ตาแดงร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้


อาการของโรคตาแดง       

  1. ตาขาวบวมแดง มีขี้ตามาก
  2. ระคายเคืองตา คันหรือเจ็บตา 
  3. ปวดตา
  4. สู้แสงไม่ได้ น้ำตาไหลมาก


โดยอาการเหล่านี้อาจเริ่มเป็นเพียงข้างเดียวก่อนแล้วจึงลุกลามไปอีกข้างหนึ่ง

การดูแลรักษาเบื้องต้น

  1. ถ้าน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา แนะนำให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำยาล้างตาเบื้องต้น สังเกตุอาการหลังจากนั้นว่า มีอาการที่บ่งบอกว่าอาจจะติดเชื้อหรือไม่ ตามที่ได้กล่าวข้างต้น ถ้าอาการ ไม่ดีขึ้นใน 1-2 วันควรรีบพบแพทย์

  2. หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เนื่องจากทำให้ตาบวมมากขึ้น และมือที่เปื้อนเป็นแหล่งที่ทำให้เชื้อโรคแพร่ กระจายมากขึ้น เมื่อไปจับสิ่งของต่างๆ

  3. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ควรเช็ดมือให้แห้ง

  4. ถ้าใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ควรถอดออก หยุดใส่โดยเปลี่ยนเป็นใส่แว่นแทน จนกว่าอาการดีขึ้น เนื่องจากจะมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนร่วมด้วยได้มาก

การรักษาโรคตาแดง
เมื่อได้รับการตรวจจากแพทย์แล้ว ผู้ป่วยมักจะได้รับยาหยอดตา อาจเป็นกลุ่มยาลดอาการระคายเคือง ลดการอักเสบในกรณีเกิดจากเชื้อไวรัส หรืออาจได้รับยาปฏิชีวนะชนิดหยอดร่วมด้วย ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจให้ยาแก้ปวด ลดคัน เพื่อบรรเทาอาการ อาการมักค่อยๆดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์

ถ้ามีขี้ตามาก แนะนำให้ใช้สำลีชุบน้ำบิดหมาดๆหรือกระดาษสะอาดซับ และทิ้งลงถังขยะ ไม่ควรใช้ผ้าเช็ด เนื่องจากเชื้อโรคจะสะสมในผ้าได้และแพร่กระจายได้มากกว่า ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ อาจใส่แว่นกันแดดเนื่องจากเมื่อโดนแสงอาจมีอาการระคายเคืองมากขึ้นไม่ควรใช้ผ้าปิดตาเพราะจะทำให้ติดเชื้ออื่นร่วมด้วยได้มาก ควรหยุดพักงาน หรือหยุดเรียนจนกว่าอาการดีขึ้นเนื่องจากติดต่อง่ายมาก

ถ้ามีอาการ สู้แสงไม่ได้ ตามัวลง หรือขี้ตามากขึ้น อาจมีภาวะแทรกซ้อนเช่นมีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย
ควรรีบกลับไปพบแพทย์

การป้องกันโรคตาแดง

ทำได้โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ฝุ่นละอองหรือน้ำเข้าตา เด็กๆ ไม่ควรเล่นน้ำที่ท่วมขังอยู่หากฝุ่นละอองหรือน้ำเข้าตา ควรรีบล้างด้วยน้ำสะอาด หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงการขยี้ตา หากเป็นไปได้ควรแยกผู้ป่วยจากสมาชิกอื่นในครอบครัว เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค

อาการตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น

  • สิ่งแปลกปลอมเข้าตา ทำให้มีอาการเคืองตา ตาแดงขึ้นทันที ภายหลังมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา เช่น ผงฝุ่น เศษเหล็ก แมลง สารระคายเคือง เมื่อล้างหรือเขี่ยออกอาการก็จะ ทุเลาได้ภายใน 1 - 2 วัน

  • เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีอาการตาแดง หนังตาบวม มีขี้ตาแฉะ ลักษณะสีเหลืองหรือเขียว มักเป็นที่ตาทั้ง ๒ ข้าง โดยเป็นข้างหนึ่งก่อนแล้วค่อยลามมาอีกข้างหนึ่ง

  • เยื่อตาขาวอักเสบจากการแพ้ ผู้ป่วยจะมีอาการคันตามาก มักจะคันตรงหัวตา ต้องขยี้ ยิ่งขยี้ก็ยิ่งคัน ถ้าขยี้มากๆ หนังตาจะบวมและช้ำ ผู้ป่วยมักมีน้ำตาไหล ตาขาวมีสีแดงเรื่อๆ มักมีประวัติเป็นคนที่แพ้อะไรง่าย หรืออาจมีโรคภูมิแพ้ (เช่น ลมพิษ หวัด ภูมิแพ้) ร่วมด้วย

  • เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัสเริมหรืองูสวัด ผู้ป่วยจะมีอาการเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหลแบบเดียวกับเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส แต่มักมีประวัติว่ามีผื่นเริมหรืองูสวัดขึ้นที่บริเวณใบหน้าหรือบริเวณใกล้ตาก่อนจะมีอาการตาอักเสบ

  • แผลกระจกตา มักมีประวัติถูกใบหญ้าหรือพืชผักบาดตา หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา หรือมีการใช้เลนส์สัมผัส (ไม่ถูกวิธี) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตา เคืองตา ตาแดง น้ำตาไหลต้อหินเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตาข้างหนึ่งอย่างรุนแรง ตาพร่ามัว ซึ่งเกิดขึ้นเฉียบพลัน จะพบว่า ตาขาวข้างนั้น มีลักษณะแดงเรื่อๆ กระจกตาบวมและขุ่น

อาการตาขาวแดงเป็นปื้น (แบบรอยห้อเลือด) อาจเกิดจากการได้รับบาดเจ็บ (เช่น ถูกแรงกระแทก ถูกต่อย) หรือจากการไอแรงๆ ทำให้หลอดเลือดฝอยที่ใต้ตาขาวแตกเป็นรอยห้อเลือด ซึ่งจะค่อยๆ จางหายไปภายใน 1 - 2 สัปดาห์

คนไม่น้อยอาจมองว่า มีความรุนแรงน้อย...เป็นแล้วไม่ค่อยแสดงอาการเจ็บป่วยเหมือนโรคชนิดอื่นๆ ทำให้ขาดความระมัดระวัง

แต่ในความเป็นจริงโรคตาแดงคือ โรคติดต่อที่มีความอันตรายมากโรคหนึ่ง เพราะหากปล่อยไว้ หรือไม่เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี

อาจเกิดการติดเชื้อ...ร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้

CRADIT

//www.laservisionthai.com/th/EyeCare/Conjunctivitis.htm

//www.doctor.or.th

//www.thairath.co.th/content/203659




Create Date : 19 กันยายน 2558
Last Update : 3 มิถุนายน 2559 14:55:24 น.
Counter : 928 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

salinta
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



หมีชอบกินปลาแซลม่อนที่ว่ายทวนน้ำ...
All Blog