32.4 พระสูตรหลักถัดไป คือสัพภิสูตร [พระสูตรที่ 31] การสนทนาธรรมนี้ต่อเนื่องมาจาก 32.3 พระสูตรหลักถัดไป คือสัพภิสูตร [พระสูตรที่ 31] //www.bloggang.com/mainblog.php?id=gravity-of-love&month=05-06-2014&group=4&gblog=20 ความคิดเห็นที่ 122 ความคิดเห็นที่ 123 ฐานาฐานะ, 29 พฤษภาคม เวลา 23:36 น. เป็นอันว่า พระสูตรชื่อว่า อุชฌานสัญญีสูตรและสัทธาสูตร จบบริบูรณ์. //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=687&Z=751 พระสูตรหลักถัดไป คือ สมยสูตร [พระสูตรที่ 37]. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค สมยสูตรที่ ๗ //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=752&Z=788 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=115 ความคิดเห็นที่ 124 GravityOfLove, 30 พฤษภาคม เวลา 00:17 น. ๓๘. สกลิกสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=789&Z=854&bgc=honeydew&pagebreak=0 อุฏฺฐานสญฺญํ แปลว่า มีความสำคัญในการที่จะลุกขึ้น ทุกครั้งที่พระผู้มีพระภาคทรงสำเร็จสีหไสยาส (ยกเว้นตอนเสด็จปรินิพพาน) ได้ทรงกำหนดใจถึงการลุกขึ้นไว้เสมอใช่ไหมคะ รวมทั้งครั้งนี้ด้วยที่ประชวร พระอริยะก็นอนแบบสีหไสยาสหรือไม่คะ และกำหนดใจถึงการลุกขึ้นได้เหมือน พระผู้มีพระภาคไหมคะ ขอบพระคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 125 ฐานาฐานะ, 30 พฤษภาคม เวลา 20:18 น. GravityOfLove, 19 ชั่วโมงที่แล้ว ๓๘. สกลิกสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=789&Z=854&bgc=honeydew&pagebreak=0 อุฏฺฐานสญฺญํ แปลว่า มีความสำคัญในการที่จะลุกขึ้น ทุกครั้งที่พระผู้มีพระภาคทรงสำเร็จสีหไสยาส (ยกเว้นตอนเสด็จปรินิพพาน) ได้ทรงกำหนดใจถึงการลุกขึ้นไว้เสมอใช่ไหมคะ รวมทั้งครั้งนี้ด้วยที่ประชวร ตอบว่า น่าจะ / ควรจะเป็นอย่างนั้นครับ. พระอริยะก็นอนแบบสีหไสยาสหรือไม่คะ และกำหนดใจถึงการลุกขึ้นได้เหมือน พระผู้มีพระภาคไหมคะ ตอบว่า ได้ครับ ในโมคคัลลานสูตร พระผู้มีพระภาคตรัสแก่ท่านพระมหาโมคคัลลานะเถระ เนื้อความบางส่วนว่า ... ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้น เธอพึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจักไม่ประกอบความสุข ในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ ดูกรโมคคัลลานะ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ //84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=23&A=1873&w=เธอพึงสำเร็จสีหไสยา ความคิดเห็นที่ 126 ฐานาฐานะ, 30 พฤษภาคม เวลา 21:39 น. คำถามว่า พระอริยะก็นอนแบบสีหไสยาสหรือไม่คะ และกำหนดใจถึงการลุกขึ้นได้เหมือน พระผู้มีพระภาคไหมคะ ขอตอบใหม่ คำตอบเดิมตอบไปเพราะเข้าใจคำถามผิดไปว่า พระอริยะก็นอนแบบสีหไสยาสได้หรือไม่คะ และกำหนดใจถึงการลุกขึ้นได้เหมือนพระผู้มีพระภาคได้ไหมคะ ตอบว่า ข้อว่า พระอริยะก็นอนแบบสีหไสยาสหรือไม่คะ ฯ ข้อนี้ แล้วแต่พระอริยบุคคลท่านนั้นๆ เพราะเหตุว่า พระอริยบุคคลชั้นพระเสขบุคคล อาจจะประมาทได้อยู่. รตนสูตร [บางส่วน] พระอริยบุคคลเหล่าใด ทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจทั้งหลาย อันพระศาสดาทรงแสดงดีแล้ว ด้วยปัญญาอันลึกซึ้ง พระอริยบุคคลเหล่านั้น ยังเป็นผู้ประมาทอย่างแรงกล้าอยู่ก็จริง ถึงกระนั้นท่านย่อมไม่ยึดถือเอาภพที่ ๘ สังฆรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=7662&Z=7746 ความคิดเห็นที่ 127 GravityOfLove, 30 พฤษภาคม เวลา 21:53 น. ภพที่ ๘ คืออะไรคะ ความคิดเห็นที่ 128 ฐานาฐานะ, 30 พฤษภาคม เวลา 22:02 น. โดยนัยก็คือ เกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ จึงไม่มีภพชาติที่ 8 หรือไม่ยึดถือเอาภพที่ 8 ค้นหาคำว่า ๗ ชาติ //84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php?text=7+ชาติ&book=19&bookZ=19 ความคิดเห็นที่ 129 GravityOfLove, 30 พฤษภาคม เวลา 22:11 น. เข้าใจแล้วค่ะ ขอบพระคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 130 GravityOfLove, 30 พฤษภาคม เวลา 22:12 น. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต สตุลลปกายิกวรรคที่ ๔ ๓๗. สมยสูตร ว่าด้วยพวกเทวดาประชุมกัน //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=752&Z=788&bgc=honeydew&pagebreak=0 สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่ามหาวัน เขตกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ พวกเทวดาจาก ๑๐ โลกธาตุมาประชุมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อจะเห็น พระผู้มีพระภาคและพระภิกษุสงฆ์ พรหมชั้นสุทธาวาส ๔ องค์ ดำริว่า แม้พวกเราควรเข้าไปเฝ้าพระองค์ แล้วพึงกล่าวคาถาคนละคาถา (เป็นคาถาแสดงพระเกียรติคุณของพระผู้มีพระภาคและสรรเสริญพระอรหันตสาวก) //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=สุทธาวาส พรหมทั้ง ๔ องค์นั้นจึงหายจากชั้นสุทธาวาส มาปรากฏอยู่เฉพาะพระพักตร์ แต่ละองค์กล่าวคาถาในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ๑. การประชุมใหญ่ในป่าใหญ่ มีพวกเทวดามาประชุมกันแล้ว พวกข้าพเจ้ามาสู่ที่ชุมนุมอันเป็นธรรม (ธรรมสมัย) นี้ เพื่อจะเยี่ยมหมู่พระผู้ที่ใครๆ ให้แพ้ไม่ได้ (ไม่แพ้ใคร ชนะหมู่มาร) ๒. ภิกษุทั้งหลายในที่ประชุมนั้นตั้งจิตมั่นแล้ว (ประกอบด้วยสมาธิ) ได้ทำจิตของตนให้ตรงแล้ว ภิกษุทั้งปวงนั้นเป็นบัณฑิตย่อมรักษาอินทรีย์ทั้งหลาย (ถึงพร้อมด้วยการวางเฉย ๖ ประการ (ฉฬังคุเบกขา)) ดุจนายสารถีถือบังhian ๓. ภิกษุทั้งหลายนั้นตัดกิเลสดังตะปู ดังลิ่มสลัก ดังเสาเขื่อนเสียแล้ว (กิเลสคือ ราคะ โทสะ โมหะ) ไม่หวั่นไหว เป็นผู้ปราศจากมลทินอันพระพุทธเจ้าผู้มีจักษุทรงฝึกดีแล้ว เป็นหมู่นาค (พระอรหันต์) หนุ่มประพฤติอยู่ //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=จักขุ_๕ //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=นาค#find4 ๔. ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งถึงแล้วซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นจักไม่ไปสู่อบายภูมิ ละร่างกายอันเป็นของมนุษย์แล้ว จักยังหมู่เทวดา (เทวกายา) ให้บริบูรณ์ //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=สรณะ ----------------- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต สตุลลปกายิกวรรคที่ ๔ ๓๘. สกลิกสูตร ว่าด้วยสะเก็ดหิน //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=789&Z=854&bgc=honeydew&pagebreak=0 สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ มิคทายวัน ในสวนมัททกุจฉิ เขตพระนครราชคฤห์ ครั้งนั้น พระบาทของพระผู้มีพระภาคถูกสะเก็ดหินกระทบแล้ว ได้ยินว่า ทุกขเวทนาทางกายเป็นอันมากเกิดแก่พระองค์ ได้ยินว่า ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ อดกลั้นเวทนาทั้งหลาย ไม่ทรงเดือดร้อน พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ปูผ้าสังฆาฏิ ๔ ชั้น ทรงสำเร็จสีหไสยาส โดยพระปรัสเบื้องขวา ซ้อนพระบาทเหลื่อมด้วยพระบาท ทรงมีพระสติสัมปชัญญะอยู่ (พระเทวทัตลอบทำร้ายพระผู้มีพระภาคด้วยก้อนหินจนพระโลหิตห้อ เหล่าภิกษุได้ช่วยกันหามพระองค์ด้วยเสลี่ยง แล้วนำไปยังสวนแห่งนี้) เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว พวกเทวดาสตุลลปกายิกา (ผู้เทิดทูนธรรมสัตบุรุษ) ๗๐๐ องค์ มีวรรณงาม เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคแล้วถวายอภิวาท เทวดา ๗ องค์ แต่ละองค์ได้เปล่งอุทานในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=สีหไสยา //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=78&bgc=honeydew#เรื่องผู้เทิดทูนธรรมสัตบุรุษ //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อุทาน ๑. พระสมณโคดมผู้เจริญเป็นนาคหนอ (มีกำลัง) ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ ทรงอดกลั้นซึ่งเวทนาทั้งหลายอันมีในพระสรีระเกิดขึ้นแล้ว ด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นนาค จึงไม่ทรงเดือดร้อน ๒. พระสมณโคดมผู้เจริญ เป็นสีหะหนอ (เป็นผู้ไม่สะดุ้งตกใจ) ... ๓. พระสมณโคดมผู้เจริญเป็นอาชาไนยหนอ (ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเฉลียวฉลาด หรือเพราะรู้ถึงเหตุ) ... ๔. พระสมณโคดมผู้เจริญเป็นผู้องอาจหนอ (นิสภะ คือผู้องอาจ เพราะอรรถว่าหาผู้เปรียบเสมอมิได้) ... ๕. พระสมณโคดมผู้เจริญเป็นผู้ใฝ่ธุระหนอ ... ๖. พระสมณโคดมผู้เจริญเป็นผู้ฝึกแล้วหนอ ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ ทรงอดกลั้นซึ่งเวทนาทั้งหลายอันมีในพระสรีระเกิดขึ้นแล้ว ด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นนาค จึงไม่ทรงเดือดร้อน ๗. ท่านทั้งหลายจงดูสมาธิที่พระสมณโคดมทรงเจริญดีแล้ว (สมาธิในอรหัตผล) จิตพ้นดีแล้ว จิตไม่เป็นไปตามราคะ จิตไม่เป็นไปตามโทสะ ไม่ต้องตั้งใจข่ม (เพราะทรงตัดกิเลสทั้งหลายแล้ว) บุคคลใดสำคัญว่าพระสมณโคดมเป็นผู้ที่ตนพึงล่วงเกินได้ บุคคลนั้นนับว่าไม่มีตา (อทสฺสนา ได้แก่ ไม่มีญาณหรือความรู้) (เทวดากล่าวติเตียนพระเทวทัตว่า เมื่อพระศาสดามีคุณเห็นปานนี้ ท่านยังทำอันตรายได้) เทวดานั้นครั้นกล่าวดังนี้แล้ว ได้กล่าวคาถาทั้งหลาย ใจความว่า พราหมณ์ทั้งหลาย มีเวท ๕ (ปญฺจเวทา) มีตบะ ประพฤติอยู่ตั้งร้อยปี หรือเป็นผู้ที่ตัณหาครอบงำ เกี่ยวข้องกับพรต (ประพฤติดังสุนัขเป็นต้น) และศีล ประพฤติตบะอันเศร้าหมองอยู่ตั้งร้อยปี แต่จิตของพราหมณ์เหล่านั้นก็ไม่พ้นแล้วโดยชอบ เพราะพราหมณ์ เหล่านั้นมีจิตเลว ย่อมไม่ลุถึงฝั่ง (ไม่นิพพาน) การฝึกฝนย่อมไม่มีแก่บุคคลที่มีมานะ ความรู้ย่อมไม่มีแก่บุคคลที่มีจิตไม่ตั้งมั่น บุคคลผู้เดียวเมื่ออยู่ในป่า ประมาท ไม่พึงข้ามพ้นฝั่งแห่งแดนมัจจุได้ (ไม่นิพพาน) บุคคลละมานะแล้ว มีจิตตั้งมั่นดีแล้ว มีจิตดี พ้นในธรรมทั้งปวงแล้ว ผู้เดียว อยู่ในป่า ไม่ประมาทแล้ว บุคคลนั้นพึงข้ามพ้นฝั่งแห่งแดนมัจจุได้ (นิพพาน) [อรรถกถา สํ.ส.อ. ๑/๓๘/๗๘, สํ.ฏีกา ๑/๓๘/๑๒๓] พระเวท ๕ คือ (๑) อิรุเวทหรือฤคเวท (๒) ยชุรเวท (๓) สามเวท (๔) อาถรรพเวท (๕) อิติหาสะ คือความรู้ทางประเพณี //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ไตรเพท ความคิดเห็นที่ 131 ฐานาฐานะ, 2 มิถุนายน เวลา 14:49 น. GravityOfLove, 30 พฤษภาคม เวลา 22:12 น. ... 10:12 PM 5/30/2014 สรุปความได้ดีทั้งสองพระสูตร สมยสูตรและสกลิกสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=752&Z=854 สำหรับสกลิกสูตร ขอให้ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องพระเทวทัตทำโลหิตุปบาท อยู่ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ สังฆเภทขันธกะ เรื่องพระเทวทัตทำโลหิตุปบาท //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=7&A=3493&Z=3696 คำว่า อนันตริยกรรม //84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=อนันตริยกรรม ย้ายไปที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=gravity-of-love&month=12-03-2013&group=1&gblog=1 |
แก้วมณีโชติรส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] Group Blog
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
GravityOfLove, 1 ชั่วโมงที่แล้ว
ตอบคำถามในพระสูตรทั้งสอง
...
10:27 PM 5/29/2014
ตอบคำถามได้ดีครับ.