happy memories
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๑๔




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto








พระบรมฉายาลักษณ์จาก ampoljane.com



"คีตราชา..เผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของในหลวง”

เป็นที่เลื่องลือกันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความสนพระราชหฤทัยด้านดนตรีตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ไม่เพียงทรงฟังเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น หากยังทรงฝึกฝนการเขียนโน้ต, การบรรเลงดนตรีคลาสสิก และทรงศึกษาประวัตินักดนตรีที่มีชื่อเสียงทั่วโลก พระอัจฉริยภาพด้านการพระราชนิพนธ์บทเพลง รวมถึงการทรงดนตรีหลากหลายประเภท ล้วนเป็นที่ประจักษ์และยอมรับในระดับสากล






ด้วยเหตุนี้ สถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จึงได้ทูลเกล้าฯถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูงให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ ลำดับที่ ๒๓ ปรากฏพระนามจารึกไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕o๗






เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ค่ายบุญรอดบริวเวอรี่ จึงได้จัดทำ โครงการผลิตสื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชุด “คีตราชา” โดย “วาปี ภิรมย์ภักดี” หนึ่งในคณะผู้จัดทำโครงการฯกล่าวว่า ด้วยตระหนักถึงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบทเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งเป็นสื่อช่วยจรรโลงจิตใจ ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้จัดทำโครงการผลิตสื่อเฉลิมพระเกียรติฯขึ้น ภายใต้ชื่อ “คีตราชา”






ซึ่งจะประกอบด้วย ๓ กิจกรรมหลัก คือ การจัดทำสารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ นำเสนอเรื่องราวความประทับใจในบทเพลงพระราชพระราชนิพนธ์ผ่านการสัมภาษณ์คนดังในแวดวงดนตรี อาทิ ฯพณฯ องคมนตรี พลเรือเอก หม่อมหลวง อัศนี ปราโมช, พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, ดร.ภาธร ศรีกรานนท์, ชัญพงศ์ ทองสว่าง, ชาตรี คงสุวรรณ, ญารินดา บุนนาค, ปาล์มมี่- อีฟ ปานเจริญ, ปู แบล็คเฮด และป๊อบ-ปองกูล สืบซึ้ง






กิจกรรมที่สอง คือ ริเริ่มโครงการ “Pro Musica Junior Camp supported by Boon Rawd Brewery” เพื่อพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกไทย โดยเฟ้นหาตัวแทนเยาวชนที่ขาดแคลนโอกาสจากทั่วประเทศ เข้าอบรมฝึกฝนการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์






ส่วนกิจกรรมที่สาม คือ การผลิตมิวสิกวีดิโอชุด “หัวใจของพ่อ” ประพันธ์บทเพลง และขับร้องโดยศิลปินมากความสามารถ คือ อัสนี โชติกุล และปาล์มมี่ ปานเจริญ ประพันธ์เนื้อร้องโดย สหภาพดนตรี กำกับโดย “ครรชิต สพโชคชัย” เพื่อย้ำเตือนให้คนไทยตระหนักถึงพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอุทิศพระองค์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อคนไทย






ร่วมชื่นชมพระปรีชาสามารถทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านกิจกรรมต่างๆของโครงการฯ โดยมิวสิกวีดิโอเพลง “หัวใจของพ่อ” เริ่มออกอากาศวันที่ ๒๖ มิ.ย. ๒๕๕๗


สารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ ชุด “คีตราชา” รับชมได้ในวันที่ ๑-๔, ๗-๑๑ และ ๑๔ ก.ค.นี้ ทางช่อง ๕ ในรายการฮาร์ดคอร์ข่าว เวลา ๑๘.oo-๑๘.๓o น. และหลังข่าวพระราชสำนัก เวลา ๑๙.๕๕-๒o.๑๕ น. ทางไทยรัฐทีวี ในรายการพาเหรด บันเทิง เวลา ๑๙.๑๕-๑๙.๔๕ น. และช่อง Nation Chanel ในรายการข่าวข้นคนเนชั่น เวลา ๒๑.๓o-๒๒.๔๕ น.


ถึงเวลาที่คนไทยทุกคนต้องพร้อมกันทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อที่จะดูแลแผ่นดินที่รักยิ่งของพระเจ้าอยู่หัว.







ภาพและข้อมูลจากเวบ
chaoprayanews.com














"ประกวด บทความประกอบภาพและวีดิทัศน์
ว่าด้วยความรู้ตามแนวราชดำริภายใต้หัวข้อ "สุขพอที่พ่อให้”


ขอเชิญชวน นักเรียนระดับมัธยมและนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เข้าร่วมประกวด บทความประกอบภาพและวีดิทัศน์ ว่าด้วยความรู้ตามแนวราชดำริภายใต้หัวข้อสุขพอที่พ่อให้ ส่งผลงานวันที่ ๑ มีนาคม - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ นี้ ชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย


ประเภทผลงานในการเข้าประกวด

บทความประกอบภาพ ความยาว ๒-๔ หน้ากระดาษ A๔ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา
บทความประกอบภาพ ความยาว ๒-๔ หน้ากระดาษ A๔ สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา
สื่อวีดิทัศน์ ความยาว ๕-๗ นาที สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา
สื่อวีดิทัศน์ ความยาว ๕-๗ นาที สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา


หัวข้อการประกวด

สามารถเลือกหัวข้อได้อย่างอิสระ แต่ต้องมีเนื้อหาสัมพันธ์กับ ๙ หัวข้อ โดยจัดให้มีทั้งการประกวดที่ให้ส่งผลงานล่วงหน้า และการประกวดรอบการนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งหัวข้อในการแข่งขันให้ผู้แข่งขันเลือกได้จาก ๙ หัวข้อหรือ พระราชดำริในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการ "สุขพอที่พ่อให้"

๑. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับน้ำ
๒. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
๓. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับดิน
๔. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับศิลปาชีพ
๕. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับพลังงานทดแทน
๖. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๗. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับการศึกษา
๘. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับการเกษตรและโครงการฟาร์มตัวอย่าง
๙. แนวพระราชดำริเกี่ยวกับสาธารณสุขและโภชนาการ


ผู้มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวด

กลุ่มนักเรียน
(นักเรียนระดับชั้น ม.๑-ม.๖ หรือ ปวช. ที่กำลังศึกษาอยู่อายุไม่เกิน ๒๐ ปี)

กลุ่มนิสิต นักศึกษา
(นักศึกษาระดับ ปวส. ปริญญาตรี หรือสูงกว่า ที่กำลังศึกษาอยู่อายุไม่เกิน ๒๖ ปี)


รายระเอียด เพิ่มเติ่มอ่านได้ที่ sukphor.com หรือ เฟซบุคสุขพอ ที่พ่อให้







ภาพและข้อมูลจากเวบ
sukphor.com














สืบสาน - ต่อยอด - อนุรักษ์...'ชื่นชมนานาศิลปาชีพไทย'


ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จัดแสดงงานศิลป์ชิ้นเอก ในนิทรรศการ “ชื่นชมนานาศิลปาชีพไทย ครั้งที่ ๖ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร” ณ สยามพารากอน...


ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา พร้อมสืบสาน งานศิลป์ไทย จัดงาน “ชื่นชมนานาศิลปาชีพไทย ครั้งที่ ๖ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ”


นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี และรองประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวถึงการจัดงาน ในครั้งนี้ว่า ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสืบสานพระปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงริเริ่มดำเนินงานด้านการจัดฝึกอบรมงานศิลปาชีพขึ้น เพราะทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปกรรมไทยอันทรงคุณค่าและที่สำคัญยิ่งคือการดำเนินรอยตามพระประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเหล่าเกษตรกร ด้วยการมอบวิชาความรู้และฝึกหัดพัฒนาทักษะด้านศิลปหัตถกรรม เพื่อเป็นการสร้างคน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม






การจัดแสดงผลงานศิลปาชีพในครั้งนี้จัดอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ ๖ นับเป็นการต่อยอดสนับสนุนให้เหล่าศิลปินทั้งคณาจารย์และนักเรียน มุ่งมั่นสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้มีโอกาสสัมผัสและชื่นชมเอกลักษณ์แห่งผลงานศิลปาชีพ งานศิลป์ไทยที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือคนไทยซึ่งเป็นผลลัพธ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ ความพากเพียร ฝีมืออันประณีต และคุณภาพอันเป็นเลิศ การร่วมกันสนับสนุนผลงานศิลปาชีพยังเป็นการร่วมกันพัฒนาและสืบสานศิลปะไทยและสังคมไทยแบบบูรณาการอย่างแท้จริงอีกด้วย





สาธิตวิธีการทำผลงานแต่ละชิ้น



นิทรรศการครั้งนี้จัดแสดงผลงานชิ้นเอกจาก ๒o แผนก โดยเหล่าคณาจารย์และนักเรียนตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษขึ้นมากมาย รวมถึงคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่องานในครั้งนี้โดยเฉพาะซึ่งมีทั้งผลงานศิลป์ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่าง เต็มเปี่ยมและชิ้นงานแนวร่วมสมัยหลากสไตล์





ภาพจิตรกรรมฝาผนัง



สำหรับงานศิลป์แบบไทยแท้นั้น แผนกช่างเขียนภาพลายไทยได้รังสรรค์ “ภาพจิตรกรรมฝาผนังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์” ภาพเขียนสีฝุ่นปิดทอง ซึ่งจำลองภาพจิตรกรรมฝาผนังของพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกทางจิตรกรรมอันล้ำค่าแห่งยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานยกย่องแรงศรัทธาอันแรงกล้าในพุทธศาสนาของเหล่าครูช่างในอดีต ที่อุทิศตนผ่านศิลปะเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สะท้อนให้เห็นความเทิดทูนในพุทธศาสนาจากอดีตจวบจนปัจจุบัน





อีกหนึ่งชิ้นงานเด่น ได้แก่ “ภาพคชสาร”
ศิลปะลายรดน้ำลงรักปิดทอง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทย



แผนกช่างศิลปประดิษฐ์ อวดโฉม “พานพุ่มประยุกต์” พานพุ่มผ้าแบบไทยประยุกต์อันงดงามวิจิตรสำหรับใช้ในเทศกาลงานมงคลต่างๆ ตามประเพณีไทย ผสมผสานงานประณีตศิลป์หลากหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการประดิษฐ์พานพุ่ม, การประดิษฐ์เครื่องแขวน, การร้อยมาลัย และงานปั้นดอกไม้จากดินขั้นตอนการประดิษฐ์นั้นสุดแสนประณีต





พานพุ่มประยุกต์



ส่วนชิ้นงานแบบร่วมสมัยและแบบประยุกต์นั้น มีให้เลือกสรรหลากหลาย นำโดยแผนกช่างเครื่องเคลือบดินเผาอวดโฉม “ภูผารัตติกาล” แจกันเซรามิกปากแคบทรงเท่แปลกตาสีน้ำเงินเข้มดุจผืนป่าในยามราตรี ถ่ายทอดความงามแห่งท้องฟ้ายามค่ำคืนดัที่ประบประดาด้วยแสงของดวงจันทร์และหมู่ดาว แจกันทรงสูงขนาดใหญ่นี้สร้างสรรค์โดยเทคนิคเคลือบไฟที่อุณหภูมิร้อนจัด ผสมด้วยแก้ว ทำให้สีสดสวย เงางาม และแข็งแกร่งทนทาน





ภูผารัตติกาล



ด้าน แผนกช่างเครื่องเรือนหวายสร้างสรรค์ “เก้าอี้ต้นโพธิ์” เก้าอี้หวายดีไซน์สุดเก๋ สูงถึง ๒.๗ เมตร โดดเด่นและดึงดูดทุกสายตา โดยนำแรงบันดาลใจมาจากต้นโพธิ์ ต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา และยังแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาและความร่มเย็นแก่ผู้คน





เก้าอี้ต้นโพธิ์



แผนกช่างเครื่องเรือนไม้ นำเสนอ “ตู้เข้ามุมบานกระจก” ตู้ไม้ยางพาราดีไซน์เข้ามุม มาพร้อมลูกเล่น การฝังหมุดไม้ หรือ Wood Inlay ที่เลือกใช้ไม้เนื้อแข็งต่างโทนสีมาสร้างลวดลาย โดยเหลาให้เป็นแท่งกลมและตอกลงบนตัวตู้ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ และความพิถีพิถันในการเจาะรูแต่ละจุดให้มีขนาดเท่ากันกับหมุดอย่างพอดิบพอดี ตู้ใบนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย และยังสร้างให้มุมหนึ่งของบ้านกลายเป็นจุดดึงดูดสายตา ที่ใช้โชว์ของประดับและของสะสมต่าง ๆ ได้





ตู้เข้ามุมบานกระจก



แผนกช่างบ้านทรงไทย ภูมิใจนำเสนอ “ชนบทไทย” จำลองภาพสถาปัตยกรรมไทยภาคเหนือมาไว้ในกรอบไม้ในรูปแบบ Perspective งดงามสมจริงและมีมิติในทุกมุมมอง แผนกบ้านทรงไทย ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ ถือเป็นต้นฉบับแห่งการสร้างสรรค์เรือนไทยจำลองโดยใช้กระดาษแข็งและไม้สัก มาพร้อมภาพวาดธรรมชาติจากสีอะคริลิก ถ่ายทอดวิถีชีวิตและความเป็นอยู่อย่างไทยได้อย่างดงดงามลงตัว





ชนบทไทย



แผนกช่างภาพกระจกสี นำเสนอ “นาฬิกากระจกสี” ทำให้การบอกเวลาเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ด้วกับลวดลายน่ารัก และสีสันแสนสดใส โดยใช้กระจกสเตนกลาสหลากสี มาตัดแต่งให้เป็นขนาดและรูปทรงต่าง ๆ เกิดเป็นภาพและลวดลายดั่งจินตนาแผนกช่างเป่าแก้ว มาพร้อมของตกแต่งมากด้วยประโยชน์ใช้สอยในคอนเซปต์ดอกบัว





นาฬิกากระจกสี



แผนกช่างสานผักตบชวา นำวัชพืชท้องถิ่นอย่างผักตบชวา มาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่ม ประยุกต์ให้เป็นข้าวของเครื่องใช้จากวัสดุธรรมชาติที่สวยงาม “กระเป๋าเปียแซกเปีย” กระเป๋าหิ้วอารมณ์สบาย ๆ ที่นำก้านผักตบชวามาถักทอให้เป็นเส้น โดยคงสีสันธรรมชาติไว้ เพิ่มความโดดเด่นด้วยการย้อมสี ผสมผสานกับวัสดุหลากหลาย





กระเป๋าเปียแซกเปีย



แผนกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าและปักจักร มาพร้อมความโก้หรู กับ “ผูก พัน” กระเป๋าเชือกถักสีทองหลากรูปแบบ ที่มีให้เลือกทั้งแบบคลัชต์ แบบมีสายสะพายและแบบหูหิ้ว ถักโดยใช้เทคนิคการผูกปมให้แน่นทั้งใบ กระเป๋าจึงมีรูปทรงสวยงาม ยิ่งขึ้นประกอบกับสีทอง ให้อารมณ์โก้หรูในทุกโอกาส





ผูก พัน



ปิดท้ายด้วย แผนกช่างบาติก ดีไซน์ “เสื้อยืดโปโลบาติกเทคนิคผสม” ที่นำเทคนิคหลากหลายมาผสมผสานกัน ได้แก่ การระบาย, การย้อม และ การเขียนสี ผลงานที่ได้จึงมีความแปลกแตกต่างเป็นเอกลักษณ์





เสื้อยืดโปโลบาติกเทคนิคผสม



ภายในงานยังมีการสาธิตงานหัตถกรรมจากแผนกต่าง ๆ อาทิ การเขียนลายไทย, การประดิษฐ์ตุ๊กตาชาววัง, การเขียนลายเครื่องเคลือบดินเผา, การเขียนลายผ้าบาติก และการสาธิตการประดิษฐ์เครื่องแขวนโคมหวดให้ชมฟรีอีกด้วย





สาธิตงานหัตถกรรม


ผู้สนใจร่วมชมผลงานของศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ และร่วมอุดหนุนผลิตภัณฑ์งานศิลป์จากความตั้งใจของอาจารย์และนักเรียนศิลปาชีพ ในงาน “ชื่นชมนานาศิลปาชีพไทย ครั้งที่ ๖ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ” ซึ่งจะจัดขึ้น ระหว่าง ๔ –๑๓ กรกฎาคม นี้ ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น ๒ สยามพารากอน ตั้งแต่เวลา ๑o.oo – ๑๙.oo น.





สาธิตการทำเสื้อยือโปโลบาติก



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thairath.co.th
เฟซบุคมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ














"คอนเสิร์ต "กวีบรรเลง ฅนเพลง ฅนวัฒนธรรม ครั้งที่ ๒”


งานคอนเสิร์ต "กวีบรรเลง ฅนเพลง ฅนวัฒนธรรม ครั้งที่ ๒" สร้างสรรค์โดย กลุ่มถ่านไม้ไผ่ วันที่ ๑๒ กรกฎาคมนี้ตั้งแต่เวลา ๑๘.oo-๒๒.oo น. ณ เรือริเวอร์สตาร์ปริ้นเซส ขึ้นที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ (สี่พระยา) งานนี้จะมีศิลปินเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, สุรชัย จันทิมาธร, มงคล อุทก, ศิลา โคมฉาย, ชูเกียรติ ฉาไธสง, ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี, น้าป่อง วงต้นกล้า ฯลฯ บัตรราคา ๒,ooo บาท พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม (รวมมิกเซอร์ฟรี) ๒๕o ท่าน ติดต่อจองบัตรได้ที่ "ลัดดา รักษ์ประชาไท (เล็ก)" โทร. o๘-๖๘๘๓-๓o๙๗ รายได้จะมอบให้กับศิลปินในการต่อยอดงานเพลง กวีบรรเลง ฅนเพลง ฅนวัฒนธรรม ฝากมาว่าบรรดาศิลปิน นักเขียน ตลอดจนกวีผู้ที่เห็น "คสช." เป็นยักษ์เป็นมาร ก็เข้าร่วมงานนี้ได้.











ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
เฟซบุคกลุ่มถ่านไม้ไผ่














"เทพพิทักษ์ธรรม”


โดยธรรมชาติของโลก มักมีสองสิ่งควบคู่กันอยู่เสมอ เช่น มีมืดย่อมมีสว่าง มีกลางวันย่อมมีกลางคืน มีน้ำขึ้นย่อมมีน้ำลง มีความอุดมสมบรูณ์ย่อมมีความแห้งแล้ง ภายในจิตใจของมนุษย์ก็เฉกเช่นเดียวกัน มีสองสิ่งประกอบกันอยู่ นั่นคือ ความดีและความเลว ยามใดที่สติสัมปชัญญะครบถ้วนบริบูรณ์ กุศลกรรมก็บังเกิด แต่ยามใดที่สติสัมปชัญญะลดน้อยถอยลง อกุศลกรรมก็บังเกิด ผลงานของข้าพเจ้าต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้กันระหว่างความดีและความเลวที่บังเกิดขึ้นภายในจิตใจมนุษย์ และผู้ประกอบแต่กรรมดีนั้น เทพเทวาย่อมมาพิทักษ์รักษา อนุโมทนาบุญอยู่ตลอดกาลนานเทอญ


พิธีเปิดนิทรรศการวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. ณ ห้องนิทรรศการชั้น ๒ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



































ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"นิทรรศการแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ "DOS" Design Operating System”


สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ "DOS" Design Operating System นำเสนอผลงานออกแบบประเภทต่างๆ อาทิ Graphic Design, Illustration, Web Design, Interactive, Film, Motion Graphic, Advertising, Packaging Design และ Corporate Identity ในระหว่างวันที่ ๒-๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ ชั้น ๑ ศูนย์การค้า Siam Discovery


สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต โทร. o-๒๙๙๗-๒๒๒๒ ต่อ ๓๖๓๔ หรือ ๓๖๓๙







ภาพและข้อมูลจากเวบ
rsu.ac.th














ออกแบบเครื่องประดับในแนวคิด "จิตวิญญาณช่างไทยสู่อัตลักษณ์อาเซียน"


เรื่องการดีไซน์จิวเวลรี่ฝีมือของช่างไทยนับว่าไม่เป็นสองรองใคร ดังนั้นเพื่อต่อยอดศิลปะร่วมสมัยกับความวิจิตรงดงามของไทย และเพื่อเฟ้นหานักออกแบบรุ่นใหม่ให้ป็นศูนย์กลางเครื่องประดับอย่างแท้จริง ศูนย์การค้าจิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ โดยบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ร่วมกับสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งเอเชีย (AIGS) จัดโครงการเจทีซี จิวเวลรี่ ดีไซน์คอนเทสต์ ๒o๑๔ ครั้งที่ ๑ งานประกวดออกแบบเครื่องประดับ-อัญมณี ภายใต้แนวคิด "จิตวิญญาณช่างไทยสู่อัตลักษณ์อาเซียน" ด้วยการเปิดเวทีให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการเครื่องประดับอัญมณี ร่วมแสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรคโดย ทรงพล พงษ์รพีพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดศูนย์การค้าจิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ ในเครื่อกลุ่มเซ็นทรัล วิบูลย์ หงษ์ศรีจินดา อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย และ เบญญาพัฒน์ ฉัตรทรงบุตร ผู้อำนวยการถสาบันอัญมณีศาสตร์แห่งงประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวที่บริเวณลานอีเวนท์ ฮอลล์ ชั้นบี ๑ ศูนย์การค้าจิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์


ทรงพล พงษ์รพีพร เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดประกวดครั้งนี้ว่า เพื่อมุ่งเน้นให้นักออกแบบเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานด้วยการออกแบบ ร่วมสมัยผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทย กับกลุ่มประเทศอาเซียน มาเป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นผลงาน เพื่อส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของไทยในปี ๒๕๕๘ นี้ ซึ่งศูนย์คาดหวังว่าเวทีการประกวดแห่งนี้จะเป็นอีกพื้นที่ให้นักออกแบบรุ่นใหม่ หรือเยาวชนที่ใฝ่ฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ได้โชว์ไอเดียสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันก็ยังเกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบที่พัฒนามากยิ่งขึ้นในอนาคตโดยมีเวทีนี้เป็นพื้นที่หาประสบการณ์


"สำหรับโครงการประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งนี้ว่า กำหนดจัดขึ้นภายในระยะเวลา ๖ เดือน เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๓o มิถุนายน-๒๒ สิงหาคม และประกาศผลผู้ชนะวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยผลงานการออกแบบสามารถสร้างสรรค์ ใช้เทคนิคอิสระไม่จำกัดรูปแบบและวัตถุดิบ แต่ต้องเป็นชิ้นงานที่เป็นไปตามข้อกำหนด คือ เป็นเครื่องประดับที่ใช้ทองคำ เงิน และหรืออัญมณีในการผลิตเท่านั้น โดยผู้ชนะเลิศการประกวดประเภทเยาวชน และบุคคลทั่วไปจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า ๕o,ooo บาท พร้อมด้วยแพ็กเกจศึกษาดูงานด้านจิวเวลรี่ที่ประเทศอิตาลี จำนวน ๒ ที่นั่ง ส่วนรองชนะเลิศอันเดับ ๑ ทั้งสองประเภทได้รับเงิน ๒๕,ooo บาท รองชนะเลิศอันดับ ๒ ได้รับเงินรางวัล ๑๕,ooo บาท และรางวัลป๊อปปูลาร์โหวต ทั้งสองประเภทผ่านทางออนไลน์รับเงินรางวัล ๕,ooo บาท และป๊อปปูลาร์โหวตภายในศูนย์การค้า รับเงินรางวัล ๕,ooo บาท" ทรงพลกล่าว


ขณะที่ พงศกร เรื่องสังข์ นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ สาขาช่างทองโบราณ จากกาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง เปิดใจหลังยื่นใบสมัครเข้าแข่งขันว่า เคยผ่านเวทีการประกวดงานออกแบบเครื่องประดับมาบ้าง แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นได้รางวัลใด ๆ แต่รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่เปิดเวทีให้แสดงความสามารถ และในฐานะผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ก็แอบหวังว่าผลงานของตัวเองจะเข้าตากรรมการ เพราะไม่ใช่แค่ตัวเองจะได้โอกาสต่อ ๆ ไป วิทยาลัยก็พลอยจะมีชื่อเสียงไปด้วย


ด้านสองนักศึกษาสาวระดับปวช.ปี ๒๒ นาตยา มังคะลา และ กชกร ชาวชัยนาท ซึ่งรักการออกแบบช่างทองโบราณ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าดีใจที่ผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สำหรับเรื่องโจทย์ที่ได้รับนั้นถือว่าเป็นเรื่องท้าทายมาก คงต้องค่อย ๆ ศึกษาทั้งจากประเทศในอาเซียนและของประเทศไทยเราแล้วค่อยนำมาผสมผสานกัน ส่วนเรื่องรางวัลจากการประกวดในครั้งนี้ ยอมรับว่ายังไม่คาดหวังถึงขั้นนั้น แต่คิดว่าน่าจะได้ประสบการณ์ดี ๆ ได้รู้ว่าสังคมข้างนอกเขาไปถึงไหนกันแล้ว แล้วค่อยนำกลับไปพัฒนาฝีมือตัวเอง


ผู้ที่สนใจเข้าร่วมส่งผลงานการออกแบบเครื่องปรดับสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือดาวน์โหลดใบสมัครผ่านทางเว็บไซต์ jewelrytradecenter.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














"นิทรรศการศิลปกรรมชนบทศึกษา : ไทล้านนา-เชียงตุง”


หอศิลป์ริมน่านได้รับเกียรติจากโครงการนิทรรศการศิลปกรรมชนบทศึกษา : ไทล้านนา-ไทเชียงตุง ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปกรรมของนักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาศิลปกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นผลงานศิลปะในลักษณะเชิงการวิจัย สืบค้น แสวงหาคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ศิลปะพื้นบ้านและภูมิปัญญาของผู้คนที่เกี่ยวพันใกล้ชิด มีรากเหง้าทางภาษาเดียวกันกับชาวล้านนา คือเมืองเชียงตุง ดินแดนของคนไทเขิน ไทลื้อ ไทใหญ่ ไทยวนอยู่อาศัย และนำข้อมูลที่ได้รับเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรมร่วมสมัยในรูปแบบต่าง ๆ ร่วมกับคณาจารย์และศิลปินรับเชิญ ออกเผยแพร่ เพื่อประโยชน์ในการศึกษา แสดงถึงศักยภาพและสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันฯ


จัดแสดง : ณ หอศิลป์ริมน่าน
ระหว่างวันที่ : ๕ กรกฎาคม ถึง ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๗
เปิดบริการเวลา : ๑๙.oo – ๑๗.oo น. และปิดบริการ ทุกวันวันพุธ


สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ o๘๑-๙๘๙-๒๙๑๒
Email : Winai_nrg@hotmail.com
Facebook : เฟซบุค winai prabripu



ภาพและข้อมูลจากเวบ
sac.or.th














"The Wind Rises ผลงานมาสเตอร์พีซของ ฮายาโอะ มิยาซากิ”


"The Wind Rises : ปีกแห่งฝันวันแห่งรัก" ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น ที่สร้างมาจากนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ ทัตสึโอะ โฮริ หลังจากได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ก็ได้สร้างความสั่นสะเทือนในวงการด้วยการทำรายได้ขึ้นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นถึง ๘ สัปดาห์ และได้ถูกเลือกให้เข้าชิงออสการ์ในสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม โดยภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้ง สตูดิโอ ghibli (จิบลิ)






โดยหนังเล่าเรื่องราวของ จิโร่ ชายหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นสูงลิบเพื่อที่จะเป็นนักบินได้ตามความฝัน แต่ฝันของเขาสูญสิ้นเพราะเขาสายตาสั้นมากเกินไปจนไม่สามารถเป็นนักบินได้ หากแต่ความฝันของเขาไม่เคยหมดสิ้น จิโร่ เข้าสมัครงานที่บริษัทออกแบบเครื่องบินและความอัจฉริยะของเขาถูกค้นพบเขากลายเป็นนักออกแบบเครื่องบินที่มีชื่อเสียง จิโร่ เปรียบเสมือนตัวแทนความฝันของวัยรุ่นที่ชัดเจน จิโร่ เดินตามความฝัน หยุดพักชื่นชมกับสิ่งที่หลงใหลและตื่นเต้นไปกับทุก ๆ อย่างที่ทำและเมื่อทุกครั้งที่ จิโร่ ท้อแท้ เขาจะไม่เคยท้อถอย เขาต่อสู้กับทุกสถานการณ์ หากแต่ไม่มีชีวิตของใคร ที่จะไม่ผ่านความทุกข์






สร้างแรงผลักดัน ความฝัน สำหรับผู้ที่กำลังเสื่อมสมรรถภาพทางแรงบันดาลใจพร้อมกัน ๓ กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ เอสพลานาด รัชดา เมเจอร์รัชโยธิน สกาล่า และ เฮ้าส์ อาร์ซีเอ







ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














นิทรรศการ "เมสเสจ" จิตรกรรมร่วมสมัย


ก้อย อาร์ต แกเลอรี่ นำเสนอนิทรรศการ “MESSAGES” (เมสเสจ) ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัย โดย ปราบ พนิชเรืองไกร, ปรีชา รักซ้อน, ปัณณวิชญ์ พิพัฒจิรโชติ และพชร ปิยะทรงสุทธิ กลุ่มศิลปินหนุ่มฝีมือดีจากรั้วศิลปากร สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของอารยธรรมการสื่อสารในสังคมยุคใหม่ไร้พรมแดนที่เข้ามามีบทบาทต่องานศิลปะในปัจจุบัน






“MESSAGES” (เมสเสจ) นิทรรศการกลุ่มซึ่งจัดขึ้นในช่วง “La Fete’s Galleries Night” พร้อมฉลองบ้านใหม่ใหญ่กว่าเก่าของ ก้อย อาร์ต แกเลอรี่ เป็นผลงานของ ปราบ พนิชเรืองไกร, ปรีชา รักซ้อน, ปัณณวิชญ์ พิพัฒจิรโชติ และพชร ปิยะทรงสุทธิ ที่ต่างถ่ายทอดบทบาทของผลงานจิตรกรรมในสังคมร่วมสมัยซึ่งการสื่อสารก้าวไกลไปมากในแบบฉบับของแต่ละคน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไม่เพียงแต่เชื่อมโยงคนเข้าด้วยกัน หากยังเปิดโอกาสให้คนเข้าถึงข้อมูลและสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ผลงานด้านศิลปะ การแปลความหมายของชิ้นงานตามความเข้าใจของตน หรือการสืบค้นปูมหลังของศิลปิน ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ อย่างไร้พรมแดนจะกระทบต่อการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินในยุคปัจจุบัน






ในนิทรรศการ MESSAGES (เมสเสจ) ศิลปินทั้งสี่ต่างสร้างสรรค์ผลงานของตนโดยได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริง ถ่ายทอดผ่านมุมมองชีวิตในรูปแบบที่ต่างแนวกัน อาทิ การล้อเลียนสังคม แนวการ์ตูน การประชดประชัน แนวประหลาด ฯลฯ แม้สิ่งแวดล้อมและการชมผลงานจิตรกรรมอาจเปลี่ยนแปลงไป แต่ความรู้สึกที่ผู้ชมมีต่องานศิลปะไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกทึ่ง เศร้าโศก หวาดกลัว หรือสับสน ฯลฯ ก็ยืนยันอย่างชัดแจ้งถึงอิทธิพลที่ยากจะเลียนแบบของภาพวาดที่มีต่อผู้ชม






นิทรรศการ “MESSAGES” (เมสเสจ) โดย ปราบ พนิชเรืองไกร, ปรีชา รักซ้อน, ปัณณวิชญ์ พิพัฒจิรโชติ และพชร ปิยะทรงสุทธิ จะจัดแสดง ณ ก้อย อาร์ต แกเลอรี่ ๒๔๕ ซอยสุขุมวิท ๓๑ (ซอยสวัสดี) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ ๕-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๑.oo - ๑๙.oo น. สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร o๒- ๖๖๒-๓๒๑๘



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
koiartgallerybangkok.com














"เพื่อแผ่นดินเชียงรายอันเป็นที่รัก”


"เพื่อแผ่นดินเชียงรายอันเป็นที่รัก" ขอเชิญร่วมพิธีสืบชะตาเมืองเชียงราย ในวันเสาร์ที่ ๑๙ กรกฏาคม ๒๕๕๗ เวลา ๙.oo น. ณ วัดร่องขุ่น เชียงราย จัดโดย จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) นําขบวนคณะศิลปินโดย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี (ศิลปินแห่งชาติ) อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (ศิลปินแห่งชาติ) อาจารย์นคร พงษ์น้อย กํากับพิธีกรรม และพร้อมด้วย ๑o๘ ศิลปินในกองทุนศิลปินเชียงราย (ขัวศิลปะ) ชมขบวนแห่ ตุงผ้าพระบถ ฝีมือศิลปิน จํานวน ๑o๘ คน ตุงทั้งหมดจะนํามาเป็นสลากตุงสําหรับผู้ร่วมบริจาค ๕o,ooo บาท มี ๑ สิทธิในการจับฉลากรับตุงพระบฏของศิลปินเชียงราย ๑ ชิ้น (ซึ่งมีผลงานของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์)

รายได้เข้าสมทบกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวจังหวัดเชียงราย (กชร.)
กําหนดการและรายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ทรงเดช o๘๙-๕๕๕-o๗๕๘



ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com














"HER”


ภาพหญิงสาวหลากหลายคาแรกเตอร์กับสัตว์ต่าง ๆ อาทิเช่น เจ้ากระต่ายดำ เจ้าคิงคองฯลฯ เล่าผ่านขบวนการทางศิลปะทั้ง painting drawing mini sculpture กว่า ๕o ชิ้น


สอดแทรกสัญลักษณ์เพื่อสื่อความหมายของ อารมณ์ความรู้สึก สัญชาตญาณ ความปรารถนาและการครอบงำ ระหว่างมนุษย์ หญิง-ชาย


HER อาจหมายถึง “เธอ” ผู้ถูกสร้างขึ้นในโลกอุดมคติ(ความฝัน) HER อาจหมายถึง “ฉัน” ที่เป็น “ของเธอ” ในโลกอุดมคติ(ความฝัน) ผลงานชุด HER เป็นเรื่องเล่าในจินตนาการที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในชีวิตประจำวันทั้งของตนเองแลผู้คนรอบตัว แปรสภาพเป็น ความทรงจำ ความฝันและถ่ายทอดเป็นผลงานศิลปะที่บอกเล่าถึงความโดดเดี่ยวของมนุษย์ที่แสวงหาความสัมพันธ์ เพื่อมาเติมเต็มความอ้างว้างในจิตใจ


HER เป็นเหมือนสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาในอุดมคติ และ ให้คุณค่ากันมันแม้ไม่มีอยู่ในโลกความเป็นจริง


นิทรรศการ : HER
ศิลปิน : ธนสาร คณะเกษม
วันที่ : ๕ กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป
สถานที่ : Artery Post-Modern Gallery
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๖๓๕-๓๑๓๓, o๘๕-๙๑๗-๘๘๙๑











ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"ร่องรอยแห่งแรงปรารถนาบทภาวนาเพื่อดินแดนที่ถูกลืม”


นิทรรศการภ่าพถ่าย “ร่องรอยแห่งแรงปรารถนาบทภาวนาเพื่อดินแดนที่ถูกลืม” เป็นการรวบรวมผลงานภาพถ่ายที่สะท้อนถึงความผูกพัน ความทรงจำ และความหวัง ของผู้ลี้ภัยชาวทิเบตที่มีต่อดินแดนบ้านเกิดเมืองนอน


ผ่านใบหน้าของผู้ลี้ภัยที่ร่วมกันสวดภาวนาอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์เพื่อปกปักษ์รักษาบ้านเกิดเมืองนอนที่ตนจากมา “ผู้คนสวดภาวนาด้วยแรงปรารถนา โดยอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพื่อดลบันดาลให้ความฝันของตนเองเป็นจริง ในภาพถ่ายชุดนี้ผมได้บันทึกใบหน้าของผู้ลี้ภัยชาวทิเบต ที่หลบหนีออกจากดินแดนบ้านเกิดเมืองนอนมากว่า ๕๐ ปี ขณะเวลาที่ถ่ายภาพผมขอให้พวกเขาสวดภาวนา และนึกถึงสิ่งที่ตนเองปรารถนา โดยที่แทบทุกคนสวดภาวนา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธ์ปกป้องรักษาบ้านเกิดเมืองนอนที่ตนจากมา ผมเลือกใช้กระบวนการถ่ายภาพซ้อน (multiple exposure) เพื่อบันทึกช่วงเวลาแห่งการภาวนา โดยผมมีความเชื่อว่ากระบวนการถ่ายภาพซ้อนจะสามารถบันทึกบุคคลิกร่วมของผู้ลี้ภัยที่ปรารถนาในสิ่งเดียวกันและแสดงออกให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของผู้คนที่อาศัยอยู่ต่างที่ต่างเวลาแต่มีแรงปรารถนาเดียวกันได้”






บทวิจารณ์จากหนังสือร่องรอยแห่งแรงปรารถนาบทภาวนาเพื่อดินแดนที่ถูกลืม โดย สุลักษณ์ ศิวรักษ์ศิลปินได้พยายามทำให้เราได้สังเกตุเห็น ถึงแรงขับเคลื่อนบางอย่างที่เชื่อมโยงใบหน้าของผู้ภาวนาเข้าด้วยกัน จนกระทั่ง เราสามารถซึมซับรายละเอียดของร่องรอยอัตลักษณ์อันเบาบาง ที่ปรากฏบนทุกมิติทางกายภาพของงานได้ ใบหน้าที่เริ่มเลือนหายไปแต่กลับให้ความรู้สึกเรียบง่ายและเบาสบาย เมื่อนั้นผลงานได้นำพาเราไปสู่การตระหนักรู้ถึงมิติทางจิตวิญญาณการเฝ้าสังเกตเช่นนี้ต้องอาศัยความอดทนและสมาธิที่จดจ่ออย่างยิ่งเพื่อมุ่งเข้าถึง “จิตภายใน” ผ่านทาง “รูปกายภายนอก” และเมื่อใดที่เราละสายตาจากภาพภายนอกเข้ามาจับจ้องที่ภายในจิตตัวเอง เมื่อนั้นเราจึงได้เข้าถึงสภาวะอันบริสุทธิ์ของความงามที่ไร้ขอบเขต


Excerpt from the book journal (จากบทบันทึกการเดินทาง)

“ผมเริ่มต้นออกเดินทางถ่ายภาพ เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังสูญเสียการได้ยินและประสาทสัมผัสของดวงตาข้างซ้าย ซึ่งกำลังเสื่อมลง การถ่ายภาพดูจะเป็นหนทางเดียวที่ผมจะได้มีส่วนรวมกับความงดงามของโลกใบนี้ก่อนที่จะสายเกินไป ผมอยากมีภาพความทรงจำเกี่ยวกับโลกใบนี้ด้วยตัวผมเอง ในช่วงแรกของการสูญเสียผมขาดความมั่นใจ และกลัวที่จะยอมรับความจริง แต่เมื่อเริ่มออกเดินทางตัวคนเดียว ผมค้นพบความสงบในจิตใจตนเองในท่ามกลางผู้คนแปลกหน้า การเฝ้าสังเกตและสัมผัสผู้คน ทำให้ผมกล้าที่จะเปิดรับความจริงในชีวิตว่า ชีวิตเราหนีความทุกข์ไม่พ้น ชีวิตผู้อื่นก็เช่นกัน ทีละเล็กละน้อยผมเริ่มเปิดใจสัมผัสความทุกข์ของคนอื่นมากขึ้น และเริ่มคิดถึงความทุกข์ของตัวเองน้อยลง แม้ในความเป็นจริง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียไม่เคยหายไป แต่เมื่อใดที่มีความทุกข์มากระทบ ผมเรียนรู้ที่จะหันไปมองดูคนที่ทุกข์กว่าเรา เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราสามารถสัมผัสความทุกข์ยากของผู้อื่นได้ เมื่อนั้นความทุกข์ในตัวเรา ก็เบาบางลง ผมรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตของเรานั้นผูกพันกับชีวิตของคนรอบข้างอย่างแยกจากกันไม่ออก เราเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่เชื่อมโยงเราไปสู่ชะตาชีวิตที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหตุการณ์ใดก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้อื่น ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ”






เนื่องด้วยมูลนิธิเสฐียรโกเศศ - นาคะประทีป องค์กรอิสระซึ่งมีความสัมพันธ์ และทำงานกับชนชาวทิเบตมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในนามของโครงการศูนย์ไทย-ทิเบต มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประชาชนไทย-ทิเบต ได้ร่วม จัดโครงการจัดนิทรรศการศิลปะ ร่องรอย แห่งแรงปรารถนาบทภาวนา เพื่อดินแดนที่ถูกลืม ผลงานนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวด Chang Photo Fine Art Contest ในปี ๒๕๕๖ โดยมีกำหนดการพีธีเปิดงาน ในวันอาทิตย์ที่ ๖ กรกฎาคม เวลา ๑๖.oo น. ซึ่งถือเป็นวันคล้ายวันประสูติ ของ องค์ ทะไลลามะ ที่ ๑๔ แห่งทิเบต โดย อาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน


นิทรรศการ : “ร่องรอยแห่งแรงปรารถนาบทภาวนาเพื่อดินแดนที่ถูกลืม”
ศิลปิน : ภาณุวัฒน์ จิตติวุฒิการ
วันที่ : ๓- ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : ณ ห้องนิทรรศการ People’s Gallery ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยเปิดให้ชมวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา ๑๑.oo- ๒๑.oo (ปิดวันจันทร์)
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณ ภาณุวัฒน์ จิตติวุฒิการ โทรศัพท์ : o๘๑-๓o๕-๑๔๗๔
อีเมล : joe_jitti@hotmail.com
เว็บไซต์ : bhanuwat.org



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com















"ยุติทำ – ยุติธรรม”


หอศิลป์คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ ขอเชิญชม “นิทรรศการ “ยุติทำ ยุติธรรม” จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นในทุกคนได้หวนกลับมาตระหนักในสามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน ความดี ความชั่ว ความเหมาะสม ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นสามัญสำนึกที่มนุษย์อันมีมนุษยธรรมทุกคนสามารถตระหนักรู้ได้ แต่ ณ ปัจจุบัน สถานการณ์ในสังคมกลับแสดงให้เห็นว่าเรากำลังประสบปัญหาวิกฤตด้านสามัญสำนึกและศีลธรรมอย่างหนัก ซึ่งตัวสร้างปัญหาเหล่านั้นก็คือ คน สัตว์ผู้มีจิตใจสูง ผู้ควรจะมี “ธรรม” แต่กลับหาแทบไม่เจอ เพราะใช้สัญชาติญาณความเห็นแก่ตัวเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น ขาดสามัญสำนึกในเรื่องจริยธรรมและศีลธรรม หากต้องการให้ศีลธรรมกลับมา เราจะต้อง “ยุติ” การกระทำที่เป็นสิ่งไม่ดี “การยุติการกระทำบางอย่างจะนำมาซึ่งความยุติธรรมและเป็นธรรม” จึงเป็นวลีที่เป็นโจทย์ในการสร้างสรรค์ผลงานที่จะนำเสนอในนิทรรศการครั้งนี้ ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ล้วน “ยุติ” ลงได้ด้วย “ธรรม” ซึ่งสิ่งไม่ดีจะ “ยุติ” ได้ เมื่อ “ธรรม” เกิดขึ้นในใจคน






นิทรรศการศิลปกรรม “ยุติทำ ยุติธรรม” ที่จัดแสดงในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยผลงานจิตรกรรม, ประติมากรรม, วัสดุผสม, Performance(ศิลปะการแสดงสด) และ Graffiti ตีความสร้างสรรค์โดย ๑๔ ตัวแทนนักศึกษาคณะจิตรกรรมฯ ได้แก่ กันยารัตน์ เครือเอี่ยม, ภาณุพงศ์ คงเย็น, รัตติกาล จิตต์หมั่น, ประจวบลาภ สวัสดี, จารุพัฒน์ นาคพันธ์, พลอยพรรณษา พันธ์โพธิ์ทอง, ณภัทร แก้วมณี, ธีร์รัฐ เมธีวัชรธนาภรณ์, นนท์ แก้วเวฬุ, ชัยบูรณ์ บันลือ, ภาณุ นาครทรรพ, บุระเฉลิม ยมนาค, อาทิตย์ สังข์ตะคุ และ พัทธ์ ยิ่งเจริญ


พิธีเปิดนิทรรศการ วันศุกร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.oo น.


นิทรรศการ : “ยุติทำ – ยุติธรรม”
ศิลปิน : กันยารัตน์ เครือเอี่ยม, ภาณุพงศ์ คงเย็น, รัตติกาล จิตต์หมั่น, ประจวบลาภ สวัสดี, จารุพัฒน์ นาคพันธ์, พลอยพรรณษา พันธ์โพธิ์ทอง, ณภัทร แก้วมณี, ธีร์รัฐ เมธีวัชรธนาภรณ์, นนท์ แก้วเวฬุ, ชัยบูรณ์ บันลือ, ภาณุ นาครทรรพ, บุระเฉลิม ยมนาค, อาทิตย์ สังข์ตะคุ และ พัทธ์ ยิ่งเจริญ
วันที่ : ๔ – ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : (PSG Art Gallery)หอศิลป์คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๒๑-o๘๒o



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 05 กรกฎาคม 2557
Last Update : 5 กรกฎาคม 2557 19:45:45 น. 0 comments
Counter : 4154 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.