(ดูภาพนี้กันค่ะ) เพราะตอนนี้คือโอกาสทองในหมู่ดาว







“....พระพุทธเจ้าเองก็สั่งสมบารมีมาอย่างมากมาย ภายใต้ข้อจำกัดที่เยอะมาก กว่าที่ท่านจะตัดสินใจสละทุกอย่างแล้วก็หันหลัง แล้วก็เดินทางออกบวช โดยไม่ฟังคำทัดทานจากใครอีก เมื่อท่านรู้อย่างเต็มเปี่ยมแล้วว่าหนทางแห่งการพ้นทุกข์ น่าจะอยู่ที่ไหนสักที่นึง ซึ่งไม่ใช่ที่ๆ เราอยู่ เพราะมันเต็มไปด้วยความทุกข์



เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็ยังมีช่วงเวลาที่ต้องสั่งสม แต่ได้สร้างสัมมาทิฏฐิเอาไว้เป็นเบื้องหน้า เมื่อวันนั้นมาถึง แต่ละคนๆ ก็จะรู้เอง วันนี้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ยังอยู่ในเพศนี้ก็ทำสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละขณะ ไม่มีอะไร เมื่อเราทำสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละขณะได้ ธรรมะก็จะอยู่ตรงนั้นเอง วันที่เรากลับไปเราก็ทำหน้าที่ เป็นแฟน เป็นสามี เป็นภรรยา ก็ทำหน้าที่ตรงนั้นอย่างดีที่สุด เมื่อถึงวันนึงก็จะได้ไม่ต้องโหยหา หวนหา เพราะในแต่ละขณะเราได้ทำอย่างดีที่สุดไปแล้ว เราคงเคยได้ยินคนที่บอกว่า ถ้ารู้อย่างนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้ วันนั้นฉันจะทำอย่างนั้น วันนั้นฉันจะทำอย่างนี้ แล้วคนที่กำลังจะตายอาจจะได้พบความจริงอะไรบางอย่าง ก็จะรู้สึกว่า ถ้าฉันรู้อย่างนี้ วันนั้นฉันไม่น่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปเลย เพราะสุดท้ายความตายก็มาถึงฉันจนได้ แต่ถ้าเราทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดในแต่ละขณะคำนี้จะไม่เกิด เพราะว่าไม่รู้ว่าจะถอยหลังไปทำไม ต่อให้ถอยหลังไปก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะที่ผ่านมาทำดีที่สุดแล้ว



การปฏิบัติก็จะมีปรากฏการณ์เกิดขึ้นในแต่ละคน เป็นทั้งผลและเป็นทั้งเหตุ จากการเจริญมรรคจากการภาวนา ก็จะเกิดเป็นผล เกิดเป็นนิโรธบ้าง เกิดเป็นปัญญาบ้าง สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเหตุ ที่จะทำให้เห็น แล้วก็เข้าใจ แล้วก็เดินทางต่อไป จุดเปลี่ยนของแต่ละคนในหนึ่งชีวิต บางครั้งมันเล็กจนกระทั่งไม่น่าเชื่อ แต่ละคนหากวันข้างหน้า อีก ๑๐ ปีข้างหน้าย้อนกลับมานึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมา อาจจะในช่วงบวชก็ดี ก่อนบวชก็ดี หรืออะไรก็ดี นึกแล้วอาจจะต้องนั่งยิ้ม ยิ้มด้วยความหวาดเสียวนิดๆ ว่าถ้าเหตุการณ์นั้นมันเกิดไม่ใช่อย่างนั้นไปนิดเดียวแค่นั้นเอง วันนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย



เมื่อสิ่งนั้นเป็นปัจจัย สิ่งนี้เกิดขึ้นก็ได้ทำอย่างดีที่สุด ก็ไม่ละทิ้งโอกาสที่ได้เพียงชั่วเวลาหนึ่ง ด้วยเหตุปัจจัยก็ได้ส่งผลให้เขาเข้าใจความจริง ก็หวังว่าจะเป็นแรงผลักดัน เป็น drive ที่ทำให้เห็นแล้วก็เกิดความไม่ประมาทในการที่จะดำเนินชีวิต สั่งสมทุกอย่างไว้เพื่อวันข้างหน้าเมื่อมีโอกาสอีก แต่โอกาสไม่ได้อยู่ที่ตรงต้องเป็นอย่างนี้นะ โอกาสอยู่ในทุกขณะจิต ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ตรงนี้หรือไม่ ถ้าจะมองว่าวันนี้เป็นโอกาสหนึ่งที่ได้เข้ามาอยู่ในยิมซึ่งเต็มไปด้วยความพร้อม การฝึกทั้งพละกำลังในโรงยิมเป็นไปได้ง่ายเพราะมีอุปกรณ์ มีการควบคุมที่ค่อนข้างดีตามรูปแบบของนักบวช แต่ออกไปการสร้างกำลังก็ต้องใช้ลักษณะของ street fighter แล้วจับกังที่ต้องขนดิน ขนหิน ขนทราย ขนแบกข้าวสาร มีกำลังไม่น้อยกว่าคนที่วิ่งแล้วก็ทำฟิตเนสอยู่ในยิม แถมยังได้ประสบการณ์ที่แท้จริง เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง พ้นไปจากรูปแบบ เป็น street fighter สิ่งที่สั่งสมมาไว้ในยิมก็จะถูกนำออกมาใช้ จะเข้าใจโลกตามความเป็นจริง อยู่ตรงไหนก็ทำอะไรได้ทั้งนั้น



เราไม่ได้เกิดมาชาตินี้เพื่อมาเป็นทาส เราเกิดมาชาตินี้เพื่อมาเป็นอิสระ เราเป็นทาสกันมานาน ไม่มีชาติอื่นให้แก้ตัวแล้ว ไม่มีเหตุปัจจัยในชาติไหน ที่เข้ามารวมตัวกันพร้อมแบบนี้อีกแล้ว ถ้าเป็นวิถีการโคจรของดวงดาว นี่อาจจะเป็นการเรียงตัวกันของดวงดาวทุกดวงในสุริยจักรวาล หลังจากนี้ต่อไป แม้อีกวินาทีเดียว การเคลื่อนตัวของแต่ละดวงก็จะแยกทางกันออกไป แล้วโอกาสที่มันจะกลับมารวมกันเป็นเส้นเดียวแบบนี้อีก ไม่มีใครบอกได้อีกเลย มันอาจจะนานมาก ก็อย่าให้การเรียงตัวของดวงดาวในชาตินี้ ผ่านไปโดยเราไม่รู้เลย เราไม่ได้เกิดมาเพื่อมาเวียนว่ายตายเกิดต่อ แต่เราเกิดมาเพื่อหลุดพ้น เราได้พบทางแล้ว…



...เดินออกไปให้ได้...”




อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
(๖ กันยายน ๒๕๕๗)

ศึกษาธรรมะเพิ่มเติมจาก อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม ได้ที่
//www.suanyindee.net
//dhammaway.wordpress.com/tag/อ-ประเสริฐ-อุทัยเฉลิม/




Create Date : 26 ตุลาคม 2557
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2557 13:24:21 น.
Counter : 891 Pageviews.

0 comments

อาณาจักรสีเขียว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



ขอบพระคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมคะ

แล้วแวะเข้ามาเยี่ยมชมที่บล็อก ลิงค์นี้กันนะ
http://dhammaway.wordpress.com
แนะนำมากๆ
All Blog
  •  Bloggang.com