happy memories
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๒๒




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto








พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
พระรูปจาก wikipedia.org




"ตำหนักปลายเนิน ฝีพระหัตถ์ 'สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัตติวงศ์' ทรงออกแบบ”


พระตำหนักเรือนไทยในวังปลายเนิน เป็นหนึ่งในฝีพระหัตถ์ที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ ทรงออกแบบและเคยเป็นที่ประทับ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชมปีละครั้ง โดยใช้ชื่อว่า “วันนริศ” ซึ่งจะเปิดในวันที่ ๒๘ เมษายน ของทุกปี เพื่อให้ผู้ที่รักงานศิลปะได้เข้าชมผลงานฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่านปีละครั้งครั้งละ ๑ วันเท่านั้น






รายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับ คุณแหน” ทางช่อง TNN 2 พาท่านผู้ชมไปสัมผัสกับพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัดติวงศ์ ณ วังปลายเนิน โดย ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ ทายาทรุ่นที่ ๓ ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้เล่าให้ฟังว่า “สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรา นุวัดติวงศ์ ได้ทรงงานเป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศว่าทรงเป็นศิลปิน เป็นผู้ออกแบบ เป็นนายช่าง ซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในราชอาณาจักร จนถึงระดับที่ได้รับกล่าวขานพระสมญานามว่าเป็นนายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม และอีกพระนามหนึ่งก็คือ บรรดาศิลปินทั้งหลาย เรียกท่านว่า “สมเด็จครู” ฝีพระหัตถ์ของท่านเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก สมเด็จฯ ท่านได้ทรงฝากผลงานไว้มากมายหลากหลายในแทบทุกสาขาของศิลปะ





ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์



สมเด็จครู ท่านได้รับขนานพระนามนี้จากบรรดาศิลปินทั่ว ๆ ไป เพราะว่ารูปแบบของงานศิลปไทยที่ท่านทรงทำไว้ เป็นรูปแบบที่ก้าวหน้าล้ำยุค แล้วก็ประกอบไปด้วยศิลปะที่เป็นไทยแบบประเพณีมาผสมผสานกับศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากสากลเข้ามา เป็นศิลปะที่เรียบง่ายในตัว และในขณะเดียวกันก็สวยสดงดงามมาก เป็นที่ยอดนิยมของบรรดาผู้ที่รักศิลปะทั้งหลาย ศิลปินในชั้นต่อ ๆ มา ถือผลงานศิลปะของพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างสำหรับที่จะพัฒนาศิลปะกันต่อไปในชาติบ้านเมือง แล้วเขาก็ขนานพระนามด้วยความเคารพว่า ท่านทรงเป็นครูของพวกเขาทุกคน จึงได้พร้อมใจกันเรียกว่า สมเด็จครู





กิจกรรม “วันนริศ” ที่จัดขึ้นทุกปี ณ ตำหนักปลายเนิน



การจัดงาน “วันนริศ” ที่วังปลายเนินจัดกันมาทุกปี เพื่อที่จะเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๘ เมษายน ใน “วันนริศ” นี้ทางราชสกุลก็จะจัดงานทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล และในขณะเดียวกันก็จะมีการจัดแสดงศิลปะต่าง ๆ ที่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่านและที่อยู่ในความสนพระทัยของพระองค์ท่าน”






สำหรับพระประวัติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงมีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าจิตรเจริญ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้า พรรณราย ประสูติเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔o๖ พระองค์ทรงมีคุณูปการต่อแผ่นดินไทยมากมาย ทรงเป็นเสนาบดีถึง ๔ กระทรวง ได้แก่ กระทรวงโยธาธิการ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงวัง ทรงเป็นนักปราชญ์ทางอักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปกรรม เกือบทุกแขนง ทั้งด้านจิตรกรรม ปฏิมากรรม สถาปัตยกรรม มัณฑนศิลป์ และดุริยางคศิลป์ นอกจากนี้ ยังทรงงานออกแบบไว้อย่างมากมาย ทั้งงานภาพเขียนในวรรณคดี ตราสัญลักษณ์ ตาลปัตร ตลอดจนสถาปัตยกรรมที่รู้จักแพร่หลายในรูปแบบของถาวรวัตถุ อาทิ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช



ภาพและข้อมูลจากเวบ
sac.or.th
naewna.com
นสพ.แนวหน้า ๒๕ พค. ๒๕๕๖












เปี๊ยก โปสเตอร์ อายุ ๘o ปี ขณะวาดพระสาทิสลักษณ์สมเด็จฯ



'เปี๊ยก โปสเตอร์'​ ศิลปะปรุงแต่งชีวิตมีสุข


เกือบ ๒o ปีแล้วที่สมบูรณ์สุข นิยมศิริ หรือ "เปี๊ยก โปสเตอร์" ชื่อที่รู้จักกันในวงการ ผู้สร้างภาพยนตร์ดังๆ ในความทรงจำของคนดู เช่น โทน, ข้าวนอกนา, วัยอลวน, ข้างหลังภาพ, กลิ่นสีและกาวแป้ง, สะพานรักสารสิน, ดีด สี ตี เป่า, วัยระเริง ฯลฯ เลือกอยู่ที่บ้านเล็กเนินเขาใหญ่ในพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำงานศิลปะที่เขารัก นั่นคือการเขียนภาพ พร้อมกับบำรุงรักษาสุขภาพในวัยใกล้ ๘๒ ปี ชักชวนภรรยาคู่ชีวิตใช้ศิลปะปรุงแต่งอาหาร เลือกกินผักอาหารมีพลัง ทำให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ


ในโอกาสที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เดินทางไปเยี่ยมบ้านเปี๊ยก โปสเตอร์ ผู้ได้รับประกาศเกียรติคุณป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาทัศนศิลป์ (ภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์) ประจำปี ๒๕๔o ณ บ้านเลขที่ ๒๑๑ หมู่ที่ ๑o ภูตะวันรีสอร์ท ต.ปากช่อง เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าของบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่นและพาเที่ยวชมทุกซอกทุกมุมของบ้าน ตั้งแต่สตูดิโอเขียนภาพที่เจ้าตัวยังทำงานสม่ำเสมอตั้งแต่ ๑o.oo-๑๘.oo น. ของทุกวัน ภายในสตูดิโอมีใบปิดโฆษณาที่เขาเขียนและเก็บสะสมไว้ ซึ่งมีคุณค่ามาก กลายเป็นงานศิลปะที่นักสะสมถวิลหา






ถัดมาห้องออกแบบอาหารประจำวันที่เก็บรวบรวมหนังสือเกี่ยวกับอาหารบำรุงสุขภาพ การกินเพื่อสุขภาพวัยชรา กระทั่งหนังสือรักษาโรคด้วยอาหาร แน่นชั้นวาง นอกจากนี้ยังมีตู้เก็บหนังสือเกี่ยวกับการเขียนบทภาพยนตร์ เทคนิคสร้างตัวละคร ผู้แสดง การกำหนดมุมภาพ กระทั่งการทำหนังต้นทุนต่ำที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนรุ่นใหม่นำความรู้จากหนังสือไปสร้างผลงานที่สวยงาม


บ้านเปี๊ยก โปสเตอร์ ถือเป็นมหาวิทยาลัยชีวิตและแหล่งเรียนรู้ระดับภูมิภาค มีนิสิตนักศึกษาศิลปะ รวมถึงผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ศิลปะการใช้ชีวิต การสร้างหนัง และเขียนภาพใบปิดโฆษณาให้ดูมีชีวิตชีวา


ณ ระเบียงแบนด์ของบ้านในวันนั้น ได้พูดคุยกับเปี๊ยก โปสเตอร์ แบบกันเอง ทำให้รู้ว่าเลือกมาปลีกวิเวกปากช่อง เพราะเป็นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี โอโซนติดอันดับ ๗ ของประเทศ อยู่บนเขาสูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๑๔o เมตร






เปี๊ยก โปสเตอร์ บอกว่า กว่า ๔๕ ปีที่ใช้ชีวิตอยู่กับการเขียนภาพและสร้างหนัง ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ก็วางแผนอายุ ๖o ปี จะเลิกทำงานหนัก ๆ มีบ้านบนเขา อากาศดี ดูแลสุขภาพไม่ให้มีโรค ใช้เวลาทำงานเขียนภาพ ปลดปล่อยตัวเองให้มีอิสระ เพราะตั้งใจจะเป็นช่างเขียนตั้งแต่อายุ ๗ ปี แต่การทำหนังจับพลัดจับผลู ได้รับทุนไปฝึกงานสร้างภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น ไปเรียนรู้เทคนิคสร้างหนังที่กำลังเข้าสู่ระบบใหม่ มีการใช้เครื่องมือทันสมัยใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อกลับมาไทย ก็มาสร้างหนังเรื่องโทน ทั้งเรื่อง เขียนบท ถ่ายทำเอง ตัดต่อเอง ปรากฏว่าเรื่องแรกประสบความสำเร็จ ทำรายได้สูง ก็สร้างเรื่องใหม่ ๆ ต่อ แต่ตั้งใจว่าจะไม่ทำหนังจนตายคาหนังแน่นอน






การทำงานศิลปะสม่ำเสมอได้นั้นต้องดูแลตัวเองให้ดี เปี๊ยก โปสเตอร์ กล่าวว่า มีหลักสำคัญในชีวิตต้องปรับปรุงพัฒนาตัวเองเพื่อทำงานให้งานด้านศิลปะดีขึ้น ฉะนั้น ร่างกายที่แข็งแรงจะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ทุกวันนี้วางแผนกำกับเรื่องอาหารการกินแต่ละวัน กินให้ดี เพราะ You are What You Eat โชคดีได้แม่บ้านช่วยปรุงอาหารรสอร่อยและบำรุงสุขภาพให้กิน มีเวลาจะออกกำลังกาย ส่วนสุขภาพใจก็น้อมนำหลักธรรมมาใช้ดำเนินชีวิตเพื่อดับทุกข์ในจิตใจ ก็ศึกษาศีล ๕ ขันธ์ ๕ ไตรลักษณ์






"ทุกวันนี้ก็เขียนภาพเหมือน เขียนใบปิดให้เหมือนโปสเตอร์เดิมของตัวเอง แต่ไม่ได้เขียนด้วยสีโปสเตอร์ ใช้สีน้ำมันแทน อยากรักษาคุณค่าของแผ่นใบปิดหนังไว้ จะหายไปหมดแล้ว เขียนรูปใช้เวลานาน ก็เปิดเพลงจาก Thumb Drive มีเป็น ๑,ooo เพลงป็อป ละติน แจ๊ส เมื่อก่อนเปิดแผ่นเสียง จะเห็นว่าในสตูดิโอสะสมแผ่นเสียงจำนวนมาก การที่ฟังเพลงเยอะ เมื่อทำเพลงในหนังจึงดัง เรื่องวัยอลวนเป็นโฟล์กซอง เรื่องข้าวนอกนาใช้เพลงโซลบลูส์" ศิลปินเล่าให้ฟังอย่างออกรส


เปี๊ยก โปสเตอร์ นับเป็นแบบฉบับของคนในแวดวงศิลปะ มีผลงานคุณภาพ ได้รับความชื่นชม ไม่มีใครไม่รู้จัก ผลผลิตจากสติปัญญาและฝีมือแท้ ๆ ควรที่ศิลปินรุ่นใหม่ยึดเป็นแบบอย่าง






ในท้ายนี้ ศิลปินผู้สร้างสมบัติให้แผ่นดินกล่าวว่า ถ้าเรามี ไม่เดือดร้อน สิ่งที่เหลือต้องช่วยคนที่ลำบาก และอย่าเบียดเบียนผู้อื่น ช่วงที่ทำหนังไม่ได้เขียนรูปเลย เมื่อมาอยู่บ้านปากช่องตั้งใจเขียนภาพเพื่อรักษาคุณค่าใบปิดหนัง ต่อไปจะหาชมไม่ได้ ในชีวิตและการทำงานมีสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ "สมเด็จย่า" เป็นต้นแบบ ทรงเป็นปูชนียบุคคล เห็นคุณค่าของของผู้ด้อยโอกาส เคยเข้าวังสระปทุม เป็นที่ตากปลาทูเค็มเตรียมไปมอบให้ชาวเขาและตำรวจตระเวนชายแดน ท่านบรรทมท่ามกลางกลิ่นปลาเค็ม เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเป็นแบบอย่าง






"ผมเขียนภาพพระราชกรณียกิจของแม่ฟ้าหลวง สมเด็จย่า เมื่อปี ๒๕๓๙ เทคนิคสีน้ำมันทำให้เหมือนใบปิดหนัง นอกจากแสดงถึงพระเมตตาของพระองค์แล้ว ยังบันทึกประวัติศาสตร์ของตัวเองที่ครั้งหนึ่งเขียนภาพโปสเตอร์หนัง" เปี๊ยก โปสเตอร์ กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะแหงนหน้าชื่มชมภาพเขียนพระราชกรณียกิจขนาดใหญ่ที่ประดับไว้ฝาผนังของบ้านศิลปิน ทุกครั้งที่เหนื่อยและท้อ เขาจะดูภาพนี้เพื่อให้กำลังใจตัวเอง ทำงานต่อไปจนกว่าจะเขียนภาพไม่ได้.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
peoplecine.com
manager.co.th
เฟซบุคสมาคมเขียนภาพคล้ายคน














"เทศกาลชมดอกปทุมมา ทิวลิปไทย รับสายฝน”


ศิลปินนักจัดดอกไม้ไทยที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ สกุล อินทกุล ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ ชวนเที่ยวงาน “เทศกาลชมดอกปทุมมา ทิวลิปไทย รับสายฝน” ระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ถึงวันที่ ๒๔ สิงหาคมนี้ ระหว่างเวลา ๑o.oo-๑๘.oo น. หยุดทุกวันจันทร์ ณ พิพิธภัณฑ์ดอกไม้ถนนสามเสน ซอย ๒๘






อิ่มตาและอิ่มใจไปกับดอกปทุมมาและดอกกระเจียวหลากสีนานาพันธุ์ ในบรรยากาศแสนคลาสสิก ของบ้านโบราณ สมัยรัชกาลที่ ๖ สถาปัตยกรรมแบบยุคโคโลเนียล ท่ามกลางสวนเมืองร้อนอันร่มรื่นสวยงาม พร้อมชมงานอาร์ตอินสตอลเลชั่นดอกกระเจียวที่สวยงาม แปลกตา ประทับใจหลายชิ้น ฝีมือออกแบบโดย สกุล อินทกุล Floral Artist ไทยที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เพื่อจินตนาการ เสริมสร้างแรงบันดาลใจ






ทั้งนี้ สกุล อินทกุล เป็นศิลปินนักจัดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเเละในระดับโลก มีผลงานให้เห็นตั้งแต่โรงแรม รีสอร์ท อีเว้นท์งานแต่งงาน ไปจนถึงเทศกาลระดับนานาชาติ โดยฝากผลงานสร้างชื่อไว้มากมาย เช่น เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแห่งกรุงโรม เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๕o หรืองานเเต่งงานของดาราฮ่องกงชื่อดังอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย เป็นต้น






นอกจากนี้ ยังพิสูจน์ฝีมือโดยการคว้ารางวัลจากสถาบันดัง อย่าง ยูเนสโก(Unesco) เเละ จี-มาร์ก (G-mark) สร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ตลอดช่วงชีวิตการทำงานในฐานะศิลปินนักจัดดอกไม้ ที่มีโอกาสเดินทางไปจัดดอกไม้ และได้สัมผัสคลุกคลีอยู่ในวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะโซนเอเชีย เช่น อินเดีย, จีน, ทิเบต, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย (บาหลี) และลาว เป็นต้น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านั้น มาเขียนหนังสือเกี่ยวกับดอกไม้ การจัดดอกไม้นานาชาติ ไว้อีกหลายเล่ม






สำหรับพิพิธภัณฑ์ดอกไม้แห่งนี้เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของ สกุล อินทกุลที่ตั้งใจให้เป็นที่แสดงชิ้นงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้-ใบไม้ โดยรวบรวมได้มาจากทุกทวีป ทำให้ภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมของดอกไม้แห่งแรกในประเทศไทยและแห่งเดียวของโลก ที่ซึ่งบรรจุชิ้นงานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการจัดดอกไม้จากอดีตถึงปัจจุบัน






สำหรับคนรักศิลปะจัดดอกไม้สามารถมาจับจ่ายซื้อของพร้อมร่วมกิจกรรมงานออกร้านบันดาลใจจากดอกไม้ในสุดสัปดาห์แรก วันเสาร์และอาทิตย์ที่ ๒๖-๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ของงาน “เทศกาลชมดอกปทุมมา ทิวลิปไทย รับสายฝน” บัตรเข้าชมงานราคา ๑๕o บาท เด็กลดครึ่งราคา รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ โทร. o๒-๖๖๙-๓๖๓๓-๔ หรือที่ floralmuseum.com








ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
floralmuseum.com
บล็อกคุณ tui/Laksi














"วาดบ้านเกิดเมืองนอน”
เขียนโดย ศักดิ์สิริ มีสมสืบ


ผมชอบ คำว่า “บ้านเกิดเมืองนอน” มากกว่าคำว่า “ภูมิลำเนา” บ้านเกิดของผม คือ จ.ชัยนาท แต่เมืองนอนของผม คือ นครสวรรค์ ปัจจุบันผมอยู่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ลูก ๆ ของผมเกิดที่นี่ อ.ชุมแสง เป็น “บ้านเกิดเมืองนอน” ของเขา


ผมอยทูี่นี่มา ๓๖ ปี แล้ว ...จนได้ชื่อว่าเป็นคนที่นี่ เพราะอยู่ที่นี่นานกว่าที่อื่น และคงอยู่ไปจนตาย


เคยเป็นครูศิลปะ ตั้งแต่อายุ ๒๑ ปี จนถึงอายุ ๓๕ ปี ช่วงที่เป็นครูนี้ ผมได้วาดภาพวิวชุมแสงไว้ไม่น้อย แม้ภาพสูญหายไป เพราะความไม่ใส่ใจเก็บรักษา แต่ก็ยังมีบางภาพอยู่ในครอบครองของเพื่อน ๆ บางคน


ช่วงสองสามปีหลังนี้ ผมวาดรูปเป็นบ้าเป็นหลัง โดยเริ่มจากการตระเวนวาดวิว “บ้านเกิดเมืองนอน” ของลูกชายทุกเช้า จะออกเดินไปถนน ตรอกซอก ซอย หาวิววาดรูปทุกวันไปจนสาย บางวันวาดเพลินไปยันบ่ายนับ ๆ เวลาดูก็ปีกว่า ๆ แล้ว หากนับจำนวนภาพก็อยู่ราว ๆ ๒-๓ ร้อยภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพ Drawing เพราะอยู่ในช่วงฟื้นวิชา โดยสวมวิญญาณเด็กนักเรียนศิลปะ ว่ากันตั้งแต่วาดลายเส้นเบื้องต้นเลยทีเดียว


ในชุมชน “ชุมแสง” ของผม ก็มีใครบางคนชอบวาดรูปอยู่บ้าง แต่ไม่เคยรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มีคนหนุ่มบางคนเปิดสอนศิลปะเด็ก ๆ นอกนั้นก็เป็นครูศิลปะที่สอนศิลปะไปตามหน้าที่


ผมเองสมัยเป็นครูศิลปะ ก็ตั้งชมรมศิลปะขึ้นเหมือนกัน มีบางช่วงที่พาเด็ก ๆ ออกตระเวนวาดรูป “บ้านเกิดเมืองนอน”


สำคัญมากนะครับเรื่องนี้ เพราะนอกจากจะได้เรียนวาดรูปกันแล้ว ยังได้สำรวจตรวจตราไปทั่วทุกตรอกซอกซอย ได้ดูรายละเอียด ได้เห็นบ้านเรือนร้านรวงทุกหลัง สถานที่สำคัญของท้องถิ่น รูปทรงสถาปัตยกรรม คนวาดรูปนั้นต้องมองละเอียดตั้งแต่โครงสร้าง ส่วนประกอบต่าง ๆ เห็นทั้งรูปธรรมและนามธรรมของทุกสิ่ง


ผมเดินตลาดชุมแสง และตระเวนไปตามวัดวาอาราม ตามหมู่บ้าน ตำบลต่าง ๆ จนทะลุปรุโปร่ง ทำให้เกิดความรัก ผูกพัน เพราะได้เห็น ได้ดู ได้ชม ได้ดม ได้ชิม ได้พูด ได้คุยกับผู้คน ผมจึงอยากเห็นคุณครูศิลปะทั่วทุกหนทุกแห่ง พาเด็ก ๆ ออกวาดวิว “บ้านเกิดเมืองนอน” ของตนกันให้สนุก


สายตาของคนวาดรูปนั้น เป็นสายตาพิเศษนะครับ คือเห็นทั้งความงามและความจริง เห็นด้วยดวงตา เห็นด้วยความคิด ศิลปะสอนให้เด็ก ๆ รู้จักมองอย่างพิจารณา ถ้าไม่ตั้งใจมองก็วาดไม่ถูกซิครับ


ดังนั้น คนวาดรูปจึงมองอะไรมองเอาจริงเอาจัง สอนเด็กวาดรูปก็คือ สอนให้เด็กมองสิ่งที่ตาเห็นอย่างพินิจพิจารณานั้นแหละครับ


ศิลป์แห่งแผ่นดินตอนนี้ ขอเชิญชวนคุณครูพาเด็ก ๆ ของเราลงพื้นที่วาดวิว “บ้านเกิดเมืองนอน” กันครับ







ภาพและข้อมูลจาก
คอลัมน์ "ศิลป์แห่งแผ่นดิน" นสพ.คม ชัด ลึก ๒o ก.ค. ๒๕๕๗
komchadluek.net














“วาดเส้น-เล่นสี” กับนักวาดภาพธรรมชาติ “สมิทธิ์ สุติบุตร์”


สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย ขอเชิญสมาชิกและผู้สนใจร่วมกิจกรรมอบรมการวาดภาพธรรมชาติเบื้องต้น "วาดเส้น-เล่นสี กับสมิทธิ์ สุติบุตร์" หรือ คุณเต นักวาดภาพธรรมชาติ


ระหว่างวันที่ ๒-๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ ที่ทำการสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย


เลขที่ ๒๒๑ หมู่ ๒ ถนนงามวงศ์วาน ซอย ๒๗ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี (ใกล้พันธุ์ทิพย์พลาซ่าและเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เข้าซอยงามวงศ์วาน ๒๗ ประมาณ ๑oo เมตร ระหว่างแยก ๑ กับแยก ๒)


ค่าใช้จ่ายเป็นการบริจาค ท่านละ ๒,๕oo บาท (สองวัน) พิเศษสำหรับสมาชิกสมาคมอนุรักษ์นกฯ ๒,ooo บาท เท่านั้น


รายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปรับปรุงศูนย์การเรียนรู้เรื่องนกและระบบนิเวศบ้านปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี (อาคารบริเวณนาเกลือซึ่งเป็นพื้นที่หากินของนกอพยพหลายชนิด รวมทั้งนกชายเลนปากช้อนซึ่งมีความสำคัญในระดับนานาชาติ)


สมาชิกหรือผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ทางอีเมล์ โดยส่งชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์และเลขสมาชิก(กรณีที่เป็นสมาชิก) ของท่านไปยังอีเมล์ member@bcst.or.th อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน โทร. o-๒๕๘๘-๒๒๗๗ และ o๘-๖๓๗๖-๖๘๒๔


กำหนดการ

วันเสาร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๗

๑o.oo - ๑๒.oo น. พื้นฐานการวาดภาพธรรมชาติการ drawing ลงน้ำหนัก-แสงเงาด้วยดินสอ ปากกา หมึก
๑๓.oo - ๑๖.oo น. ฝึกทักษะการวาดเส้นหุ่นนิ่ง ดอกไม้-ใบหญ้า ฝึกวาดภาพนก-สัตว์ป่าจากภาพถ่าย


วันอาทิตย์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๗

๑o.oo - ๑๒.oo น. เทคนิคการใช้สีประเภทต่าง ๆ เช่น สีน้ำ สีโปสเตอร์ สีเทียน สีไม้
๑๓.oo - ๑๖.oo น. ฝึกทักษะการวาดภาพ-ระบายสี ดอกไม้-ใบหญ้า ฝึกวาดภาพนก-สัตว์ป่าจากภาพถ่าย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














นิทรรศการภาพถ่ายและผลงานเซรามิคเดี่ยวครั้งที่ ๒ ชุด "บุรีอุ้ม”


วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ นักออกแบบเซรามิก ผู้บริหารธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา “เถ้าฮงไถ่” จังหวัดราชบุรี และศิลปินที่ได้รับเลือกให้นำผลงานไปจัดแสดงในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งที่ ๕๕ เมื่อปี ๒๕๕๖ จะจัดงานแสดงนิทรรศการเดี่ยว ครั้งที่ ๒ ในชื่อ BURIUM เป็นงานแสดงภาพถ่ายและเซรามิก


วศินบุรีกล่าวถึงชื่อนิทรรศการ BURIUM ว่า "มาจาก Buri + Arium อ่านตามสำเนียงเยอรมันว่า “บุรีอุ้ม” เกิดจากการผสมคำ คือ บุรี ที่เป็นชื่อตอนเกิดของผม และ เป็นชื่อที่ผมเริ่มเจอสิ่งที่ตัวเองชอบ และ Arium คำที่มาจากภาษาละตินที่แปลว่าภาชนะที่ใส่ของ หรือ พื้นที่สำหรับบางสิ่ง"


ผลงานชุดนี้จะเน้นการทำงานที่เกิดขึ้นร่วมกันระหว่างศิลปินกับเหตุการณ์ที่เหนือการควบคุมหรือความบังเอิญ เช่น เซรามิกที่เล่นกับการก้าวเข้าไปเกินขอบของความเป็นไปได้ทางวัสดุ เช่น เผาจนเกินกว่าความเป็นไปได้ทางวัสดุ หรือ ภาพถ่ายที่เล่นกับช่วงจังหวะ เวลา และสิ่งที่มนุษย์แม้เป็นผู้กำหนด แต่ควบคุมได้แค่บางส่วนเท่านั้นเช่นกัน จนกลายเป็นรูปแบบงานที่ คือ “ผลลัพธ์” ของการที่จะพยายามควบคุม สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ผล ของ งาน ที่เกิดขึ้นร่วมกันของมนุษย์ กับ ธรรมชาติ หรือสิ่งที่เราอาจเรียกได้ว่า ชะตากรรม


"หลังจากไปร่วมงาน Venice Biennale ปีที่ผ่านมา ผมก็ขอกลับมาทำงานที่ต้องถือว่าเป็นงานหลักของผม คืองานที่โรงงาน เเละงานที่ชุมชนราชบุรีของพวกเรา งานศิลปะกลายเป็นเรื่องที่วนอยู่รอบ ๆ ตัว เเต่ผมกลับรู้สึกว่าเรายิ่งออกห่างจากสิ่งที่เคยเป็นมามากเหลือเกินจนบ้างครั้งรู้สึกกลัว เเละระเเวง


งานเเสดง ที่ RMA เป็นพันธะสัญญาที่เคยพูดคุยกันไว้ อาจจะก่อนไปเวนิสด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นงานที่ผม "อยาก" กลับมาสนุก กับสิ่งที่เคย "สนุก" อีกครั้ง เเม้ว่ามันอาจดูไร้สาระ เเละไม่ยิ่งใหญ่ หรือพูดถึงความคิดที่เฉียบคม ฉลาดที่สามารถจะเปลี่ยนเเปลงโลกทางด้านศิลปะ ให้ศิลปินเเละนักวิจารณ์งานศิลปะ ร้องฮือฮาได้


ผมไม่ได้อยากได้เเละทำเพื่อสิ่งเหล่านั้น ผมเเค่อยากได้งานที่ผมสงสัย งานที่ผมคิด หรือ อยากพูดถึงเเละที่สำคัญ อยากทำสิ่งที่เหมือน อาณาจักร เฉพาะเล็ก ๆ ให้ผมเเละคนบางคน ได้มีความสุขเเละสนุกด้วยกันอีกครั้ง" วศินบุรีกล่าว


พิธีเปิดงาน BURIUM จะมีในพฤหัสบดีที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๓o ที่ อา-ม่า หรือ RMA institute ๒๓๘ ซอยสายน้ำทิพย์ ๒ ถนนสุขุมวิท ๒๒ ส่วนนิทรรศการเปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๗ กันยายน ๒๕๕๘๗ ยกเว้นวันจันทร์ เวลา ๙.๓o – ๑๙.oo น. ติดต่อสอบถาม RMA โทร +๖๖๒-๖๖๓-o๘o๙







ภาพและข้อมูลจากเวบ
khaosod.co.th
เฟซบุค Art Eye View














"Basic Watercolor Workshop”


คอร์สสีน้ำที่หลายคนรอคอย เวิร์คช็อบที่จะแชร์เคล็ดลับการวาดสีน้ำเฉพาะตัวของเจ้าของเพจ AnimaToey ใครที่อยากรู้วิธีการวาดสีน้ำขั้นพื้นฐาน พร้อมกับได้เทคนิคกลับไป ห้ามพลาดเวิร์คช็อปนี้ แล้วพบกัน วันเสาร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.oo-๑๗.oo น.


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมลงทะเบียนได้ที่ pahspace.com


เจ้าของเพจ AnimaToey ที่เปิดขึ้นเมื่อปี ๒o๑๒ เพื่อเป็น“นักวาดรูปเล่น” มีพันธสัญญาที่จะ “วาดรูปเพื่อให้ตัวเองมีความสุขเเละให้คนอื่นมีความสุขไปด้วย” ปัจจุบัน พิมพ์หนังสือ ARTBOOK ขายเองออกมา ๑ เล่ม เเละมีโปรดักท์ของตัวเองต่าง ๆ ทยอยออกมา ได้มีเเสดงงานสีน้ำเดี่ยวครั้งเเรก มีความฝันที่จะมีตัวตนบนโลก


Education & Work Experience
- จบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชา Landscape
- ฟรีเเลนด์ animation เปิดออฟฟิต Animotif
- ปัจจุบัน เปิดออฟฟิต Catflow animation


PROFILE
๑. ผลงานวาดเพจ AnimaToey
๒. ผลงานanimation Catflow Animation






ผลงาน animation ที่เป็นที่รู้จัก

๑. MVคาราบาวเพลงผีบอก กันชนหมา
๒. MVเพลงนครลิง
๓. ถ่ายยากเรื่องใหญ่ by Nesvita
๔. Ads สามกันชน


LESSON

- ทำความรู้จักกับสีน้ำ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
- สอนวาดสีน้ำขั้นพื้นฐาน
- สอนเทคนิคที่ใช้ในการวาดสีน้ำ
- ยกตัวอย่างการวาดสีน้ำ


อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมาเอง

๑. สีน้ำ เกรดปานกลางขึ้นไป
๒. พู่กัน เบอร์ ๘-๑๒
๓. จานสี และ อุปกรณ์ใส่น้ำ
๔. กระดาษ A3 ขึ้นไป
๕. ดินสอ หรือ ปากกากันน้ำ
๖. ผ้ากันเปื้อน







ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค AnimaToey
pahspace.com














"ช็อปผลิตภัณฑ์โครงการหลวงกว่า ๓,ooo รายการ ที่เซ็นทรัลเวิร์ด”


มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน “โครงการหลวง ๔๕” (Royal Project 45) หนึ่งในโครงการส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ ๔๕ ภายใต้แนวความคิด “เทิดไท้องค์ราชินีครบรอบ ๘๒ พรรษา ด้วยผลผลิตจากน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่สู่พสกนิกร” ซึ่งปีนี้จัดระหว่างวันศุกร์ที่ ๘ - วันอาทิตย์ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ เป็นเวลา ๑o วัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยได้รับเกียรติ จากหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เสด็จเป็นประธานแถลงข่าว พร้อมด้วย ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล ตุงคนาค, ม.ล.สมรดา ชุมพล, รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ศ.ดร.กำพล อดุลวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง, ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ประธานฝ่ายนิทรรศการวิชาการ, พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด, รัตนา นรพัลลภ รองประธานกรรมการบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด, มุกดา เอื้อวัฒนะสกุล, ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ฯลฯ ณ ห้องโลตัส ๑-๗ ชั้น ๒๒ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์






หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ทรงเผยว่า งานโครงการหลวง ๔๕ ครั้งนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเผยแพร่ผลผลิต และผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิโครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์ และโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้เข้ามาสนองงานในมูลนิธิโครงการหลวง โดยนำผลิตภัณฑ์มากมายจากร้านโครงการส่วนพระองค์ อาทิ ร้านมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร, ร้านจิตรลดา, โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา, ร้านศิลปาชีพ ๙o๔, มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, ร้านภูฟ้า, สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก, โครงการทูบีนัมเบอร์วัน และร้านดร.น้ำใจ และผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงกว่า ๓,ooo รายการ ซึ่งในปีนี้มีสินค้าที่อยากจะแนะนำ คือ ผักไมโครกรีน มันเทศญี่ปุ่น หัวไชเท้าญี่ปุ่น ลูกพลับ ดอกปทุมมาลูกผสม และกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส เป็นต้น






ด้าน ศ.ดร.กำพล อดุลวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง เผยว่า สำหรับผลิตผลโครงการหลวงที่เป็นผลิตภัณฑ์แนะนำกลุ่มผัก ได้แก่ ผักไมโครกรีน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่รักสุขภาพ, มันเทศญี่ปุ่น พันธุ์ที่ส่งเสริมให้ปลูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะผิวสีแดงม่วง เนื้อมีสีเหลืองนวล มีรสหวาน, หัวไชเท้าญี่ปุ่น นิยมใช้ในร้านอาหารญี่ปุ่น สามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและปรุงสุก อุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม โฟเลต และแมกนีเซียม และ ลูกพลับ โดยโครงการหลวงส่งเสริมพลับพันธุ์ P2 และพลับหวานพันธุ์ Fuyu และ Hyakume ให้เป็นพันธุ์สำหรับการค้า






ในส่วนของการจัดแสดงดอกไม้ ทางโครงการหลวงได้จัดเตรียมพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ ได้แก่ ฟาแลนนอปซิส กล้วยไม้กระถาง จากโครงการหลวงตีนตก จ.เชียงใหม่ ทางมูลนิธิโครงการหลวงได้คัดเลือก ๑๒ สายพันธุ์ ที่ สามารถปลูกเลี้ยงได้บนที่สูง ออกดอกได้ดี มีสีสันสวยงาม และ ปทุมมาลูกผสม ที่มีสีสันสวยงามสะดุดตาและมีความคงทน เหมาะสำหรับเป็นไม้ตัดดอก ไม้กระถาง และไม้ประดับแปลง






ด้านงานพัฒนาส่งเสริมปศุสัตว์ มีผลิตภัณฑ์แนะนำ ได้แก่ ไก่เบรสโครงการหลวง (Bresse Chicken) ไก่ประจำชาติฝรั่งเศส เนื้อแน่นและมีไขมันแทรกจึงเป็นเนื้อที่อร่อยมาก ทั้งโลกมีเลี้ยงเพียง ๒ แห่ง เมืองเบรส ประเทศฝรั่งเศส และ โครงการหลวง เท่านั้น รวมถึง ไก่ฟ้าโครงการหลวง ทางโครงการหลวงได้สายพันธุ์มาจากประเทศฝรั่งเศส เนื้อมีไขมันน้อย เหนียวนุ่มและมีรสชาติดี รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น สมุนไพรอบแห้ง เช่น หญ้าหวาน เจียวกู้หลานญี่ปุ่น คาโมมาย หงชา ที่อุดมด้วยสารกาบา (GABA) ช่วยบำรุงสมองป้องกันโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์คินสัน


นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการ “โครงการหลวง ๔๕” โดยจัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตผลโครงการหลวงแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม อาทิ พัฒนาการผลิตพืชไมโครกรีน (Micro Greens) ทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และอีกมากมายให้ชมกันด้วย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com














"เอมโอชา”
โดย ต้นทองหลาง


มีคำพูดหนึ่งพิสูจน์ความจริงที่ว่า หากจะรู้จักใครสักคนให้อ่าน ลึก ๆ ถึงเพื่อนที่เขาคนนั้นคบหาว่ามีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร คนหนึ่งคนสามารถมีเพื่อนแท้ได้มากมาย ดิฉันพิสูจน์คำพูดนี้และเห็นจริง เมื่อได้เข้าร่วมงานเอมโอชา นิทรรศการดินเผา ปานชลี สถิรศาสตร์ สนับสนุนโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ในซอยทองหล่อ (งานนี้มีถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๗ ก.ค. ตั้งแต่ ๑๐.๐๐-๒๐.๐๐ น.) ทำให้รับรู้ถึงศักยภาพของปนัดดา เลิศล้ำอำไพปานชลี สถิรศาสตร์ ว่าเธอทั้งสองมีแฟนคลับมากมายในวงการสื่อสิ่งตีพิมพ์ นสพ.รายวันและนิตยสาร ตลอดจนเพื่อนพ้องน้องพี่ที่มากด้วยน้ำใสใจจริงในวงการและต่างวงการขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน เพื่อชมงานศิลปะและรับฟังคำพูดที่สุนทรีย์งดงามทางภาษา รวมทั้งรับฟังเพลงโฟล์กซอง Banjo Open Back จากสุริยันต์ สุดศรีวงศ์ "แม้วคนรักแมว" นักเขียนวรรณกรรมเยาวชน






ปานชลี (ป๊อบ) ร่ำเรียนมาทางด้านคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่มีความสามารถพิเศษในการขีดๆ เขียนๆ เป็นตัวอักษรา มีฝีมือเยี่ยมยุทธ์ระดับเทพที่เรียกว่านักเขียนอาชีพก็ต้องมาดูงาน ขณะเดียวกันเธอมีฝีมือเป็นสาวนักปั้นเครื่องปั้นดินเผาที่ประกิต หลิมสกุล คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กิเลน ประลองเชิง บอกว่าดื่มน้ำชาที่รินจากถ้วยเครื่องปั้นดินเผาฝีมือละเมียดละไมเป็นเอกลักษณ์ของปานชลีแล้วสุดจะอร่อย ทำให้วงสนทนาที่มีประ กิต หลิมสกุล-ภิญโญ ไตรสุริยะธรรมา อดีตผู้ดำเนินรายการสยามวาระช่องไทยพีบีเอสเรียกเสียงเฮฮาเป็นสีสันภายในงาน






บทนำของสูจิบัตรเอมโอชา นิทรรศการดินเผา ปานชลี สถิรศาสตร์ ทำให้คนที่มีแม่ต้องปลาบปลื้มกับถ้อยคำอรรถรสที่เธอบรร จงเขียน "ในโลกนี้ สิ่งที่ข้าพเจ้าจดจำได้แม่นยำ มีอยู่เพียงเรื่องเดียว คือชื่อต้นหญ้าต้นไม้ ส่วนเรื่องที่สร้างความรื่นรมย์ใจ นอกเหนือจากการปั้นถ้วยและอ่านเทพนิยายแล้ว ก็คือการปรุงอาหารนี่เอง น่าจะเป็นเพราะข้าพเจ้ามีแม่เป็นผู้รักการปลูกต้นไม้ และโปรดปรานการทำอาหารสุดใจ ฝีมือแม่ทำเอาคนในบ้านไม่อยากกินข้าวข้างนอก ไปกินถึงไหนๆ กลับมาบอกว่า สู้ที่แม่ทำไม่ได้ แม่ทำอาหารถูกใจทุกคน ไม่รู้ว่าหัดมาจากไหน เพราะข้าพเจ้าไม่รู้จักยาย ไม่เคยเห็นย่า รู้แต่ว่าแค่ฟังจากปากใครต่อใครหนเดียว ไม่ต้องย้ำ แม่ก็ทำได้แล้ว เมื่อครั้งตัวเท่าเมี่ยง ข้าพเจ้ามัวแต่ไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ กลับบ้านก็เมื่อตอนหิวโซ มีสำรับกับข้าวรออยู่แล้ว บนโต๊ะมีอาหารเจ็ดแปดอย่าง แม่ช่างเนรมิตได้ทันใจ เพราะรสมือแม่แท้ ๆ จึงทำให้ข้าพเจ้าเป็นเด็กกินจุ จำได้ว่ากินข้าวมื้อละสามจาน บางวันก็ถึงห้า แต่ก็ยังผอมชะลูด จนผู้ใหญ่สงสัยว่าจะมีพยาธิช่วยกัน โตขึ้นหน่อยพอจับมีดได้ ก็โดนมอบหมายให้ทำงานสำคัญคือปอกหอม กระเทียม บางทีก็ได้รับเกียรติให้เป็นคนโขลกน้ำพริกด้วย อาหารของแม่ จำพวกแกงส้ม ต้มยำ ต้มโคล้ง ต้มข่า แกงเผ็ด แกงเลียง แกงกะทิ ผัดขิง ผัดขม กระทั่งผัดไข่ แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอ กินไม่เคยเบื่อ จนไปเรียนหนังสือไกลบ้าน เริ่มรู้จักอาหารของถิ่นอื่นๆ ถึงรู้ว่ามีแม่ของใคร ๆ อีกหลายคนที่ทำอาหารอร่อยเช่นกัน กระนั้นก็ยังคิดถึงรสมือแม่เสมอ แกงเปรอะน้ำเขียวข้นคั้นจากใบย่านางของแม่ ข้าพเจ้าโปรดนักหนา จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครเทียม






แม่ทำอาหารเองทุกมื้อ ไม่เคยมีท่าเบื่อหน่าย นี่เองที่แม่คงได้หยอดเมล็ดพันธุ์แห่งความรักเอาไว้ ซึ่งค่อย ๆ งอกจนงามอยู่ข้างใน ที่จริงข้าพเจ้าเพิ่งทำอาหารกินเองเมื่อวัยเลยสาวน้อยมาแล้ว เพราะเบื่อการกินข้าวในร้านที่เปิดเพลงดังลั่นโลก พานให้กินไม่ลง การกินที่ถูกหลัก นอกจากจะเคี้ยวกินช้า ๆ ก็ไม่สมควรมีดนตรีโครมครามเป็นเครื่องเคียง จะแค้นคอ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ไม่ผ่อนคลาย ไม่สบายหูเอาเสียเลย


.....หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ตำรา แต่คือตำนานอาหารของคนที่ ชื่นชอบศิลปะการทำกิน มีความสุขที่ได้เก็บผักหญ้ามาจัดลงจานใส่ แจกันไว้ชมแต่เช้าตรู่ พอตะวันตรงหัวก็ฉวยไปจิ้มน้ำพริกบ้าง เชิญไปลงหม้อแกงบ้าง ทำไปยิ้มไป ไม่ต้องเร่ง เพราะใจไม่ร้อน ข้าพเจ้าเป็นเพียงช่างปั้นผู้หลงรักการปรุงอาหาร แม้ไม่มีใครตั้งให้เป็นแม่ครัวหัวป่าก์ แต่ขอชวนให้ลองทำกับข้าวให้คนใกล้ ๆ ชิม ทำให้เราจดจำคืนวันที่กินด้วยกันอย่างเพลิดเพลินเป็นความสุขอันงามง่าย เติมชีวิตให้เบิกบาน บ้านก็กลายเป็นวิมานไปได้จริง ๆ"






ปนัดดา เลิศล้ำอำไพ อดีตพีอาร์ใหญ่ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลงานเขียนล่าสุดจากบูรพาสู่อุษาคเนย์ ซึ่งโพสต์บุ๊คส์จัดพิมพ์เขียนบทส่งท้ายสูจิบัตรของงานว่า หนังสือเล่มนี้เขียนด้วยอารมณ์ขันโดยไม่ต้องขบของช่างปั้นปานชลี ได้ภาพของการกินอันโอชาของบ้านเขาและบ้านเราเคล้าตำนาน มีรูปผลงานอันงดงามบันดาลมาจากดินและไฟ อ่านสนุกด้วยคมมีดและปากกา ผู้เขียนบอกว่าไม่ใช่เชฟ ทั้งไม่ได้มาจากเชลล์ แต่ขอชวนให้ลุกขึ้นมาทำอาหารให้คนใกล้ ๆ ชิมด้วยความครื้นเครง เชื่อว่าท่านจะอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยความบันเทิง


ผู้เข้าร่วมงานซึ้งเป็นอย่างยิ่งกับคำกล่าวเปิดงานนิทรรศการ เอม โอชา ปั้นดิน และปั้นคำ: ปานชลี สถิรศาสตร์ โดย ดร.อู่ทอง โฆวินทะ อดีตอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ ดร.อู่ทองไม่สามารถเข้าร่วมงานได้เนื่องจากติดภารกิจงานศพของมารดาในวันนั้น จึงได้มอบหมายให้จตุรงค์ ผดุงทรัพย์ ทำงานที่ UNDP สหประชาชาติ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ ดร.อู่ทอง โฆวินทะ ในขณะที่เรียนปริญญาตรี ทำหน้าที่อ่านคำที่แสนไพเราะที่ต้องจดจำไว้






"ศิลปินมิใช่ผู้สร้างในความหมายเดียวกับพระเจ้า ของศาสนาคาทอลิก มิได้เป็นผู้กำหนดทุกขั้นตอนของการผลิต แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปะ คุณปานชลีเคยคุยให้ดิฉันฟังว่า ทุกครั้งที่เธอนั่งรออยู่หน้าเตาเผาเครื่องปั้น เธอจะรู้สึกเฝ้ารออย่างตื่นเต้น ไม่ต่างจากเด็กฝรั่งยามเช้าวันคริสต์มาสที่รอเปิดของขวัญด้วยความประหลาดใจ เพราะคุณปานชลีไม่สามารถคาดได้เลยว่า ผลงานที่ใส่เข้าไปในเตานั้น เมื่อเผาด้วยความร้อนสูงจะออกมาหน้าตาเป็นเช่นไร Chance Operations ซึ่งเป็นคำพูดของจอนห์ เคจ หมายถึงความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในขบวนการสร้าง งานศิลปะ






จุดนื้คือสิ่งที่ทำให้งานศิลปะเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์ในความเห็นของดิฉัน ระหว่างศิลปินช่างปั้นและสิ่งที่ถูกปั้นมิได้มี ลักษณะตายตัว เมื่อเปรียบกับสิ่งที่ถูกผลิตจากโรงงานซึ่งออกมาหน้า ตาเหมือน ๆ กัน เพราะมาจากพิมพ์เดียวกันหมด ผลงานของคุณปานชลีแต่ละชิ้นจะแตกต่างกัน มีลักษณะเฉพาะตัวอันเป็นผลมา จากปฏิกิริยาระหว่างความร้อนกับเนื้อดินซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะกำ หนดได้ ไม่ว่าจะเป็นสีหรือรูปทรงที่อาจแปรเปลี่ยน บิดเบี้ยวในแบบที่คุณปานชลีมิอาจกำหนดได้ล่วงหน้าหรือควบคุมการเปลี่ยนแปลงนั้นได้เลย ทำให้กระบวนการของศิลปะแห่งการปั้นถ้วยเป็นศิลปะที่ไม่สมบูรณ์แบบ หรือ the art of imperfection ซึ่งเป็นหัวใจของศิลปะการชงชาของญี่ปุ่นในศตวรรษที่ ๑๖ ด้วยคุณลักษณะของงานคุณปานชลีอยู่ในประเภทของ Modern Art หรือศิลปะสมัยใหม่


พอล เคลย์ ศิลปินวาดภาพชื่อก้องชาวเยอรมันแห่งศตวรรษที่ ๑๘ เกี่ยวกับศิลปะสมัยใหม่ได้อุปมาอุปไมยว่า ศิลปะสมัยใหม่นั้นเป็นดั่งต้นไม้ซึ่งนับเป็นการเข้าใจศิลปะในแนวเดียวกับชาวกรีกโบราณ เขามองศิลปินว่าเป็นผู้ถ่อมตน ศิลปินต้องใช้เวลานานมากกว่าจะสั่งสมความรู้และประสบการณ์กว่าจะหาเส้นทางของตนพบ มีรากที่ชอนไชไปในหลายทิศทางซึ่งคือความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย เปรียบเสมือนน้ำและอาหารที่คละเคล้าผสมปนเปเข้าด้วยกัน และแปรเป็นพลังดั่งกระแสธารที่ส่งผ่านลำต้น ซึ่งก็คือตัวศิลปินไปสู่ปลายยอดที่เป็นกิ่งใบ ช่อดอก และพวงผลที่งดงาม






ศิลปินทำงานปลุกปั้นมโนภาพที่เขาได้จากกระแสธารแห่งจินตนาการออกมาเป็นผลงานที่ประจักษ์สู่สายตาผู้อื่นเปรียบเหมือนดอกและใบที่คลี่บานแผ่กิ่งก้านสาขาซึ่งเป็นส่วนบนของลำต้นตามกาละและเทศะ คือเบ่งบานตามวาระและที่ที่ควรจะเป็น จึงไม่แปลกใจที่ส่วนบนของต้นไม้เหนือลำต้นนั้น จะมีหน้าตาที่ไม่เหมือนส่วนล่างหรือรากของมัน พอล เคลย์ เชื่อว่าทุกอย่างต้องใช้เวลาเพื่อเติบโต จะเร่งรีบไม่ได้เพราะสิ่งที่งดงามนั้นต้องเติบโตพัฒนาด้วยตัวมันเอง และเมื่อถึงเวลามันก็จะแย้มบาน ศิลปินมิได้รับใช้ผู้ใด แต่เขาทำหน้าที่ส่งต่อหรือ transmitting ตัวเขานั้นเป็นช่องทางของการสร้างสรรค์


ดิฉันได้เห็นผลงานศิลปะที่เอมโอชา ถ้วยน้ำชาสารพัดสีคละ แบบมากมายละลานตาในครั้งนี้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คน หนึ่งจะรังสรรค์งานได้มากมายขนาดนำมาโชว์ถึงสองห้องนิทรรศการ ขอเชิญชวนคุณอัตถ์ อัตนัย ไปทัศนาและชวนบรรดาคอชาไปซื้อถ้วยชาดื่มบนภูให้ได้รสชาตินะคะในระหว่างที่ คมช.เร่งคืนความสุขให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
เฟซบุคสถาบันปรีดี พนมยงค์
คอลัมน์ "ถูกทุกข้อ"นสพ.ไทยโพสต์ ๒๖ ก.ค. ๒๕๕๗




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 26 กรกฎาคม 2557
Last Update : 26 กรกฎาคม 2557 16:35:56 น. 0 comments
Counter : 4577 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.