเรื่องการประกาศข้อเท็จจริงทางการแพทย์ และกำลังหาทางแก้กฎหมายอยู่


Create Date : 11 มกราคม 2549
Last Update : 11 มกราคม 2549 14:16:51 น. 3 comments
Counter : 578 Pageviews.  
 
 
 
 
โอวว อันนี้วิชาการมากเลยค่ะ

อ่านแล้วเริ่มงง -_-'
 
 

โดย: นมัสเต วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:16:50:22 น.  

 
 
 
สื่อมวลชนเอาอะไรไปเขียนเนี่ย
 
 

โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:17:55:16 น.  

 
 
 
งงเหรอครับ... งั้นสรุปให้ฟังใหม่เป็นภาษาผมเองดีกว่า... (คืออ.สมศักดิ์เขียนให้หมออ่านอะคับ อ้อ ข้างล่างนี้ความเห็นส่วนตัวผมเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับ อ.สมศักดิ์

รายที่ 1 เด็กที่ฉีดวัคซีนที่คลินิคแล้ววันรุ่งขึ้นเสียชีวิต สรุปเด็กเป็นโรคที่เรียกว่าหลับแล้วเสียชีวิตไปเฉย ๆ ยังหาสาเหตุทางการแพทย์ไม่พบ (Sudden infant death syndrome - SIDS)

รายที่ 2 เด็กที่ไข้สูงแล้วไปหาหมอหมอไม่ให้นอน รพ. ที่รพ.สมุทรปราการอะครับ (ออกถึงลูกถึงคนด้วย) เด็กจริงๆชักด้วย แต่แม่ไม่รู้ ไม่ได้บอกหมอ แล้วก็กว่าจะรู้ว่าเด็กเป็นอะไรเด็กอาการค่อนข้างเพียบแล้ว (สรุปเด็กเป็นก้านสมองอักเสบ) อันนี้แม่เด็กก็มีส่วนผิดที่ไม่ได้สังเกตอาการลูกว่าเอออันนี้คือชัก กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลผิดที่ไม่ได้ให้ความรู้ประชาชนว่าอาการอะไรเป็นยังไง อาการอะไรควรพบแพทย์ แต่หมอไม่ผิดเพราะว่าอาการแบบนี้คือแค่มีไข้เนี่ยถ้าดูแล้วว่าแม่เด็กดูแลเด็กได้มักให้กลับบ้านอยู่แล้ว

เรื่องที่ 3 ผู้หญิงท้อง แล้วลูกตายในท้อง ญาติอยากให้หมอผ่าเอาเด็กออก ซึ่งไม่มีใครในโลกนี้เค้าทำกัน (ลองคิดว่าตัวเองเป็นแม่เด็กละกัน ลูกในท้องตาย เสียใจที่ลูกตายแล้วยังต้องมาเจ็บแผลที่ผ่าตัดอีกแทนที่จะให้คลอดตามปกติซึ่งไม่มีแผล) หมอก็เลยไม่ทำให้เหน็บยากระตุ้นการเปิดของปากมดลูกเพื่อให้เด็กที่ตายแล้วออกมาเอง

ทีนี้โชคร้าย (ถือเป็นโชคร้ายจริงๆนะครับเรื่อง amniotic fluid embolism เนี่ย) ที่น้ำคร่ำจากมดลูกเนี่ยมันหลุดเข้าไปในกระแสเลือด แล้วมันก็วิ่งไปอุดที่สมอง ปอด และอื่น ๆทั่วร่าง แม่เด็กเลยเสียชีวิต ปรากฎว่าญาติก็หาว่าไม่ยอมผ่าเอาเด็กออกแม่เด็กเลยเสียชีวิต ซึ่งมันไม่ใช่

อันนี้ปัญหาที่การสื่อสารระหว่างญาติ (ที่ไม่รู้เรื่อง) กับหมอ (ที่ไม่ค่อยอธิบาย)

เรื่องที่ 4 คนไข้โดนแทนหน้าอกมา ไป รพ. เค้าก็เย็บแผลตามปกติ แต่ปรากฎว่ามีดมันหักคาอยู่ในแผล แต่หน้าอกกล้ามเนื้อมันเยอะ มันก็บังไม่เห็นมีด โดยทั่วไปถ้าคนไข้ไม่ได้เหนื่อยหรือมีอาการแสดงว่าอวัยวะภายในบาดเจ็บอะไรก็เย็บแผล ฉีดวัคซีนบาดทะยัก ให้กลับบ้าน

แต่พอคนไข้สร่างเมา รู้สึกปวดแผล (วันรุ่งขึ้น) เลยไปอีก รพ.นึง อีกที่เค้าก็เอกซเรย์ดูก็เลยเห็นมีดอยู่ (ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเพราะมันฝังอยู่ลึก) ก็เลยส่งคนไข้ไปเปิดแผลเอามีดที่ตกค้างเหลือ

แต่อันนี้คนไข้ผิดเต็ม ๆ ตั้งแต่ไปทะเลาะกับคนอื่น (ให้เจ็บตัว) รพ.เค้าก็แนะนำว่าถ้ามีอาการผิดปกติอะไรก็กลับมา แต่ดันไปที่อื่น... แล้วจะร้องเรียนเอาอะไร

รพ.บางแห่งนอกเวลาจะไม่มีการส่งเอกซเรย์นะครับเพราะว่าไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำให้ ถ้าไม่ด่วนจริง (ด่วนกรณีนี้คือถึงแก่ชีวิต) อันนี้ผิดที่ระบบ ไปโทษท่านรัฐมนตรีหน้าปุ
 
 

โดย: cK วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:18:15:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

cK
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




almost all can abbreviate at your home
[Add cK's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com