Bloggang.com : haiku : เสพงานศิลป์ ๑๕๙

เสพงานศิลป์ ๑๕๙

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

ศิลปินรวมตัวผลักดัน “สีน้ำไทย” สู่ “สีน้ำโลก”

หลังจากที่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้จัด “มหกรรมสื่อสีน้ำโลก ประเทศไทย” มีผลงานของศิลปินสีน้ำจากหลายประเทศมาจัดแสดงรวมกับผลงานของศิลปินไทย ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ล่าสุดศิลปินสีน้ำไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งเคยมีผลงานไปร่วมแสดงใน “มหกรรมสื่อสีน้ำโลก ประเทศไทย” ได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้ง “สมาคมสีน้ำไทยสู่สีน้ำโลก”

ทวี เกษางาม หนึ่งในศิลปินผู้ผลักดัน กล่าวว่า การเกิดขึ้นของสมาคมในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะเชิดชูเกียรติครูบาอาจารย์ที่ทำงานเขียนภาพสีน้ำ

“ในอนาคตเราอาจจะมีศิลปินสีน้ำแห่งชาติ เราหวังว่าอย่างนั้น”

ตลอดจนผลักดันผลงานของศิลปินมืออาชีพและเยาวชนไปสู่เวทีโลก

“ต่อไปเราจะมีกองทุน มีระบบขับเคลื่อนที่ต่อเนื่อง เราเชื่อว่าริเวอร์ซิตี้ (สถานที่ซึ่งใช้จัดงานแถลงข่าวการก่อตั้งสมาคมฯ) จะเป็นพี่เลี้ยงใหญ่ให้กับเรา และผลักดันให้มีการประมูลภาพเขียนสีน้ำ”

โดยผู้จุดประกายให้มีการก่อตั้งสมาคมฯ คือ ศรัทธา หอมสวัสดิ์ หรือศิลปินสีน้ำที่รู้จักกันในนาม La Fe

“อาจารย์ La Fe เคยไปคว้ารางวัลและถูกรับเชิญไปจัดแสดงภาพเขียนในเวทีนานาชาติหลายครั้ง เป็นคนมาหารือกับผมที่จะตั้งสมาคมฯ ที่จะเชื่อมโยงกับเวทีโลก

ขณะที่ La Fe เองก็ให้ข้อมูลว่า ในระดับสากล “สมาคมสีน้ำโลก” ได้ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อ ๔ ปีที่แล้ว เพื่อรวมรวมศิลปินสีน้ำจากทั่วโลก และจัดให้มีกิจกรรมประกวดและแสดงภาพเขียนสีน้ำทุกปี และเมื่อปี ๒o๑๓ ตนก็เพิ่งได้รับเชิญให้ไปร่วมแสดงแสดงผลงาน จึงมีความคิดที่จะผลักดันให้ศิลปินสีน้ำชาวไทยที่มีฝีมือเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล และหวังที่จะได้เห็นผลงานของสมาชิกของสมาคมฯ ไปร่วมแสดงกับสมาคมสีน้ำโลก ที่ประเทศตุรกี ในทุกปี

ด้าน บัญชา ศรีวงศ์ราช ศิลปินสีน้ำหนึ่งในสมาชิกขอสมาคมฯ กล่าวการันตีว่า ในด้านฝีมือ ปัจจุบันผลงานของศิลปินสีน้ำชาวไทยทัดเทียมระดับโลก แต่ขาดการสนับสนุน

“หลายท่านเลิกทำงานไปเลย แต่ยังมีพวกเรากลุ่มหนึ่งที่พยายามต่อสู้เรื่องนี้มาตลอด และในระดับโลกมีการประมูลผลงานสีน้ำของศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ในราคาสูงถึง ๑o -๒o ล้าน มันเกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพของภาครัฐและเอกชน ที่ผ่านมาหลายคนอาจมองว่าภาพเขียนสีน้ำเขียนง่ายใช้เวลาในการเขียนไม่นาน ราคาของภาพไม่น่าจะแพง แต่ตอนนี้ วิวัฒนาการในการผลิตสีและกระดาษ ทำให้ภาพเขียนสีน้ำสามารถเก็บรักษาไว้ได้เป็นร้อย ๆ ปี เพราะฉะนั้นคุณภาพของภาพเทียบเคียงได้กับภาพเขียนสีน้ำมัน

และเริ่มมีนักสะสมที่หันมาสะสมภาพเขียนสีน้ำ แม้จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ แต่กราฟพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉนั้นจึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะตั้งสมาคมฯ เพื่อส่งเสริมทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น และเพื่อให้ผู้สนใจได้มาร่วมกิจกรรมที่สมาคมฯ หรือศิลปินสีน้ำไทยจะรวมตัวกันจัดขึ้น และเราจะร่วมมือกับศิลปินสีน้ำทั่วโลก เพื่อให้ศิลปินสีน้ำไทยที่มีฝีมือดี ได้รับการส่งเสริมอย่างถูกวิธี ขายภาพได้ในราคาที่สูงขึ้น”

ในวันแถลงข่าวการก่อตั้งสมาคมฯ ศิลปินสีน้ำ ๗ คน ได้แก่ ทวี เกษางาม, ศรัทธา หอมสวัสดิ์, บัญชา ศรีวงศ์ราช, บุญกว้าง นนท์เจริญ, มาโนช กิตติชีวัน, วิศิษฎ์ พิมพิมล และสหัชนัฐ เถกิงเกียรติ ยังได้ร่วมกันโชว์เขียนภาพ “เกาะพระนาง จ.กระบี่” ด้วยสีน้ำ ขนาดใหญ่กว่า ๕ เมตร พร้อมแจ้งข่าวกิจกรรรมแรกที่จะจัดขึ้นในนามของสมาคมฯ คือ เทศกาลศิลปะสีน้ำไทยสู่สีน้ำโลก ซึ่งจะมีการจัดแสดงภาพเขียนสีน้ำกว่า ๑oo ภาพ ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๓o พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ เดอะ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น ๑ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ท่าน้ำสี่พระยา

ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th

Inspiration from the journey

นิทรรศการศิลปกรรม "บันทึกการเดินทาง : Inspiration from the journey"

ผลงานโดย สุวิทย์ ใจป้อม (Suwit Jaipom) และ ดิเรก กิ่งนอก (Direk Kingnok)

จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑-๓o พฤศจิกายน ๒๕๕๗

ณ หอศิลป์ต้นตาล : TonTann ArtSpace and Gallery

ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com

The Happiness with Watercolour

ขอเชิญร่วมเปิดงานนิทรรศการ “สุขกับสีน้ำ″ โดยอาจารย์สุกิจ ศุระกาญจน์.

วันพุธที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๓o น.

ณ Living Trail Zone ชั้น ๒ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิติ้

รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๓๗-oo๗๗ ถึง ๗๘, o๙๘-๒๘o-o๗๕๖

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

ประเพณีศิลป์อีสาน

นิทรรศการ "ประเพณีศิลป์อีสาน" ผลงานโดย ทรงฤทธิ์ เหมือยพรม จัดแสดงระหว่างวันที่ ๕ พฤศจิกายน - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ และจะมีพิธีเปิดในวันอังคารที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น. ณ People's Gallery P1-P2 ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร : bacc การ สร้างสรรค์ผลงานนิทรรศการศิลปะในชุด “ประเพณี ศิลป์อีสาน” เกิดจากความประทับใจในต่างประเทศที่ได้ไปทัศนศึกษา ชมผลงานศิลป์ศิลปินที่มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ระดับโลก นำมาสร้างสรรค์ เรื่องราว รูปแบบ แนวความคิดเชิงกรณีศึกษา และนำมาพัฒนา ผสมผสานกับประเพณีศิลปะอีสาน ซึ่งเป็นรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมอันดีงามของข้าพเจ้า สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผลงานแสดงนิทรรศการศิลปะในครั้งนี้ จึงเป็นศิลปะที่แสดงออกถึง ความรู้สึก ความสุข ความสนุกสนาน การทำบุญและแฝงด้วยหลักธรรมวิถีพุทธ ประเพณีอันดีงามของคนพื้นถิ่นอีสาน

ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com

Workshop ใส ๆ ใจคนรักงานปักฝัน และงานดอกไม้ไทย

ตติยบท ภาคสาม ของมหากาพย์ ๑๒ ภาค ๑๒ เดือน ๑๒ ชิ้นงาน งานปักลวดลายงานดอกไม้ไทย โดยครูอ๋าย นิรมิตาจารย์ ครูงานปักผ้าร่วมสมัย พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ และสกุล อินทกุล ขอเชิญคุณ ๆ ร่วมเดินทางไปในโลกแห่งวัฒนธรรมดอกไม้ไทย ผ่านมุมมองของครูอ๋าย นพเก้า เนตรบุตร ผู้จะพาคุณ ๆ เดินทางไปบนเส้นทางสายดอกไม้ ผ่านด้ายฝ้าย แพรไหม ไข่มุก ลูกปัดแก้ว และผ้าลายลูกไม้หวาน เย็บ ๆ ปัก ๆ ถัก ๆ ร้อย ๆ นิรมิต ด้ายฝ้าย แพรไหม ไข่มุก และลูกปัดแก้วอันสวยงาม ให้แปรเปลี่ยนเป็นงานปักที่เปี่ยมล้นด้วยจินตนาการ และรสนิยม

ท่องไปในโลกของวัฒนธรรมดอกไม้ไทยใน ๑๒ เดือน กับ series งานปักผ้าวัฒนธรรมดอกไม้ไทย ที่ครูอ๋ายที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดรวม ๑๒ ชิ้น เที่ยวไปในโลกแห่งจินตนาการของดอกไม้ไทยบนผืนผ้า และแพรไหม กับใจที่แสนสวยงาม โดยมีครูอ๋าย ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ส่วนตัว ณ สถานที่ที่วิเศษสุด พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ หนึ่งเดียวในโลก ที่เดียวเท่านั้น

คลาสเดียว วันเดียวเท่านั้น สำหรับเดือนพฤศจิกายน
กับงานปักผ้ากระทงไทย
วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo-๑๘.oo น.
ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้

สนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนเรียนได้ที่ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้
โทร. o๒-๖๖๙-๓๖๓๓-๔ วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ๑o.oo น. ถึง ๑๘.oo น.

กิจกรรมในวันอื่น ๆ

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Dinhin Rakpong-Asoke

A Road to Paris

Street Photo Thailand กำลังจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายแนว Street Photography ที่ประเทศฝรั่งเศส ในชื่องาน “A Road to Paris” นิทรรศการครั้งนี้คัดเลือกผลงานโดย Curator ชาวฝรั่งเศส Sarah Jean-Ortiz นิทรรศการ “A Road to Paris” จัดที่ Maison de la Chine ใจกลางมหานครปารีส งานมีวันที่ ๗ ตุลาคม จนถึงเดือนมกราคม ๒๕๕๘

รายชื่อช่างภาพที่จัดแสดงงาน

Akkara Naktamna
Chatchai Boonyaprapatsara
Nakarin Teerapenun
Naruepol Nikomrat
Noppadol Weerakitti
Sarawut Taeosot
Tipawan Gatesomboon
Vinai Dithajohn
Visit Kulsiri

รายละเอียดเพิ่มเติม : streetphotothailand.com

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

Insight : Mind : Journey

นิทรรศการเล่าเรื่องด้วยภาพถ่ายพร้อมบันทึกขนาดสั้นเสมือนไดอารี่ส่วนตัวแทนความรู้สึก ความทรงจำและมุมมองต่อการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดการเดินทาง ๘ ปี ของวชิระ ตราชูภาพถ่ายขาว-ดำ ทั้ง ๒๒ ชิ้นเป็นตัวแทนความทรงจำจากการเดินทางเพื่อเข้าใจตัวเองและหาความตอบในชีวิต กระเป๋าเป้ที่บรรจุแรงบันดาลใจและเครื่องมือบันทึกความทรงจำ พาเขาเดินทางไปไกลถึงแชงกรีล่าทั้งที่ตั้งใจในตอนแรกเพียงหลวงพระบาง ภาพธรรมชาติและผู้คนระหว่างการเดินทาง เป็นบันทึกความคิดและความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเดินทาง มีบางเรื่องที่ถูกตั้งคำถามไว้ก็คลี่คลาย บางเรื่องก็ต้องหาคำตอบกันต่อไป

ตราบใดที่ชีวิตยังมีลมหายใจ
ตราบนั้นชีวิตยังคงต้องเดินทาง
แน่นอนที่สุดไม่ว่าการเดินทางนั้นจะไกลหรือใกล้
วิถีผู้คนและสภาพแวดล้อมย่อมเปลี่ยนไปจากเดิมที่คุ้นชินเสมอ
และการเปลี่ยนสภาวะจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง
ย่อมมีนัยยะความสำคัญแตกต่างกันออกไปสำหรับแต่ละคน

ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเเบ่งปันและพูดคุยกับเจ้าของผลงานได้ในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ตลอดวัน

FB: wachira trachoo photography

นิทรรศการ : Insight : Mind : Journey บันทึกการเดินทางเพื่อค้นหาและทบทวน
ศิลปิน : วชิระ ตราชู
วันที่ : ๔-๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
สถานที่ : หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ห้องจัดแสดง ชั้น ๒ พีเพิ่ลแกลเลอรี P3
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: o๘๗-๖๗๕-๖๖๖๔

ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com

ติดลม (Hang Art)

นิทรรศการ “ติดลม” (Hang Art)

โดยศิลปินกลุ่มจ.ป.ภ.๓๖

ลักษณะงาน จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย สื่อผสม จัดวาง วาดเส้น

ระยะเวลาที่จัดแสดง ๑ – ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

ณ ห้องนิทรรศการชั้น ๒ หอศิลป์จามจุรี

ภาพและข้อมูลจากเวบ
portfolios.net

ชีวิต ความคิด และผลงาน ของ โยจิ ยามาโมโต้

ส่วนหนึ่งของผลงานของ โยจิ ยามาโมโต้ วัย ๗o ปี

ผู้มีผลงานยอมรับในแวดวงแฟชั่นและศิลปะในระดับสากล

และเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ Yohji Yamamoto นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ

“ชีวิต ความคิด และผลงาน ของ โยจิ ยามาโมโต้ แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้วิ่งหนีแฟชั่น”

วันนี้ – ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ ชั้น ๑ สยามเซ็นเตอร์

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค Art Eye View

RESONANCES by Takafumi Asakura

ด้วยความร่วมมือของแกลเลอรีในสามเมืองของสามประเทศ ปารีส โตเกียว กรุงเทพฯ นำเสนอนิทรรศการภาพวาดหมึกจีนร่วมสมัยของ Takafumi Asakura (朝倉隆文) ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส Takafumi เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้มีเอกลักษณ์และพรสวรรค์ ที่หลอมรวมศิลปะการวาดและพู่กันจีนเข้าด้วยกัน

ภาพและข้อมูลจากเวบ
serindiagallery.com
เฟซบุค Serindia Gallery

"ขาว-ดำ : 白 - 黒 : White - Black"

นิทรรศการคอมมิค "ขาว-ดำ : 白 - 黒 : White - Black" ผลงานโดย เอกรัฐ มิลินทะภาส (Akekarat Milintapas) หรือนามปากกา " FORMALIN " จัดแสดงระหว่างวันเสาร์ที่ ๑ - ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ หอศิลป์ตาดูไทยยานยนตร์ : Tadu - Thaiyarnyon Contemporary Art

นิทรรศการคอมมิค "ขาว-ดำ / 白 - 黒 / White - Black" โดยนักเขียนการ์ตูนไทย เอกรัฐ มิลินทะภาส หรือนามปากกา " FORMALIN "

การแสดงผลงานคอมมิกครั้งแรกที่นำเรื่องราวของการทำงาน การสร้างแรงบันดาลใจจากคอมมิกของตะวันตกและมังงะตะวันออก สร้างเป็นเรื่องราวผ่านตัวละคร โดยเทคนิคสื่อผสมต่าง ๆ ซึ่งในงานนิทรรศการครั้งนี้จะมีการจัดแสดง ภาพร่างภาพต้นฉบับ เทคนิคการพิมพ์ ของเล่น สื่อผสม ฯลฯ

จัดแสดงที่ หอศิลป์ตาดูไทยยานยนตร์ บริเวณชั้น ๒ โชว์รูมรถมิตซูบิชิ ถนนสุขุมวิท ๘๗
วัน: วันเสาร์ที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึง ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา: ๑๓.๑๓ น. สถานีรถไฟฟ้า อ่อนนุช

โทร.o๘๗-๖๗๕-๖๖๖๔ (หอศิลป์ตาดู)
หรือ o๘๕-๙๔๒-๙o๖๔ (ฟอร์มาลีน)

ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com

เมืองในดิน

นิทรรศการ "เมืองในดิน" จัดโดย กลุ่มดินน้ำมัน ร่วมกับ ชุมชนป้อมหมากาฬ

ชุมชนบ้านบาตร ชุมชนวัดสระเกศ-ตรอกเซี่ยงไฮ้ และชุมชนสีตาราม

จัดแสดงระหว่างวันที่ ๘-๓o พฤศจิกายน ๒๕๕๗

และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.oo น.

ณ อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์

ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com

Vicissitudes : ผันแปรตามกาล

นิทรรศการ "Vicissitudes : ผันแปรตามกาล"

ผลงานโดย แดง บัวแสน (Daeng Buasan)

จัดแสดงระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗

และจะมีพิธีเปิดในวันอังคารที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น.

ณ Modern Gallery

ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com

เราเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ไม่ใช่แค่บนโลกใบนี้

จากภาพครอบครัว ภาพเพื่อนที่โรงเรียน ภาพดอกไม้ที่ภรรยาเป็นคนลงแรงปลูก หลายปีมาแล้วที่ความสนใจของ พงสวัฒน์ ดุษฎีโหนด (ช่างภาพผู้ยังขอเรียกตัวเองว่ามือสมัครเล่น ) ได้ทอดยาวไปไกลบนทางสายหนึ่งบนท้องฟ้า ที่เราเรียกกันว่า ทางช้างเผือก หรือ Milky way

“ผมเริ่มสนใจถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก เพราะที่บ้านชอบถ่ายภาพ และจะมีภาพครอบครัวอยู่เยอะมาก เห็นแล้วทำให้อยากถ่ายภาพเป็นบ้าง พออยู่มัธยมก็จะขอยืมกล้องของคุณพ่อไปถ่ายภาพที่โรงเรียนเวลามีงาน ถ่ายมาเรื่อย ๆ ครับ บางช่วงก็หยุดถ่ายไปหลายปี พอทำงานก็ไม่ค่อยได้ถ่าย

พอแต่งงาน ภรรยาชอบดอกไม้ แล้วก็ปลูกดอกไม้ไว้ที่บ้านเยอะมาก ก็เลยกลับมาถ่ายใหม่อีกครั้ง ยิ่ง ๒-๓ ปีหลัง ถ่ายบ่อยขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นภาพธรรมชาติ ดอกไม้ใบหญ้า แต่ก่อนหน้านี้เมื่อ ปี ๒๕๔๑-๒๕๔๒ ตอนนั้นมีปรากฏการณ์ฝนดาวตก ทำให้เริ่มสนใจมองฟ้าตอนกลางคืน อยากถ่ายให้ได้ภาพที่ดี โดยพยายามดูหาดูภาพจากอินเตอร์เนตไปเรื่อย จนไปเจอภาพถ่ายทางช้างเผือก จึงเริ่มสนใจ อยากถ่ายได้บ้าง”

ปลายฝน ยลทางช้างเผือก

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักว่า “ทางช้างเผือก” คืออะไร ? นอกจากเคยอินกับ “วิญญานฉันรอที่ทางช้างเผือก” บางท่อนในบทเพลงประกอบละครเรื่อง “คู่กรรม” และความรู้ที่เคยได้รับในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ก็ได้ส่งคืนครูไปเรียบร้อยแล้ว พงสวัฒน์ ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า

“ทางช้างเผือก คือ กาแล็กซี่ ที่เราอยู่ กาแล็กซี่ทางช้างเผือก แต่โลกของเราอยู่ประมาณขอบ ๆ ของกาแล็กซี่ ภาพถ่ายทางช้างเผือก ที่ผมถ่ายติดกลุ่มดาวเป็นกลุ่มใหญ่ที่เห็นนั่นคือใจกลางของกาแล็กซี่ แต่เราไม่สามารถเห็นใจกลางของกาแล็กซี่ได้ตลอด เพราะโลกของเราโคจรไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็หันออกนอกกาแล็กซี่ จึงทำให้เราไม่เห็นใจกลางของมัน”

เขาบอกด้วยว่า ช่วงปลายฝน หรือช่วงเดือนตุลาคมนี้นี่เองที่เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพทางช้างเผือก

“เพราะเราจะสามารถเห็นได้ตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตก ไปจนถึงประมาณสองทุ่ม จากนั้นทางช้างเผือกก็จะตกลับขอบฟ้าไปเหมือนกัน ช่วงเดือนมีนาคมและ เมษายนเป็นต้นมาก็ถ่ายได้ แต่ช่วงเวลาที่จะถ่าย ควรจะป็นช่วงย่ำรุ่ง ทางช้างเผือกจะเริ่มขึ้น แต่พอฟ้าสว่างก็จะถ่ายไม่ได้ เป็นไปตามการโคจรของโลกเราครับ อุปสรรคที่สำคัญต่อการเห็นทางช้างเผือกคือเมฆฝน ดังนั้นหน้าฝนก็จะเห็นได้ยาก เพราะเมฆเยอะ ยิ่งเมืองจันท์ลำบากหน่อย เพราะหน้าฝนเพราะฝนชุก”

เกษตรกรสวนลำไย หลงใหลการถ่ายภาพ

พงสวัฒน์เกิดและโตที่กรุงเทพฯ จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และจบด้านวิศวะเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเรียนจบเข้าทำงานในองค์กรด้านอุตสาหกรรมการเกษตร กระทั่งช่วงหนึ่งป่วยหนัก จึงผลันตัวเองมาเป็นเกษตรกรทำสวนลำไย ที่จังหวัดจันทบุรี

“ป่วยเมื่อปี ๔๔ เป็นไวรัสขึ้นสมอง ตอนนั้น หมอบอกว่า โอกาสมีสามทาง คือ หายสนิท, หายแต่มีอาการไม่ปกติ และ ไม่รอด แต่ก็รอดมาได้ครับ พักฟื้นอยู่เป็นปี พอดีมีญาติอยู่ทางแถบจันท์-ระยอง อยู่แล้ว และพอดีช่วงนั้น ลำไยเริ่มเป็นผลไม้ที่ดี ของทางนี้ เพราะเริ่มจะบังคับให้ออกนอกฤดูได้ ไม่ล้นตลาดเหมือนทางเหนือ แล้วตลาดส่งออกก็ดีมาก คุณน้าก็เลยชวนมาทำตั้งแต่ตอนนั้น”

ดังนั้น Location หรือสถานที่ประจำสำหรับถ่ายภาพทางช้างเผือกของเขา จึงอยู่ไม่ไกลจากละแวกจังหวัดจันทบุรี

“สำหรับผมถ้าจะถ่ายภาพทางช้างเผือกก็ต้องแถวอำเภอโป่งน้ำร้อน หรือให้สวย ๆ หน่อยก็แถบเขาสอยดาวในอำเภอสอยดาว เพราะสถานที่ค่อนข้าง จะเป็นป่าหน่อย ส่วนสถานที่อื่น ๆ ที่คนนิยมไปท่องเที่ยวกันของเมืองจันท์ จะถ่ายภาพทางช้างเผือกยากหน่อย เพราะเจริญแล้ว กลางคืนไฟสว่าง”

ภาพถ่าย landscape แบบที่มีทางช้างเผือก

พงสวัฒน์เล่าให้ฟังถึงการเตรียมตัวก่อนออกไปถ่ายภาพทางช้างเผือกแต่ละครั้งว่า

“ก็ต้องหาสถานที่ ๆ ไม่มีแสงรบกวน และต้องเป็นต่างจังหวัด ซึ่งโชคดีที่ตัวผมเองอาศัยอยู่นอกเมืองอยู่แล้ว จากนั้นอันดับต่อมาก็ต้องหาที่ ๆ เราคิดว่าน่าสนใจพอที่จะถ่าย ถ่ายมาแล้วภาพมีองค์ประกอบอย่างที่เราต้องการ

ภาพถ่ายทางช้างเผือกที่ดีสำหรับผม คือภาพ landscape แบบที่มีทางช้างเผือก ร่วมอยู่ในภาพด้วย แล้วเราจะเห็นทางช้างเผือกได้อย่างไร เราก็ต้องอาศัยแผนที่ดาว โดยจะเป็นแผนที่กระดาษแบบเก่า หรือแบบสมัยนี้ที่มีโปรแกรมแผนที่ดาวบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทำให้สะดวกมากขึ้นก็ได้ ตอนกลางวันเราก็ออกไปเลือกสถานที่ไว้ ใช้แผนที่ดาวดู แล้วนึกตามไปว่าทางช้างเผือกจะอยู่ทิศไหน เวลาไหน แล้วก็กลับไปถ่ายภาพอีกครั้งในตอนกลางคืน”

คนบ้านนอกชีวิตไร้แสงสี แต่ไม่ไร้สีสัน

ดูท่าชีวิตเกษตรกรผู้รักการถ่ายภาพเช่นเขาจะมีความสุขไม่น้อย แม้จะอยู่บ้านนอก หรืออยู่นอกเมือง ในที่ ๆ ไม่ค่อยมีแสงสีให้ได้สัมผัส แต่ชีวิตก็ใช่จะไร้สีสัน เพราะเมื่อแหงนไปมองบนท้องฟ้า ธรรมชาติก็ได้ประทานปรากฎการณ์มากมายให้ได้ชมอยู่เรื่อย ๆ ไหนจะเป็นธรรมชาติอื่น ๆ รอบตัว โดยเฉพาะดอกไม้ที่ภรรยายังขยันปลูก และเขายังไม่เบื่อบันทึกภาพ

“ปัจจุบันนี้ก็เรียกตัวเองได้ว่าเป็นเกษตรกรเต็มตัว มีเวลามีโอกาสก็ถ่ายภาพเท่านั้นเอง เห็นเพื่อนหลายคนที่รักการถ่ายภาพ ไม่ว่าแนวไหน อยู่ที่ไหน ทำงานอะไร พอมีเวลามีโอกาสก็จะต้องคว้ากล้องออกไปถ่ายภาพกันทั้งนั้น”

เราเป็นแค่จุดเล็กๆ ไม่ใช่แค่บนโลกใบนี้

ภาพถ่ายทางช้างเผือก และภาพถ่ายอื่น ๆ ทุกภาพที่ถ่ายมาได้ พงสวัฒน์ยังไม่ได้มีจุดมุ่งหมายนำไปใช้เพื่อการใดเป็นพิเศษ นอกจากเก็บไว้ดูเองและแบ่งปันกับคนที่รักการถ่ายภาพเหมือน ๆกัน รวมไปถึงเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสุขให้ตัวเองที่สามารถทำบางอย่างได้สำเร็จ

“แค่อยากถ่ายให้ได้ ถ่ายเก็บไว้ดู คือถ้าเป็นคนชอบถ่ายภาพ การที่ได้ถ่ายภาพสิ่งที่เราอยากถ่ายแล้วถ่ายได้สำเร็จ มันก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ผมเป็นแค่มือสมัครเล่น พอถ่ายได้ก็ดีใจแล้ว เท่านั้นเอง”

นอกจากนี้ทุกครั้งที่มองดูธรรมชาติรอบๆตัวหรือแหงนหน้ามองฟ้าหาทางช้างเผือก เขายังได้รับบางอย่างที่มากไปกว่าภาพถ่ายอันเป็นผลผลิตจากการท้าทายตัวเอง

“เราได้ระลึกเสมอว่าเราเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่แค่บนโลกใบนี้ แต่ยังรวมถึงท้องฟ้าที่กว้างมากกว่า จนเราไม่สามารถมองเห็นฟ้าทั้งหมดได้ในทีเดียว ทำให้คิดต่อไปได้ว่า เวลาเรามองอะไรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เราอาจมองเห็นได้แค่ด้านเดียวหรือเห็นมันได้ไม่ทั้งหมด นอกจากนั้นแล้ว เวลาที่ออกไปถ่ายภาพในที่ ๆ ค่อนข้างมืดสนิท และได้อยู่ในที่เงียบ ๆ รู้สึกว่าชีวิตสงบดี”

ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th

ทุ่งดอกไม้สีขาว

งานออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ ให้กำเนิดความแปลกใหม่ที่น่าชมอยู่เสมอ ดังเช่นงานประติมากรรมสีขาวที่เห็นในภาพนี้ นี่คือ 'ดอกไม้' ของ เอกลักษณ์ สระแก้ว ที่จะนำไปจัดแสดงในงานมหัศจรรย์แห่งพรรณไม้ ประจำปี ๒๕๕๗ Central Anniversary Flower Extravaganza ฉลอง ๖๗ ปี ห้างเซ็นทรัล ปีนี้

"มันเป็นมากกว่าดอกไม้" ประโยคแรกที่ประติมากรหนุ่มเอ่ยขึ้น "ผมมองลึกลงไปกว่านั้น มองไปถึงเกสร เมล็ด ราก ลงไปถึงต้นกำเนิดของดอกไม้ ไม่ใช่ดอกไม้อย่างที่ทุกคนคุ้นเคย" เอกลักษณ์ กล่าว

ผลงานสูงกว่า ๓ เมตรที่ตั้งอยู่ข้างกายประติมากร ลองมองลึกในรายละเอียดแล้ว เริ่มเห็นคล้อยตามที่ศิลปินเอ่ยอ้างเลยทีเดียว หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนโยธินบูรณะ 'เอกลักษณ์ สระแก้ว' มีโอกาสไปเยือนมหาวิทยาลัยศิลปากรครั้งแรกในงานเปิดบ้านศิลปากร (SU Open House) ถือเป็นการพลิกชีวิตครั้งใหญ่

"ตอน ม.๒ ครูพามาร่วมงานที่ศิลปากร ได้เห็นว่าพี่ ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง ก็หลงใหลมหาวิทยาลัยนี้ตั้งแต่นั้นมา ถึงขั้นเบนสายสอบเข้าช่างศิลป์ เพราะคิดว่าจะทำให้สอบเข้าศิลปากรได้ง่ายขึ้น"

ที่ 'ช่างศิลป์' นี่เองที่เขาได้ฝึกปรือลวดลายไทย เริ่มศึกษาการวาด การออกลาย ต่อลายให้เป็นชิ้นงานชิ้นใหญ่ ในที่สุดเมื่อจบช่างศิลป์ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ในสาขาจิตรกรรม

"ใช่ครับผมชอบผู้หญิงอ้วน!" เขาตอบติดตลกกับคำคนที่ว่าเขาเป็นมนุษย์เรเนซองส์ (Renaissance)

"ก็จริงครับ ผมชอบดีเทล ชอบมองรายละเอียด เวลาเห็นงานคนอื่นก็จะดูดีเทล แล้วนึกถึงกระบวนการที่เขาทำมา ในชีวิตประจำวันผมก็จะมีรายละเอียดเยอะ"

ถึงขั้นครั้งหนึ่งเขา เคยใช้ 'หูโทรศัพท์บ้านพร้อมสาย' มาต่อกับโทรศัพท์มือถือ และพกพาข้างเอวไปตามที่ต่าง ๆ

"ใครโทร.มาก็ยกหูรับ (หัวเราะ) ผมยอมรับครับว่าผมเป็นคนเยอะ"

ชิ้นงานที่ทำสมัยเรียนชุดหนึ่ง เขาสร้างห้องจำลองเล็ก ๆ เหมือนบ้านตุ๊กตา แต่ภายในตกแต่งแบบหลุยส์ รายละเอียดเล็กน้อยของเก้าอี้ กรอบประตู ฯลฯ มีครบ

"ลวดลายเป็นหลุยส์เลย แต่ใส่เนื้อหาที่เสียดสีสะท้อนสังคมลงไป อย่างเก้าอี้ ก็จะทำทางลงเป็นสไลเดอร์ เสียดสีถึงคนที่มุ่งหวังตำแหน่ง อำนาจที่ขึ้นยากแต่ลงง่ายดายเป็นต้น แล้วผมก็ถ่ายภาพ ก่อนจะนำภาพนั้นไปวาดขยายเป็นภาพขนาดใหญ่อีกที"

เป็นงานที่มีรายละเอียดมากมาย และกระบวนการสร้างงานก็ซับซ้อน สมกับความ 'เยอะ' ที่เขาขนานนามให้ตัวเอง

หลังสำเร็จการศึกษาจากรั้ววังท่าพระ ก็เริ่มทำงานในแวดวงแฟชั่นและโฆษณา เป็นคนสร้างอุปกรณ์ประกอบฉาก ที่ยังคงหลักการเดิม คือ ใส่ใจในรายละเอียด จนกระทั่งมีโอกาสได้ทำฉากงานแต่งงานให้กับรุ่นพี่ที่ทำให้คนเริ่มเห็นฝีมือของเขาอย่างชัดเจน

"เป็นเหมือนงานศิลปะในงานแต่งงานครับ เขามีต้นแบบเป็นกระดาษเล็กๆ แล้วผมก็ขยายขึ้นมาเป็นชิ้นใหญ่โดยใช้แผ่นยาง วัสดุที่ใช้คือ แผ่นยางอีวีเอ (เอทิลีน ไวนิล อะซิเตต- Ethylene Vinyl Acetate) แบบเดียวกับที่ใช้ทำเสื่อโยคะ ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงจึงสามารถตัดและโค้งประกอบเป็นรูปร่างได้อย่างที่เขาคิด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย จากงานนั้นก็มีบริษัทโฆษณาติดต่อให้ไปทำชิ้นงานในหนังโฆษณามีดคัตเตอร์ ด้วยแนวคิด Cut to Build งานนี้เป็นพรีเซนเตอร์เลยนะ ทำงานตัดและประกอบเป็นชิ้นขนาดใหญ่ให้เห็นกันในหนังเลย ผลงานชิ้นนี้ไปคว้ารางวัลที่เทศกาลเมืองคานส์มาด้วย"

ชิ้นงานที่สวยงามและมีรายละเอียดน่าค้นหานี่เอง ต่อยอดให้เขามีโอกาสทำงานต่อมาเรื่อย ๆ จนมาถึงงาน Central Anniversary Flower Extravaganza 2014 เมื่อห้างเซ็นทรัลชิดลมต้องการเนรมิตเมืองแห่งดอกไม้สดงดงามภายใต้แนวคิด Nature Creates Life. ขณะที่ในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งใจนำเสนอ 'ดอกไม้' ในรูปแบบใหม่ด้วยแนวคิด Life Creates Arts.

การแสดงงานศิลปะกลางอาคารขนาดใหญ่ของ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่จัดว่าเป็นไลฟ์สไตล์ชอปปิงระดับ อัลตร้า ลักซ์ชัวรี่ แห่งภูมิภาคเอเชีย นับเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของศิลปินผู้สร้างงานอยู่ไม่น้อย ด้วยผลงานของเขาจะปรากฏสู่สายตาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก

"การทำงานทุกครั้งผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ ตอนที่ทำในหนัง

โฆษณา ผมก็คิดว่างานแบบนี้ควรมีฉากหลัง และควรเป็นฉากสีเข้ม จะได้เน้นเส้นสายและเค้าโครงชิ้นงานได้ชัด แต่ครั้งนี้เป็นการจัดวางแบบในพื้นที่ศูนย์การค้าที่กว้างมาก มองเห็นได้รอบทิศ และทุกด้านก็มีร้านค้าดัง ๆ ระดับโลกล้อมรอบ ฉะนั้นไม่ว่าจะมองมุมไหน คนดูก็จะได้รับความรู้สึกและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน" เอกลักษณ์เอ่ยด้วยความมั่นใจ และภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในงานที่ยิ่งใหญ่นี้

"เราเตรียมงานกันมาปีเต็ม ๆ เลยนะครับ ลองสเกตซ์ออกมา ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร ลองทำโมเดลด้วยกระดาษ มาวางให้เห็น ว่าจะออกมาประมาณไหน" ประติมากรรุ่นใหม่เล่าขั้นตอนการเตรียมงาน

จากแนวคิด 'ดอกไม้' ศิลปินหนุ่มมองลึกลงไปในรายละเอียด ว่าก่อนที่จะมีดอกไม้ต้องเกิดจาก เมล็ดพันธุ์ ที่ค่อย ๆ หยั่งรากลึกลงไปในผืนดิน แตกกิ่งก้านสาขาและผ่านสรรพสิ่งมามากมายกว่าจะผลิดอกให้โลกได้ชื่นชม งานชุดนี้จึงออกมาเหมือนป่า หรือทุ่งดอกไม้ในจินตนาการ และเลือกใช้ สีขาว เพื่อสื่อถึงการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ สีที่พร้อมสะท้อนความงามของสีแสงที่มาตกกระทบ ชิ้นงานหลัก ๆ จัดวางอยู่ที่ชั้น G ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นประติมากรรมที่ทำจากแผ่นยาง EVA จำนวน ๑๗ ต้น จัดวางเสมือนหนึ่งศูนย์การค้าเป็นแกลลอรีขนาดมหึมา

"ต้นที่สูงที่สุด น่าจะประมาณ ๓.๔o เมตร ผมไม่อยากให้สูงไปกว่านั้น เพราะงานของผมจะเน้นที่รายละเอียด หากสูงเกินไปเวลามองก็จะไม่เห็น แล้วชิ้นที่เหลืออีก ๑๖ ต้น ก็จะมีลักษณะที่สมมาตร เหมือนกันเป็นคู่ ๆ วางกระจายออกมาตามแบบที่คิดเอาไว้" เอกลักษณ์กล่าวและว่า ซึ่งที่วางแผนไว้จะมีการเปลี่ยนแปลงการจัดวาง ๓ ครั้งเป็นอย่างน้อยตลอดระยะเวลาที่จัดแสดง

นอกจากนี้ บริเวณชั้น L2 ยังมีประติมากรรมในแนวคิดเดียวกันอีก ๕ ต้น จัดวางเพื่อนำความรู้สึกของผู้ชมที่มาจากทางเชื่อมของห้างเซ็นทรัลชิดลม ให้สัมผัสกับกลิ่นอายของความตระการตา ก่อนจะตะลึงกับผลงานชิ้นสำคัญ ส่วนอีก ๓ ต้นจะจัดวางบริเวณชั้น L4 เพื่อสร้างบรรยากาศป่าแห่งจินตนาการอย่างทั่วถึง

"ทุกครั้งที่ทำงาน ผมจะทำการด้นสด (Improvisation)เสมอ แม้ว่าจะมีการเขียนแบบไว้อย่างชัดเจนแล้วก็ตาม เพราะบางทีตรงหน้างาน เราอาจเห็นความงามมากขึ้นกว่าเดิม เติมรายละเอียดเพิ่มเข้าไปอีก หรือบางครั้งเจอวัสดุจริงก็ไม่ได้ออกมาแบบที่คิดก็มี มันไม่มีเหตุผล เป็นความรู้สึกล้วน ๆ ว่าอะไรควรจะอยู่ตรงไหน หรือน่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง งานชุดนี้ถึงต้องใช้เวลาทำค่อนข้างนาน"

เอกลักษณ์ใช้แผ่นยางความหนาหลายขนาด ตั้งแต่ ๒ มิลลิเมตร ไปจนถึง ๒ เซนติเมตร แล้วแต่จุดที่ต้องการความแข็งแรง หรือต้องการความพลิ้วไหว ใช้ทีมงานในการทำต่อครั้ง ๓-๔ คน แบ่งหน้าที่ตามความถนัด ไม่ว่าจะเป็นการเขียนแบบร่างลงบนวัสดุตามแบบที่วางไว้ คนตัดแผ่นยางที่ต้องมีทักษะสูง เนื่องจากงานครั้งนี้มีส่วนโค้งเว้าและชิ้นส่วนเล็ก ๆ มากมาย ที่สำคัญเขาเลือกการตัดแบบเฉียงทุกชิ้น ต่างจากการตัดลงไปตรง ๆ แบบที่เคยทำมา หรือแม้แต่คนติดกาวก็ต้องเป็นคนที่เข้าใจลักษณะงาน 'แบบเอกลักษณ์' ที่ใส่ใจในรายละเอียดสูง

"แต่ถึงตอนที่ประกอบเป็นต้น ผมจะเป็นคนลงมือเอง เพราะงานจะสวยตรงไหน วางอะไรเพิ่มตรงไหน มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้" เอกลักษณ์กล่าวและว่า งานนี้นับว่ายากกว่าทุกครั้ง เพราะงานชิ้นที่ผ่าน ๆ มา แนวคิดตั้งต้นจากแนวระนาบ แต่ครั้งนี้เป็นประติมากรรมลอยตัว แต่ละส่วนที่เกิดจากแผ่นยางเรียบ ๆ ต้องใช้ความคิดมากขึ้นในการบิด ติด ให้ออกมาอย่างที่ใจคิด แต่ละต้นจึงใช้เวลาร่วมสัปดาห์จึงเสร็จสิ้น หลังจากประกอบชิ้นงานจนลุล่วง จึงพ่นสีขาวเท่ากันทั้งชิ้น

"นอกจากสีขาวจะตรงกับแนวคิดของเราแล้ว ทางด้านเทคนิคก็เล่นแสงกับมันได้อีกเยอะ ตอนทำชิ้นงานอยู่เคยมีแสงเคลื่อนผ่านไป เงาของส่วนโค้งเว้ามันเปลี่ยนไปตามแสง ให้อารมณ์ได้หลายแบบมาก"

การแสดงงานครั้งนี้ นอกจากยึดพื้นที่กลางศูนย์การค้ามาจัดวางงานศิลปะ ยังมี การจัดแสง ให้มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยยึดหลักธรรมชาติเป็นที่ตั้ง คล้าย ๆ จะสร้างบรรยากาศ ย่นเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนลับขอบฟ้า มาให้ซึมซับความงามภายใน ๓o นาที ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบแสง กระซิบว่า "เพราะสีขาวเอื้อต่อการใช้แสงหลากสีสัน ทำให้เราต้องยิ่งคิดมากกว่าเดิม ว่าจะทำอย่างไรให้ออกมาสวยงามที่สุด"

การเปลี่ยนแปลงการจัดวางชิ้นงานแต่ละครั้ง แสงก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไป การเสพงานชุดนี้จึงได้หลากหลายอารมณ์ มากกว่าที่สเกตซ์ไว้บนแผ่นกระดาษ เมื่อชิ้นงานในจินตนาการออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ดอกไม้ในมุมมองของศิลปินก็ฉายแววความงดงามออกมาให้เห็น

"ผมตอบความรู้สึกที่เป็นสากล คือ รู้สึกว่าสวย อาจจะดูแปลกตาและแตกต่างจากดอกไม้ที่ทุกคนเคยรู้จัก แต่ก็เชื่อว่าคนที่ได้เห็นจะต้องชอบ"

ประติมากรรมดอกไม้จากแนวคิด Life Creates Arts. เริ่มเปิดให้เข้าชมฟรี ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ตุลาคม-๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo-๒๒.oo น. และความงามนี้ยังจะเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ ตามการจัดวางที่จะสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งตลอดการจัดงาน

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์

บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2557

Last Update : 3 พฤศจิกายน 2557 9:01:39 น.

0 comments

Counter : 2639 Pageviews.