มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
23 สิงหาคม 2554

แนะวิธีทำ TOEIC 700up ใน 15 วัน วันละไม่เกิน 3 ชม. ด้วยตัวเอง

เพิ่งไปสอบTOEIC มาเมื่อวานค่ะ(19 สิ่งหาคม) และไปรับผลมาวันนี้ (20 สิ่งหาคม)

ดีใจกับคะแนนที่ได้มากๆ จริงๆ คาดหวังแค่เกิน 600 แต่ได้คะแนนเยอะกว่าที่หวังไว้เยอะมากๆ

เลยคิดว่า เทคนิคของตัวเองน่าจะได้ผลประมาณนึง เลยเอามาแบ่งปันเพื่อนๆค่ะ

ก่อนอื่นออกตัว เลยว่า ตัวเองไม่ได้เก่งเล๊ย!! กับภาษาอังกฤษเนี่ย เมื่อตอนอยู่ม.6 ที่ว่าภาษาอังกฤษตัวเองดูโอเคแล้ว ยังสอบ CU-TEP ได้ 470 เอง

เข้ามหาลัย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ภาษาอังกฤษถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้งานเลย หลังจาก จบภาษาอังกฤษตัวบังคับของมหาลัยตอนปี 1
อีก 3 ปีหลังจากนั้น ก็ทิ้งภาษาอังกฤษไปเลย ไม่เคยได้ใช้งาน

เรื่องของเรื่อง ที่ทำให้ต้องไปสอบ TOEIC ก็มีอยู่ว่า
ได้งานปลายเดือนกรกฎาคมในบริษัทญี่ปุ่นแห่งนึงแถวๆสีลม เงินเดือนไม่ได้เยอะเลย
แต่ค่าภาษา ที่ผันตามคะแนนTOEIC เนี่ย เยอะมาก เลยจะต้องไปสอบดูเพื่อเพิ่มเงินเดือนให้ตัวเอง
ด้วยความโชคดี บริษัทให้เริ่มงานต้นเดือนกันยา เราเลยมีเวลา 1 เดือนเต็มๆในการเตรียมตัวสอบ

เป้าหมายของเรา คือ 600up
และ เราซื้อหนังสือมาอ่านเองมีทั้งหมด 3 เล่ม เพราะเห็นค่าเรียนTOEIC แค่ละครอสแล้วแบบไม่ไหวอ่ะ จ่ายไม่ลง...

เราใช้เวลา 15 วัน พอไล่ๆแล้วได้ประมาณนี้
- อ่านวิธีทำ เทคนิคการทำข้อสอบ listening 1 วัน
- ทำข้อสอบpart listening วันละ 1 ชุด(100ข้อ) 4 วัน
- ทบทวน grammar และเทคนิคทำข้อสอบ reading 1 วัน
- ทำข้อสอบpart reading วันละ 1 ชุด(100ข้อ) 4 วัน
- ทำข้อสอบ toeic วันละ 1 ชุด(200 ข้อ) 2 วัน
วันก่อนสอบทบทวนเนื้อหาทั้งหมด ท่องศัพท์
สอบ 1 วัน รับผลอีก 1 วัน รวม 15 วันพอดีๆ^^

1 วัน อ่านหนังสือประมาณวันละ 3 ชม. เวลาที่เหลือก็ชิวๆ เล่นเน็ต อ่านนิยาย ตามประสาคนว่างงานอ่ะค่ะ

ใช้หนังสือ 3 เล่ม ดังนี้
TOEIC Listening Tests ของ ดร.กิตติ์ จิรติกุล
Redesigned TOEIC Grammar & Reading Tests ของ ดร.ภาณุ ปรัชญะวิสาล
สุดยอดเทคนิคพิชิต Redesigned TOEIC ของ ดร.กิตติ์ จิรติกุล และ ดร.ภาณุ ปรัชญะวิสาล

ผลที่ได้ ดีเกินเป้าหมายจริงๆ ด้วยความที่เราไม่เก่ง คะแนนเท่านี้เลยถือว่าเยอะมากสำหรับเรา
เนี่ยอ่ะ คะแนน^^



มาเริ่มกันที่เทคนิคสำหรับ part reading

part นี้ จะเป็นpart เดียวที่เรามีโอกาส ทำได้ ครบ 100 ข้อ โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า part reading

แต่ปัญหาคือ ฟังที่เค้าพูดไม่ออก...แล้วจะทำข้อสอบได้ยังไง!!!

เราฝึกตัวเราเองแบบนี้นะ

1.เวลาฝึกฟัง ห้ามใช้หูฟังเด็ดขาด เพราะเวลาอยู่่ในห้องสอบต้องฟังจากลำโพง ต้องฝึกให้ชินไว้

2.ข้อสอบ 1 ชุด ฟังอย่างน้อย 3 รอบ
รอบแรก ฟัง และทำข้อสอบตาม จดบันทึกคะแนนที่ได้ เพื่อเก็บเป็นสถิติไว้
รอบสอง ฟัง และอ่านสคริปตาม เพื่อดูว่า แต่ละประโยค คำแต่ละคำเค้าออกเสียงยังไง
รอบสาม ฟัง แบบไม่ดูสคริป แล้วเปิดสคริปตามทีละประโยค เพื่อดูว่า ที่เราฟังออก กับสคริปจริง มันตรงกันมั้ย

สำหรับ เทคนิคในแต่ละ part
part1 รูปภาพ

เราใช้วิธี ตัดข้อผิด คิด เมื่อเค้าอ่านแต่ละ choice แล้ว มันตรงกับรูปภาพมั้ย ถ้าไม่ตรงตัดทิ้งทันที ถ้าตรงแล้วก็เลือกเลย
ถ้าไม่แน่ใจก็ลองฟังข้ออื่นก่อน แล้วรอดูว่า ข้อไหนมีน้ำหนักมากกว่ากัน

หากตัดสินใจไม่ได้ ก็มั่วเลย ห้ามห่วงหน้า พะวงหลัง

part2 Q-response

ถ้าฟังทั้งประโยคไม่ออก ก็ต้องพยายามฟัง Question-word ของโจทย์แต่ละข้อให้ได้
แล้วก็เขียน Question-word ของแต่ละ ข้อลงในกระดาษคำถามเลยกันลืม

คือ อย่างน้อยก็ต้องฟัง question word ออกเนี่ย ถ้าเราฟังบริบทอื่นในประโยคไม่ออกเลย
อย่างน้อยเราก็ยังพอจะหาคำตอบจาก choice ได้
อย่างเช่น ถ้าถาม ว่า who ก็หาชื่อคน ก็ตอบได้เลย
ถ้าถาม where ก็หาชื่อสถานที่ แล้วก็ตอบเลย when ก็เวลา how ก็ดู choice ที่ดูเมื่อเค้าจะอธิบายหน่อยๆ
How much How many ก็ดู choice ที่ดูเค้าตอบเป็นจำนวน ไรแบบนี้

ที่ยาก คือ พวก question-tag กับ คำถามที่ขึ้นต้นด้วย V ช่วย
อย่างนี้ต้องฟังบริบทด้วยถึงจะตอบได้ ก็ต้องพยายามฟังให้ออก

ถ้าไม่ได้ ก็ตัดทิ้งเลยเช่นกัน ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

Part 3-4 ก็ไม่มีไรมาก
ต้องอ่านคำถามทั้ง 3 ข้อ ก่อนที่ โจทย์จะอ่านข้อความให้ได้ทุกครั้ง
คือถ้าโจทย์อ่าน คำถามข้อที่ 2 เมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า เราต้องไปอ่านคำถามสำหรับเรื่องถัดไปแล้ว
ถ้า เรื่องไหนฟังออก ก็น่าจะตอบได้ ทั้ง 3 ข้อ
แต่ถ้าเน่าฟังไม่ออก ให้มั่วข้อที่เป็นคำถามวิเคราะห์ไปเลย(พวกที่ถามว่า คนพดทำอชีพอะไร หรือคุยกันเรื่องอะไร หรือให้ตีความไรแบบนี้)
แล้วพยายามทำข้อที่เค้าถามชี้เฉพาะ วัน เวลา สถานที่ แทน แบบถ้าได้ยินคำนั้น ก็เลือกไปเลย อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสถูก

สำคัญที่สุดสำหรับ part reading คือสมาธิ และ ถ้าพลาดไม่ทันไปแล้วต้องตัดใจทิ้งไปเลย เสียน้อยดีกว่าเสียมาก
ถ้ายังห่วงจะล้มเป็น โนมิโน

พอเราเข้าห้องสอบแล้ว เรานั่งสมาธิยาวเลย จนว่ากรรมการเค้าจะแจกกระดาษให้กรอกอ่ะ

ถ้าฝึกฟังจะไปสอบนะ ไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกฟังจริงตามหนัง เพลง การ์ตูนฝรั่งหรอก มันไม่ได้ช่วยอะไรกับการสอบเลย สำเนียงมันไม่เหมือนกัน จังหวะในการพูดก็ไม่เหมือนกัน เสียเวลา เสียกำลังใจ เพราะฟังไป ก็ฟังไม่ออก
ฝึกฟังจากข้อสอบไปเลย

แต่ถ้าจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำฟัง หนัง เพลง การดูน ก็มีประโยชน์มาก

จากคุณ : jaizu




Create Date : 23 สิงหาคม 2554
Last Update : 23 สิงหาคม 2554 16:16:16 น. 9 comments
Counter : 24022 Pageviews.  

 
ต่อมา part หิน reading

ทำยังไง ก็ทำไม่เคยทัน เราเองก็ทำไม่ทัน แล้วอย่างนี้ ควรทำ part ไหนก่อนดีหล่ะ

เราทำอย่างนี้
จับเวลาทำข้อสอบ ของแต่ละpart
ว่า part นึงใช้เวลาทำกี่นาที เฉลี่ย แล้ว ตกข้อนึงใช้เวลาเท่าไหร่ และมีโอกาสถูกเท่าไหร่

ยกตัวอย่างข้อมูลตอนเราฝึกนะ

1. incomplete เราใช้เวลาทำ 17 นาที ได้ 20 ข้อ จากเต็ม 40 เฉลียค่าความถูกต้องต่อความเร็วจ 20/17 = 0.85 นาที/1ข้อถูก
2. text complete เราใช้เวลาทำ 9 นาที ได้ 7 ข้อ จากเต็ม 12 ข้อ เฉลี่ยค่าความถูกต้องต่อความเร็ว 9/7 = 1.28 นาที/1ข้อถูก
3. short reading เราใช้เวลาทำ 37 นาที ได้ 16 ข้อ จากเต็ม 28 ข้อ เฉลี่ยค่าความถูกต้องต่อความเร็ว 2.31 นาทีต่อ 1 ข้อถูก
4. long reading เราใช้เวลาทำ 28 นาที ได้ 18 ข้อ จากเต็ม 20 ข้อ ความเฉลี่ยความถูกต้องต่อความเร็ว 1.55 นาที/1 ข้อถูก

พอเราได้แบบนี้ แล้ว เราก็มาเลือกว่า เราจะ เลือกทำข้อสอบส่วนใดก่อนหลัง
และต่อมา ก็เลือก โดย คิดว่า เรามีเวลา 70 นาที จะเลือกทำข้อสอบส่วนใดบ้างเพื่อให้มีคะแนนเยอะที่สุด

สำหรับเรา เราดูความเร็วเป็นหลัก ยิ่งมีโอกาสได้ทำข้อสอบเยอะ เรายิ่งมีโอกาสถูกเยอะกว่า

เราเลยเลือกทำ incomplete sentence+text completion+long reading แล้วเวลาเหลือเท่าไหร่ ก็ทำ short reading เท่านั้น

เวลาทำข้อสอบจริง
เมื่อกรรมการบอกว่า เหลือเวลาอีก 5 นาทีสุดท้าย ให้ มั่วข้อสอบที่ยังทำไม่เสร็จทั้งหมด
และตรวจความเรียบร้อยของกระดาษคำตอบ
เมื่อทำเสร็จแล้ว ถ้าเวลาเหลือ ก็มาทำข้อสอบต่อ โดยลบแก้ไขทีละข้อ
และเลือกทำเฉพาะ ข้อที่ถามเจาะจง วันเวลาสถานที่ ที่เราสามารถ ใช้ scan ตัวเนื้อหาโจทย์ได้โดยไม่ต้องใช้เวลาอ่านทำความเข้าใจ

ก็ประมาณนี้อ่ะค่ะ

แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 54 19:48:48

จากคุณ : jaizu



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:16:58 น.  

 
ต่อมา ก็ เทคนิค ในแต่ละ part อายที่จะเล่าจริงๆอ่ะ คะแนน ก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย 555

part incomplete sentence 40 ข้อ เนี่ย เรากะคร่าวๆ ก็น่าจะแบ่งหัวข้อได้เป็นประมาณนี้

- Quantitative word,articles,conjunction,preposition 10 ข้อ
- infinitive,gerund,participle 10 ข้อ
- tense,if-clause,passive-active voice 10 ข้อ
- Word form,คำคล้ายกัน,phrasal verb 10 ข้อ

ก็เน้น เสริม ความรู้ กับเรื่องที่ตัวเองถนัดเลย ประมาณนี้อ่ะค่ะ

อย่างเรานะ เราเลือกเน้นเสริม เรื่อง word form,Quantitative word,conjunction,articles

ต่อมาเวลาเราฝึกทำแบบฝึกหัด เมื่อตรวจแล้ว ก็ต้องมานั่งดูในทุกๆข้อ ว่าถูกเพราะอะไร และ ผิดเพราะอะไร

วิธีฝึกนี้ จะช่วยเพิ่มคะแนนได้มาก เพราะจะทำให้ตัวเองรู้ข้อบกพร่องข้องตัวเอง

สำหรับpart นี้ ค่าเฉลี่ยความเร็วในการทำถูก เยอะที่สุด จึงเป็น part สำคัญที่สุด
...
Part Text Completion
อันนี้ ส่วนใหญ่ เค้าเน้นเรื่อง word form การหา noun verb adj adv

วิธีทำข้อสอบ เราใช้วิธี อ่านและทำไปเลย ไม่ต้องเสียเวลามานั่งดูบริบท เพราะ ดูบริบทไปก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ เว้นแต่ถ้าจะถามคำศัพท์

แต่ ถ้า ถามเรื่อง tense ก็ต้องดูประโยคก่อนหน้า และหลัง สัก 2 ประโยค ว่าที่เค้าพูดถึงตอนไหน และตรงประโยคที่ถาม เค้ากำลังเล่าในสถานะการไหน และก็ตอบไปตาม tense นั้น
(ถ้าเป็นจดหมายอย่าลืมดูว่าที่เขียนนะ)
....
Part สุดท้าย Reading

เทคนิคเราคือ

อันนี้ อ่านโจทย์ก่อน แล้วมาอ่านเนื้อเรื่อง แล้วกลับมาตอบคำถาม

หากโจทย์ มีคำว่า not ให้วงไว้ตัวโตๆ เลย เพราะ ส่วนใหญ่จะพลาดลืม not บ่อยๆ

ก็ประมาณนี้

สำหรับการทำ reading ในเวลากระชั้นๆ
ให้เลือกทำ แต่โจทย์ที่ถามอะไรที่เฉพาะเจาะจง ที่สามารถscan ด้วยสายตา แล้วตอบได้เลย แบบนั้น
จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแปลและตีความมาก

เชื่อว่า เท่านี้ ก็สามารถทำให้ ทำข้อสอบ Toeic มีคะแนนเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยแล้วหล่ะค่ะ

ลองดูนะคะ ขอให้คนที่จะสอบโชคดีค่ะ

จากคุณ : jaizu



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:17:15 น.  

 
เข้ามาแนะนำเรื่อง listening ด้วยคนค่ะ ... เตรียมตัว 2 อาทิตย์เหมือนกันค่ะ
เราเป็นคนไม่แม่นเรื่อง Grammar และคำศัพท์มากๆ แบบชอบลืมอ่ะค่ะ ^^" ... จะขอแชร์เทคนิกที่เราเตรียมตัวก่อนไปสอบนะคะ เผื่อบางคนทำตามแล้ว work ค่ะ


- เพื่อนๆอาจจะเพิ่มในส่วนของการดูหนังค่ะ เลือกเรื่องที่ "เคย" ดูแล้วนะคะ
แล้วเปิด Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ เราดู 2 เรื่องก่อนไปสอบค่ะ อันไหนฟังไม่ทันกด replay เลยค่ะ อ่านไปฟังไปจะได้ฝึกหูนะคะ
เรื่องที่สำเนียง ok สำหรับเรานะคะ ... Harry Potter, การ์ตูน Disney, Catch me if you can
//โดยส่วนตัว สำหรับเราช่วยมากเลยค่ะ เพราะทำให้เราคุ้นเคยกับสำเนียง เพราะได้ดูไปด้วยว่าที่ออกเสียงแบบนี้ มันคืออะไร ฟังไม่ทันก้อกดฟังใหม่ ... ผ่อนคลายด้วยค่ะ อิอิ
ส่วนการฝึกฝน มาเน้นตอนซ้อมทำข้อสอบค่ะ

- ส่วนเวลาทำข้อสอบนะคะ ... จดทุกอย่างที่ได้ยิน "แบบตัวย่อ" ลงในกระดาษที่สามารถเขียนได้ เช่น กระดาษคำถาม
จดให้เยอะที่สุดนะคะ ใช้ตัวย่อ James จดว่า Jช. หรือ Jane จดว่า Jญ
จดตัวเลขที่ได้ยิน หรือลำดับที่โจทย์พูด
ยกตัวอย่างนะคะ
James is working with Jane at the Meeting room. (ขอยกตัวอย่างง่ายๆนะคะ อิอิ)
จดเป็น ==> Jช wk + Jญ mt room.

- Note ไว้นะคะ ช หรือ ญ เป็นคนพูด หรือ ถาม / ถ้ามีเลข เช่นเลขที่ห้องประชุม เลขที่ตึกจดไว้ค่ะ / ถ้ามี Date มี Time จดไว้ค่ะ
ลองสังเกตตอนทำโจทย์ดูได้ค่ะ ว่าจะมีเลขแบบไหนบ้าง ฝึกๆไว้จะชินเองค่ะ

- ฝึกจดในแบบที่ตัวเองถนัด ซ้อมตั้งแต่ตอนทำข้อสอบเองที่บ้านนะคะ
จดย่อๆไป ไม่ต้องกลัวงงค่ะ เพราะเราใช้แค่ข้อนั้นๆ พอผ่านไปแล้วเราก็ต้องสนใจข้อถัดไปแล้วค่ะิ

==============

ส่วน Grammar ทบทวนหลักการให้แม่นนะคะ
และตอนฝึกทำโจทย์ให้ลองพูดกับตัวเองไปด้วยค่ะ เช่น
- ช่องที่เว้นไว้อยู่หน้า Noun ดังนั้นน่าจะเป็น Adjective -> ข้อ a. เป็น Noun, ข้อ b. เป็น Adj., ข้อ c. ... -> ดังนั้นตอบข้อ b.
- ข้อไหนไม่มั่นใจ หรือเดาตอบให้วงไว้ หรือทำสัญลักษณ์
- ตอนตรวจ ข้อที่ผิด กับข้อที่ไม่มั่นใจ ให้อ่านให้เข้าใจว่าทำไมต้องตอบแบบนี้
- ลองทำซ้ำอีกรอบค่ะ ... จะได้รู้ว่าเราเข้าใจแล้วหรือยัง

==============

ตอนเราเปิดคะแนนออกมาได้ 800 กว่า (จำไม่ได้แล้วค่ะ ^^") ... คุณแม่ดีใจมากค่ะ บอกว่า "เย่ ! ไม่ต้องเสียตังค์หมื่นนึงไปติวแล้ว" 555 พูดกันขำๆนะคะ

สู้ๆนะคะ



แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 54 01:22:22

จากคุณ : dorapanda



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:17:36 น.  

 
อันนี้เทคนิคผมนะครับ

ซื้อพวกหนังสือข้อสอบ TOEIC ของสำนักพิมพ์ต่างประเทศ ส่วนตัวชอบของ Barron ครับ
มาลองเซิฟซ้อมมือทำไปก่อนซัก 2-3 ชุด แล้วสังเกตตัวเองว่าพาร์ทไหนคะแนนน้อย ก็จะไป focus part นั้นครับ

พาร์ท listening อันนี้ลองฟังเทปบ่อยๆครับ หา speaker มาเปิดแล้วทำไปด้วยนี่หละครับ ฝึกไว้
แต่ถ้ามีเวลาก็ไปฟังพวกคลิปรากการที่สนใจใน youtube บ่อยๆก็ได้ครับ ช่วยพอสมควรเลย

พาร์ท reading ลองหาพวก article จากพวก magazine หนังสือพิมพ์หรือวารสารดูก็ได้ครับ
อ่านไปยาวๆ ไม่ต้องเปิด dict ฝึกจับใจความดูครับ เป็นการฝึกพวก passage ไปในตัว เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วทำพาร์ทนี้กันไม่ค่อยทัน
อ่อก่อนสอบแนะนำนอนให้เต็มอิ่ม แล้วก็อย่างกินอะไรหนักท้องเกิน...เพราะมันจะง่วงในห้องสอบแบบผม (เผลอหลับไปแปบด้วย )

ไปสอบครั้งล่าสุดได้ประมาณ 930 ครับ
(ไปอยู่ญี่ปุ่นแล้ว อังกฤษไม่ค่อยจะได้ใช้กับเค้า เลยสกิลถดถอย T^T)

จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -"



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:17:57 น.  

 
พิชิต redesigned toeic

เล่มนี้ ดีเลยค่ะ คิดว่าคุ้มที่ซื้อเล่มนี้มาอ่ะค่ะ

แต่ว่า part listening เล่มนี้ ฝรั่งพูดเร็วมาก อย่างกะแร๊พ
แต่พอฝึกอันนี้แล้ว พอเข้าห้องสอบเนี่ยฟังออกเกือบหมดเลยค่ะ

ชอบที่เค้า บอกเทคนิคการฟังด้วยอ่ะค่ะ ช่วยได้เยอะ

ส่วน part reading เนื้อหา เหมือนเล่มข้างบนค่ะ

ข้อสอบ มีบางส่วนซ้ำกับเล่มข้างบนด้วย แต่ไม่ได้เหมือนกันหมดนะคะ

ส่วนตัวเชื่อว่า เล่มนี้เป็นตัวเพิ่มคะแนนให้ตัวเองที่สุดอ่ะค่ะ



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:18:26 น.  

 
เห็นด้วยครับกับเทคนิคในการทำข้อสอบ TOEIC คือ ถ้าหากข้อไหนไม่มั่นใจให้ตัดช๊อยแล้วเดาไปก่อนเลยเพราะว่าเวลาในการทำมีจำกัดและโอกาสที่เราจะกลับมาทบทวนซ้ำนั้นยากเต็มที่ เพราะฉะนั้นถ้าข้อไหนเดาก็ให้มาร์คทำสัญลักษณ์ไว้เผื่อได้กลับมาทวนจะได้รู้และไม่สับสน

ทีสำคัญในการเตรียมตัวสอบก็คือ การเตรียมตัวหาแนวข้อสอบมาทำล่วงหน้าให้ได้มากที่สุดและบ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ก็จะดีมาก

เพื่อนๆท่านไหนกำลังเตรียมตัวสอบหรือคิดว่าจะไปสอบ TOEIC ยังไงก็ลองเข้าไปทำแบบทดสอบกันได้

//www.kbeautifullife.com/test-center/

สู้ๆ ถ้าหากคราวนี้คะแนนไม่ได้ตามเป้าคราวหน้าพยายามใหม่


โดย: สู้โค่ย เตรียมตัวสอบ TOEIC IP: 10.166.0.89, 202.12.97.125 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:13:13:08 น.  

 
สู้....



toeic


โดย: wassanam วันที่: 27 เมษายน 2555 เวลา:20:49:48 น.  

 
ขอบคุณมากมายค่ะสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์

เราจะเตรียมตัวให้ดี และตั้งใจทำข้อสอบค่ะ


โดย: Caki IP: 110.171.37.182 วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:23:06:21 น.  

 
Thx hub


โดย: Pango IP: 122.155.43.145 วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:7:19:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]