Bloggang.com : Rain_sk : ไร้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีแต่แหวนแต่งงาน ถอดรหัสความตาย...!!' ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ

ไร้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีแต่แหวนแต่งงาน ถอดรหัสความตาย...!!' ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ

ภาพบาดแผลของ ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ ผู้บริหารระดับสูงของศรีพันวา รีสอร์ท วัย 31 ปี ถูกขวดเหล้าขว้างมากมาย เก้าอี้ฟาดหัว-หลัง ถูกแทงท้อง เอามีดตัดเส้นเอ็นที่ข้อเท้า ถูกเอาขวานจามศีรษะ ฯลฯ จนเลือดออกจากบาดแผลท่วมตัว ไทยรัฐออนไลน์อัพเดทอาการล่าสุด พร้อมกับไถ่ถามด้วยว่า หลังจากวันที่รอดตาย เขามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม…?

ต้นปีที่ผ่านมาข่าวนักธุรกิจหนุ่มไฮโซถูกแทงกลางผับที่ภูเก็ตขึ้นหน้า 1 นสพ. แทบจะทุกฉบับ ภาพ บาดแผลของ ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ ผู้บริหารระดับสูงของศรีพันวา รีสอร์ท ถูกขวดเหล้าขว้างมากมาย เก้าอี้ฟาดหัว-หลัง ถูกแทงท้อง เอามีดตัดเส้นเอ็นที่ข้อเท้า ถูกเอาขวานจามศีรษะ ฯลฯ จนเลือดออกจากบาดแผลท่วมตัว...!

บาดแผลที่เจ้าตัวบอกว่า เหวอะหวะหนักซะจนไม่น่ารอด แต่ก็อาจจะด้วยปาฏิหาริย์ กำลังใจ หรือบุญเก่าที่มี หรือว่าอะไรก็ตาม เขารอดชีวิตมาได้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่าการชี้นำเรื่องคดีความ

ไทยรัฐออนไลน์อัพเดทอาการล่าสุด พร้อมกับถอดรหัสความตายด้วยว่า หลังจากวันที่รอดตายชีวิต แนวคิดของเขาอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม…?

หมอลำซิ่งรีมิกซ์ แดนซ์ในคืนมรณะ…??

“ถ้าจะให้วิเคราะห์สาเหตุของความขัดแย้งในคืนนั้น...?” ปลาวาฬพูดติดตลกว่า คืนนั้นท่าเต้นตนคงจะน่าหมั่นไส้เกินไป

พร้อมกับย้อนเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุว่า วันนั้นกลุ่มเพื่อน 5 คน พาเพื่อนฝรั่งนักแสดงชาวฮอลลีวูดมาเที่ยวผับแห่งนี้ ซึ่งเป็นผับสไตล์ท้องถิ่น ซึ่งจุดเด่นที่นี่คือการเปิดเพลง โดยนำเอาเพลงอีสานมารีมิกซ์ บางคนบอกว่าไฮโซ (เขาบอกว่าไฮโซ คือสิ่งที่เลือกไม่ได้ แต่โดยเนื้อแท้เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่ไฮโซ!) ทำไมไปที่นั่น เพราะผมอยากให้ชาวต่างชาติได้รู้วัฒนธรรมการผสมผสานความเป็นไทย ว่ามีเสน่ห์อย่างไร แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเลวร้ายขึ้นกับตัวเองเลย

“ปกติผมจะเป็นคนชอบเอ็นเตอร์เทน คืนนั้นก็เต้นออกท่าทางสุดเหวี่ยง ตามประสาคนชอบความเฮฮา พอดีแก้วมันแตก เขาก็ส่องไฟใส่ผม แต่ก็ไม่ได้สังเกต ผับมันมีไฟดิสโก้วิบวับไปหมด จู่ๆ เขาก็มาจากข้างหลังตบหัว และกดหัวผมลงนานมาก จนผมจับมือเขาได้ และดึงมือมาถามว่าใคร แล้วก็บอกว่าไม่อยากมีเรื่อง พอดีมีคนมาห้าม มันเลยตะโกนบอกพรรคพวกมันว่า “ถูกต่อย” และพยายามล็อกตัวออกไปจัดการข้างนอก แต่ผมไม่ออกไป และใช้ช่วงชุลมุนวิ่งหนีขึ้นไปซ่อนบนเวที”

ระหว่างนั้น หนุ่มไฮโซ โดนสารพัดขวดปาใส่แทบจะหมดร้าน เพื่อนๆ ก็เข้ามาห้าม และคนที่แอบอยู่หลังเสาก็วิ่งเอาขาไมค์ยาวๆ ฟาดเขาอีก พอผ่านเหตุการณ์จนถึงวันนั้น ปลาวาฬ บอกว่า ถ้าทำตามเกมของเจ้าถิ่นออกไปนอกร้านตนน่าจะโดนกระทืบแค่ 3-5 นาทีตามกฎถูกกระทืบ ซึ่งก็คงนอนจมกองเลือดแล้วจบ แต่ที่ไม่ออกไปข้างนอก เพราะรอตำรวจที่แจ้งความไปเข้ามารับตัว หารู้ไม่ว่าการยืนยันจะอยู่ด้านใน ทำให้ตน และเพื่อนอีก 3 คน (เพื่อน "เจเรมี เรนเนอร์" ดาราฮอลลีวูด นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง “มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 4 และเพื่อน 2 คนเขากันตัวให้ออกไปรอด้านนอก ด้วยเหตุผลว่ากลัวเรื่องความปลอดภัย) ถูกคนครึ่งร้อยกระทืบ 15 นาที เต็มๆ

“พอออกมานอกร้านได้นึกว่าจะจบ แต่ก็โดนเก้าอี้ฟาดหัวก่อนล้มลงและโดนขวานฟันจากข้างหลัง และก็โดนเอามีดแทงท้อง เอามีดกรีดที่เส้นเอ็นเท้าซ้าย หลังจากนั้นก็หนีขึ้นรถ ในระหว่างนั้นผมไม่รู้เลยว่าโดนอะไรบ้างรู้ว่าเลือดออกเยอะ และเจ็บท้องมากๆ ส่วนหัว หัวไหล่ และมือยังไม่รู้สึก แต่ไม่นานก็รู้สึกเจ็บหัว เลือดเต็มหัว เลยพากันไปโรงพยาบาล”

ปลาวาฬ กล่าวต่อว่า ช่วงเวลาที่ถึงโรงพยาบาล และถูกพยาบาลถอดเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเลือดออก ก็มีเสียงกรี๊ดดด...ดังมาก จนตนแซวไปว่า กรี๊ดเพราะเจอตนหรือเปล่า! แต่หลังจากที่ให้เพื่อนถ่ายภาพบาดแผลด้านหลังมา จนเริ่มใจเสีย เพราะว่าแผลมันใหญ่ และเต็มไปหมด

“ผ่าตัดไป 3 ชั่วโมง พอตื่นขึ้นมา ผมก็บอกหลับสบายมาก” เขาหัวเราะให้กับโชคชะตาตามประสาหนุ่มอารมณ์ดี และกล่าวว่า คนแรกที่เห็นหน้าก็คือ คุณพ่อของเขาเอง

กลับมาจากความตาย!!

ใช้เวลาเพ่งใบหน้าปรับระยะโฟกัสใบหน้าคุณพ่อได้ไม่นาน ปลาวาฬ บอกว่า เขาเห็นคุณพ่อสีหน้านิ่งมาก ก็เล่าให้พ่อฟังสั้นๆ ว่ามันเล่นหนักเลย เล่นจากข้างหลังแล้วหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีพ่อเรียกหมอมาเช็กปรากฏว่าไม่พิการ ทุกอย่างโอเคก็เบาใจ

“ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลมันเป็นประสบการณ์ที่ทรมานมากที่สุดในชีวิต เพราะต้องนอนทับแผลฉกรรจ์มากมายจากด้านหลัง ส่วนท้องเจ็บที่โดนผ่าตัด ตั้งแต่ก่อนสะดือเพื่อแหวกท้องมาดูว่าโดนอะไรหรือเปล่า ก็ลุกขึ้นไม่ค่อยได้ ขยับแต่ละที ข้างหน้าก็เจ็บเกินจะบรรยาย ถามว่าโกรธ หรือโทษใครกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม ‘ไม่’ คิดแค่ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เจ้ากรรมนายเวรมาเอาคืนจากเรา”

ไม่มีสักวินาทีเดียวที่คิดว่าผมจะต้องตาย !

หลังจากนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นสัปดาห์ วันแรกที่ออกจากที่นั่น เขาขอร้องพ่อ-แม่ให้พาเขากลับภูเก็ต บ้านที่เขารัก และอยู่มา 7 ปี แม้พ่อแม่จะพยายามทัดทานให้ไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ

“ตอนนี้ร่างกายก็ยังไม่ปกติ แขนก็มีสกรู มีนอตยึดเอาไว้ แขนก็ยังขยับไม่ได้มาก ล้วงกระเป๋าไม่ได้มันตึงมาก แขนใช้งานได้แค่ 30% เพราะกระดูกต้องใช้เวลาเชื่อมสัก 2-3 เดือน สวนขาก็ยังเดินกะโผลกกะเผลก แผลที่โดนแทงก็เสียหายมาก เพราะมันแทงเข้าไปลึก แต่โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ อย่าง หัวใจ ไต ม้าม ไม่อย่างนั้นผมคงตายไปแล้ว ส่วนเรื่องของจิตใจกลับแฮปปี้เต็มที่ และแอบภูมิใจที่รอดมาได้ แม้จะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ กับชีวิต แต่วันนี้ปลาวาฬก็ยังเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเหมือนเดิม แค่วันนั้นเจ้ากรรมนายเวรมาเรียกขอชีวิตคืนเท่านั้น และที่สำคัญผมไม่คิดว่าวันนั้น ผมจะต้องตายไม่มีสักวินาทีเดียว คิดเพียงว่าต้องอยู่ให้รอดแค่นั้นเอง”

ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว สู่ภาพอัปลักษณ์ ??

ปลาวาฬ บอกว่า โดยส่วนตัวไม่ติดใจอะไรมากมายขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่เล่าออกมาก็เป็นในมุมที่ตัวเองประสบเหตุ แต่สิ่งที่รู้สึกเสียใจก็คือ การถูกทำร้ายจากด้านหลัง เพราะกฎของลูกผู้ชาย หรือสงครามเขาห้ามทำร้ายใครด้านหลัง และที่เศร้ามากที่สุดก็คือ เหตุการณ์ต่างๆ ที่ออกไปมันทำลายภาพลักษณ์ให้ จ.ภูเก็ต เป็นเมืองที่น่ากลัว ทั้งๆ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

“อย่างที่บอกว่าแม้ส่วนตัวผมจะไม่ได้คิดอะไรมากมาย ไม่แค้น ไม่โกรธ และไม่คิดจะล้างแค้น รอดมาได้ก็บุญแล้ว แต่พวกคุณคนที่ทำร้ายคนอื่น คิดอะไรได้บ้างไหมว่า ในมุมของครอบครัว ถ้าผมตายไป วันนี้ผมมีลูกมีภรรยามีบริษัทที่สร้างมากับมือจะต้องดูแล ถ้าผมเป็นอัมพาตสมองได้รับการกระทบกระเทือน หรือพูดไม่ได้ ภาระและสิ่งที่ผมต้องดูแล หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบคนพวกคิดบางไหม แล้วจะรับผิดชอบอย่างไร”

ปลาวาฬ ย้ำว่า ในชีวิตตนไม่เคยต่อยกับใคร ไม่เคยมองหน้าใครไม่ดี เป็นคนมืออ่อน จะไหว้คนตลอด ตอนทำงานมีบางครั้งที่หงุดหงิดกับพี่ๆ น้องๆ หรือพนักงาน ก็มีดุด่ากันบาง แต่ถ้าผมไปเที่ยวผับแล้วมึงมองหน้ากูทำไมไม่ใช่ตน

“ผมไม่ใช่นักเลง ผมเป็นนักรักมากกว่า” เขากล่าว

“สติ” คำที่พาจูงมือออกมาจากความตาย

สุดท้ายเมื่อถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ ปลาวาฬบอกว่า ผมจะไม่ออกจากผับ จะรอให้เจ้าหน้าที่มารับ ถ้าตอนนั้นไม่ออกไปด้านนอกก่อนคนมารับ ผมคงปลอดภัย

"ถามว่าจากวันที่เกิดเหตุการณ์ มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปไหมไม่เปลี่ยนครับ ผมยังมองโลกในแง่ดีเหมือนเดิม บางคนบอกว่าผมใส่พระอะไรถึงรอดมา วันนั้นผมมีแค่แหวนแต่งงานจากภรรยาแค่วงเดียว แต่สิ่งที่ทำให้ผมรอดมาได้ก็คือ สติ ช่วงวิกฤตินั้นมันต้องนิ่งมากผมก็อยากจะขอบคุณอาจารย์ทั้งหลายที่เขาช่วยๆ ผมไว้ ที่สั่งสอนผมตอนเด็กๆ เขาก็มีส่วนเยอะที่ทำให้ผมมีสติและพาตัวเองรอดมาจากความตายได้” ปลาวาฬ กล่าวในที่สุด.

Twitter : raydo_thairath
คลิกชมอ่านและชมภาพต่อ...ที่นี่ขอรับ

credit : นสพ ไทยรัฐ

Create Date : 31 มกราคม 2555

Last Update : 31 มกราคม 2555 7:38:38 น. 0 comments

Counter : 3358 Pageviews.

Share
Tweet