[คุ้ยแคะ แกะหนังชนโรง] This Means War : สงคราม-สามเรา!


(คำเตือน : บทความนี้มีการพูดถึงจุดสำคัญของหนังบางส่วนหากกลัวเสียอรรถรสก่อนการเข้าชมหนังก็สามารถข้ามเนื้อหาบางจุดที่ขึ้นเตือน *** เอาไว้ได้ครับ)


ทัค (ทอม ฮาร์ดี้) และ เอฟดีอาร์ (FDR) (คริส ไพน์)สองคู่ซี้ สุดยอดเจ้าหน้าที่ CIA มือฉมังในด้านขาลุย ทำงานร่วมกันจนรู้ใจกันถึงขั้นตายแทนกันได้

แต่เพราะความ “มั่นใจในตัวเอง” มากไปซักหน่อยของทั้งคู่ก็พลอยทำให้ภารกิจล่าสุด ล้มเหลวไปแบบสิ้นเชิง

จากภารกิจลับ และเงียบสุดยอด กลายเป็นภารกิจสุดโฉ่งฉ่าง สนั่นเมือง!!!แถมหนึ่งในตัวเอ้ เป้าหมายของทั้งคู่หนีรอดไปได้แบบ “แค้นฝังลึก”ก็พลอยทำให้สุดยอดคู่ซี้ ถูกพักงานภาคสนาม มานั่งหง่านกับงานนั่งดต๊ะแบบช่วยไม่ได้!

แต่แล้ว ความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองหนุ่ม ก็มีอันต้องสั่นคลอนจากการเข้ามาของสาวสวย ลอเรน สก็อตต์ (รีสวิเธอร์สปูน)

แม้ว่าในด้านหน้าที่การงานของเธอจะก้าวหน้าเป็นอย่างดีแต่ดูเหมือนว่าในด้านความรักของเธอจะไม่สามารถลงเอยกับใครได้เสียทีหลังจากต้องเลิกกับแฟนเก่า ที่ดูเหมือนจะเป็นปมในใจของเธอ

ด้วยการช่วยเหลือจากเพื่อนสาวด้วยการสร้างเพจในเว็บหาคู่ให้(แบบเจ้าตัวไม่เต็มใจนัก!)ก็ทำให้เธอได้พบกับหนุ่มหล่อโดนใจ ที่น่าจะเข้ามาดามหัวใจเธอได้ซักที

ซึ่งหนุ่มคนนั้นก็คือนายทัคนั่นเอง ที่บังเอิญลองเข้าเว็บตามในโฆษณาทีวีนำไปสู่การที่ทั้งคู่ได้ไปทำความรู้จักกันจริงๆ ข้างนอก

ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี ถ้าไม่ติดว่าหนุ่มเอฟดีอาร์ซึ่งช่วยไปซุ่มลาดเลาให้เพื่อนแถวๆ นั้น แล้วบังเอิญ “ปิ๊ง” สาวเจ้าลอเรนไปด้วยอีกคนหลังจากทั้งคู่มาพบกันโดยบังเอิญที่ร้านวิดีโอ

เท่านั้นแหละ จากความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ ก็กลายมาเป็น “คู่แข่ง”กันเอง โดยไม่ได้ตั้งใจ ทันทีที่รู้ว่า ต่างฝ่าย ต่างจีบสาว “คนเดียวกัน” อยู่

แม้จะพยายามตั้งกฎของลูกผู้ชายขึ้น เพื่อไม่ให้เรื่องเลยเถิดจนสั่นคลอนความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน

แต่ด้วย “ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย” ของทั้งคู่ ใครล่ะจะยอมรามือกันง่ายๆ!!

ดังนั้นต่างฝ่ายต่างก็งัดกลเม็ดเด็ดพราย ลูกไม้ทั้งบนโต๊ะ ใต้โต๊ะมางัดกันอย่างชุลมุน โดยไม่ให้สาวเจ้ารู้ตัวว่าทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน

แถมยังมี “งานหลวง” ตามมาสมทบอีก ในเมื่อวายร้ายตัวเอ้กำลังมุ่งหน้าจะมาแก้แค้นทั้งคู่

งานนี้ “รบ เพื่อรัก”ใครจะคว้าใจหนึ่งนางดวงนั้นไปครองได้ล่ะ........??

***

สองหนุ่มหล่อ งัดกันเพื่อหนึ่งสาวสวย(แต่แอบร่วงโรยไปนิด!!)อาจจะเป็นความใฝ่ฝันที่คุณสาวๆ อยากจะให้เกิดกับตัวไม่น้อย(???) ยิ่งถ้ามาอยู่บนจอด้วยแล้วคงยิ่งอลเวงพิลึก

แต่หนังเรื่องนี้ กลับยิ่งเพิ่มเงื่อนไขความวายป่วงเข้าไปอีกโดยให้ทั้งสองหนุ่มกลายเป็นสุดยอดสายลับ! (ที่ผู้กำกับบอกว่า เป็น เจมส์ บอนด์ ปะทะ เจสันบอร์น ก็ไม่ปาน!!)

งานนี้ หน้าหนังก็เลยออกมาเน้นความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดมากเป็นหลักซึ่งตัวหนังก็ออกมาดังเช่นหน้าหนังจริงๆเพราะเป็นความบันเทิงที่แทบจะหาสาระอะไรไม่ได้เลย!!

แต่ไม่ได้แปลว่าหนังไม่สนุกนะครับ! ดูเหมือนว่าผู้กำกับแม็คจีหลังจากดูหลงๆ มึนๆ ไปกับหนังฟอร์มยักษ์ เน้นเอฟเฟ็ค (ที่เนื้อเรื่องเบาหวิวแถมยังอืดเนือย)

กลับมาเรื่องนี้ดูเหมือนจะเข้าทางเขาไม่น้อย หนังจึงออกมาดูผ่อนคลายสบายๆ และเพลินๆ เลยทีเดียว!

เอาเป็นว่าส่วนที่สนุกของหนัง ก็คือบรรดาปฏิบัติการจีบสาวของทั้งคู่โดยการใช้สารพัดลูกไม้และสารพัดทรัพยากรจากองค์กร CIA มาช่วยสืบสะกดรอย และ “ขัดขา” กันเอง

ทำให้หนังสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ในการแทรกบรรดามุขที่เราคุ้นเคยกันได้เป็นอย่างดี(ตั้งแต่มุขล้อเลียน ยันตลกเจ็บตัว)

และสิ่งที่ช่วยให้คนดูลุ้นไปด้วยก็คือการแก้เกมของทั้งคู่หลังจากที่อีกฝ่ายทำคะแนนนำ รวมไปถึงปม “กฎขอลูกผู้ชาย” ที่ทั้งคู่ตั้งไว้ว่าสุดท้าย ใครจะเป็นคนลงมือ “แหกกฎก่อนกัน”

(ซึ่งดูเหมือนจะไม่ยากเกินการคาดเดา แถมหลังจบการแหกกฎไปแล้ว หนังก็กร่อยลงไปทันตา!)

แต่ถึงอย่างไร บรรดาลูกไม้ต่างๆ รวมไปถึงบทหนังส่วนใหญ่ ก็ตามมาด้วย “ช่องโหว่ของความไม่สมเหตุสมผล”ซึ่งทำให้ลูกไม้ต่างๆ ถูกลดทอนความคล้อยตามไปด้วย และทำให้อารมณ์ของหนังเว่อร์เป็นการ์ตูนไปซะ

(ถ้าใครไม่คิดมาก ก็แทบจะไม่มีผลกับความสนุกของหนังซักเท่าไหร่ในเมื่อหน้าหนังก็ประกาศกันโต้งๆ อยู่แล้ว!!)

ส่วนที่ช่วยทำให้ปมต่างๆ ของหนังขับเคลื่อนไปได้ ก็คือบรรดาบุคลิกต่างๆของตัวละคร ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เด่นชัดในตัวแต่ละคนพอสมควร

เอฟดีอาร์นั้นมาในมาด เจมส์ บอนด์ เป็นหนุ่มเจ้าชู้ เจ้าสำราญ ขี้เล่นรักสนุก และไม่ค่อยจริงจังกับชีวิตซักเท่าไหร่ปมนี้ทำให้เขาถูกเมินจากสาวลอเรนในช่วงแรก

(ซึ่งเปรียบบุคลิกของเขากับร้านเช่าวิดีโอที่ทั้งคู่พบกัน ว่าเขาก็แค่อยากมาเลือกสาวๆ ที่ถูกใจเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนมาเช่าวิดีโอที่ถูกใจกลับไปดูแต่รู้จักมันเพียงแค่ผิวเผินขณะเลือก)

หนังก็มาเฉลยว่าปมที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ เพราะว่าพ่อแม่ของเขาจากไปเมื่อเขายังเด็กทำให้รู้สึกขาดความอบอุ่น และไม่มั่นใจที่จะอยู่กับใครไปนานๆ (จนมองว่าต้องมาหาความอบอุ่นจากสาวๆ นี่แหละ กึ๋ย!!)

หนุ่มทัคนั้นเปรียบดั่ง เจสัน บอร์น ดูขรึม จริงจัง แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นภายในแต่ออกจะจริงจังกับชีวิตมากไปหน่อย แถมยังไม่ค่อยเตรียมพร้อมในบางเรื่องซักเท่าไหร่(โดยเฉพาะ เรื่องกระสุนปืนสำรองนี่แหละ ที่ต้องยืมเอฟดีอาร์ประจำ!!)

ปมซึ่งหนังใส่เข้ามาคือ เขาเคยมีภรรยากับลูกมาก่อนแต่ก็ต้องแยกทางกันไป ซึ่งสาเหตุอาจจะไม่ได้บอกไว้แน่ชัดแต่ดูได้จากที่หนังสื่อน่าจะบอกได้ว่า

ภายใต้หน้าฉากของทัคนั้นแสดงออกถึงความไม่เป็นผู้นำ ขาดความมั่นใจดูมีความลับ และชีวิตไม่ค่อยมั่นคง (จากอาชีพหน้าฉากเป็นคนขายตั๋วแต่ดันไปไหนมาไหนได้ตลอดเหมือนว่างงาน!)

ปมดังกล่าวดูเหมือนจะปูเอาไว้เพื่อใช้ตอนท้าย สำหรับเปิด “ทางเลือก”ให้กับสาวลอเรน (ซึ่งตัวหนังคอยทำให้เธอลังเลตลอดเวลา)จนทำให้เธอไปเลือกคนใดคนหนึ่งได้แบบไม่ค้างคาใจคนดู

ซึ่งหลังจากจบภารกิจสุดท้าย (ที่อล่างฉ่างเหมือนเดิม!!)ทำให้ทั้งสองแม่ลูกรู้ความจริงของทัค และมองเขาด้วยสายตาเปลี่ยนไป(ตามสไตล์หนังแนวนี้)

ส่วนสาวลอเรน ก็กลายเป็นคนขาดความมั่นใจกับผู้ชายไปเช่นกันหลังจากชีวิตต้องเป๋ไปกับแฟนเก่า(ซึ่งเป็นปมที่ทำให้เธออยากฮึดที่จะหาแฟนขึ้นมาบ้าง หลังจากที่เขามา “สวีท”กับแฟนใหม่ต่อหน้าเธอ)

ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจอะไรลำบาก (ในเมื่อชีวิตของเธอต้องอยู่กับ “สถิติ”ที่มีค่าคงตัวแน่นอนมาให้ตลอด จนสามารถวิเคราะห์อะไรๆ ได้ในทันที)

ยิ่งต้องมาคบกับผู้ชายสองคนพร้อมกันยิ่งทำให้เธอลำบากที่จะตัดสินใจเข้าไปใหญ่ จนต้องไปขอคำแนะนำจากเพื่อนซี้อย่าง ทริซ(ที่บางครั้งก็ให้คำแนะนำผิดๆ ซะจนสองหนุ่มเหวอไปเลยทีเดียว!!)

แต่บทที่น่าสงสารที่สุด ไม่ใช่บทของหนุ่มที่ต้องพลาดหวังหรือสาวสวยของเราหรอก แต่เป็นบทของ “ผู้ร้ายตัวเอ้” ของเราต่างหาก!!

ที่เรียกว่า หลังจากที่หนังเทน้ำหนักไปยังภารกิจรักของทั้งสองหนุ่มภารกิจหลักของเหล่า CIA ก็กลายเป็น “ลูกเมียน้อย” ไปในบันดล!

ยิ่งช่วงสุดท้ายของหนังที่แทรกผู้ร้ายของเรากลับมาก็ยิ่งทำให้เหมือนเป็นส่วนเกินหรือแค่ช่วยเตือนความจำว่า”กรูเป็นภารกิจของเอ็งนะเฟ่ย!” เพราะบทจะมา-จะไปเรียกได้ว่า ง่ายๆ จนกระจอกงอกง่อย ผิดจากที่ปูเรื่องไว้เลย

ราวกับว่า หนังถูก “ตัดจบ” ยังไงอย่างงั้น!

(ตายชนิดที่เรียกว่า เอ็งไปวางแผนตั้งนาน ได้แค่นี้เองเหรอฟร้ะ!!!ต้นเรื่องยังโหดกว่าเยอะ!)

แถมดูเหมือนว่า ในบทหนังจะพยายามแทรกกลิ่น “โบรแมนซ์” เข้ามาบ้างตามสมัยนิยม (แต่อาจจะไม่หนักข้อเท่า “คุณนักสืบสายบู๊ เมืองผู้ดี” ซักเท่าไหร่!!)

จากอากับอาการกิริยาในการต่อล้อต่อเถียงของทั้งคู่ทั้งหลาย

ทั้งตอนที่หนุ่มทัคบอกเอฟดีอาร์ครั้งแรกว่าจะไปเดทฝ่ายหลังก็คะยั้นคะยอที่จะขอติดตามไปสอดแนมด้วย ราวกับว่า “ห่วงปนหึง” ทำนองนั้น

(กระทั่งฉากโทรตามตอนหนุ่มทัคปิดโทรศัพท์มือถือ ที่ราวกับ “จิก”รายสิบนาที ก็ว่าได้!)

หรือตอนที่ทั้งคู่แอบฟังสาวลอเรน แฉข้อเสียของทั้งคู่ให้ทริซฟังซึ่งบอกว่าหนุ่มเอฟดีอาร์มือเล็ก (“ไอ้นั่น” อาจจะเล็กตาม!!) ทำเอาหนุ่มเจ้าร้อนรนแก้ตัวด้วยการยกตอนที่หนุ่มทัคเคยเห็น“ไอ้นั่น” ของเอฟดีอาร์มาแล้ว

หรือฉากไคลแม็กซ์ ที่ทั้งคู่ต้องมาสู้ร่วมกัน จนถึงกับซึ้งสวมกอดบอกรักกันแบบไม่อายสาว!

ทำเอามองได้ว่า ประเด็นการแย่งกันจีบสาวของทั้งคู่เป็นเพียงประเด็นที่แข่งกันด้วย “ศักดิ์ศรี” และเป็นเหมือนการทำไปเพื่อ “ประชด”กัน เพื่อให้อีกฝั่งมาเฝ้าติดตามสนใจ

โชคดีที่หนังไม่ได้เล่นประเด็นเหล่านี้หนักมือเท่าไหร่นักไม่อย่างงั้น “สาวเจ้า” หนึ่งเดียวของเราก็คงจะเป็นฝ่าย “ซวย”ที่สุดในเรื่องไปแทนก็ว่าได้!

*** 



ในส่วนของบท แน่นอนว่าพยายามประเคนมุขต่างๆมาสอดแทรกทั้งในบทพูดและการกระทำต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งก็ค่อยข้างได้ผลและทำให้หนังไหลลื่นไม่น้อย ไม่นอกลู่นอกทางจากเนื้อเรื่องเท่าไหร่

แต่ในส่วนของความไม่สมเหตุสมผลของตัวบท โครงเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดา และการเน้นประเด็นรองอย่างภารกิจน้อยเกินไปก็พลอยทำให้หนังดูไม่โดดเด่นเท่าที่ควร

ในส่วนของการแสดงก็ต้องยอมรับว่า ทุกคนดูมีเสน่ห์(โดยเฉพาะสองหนุ่ม)และค่อนข้างเหมาะกับบุคลิกของตัวละครไม่น้อย แต่ติดนิดนึงตรงที่สาวรีสนั้นแม้ว่าจะเล่นได้ค่อนข้างดี แต่เสน่ห์ของเธอก็ดูน้อยเกินไปอย่างเห็นได้ชัด

ยิ่งด้วยวัยและภาพลักษณ์ที่ดูโรยราลงไปค่อนข้างเยอะ(สาวรีสแก่กว่าทั้งสองหนุ่มด้วยในความเป็นจริง!)ทำให้บางที่ก็ดูยากที่จะเชื่อว่าเธอมีเสน่ห์มากพอที่จะมัดใจทั้งคู่ได้จริงๆ

หนังเลือกใช้เพลงได้เข้ากับอารมณ์หนัง และใช้เป็น “มุข” ในการช่วยเสริมอารมณ์ตัวละคร(ตอนฮาๆ)ในฉากนั้นได้เป็นอย่างดี

แต่ในส่วนของฉากแอ็กชั่น และการใส่ปมเพื่อกดดันคนดูออกจะมีค่อนข้างน้อยไปซักหน่อย แถมยังทำออกมาได้ธรรมดา ไม่น่าจดจำไม่สมกับที่ผู้กำกับเคยผ่านหนังแอ็กชั่น ทุนหนาเมาหลายเรื่องเลย

โดยรวมแล้ว This Means War ถือว่าเป็นหนังเน้นฮา ดูได้เพลินๆ แบบห้ามคิดหาสาระหรือความสมจริงใดๆ

หากใครอยากดูหนังแอ็กชั่นมันส์ ปนเสียงฮาคำโต คงต้องผิดหวังออกมาเพราะหนังไปได้ไม่สุดทั้งสองด้านเลยจริงๆ

แต่ถ้ามีเวลาเหลือ ก็ลองพักจากโลกแห่งความจริงจังไปซักหน่อยจะเป็นไรไป! แม้จะไม่มีอะไรให้ได้จดจำมากนักก็ตาม!!!






Create Date : 31 มีนาคม 2555
Last Update : 31 มีนาคม 2555 3:24:23 น.
Counter : 3173 Pageviews.

1 comments
  
ตอนนี้ ไม่มีอัพเดท [Thailand Box Office ] อันดับหนังทำเงินในบ้านเราประจำสุดสัปดาห์ แล้วหรอครับ
โดย: ... IP: 202.28.62.245 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:16:17:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gunki_kun
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



มีนาคม 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
29