พ่อฉันเป็นช่างตัดเสื้อ : บ้านนอกเข้ากรุง
ก่อนจะเล่าประวัติเดต่อ ลืมเล่าไปว่า เมื่อก่อนกง (ปู่) เป็นช่างทำทอง ตั้งใจจะให้เดเป็นช่างทองเหมือนกัน ส่วนอา มีร้านตัดผมชาย ก็จะให้เรียนเป็นช่างตัดผม แต่เดอยากเป็นช่างตัดเสื้อ เพราะเป็นอาชีพอิสระ ใช้ความสามารถของตนเองให้มีชื่อเสียงได้ง่าย ข้อสำคัญคือต้องมีฝีมือดี จะหาลูกค้าและเป็นเจ้าของร้านได้ไม่ยาก
บล็อกที่แล้วจบลงตรงที่ เดเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหาความรู้เรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้าเพิ่มเติม ช่วงนั้นประมาณ พ.ศ. ๒๕๙๔ เดอายุ ๒๑-๒๒ ปี เดนั่งรถไฟจากสถานีปากน้ำโพ ถึงหัวลำโพงตอน ๕ โมงเย็น นั่งรถสามล้อถีบ โดยเลือกคนขี่ที่แก่หน่อยเพื่อความปลอดภัย มีจุดหมายคือร้านตัดเสื้อ ยูโน ถนนมหาไชย ร้านของ โกซวง เพื่อนที่เคยเปิดร้านตัดเสื้อผ้าที่ อ.บางแก้ว ใกล้ ๆ ร้านที่เดทำงานอยู่
เดิมสถานีรถไฟปากน้ำโพ เป็นสถานีรถไฟนครสวรรค์ เป็นสถานีปลายทางจากกรุงเทพ และเป็นสถานีตั้งต้นรถไฟสายเหนือ เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำ เปิดทำการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๒ ต่อมามีการสร้างสะพานเดชาติวงศ์ มีการตัดถนนสู่บ้านหนองปลิง การขนส่งทางรถยนต์มีความสำคัญมากกว่าทางน้ำ จึงปรับเปลี่ยนสถานีรถไฟหนองปลิงขึ้นเป็นสถานีรถไฟนครสวรรค์ สถานีรถไฟนครสวรรค์อยู่ระหว่างสถานีรถไฟเขาทอง อำเภอพยุหคีรี และสถานีรถไฟปากน้ำโพ นครสวรรค์ (ภาพและข้อมูลจาก ชะเง้อสถานีรถไฟตามรายทาง ... สถานีรถไฟนครสวรรค์)
รถสามล้อมาถึงห้างสีจันทร์ สี่แยกสามยอด ทีแรกเห็นชื่อห้างแล้วนึกว่าเดเขียนผิด เพราะคิดว่าชื่อเดียวกับแป้งศรีจันทร์ แต่เดบอกว่าไม่ใช่ เป็นห้างที่เลิกกิจการไปแล้ว คนรถถามว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา เดไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี แต่ก็ตอบว่าไปทางขวาทั้งที่ไม่รู้ทาง บังเอิญว่าไปถูกทาง ก็พยายามมองหาร้านยูโนอยู่ เหลือบไปเห็น โกซวง ออกมาเก็บผ้ากันแดดที่หน้าร้านพอดี เดดีใจมาก ถ้าไปถึงก่อนสัก ๕ นาทีก็จะไม่เห็นร้านแล้ว คนบ้านนอกเข้ากุรงก็จะหลงทางไปถึงไหนก็ไม่รู้แล้ว นับว่ามีโชคดีเป็นประเดิม ถึงแม้ว่าจะเป็นคนบ้านนอกที่ไม่เคยมากรุงเทพฯ ก็จริง แต่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อนจากนสพ.สยามรัฐและนิตยสารสยามสมัย โดยเฉพาะจากเพื่อนบ้านที่ชื่อ คุณหมอเชิด เจิมตรี ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าอนามัยของตำบลบางแก้ว
พักอยู่ที่ร้านยูโนได้ ๒ อาทิตย์ จึงได้ไปสมัครงานที่ ร้านเค่งจินไถ่ ตามที่ตั้งใจไว้ แต่ทางร้านไม่รับเข้าทำงานเพราะว่าเป็นช่างบ้านนอก เดเลยต้องพักอยู่ที่ร้านยูโนต่อ ต้องการทำงานแลกข้าวอยู่หลายเดือน จนทาง ร้านเค่งจินไถ่ ยอมรับเข้าทำงานโดยให้เงินเดือน ๓๐๐ บาท ที่เดเลือกทำงานที่ร้าน เค่งจินไถ่ เพราะเป็น ๑ ใน ๓ ร้านสูทชั้นเยี่ยมของประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๕ ค่าจ้าตัดเย็บกางเกงของร้านราคาตัวละ ๑๕๐ บาท เทียบกับร้านทั่วไป ราคาจะเพียง ๒๕ บาทเท่านั้น สูงกว่าราคาข้าวสารที่ขายถังละ ๑๕ บาท เรียกว่าตัดกางเกงที่ร้านนี้ตัวเดียวก็ซื้อข้าวสารได้ถึง ๑๐ ถัง
เมื่อไปสมัครงานที่ เค่งจินไถ่ ครั้งแรก ทางร้านปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า ไม่รับช่างบ้านนอก ต้องใช้เวลาหาผู้รับรองอยู่นานถึงครึ่งปีถึงเข้าทำงานได้ เดขอรับเงินเดือน ๆ ละ ๓๐๐ บาท ซึ่งต่ำกว่าค่าแรงที่ควรจะได้รับเท่าตัว ทำงาน ๒ วันแรกด้วยการถามวิธีการทำงาน เพราะต้องการรู้วิธีการของร้านโดยไม่ยึดติดวิธีการของตัวเอง เมื่อถูกเดถามมากขึ้น เขาก็พูดว่า ลื้อทำงานไม่เป็นเลยหรือ? พอทำงานได้ครบอาทิตย์ เริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาว่า ไอ้หมอนี่มันโง่หรือบ้า? ให้ได้ยินเข้าหูที่ยอมรับค่าแรงเพียงเดือนละ ๓๐๐ บาท
จักรที่เดใช้น่าจะเป็นรุ่นแบบนี้แหละค่ะ คว้ารูปใกล้ตัวมาลงบล็อก เป็นรูปของมาสมัยสาว ๆ มาเป็นช่างตัดเสื้อเหมือนกัน
ความคิดของคนทั่วไปคือ ต้องได้เงินสมกับงานที่ทำจึงจะยอมทำงาน แต่เมื่อทางร้านยังไม่เห็นฝีมือการทำงานของเรา ใครเขาจะให้เงินเดือนสูง ๆ เมื่อเดทำงานครบ ๓ เดือนแล้ว ทางร้านจึงขึ้นเงินเดือนให้อีกเท่าตัว ต่อมาไม่นานทางร้านได้ปรับตำแหน่งช่างเย็บกางเกงเป็นช่างเย็บเสื้อนอก และปรับเงินเดือนให้ขึ้นอีก ซึ่งเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ทุกประการ ดังนั้น อย่าเสียใจที่มีคนดูหมิ่นเรา เพราะเขายังไม่รู้จักเราเท่านั้นเอง
บีจีจากคุณญามี่
Free TextEditor
Create Date : 16 เมษายน 2565 |
Last Update : 6 มีนาคม 2567 22:39:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1154 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณปรศุราม, คุณทนายอ้วน, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtoor36, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณเริงฤดีนะ, คุณเนินน้ำ, คุณmultiple, คุณร่มไม้เย็น, คุณSleepless Sea, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณThe Kop Civil, คุณpeaceplay, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse, คุณกิ่งฟ้า, คุณInsignia_Museum, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณmariabamboo, คุณกะว่าก๋า, คุณตะลีกีปัส, คุณtuk-tuk@korat |
|
|