Bloggang.com : Rain_sk : กะปิทองเกาะช้าง ไร้กลิ่น...ตำพอดีครก

กะปิทองเกาะช้าง ไร้กลิ่น...ตำพอดีครก

กาญจนา จินตกานนท์ / รายงาน

“กะปิเกาะช้าง” ของฝากอันลือเลื่องของจังหวัดตราด เพราะเกาะช้างเป็นแหล่งผลิตกะปิมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในบรรดาแหล่งผลิตกะปิของจังหวัดตราดเกือบทั้งหมด เนื่องจากเป็นเคยสะอาด อยู่หน้าอ่าวไม่มีปลาเล็กปลาน้อยเจือปนและทะเลน้ำใสไม่มีมลพิษ ไม่เจือปนสี

“กะปิเกาะช้างจึงมีเนื้อเนียนละเอียด มีกลิ่นหอม รสหวาน สีแดงสวยธรรมชาติ” ไม่ใช้วัตถุกันเสียและสามารถเก็บได้นานถึง 5 เดือน (ในตู้เย็นไม่จำกัดเวลา)

ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดตราดเมื่อจะเลือกซื้อกะปิเป็นของฝากมักจะเห็นกะปิที่ใส่กระปุก 1 กิโลกรัม หรือครึ่งกิโลกรัมวางขายอยู่ บางครั้งต้องเปลี่ยนใจเอาดื้อๆ ทั้งๆ ที่อยากซื้อใจจะขาด แต่เพราะปริมาณกะปิที่มากเกินความต้องการ เก็บไว้นานเกรงจะเสียคุณภาพ แถมพกพามีปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวนผู้ใกล้ชิดอีกด้วย

แต่...เดี๋ยวก่อน วันนี้หากท่านไปเที่ยวจังหวัดตราด มี “กะปิทองเกาะช้าง” เป็นของฝากชนิดพกพาและไร้กลิ่นแต่ยังคงรสชาติของความอร่อยไว้เต็มร้อยรอให้ลิ้มลอง

นวัตกรรมกะปิบรรจุซอง

คุณมานพ ทองศรีสมบูรณ์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เจ้าของไอเดียกะปิพกพาไร้กลิ่น เล่าว่า ในช่วงปลายปี 2554 ได้โจทย์จาก คุณเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มาให้ขบคิดว่า กะปิเกาะช้างเป็นของดีมีชื่อเสียงของจังหวัดตราดและมีปริมาณที่จำกัด (บางฤดูกาลมีมาก บางฤดูกาลมีน้อย)

จะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อได้กะปิที่มีปริมาณพอดีในการใช้ เช่น ตำน้ำพริกกะปิ 1 ถ้วย เพราะเก็บไว้นานๆ ไม่ได้ใช้คุณภาพจะเสียไป หรือเป็นการสิ้นเปลืองหากซื้อปริมาณมากๆ เกินความจำเป็น

จากนั้นจึงมองหาจุดแข็งของลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีทั้งกลุ่มผู้ผลิตกะปิและกลุ่มทำโรงงานแพ็กเกจขนาดเล็ก และให้ทั้ง 2 กลุ่มมาสร้างผลิตภัณฑ์ทำกะปิแพ็กเกจรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าแต่ลดต้นทุน ใช้ชื่อว่า “กะปิทองเกาะช้าง” ให้เห็นว่าเป็นของมีค่ามีราคา

มีการออกแบบสติ๊กเกอร์โดยใส่เรื่องราว ความสำคัญของกะปิเกาะช้างเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้รับประทานของที่มีคุณค่า

การันตีด้วยเครื่องหมาย OTOP ธ.ก.ส. “สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.” (สกต.ตราด จำกัด) และมีเครื่องหมายที่ในอนาคตอาจจะใช้จดทะเบียนคือ G-Nature หมายถึง สีเขียว ความเป็นธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อม

คุณมานพ เล่าต่อไปอีกว่า ธ.ก.ส.ตราด จะไม่หวงความคิดเรื่องทำกะปิซอง ใครจะนำไปทำไม่เป็นไร เพราะการทำต้องเลือกกะปิที่มีคุณภาพดี กะปิเกาะช้างที่เลือกมาทำคัดสรรอย่างดี ใช้กะปิลุงแดงของ คุณชุติมา ขุนสนธิ ที่มีอาชีพทำกะปิมา 45 ปีแล้ว เป็นผลิตภัณฑ์โอท็อป 4 ดาว กิโลกรัมละ 150-160 บาท ซื้อขาดครั้งละ 1-2 ตัน โดยที่เขาจะได้เงินก้อน 300,000-400,000 บาท แทนที่จะขายปลีกได้ครั้งละเป็นพันๆ บาท

จากนั้นให้ลูกค้า ธ.ก.ส. อีกรายหนึ่ง คุณชัยวัฒน์ ปริ่มผล ที่มีโรงงานทำผลไม้อบแห้งระบบสุญญากาศ ช่วยทำแพ็กเกจให้ เพราะมีวัสดุ อุปกรณ์อยู่แล้ว ค่าจ้างทำซองละ 2 บาท น้ำหนักบรรจุซองละ 25 กรัม ขายซองละ 10 บาท สร้างมูลค่าเพิ่ม กลายเป็นกะปิ กิโลกรัมละ 400 บาทโดย ธ.ก.ส. จะเป็นผู้จัดจำหน่ายในนามของ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส. (สกต.ตราด จำกัด) ซึ่งมีสมาชิก 7,000 กว่าคน เป็นผู้รับผลประโยชน์ และกะปิทองเกาะช้างนี้ได้วางจำหน่ายแล้วที่ ธ.ก.ส. สำนักงานจังหวัดทั่วประเทศไทย

“อนาคตน่าจะผลิตได้มากกว่านี้เพราะเพิ่งเป็นระยะทดลองตลาดได้เพียงปีเดียว ความพร้อมด้านวัตถุดิบและเครื่องมือ หรือโรงงานมาตรฐานยังไม่เพียงพอ ที่ผ่านมามีเซเว่นอีเลฟเว่นมาติดต่อจะนำไปวางจำหน่ายทั่วประเทศเช่นกัน แต่ยังติดปัญหาโรงงานที่ผลิตต้องผ่านการรับรองมาตรฐานระบบสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP) และวัตถุดิบที่นำมาผลิตจะเลือกผ่านการคัดสรรระดับ 3-4 ดาว ซึ่งปริมาณวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานยังไม่เพียงพอ” คุณมานพ กล่าว

มั่นใจคุณภาพเยี่ยม
สีแดงสวยตามธรรมชาติ

“ช่วงที่มีเคยให้ทำกะปิคือช่วงฤดูฝน เดือนมิถุนายน-ตุลาคม แต่บางปีฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาลจะไม่มีเคย อย่างปีนี้ยังไม่มีเคยเลยต้องรอไปช่วงใกล้ก่อนออกพรรษาอีก 1-2 เดือน คาดว่าเคยปีนี้จะน้อยลง อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ากะปิเกาะช้าง เป็นกะปิที่มีคุณภาพดี มีชื่อเสียงมานาน เพราะเป็นเคยในทะเลน้ำลึก น้ำสะอาดไม่มีปลาเล็กเจือปน จะมีคุณลักษณะพิเศษคือ เนื้อเคยที่นำมาทำกะปิแล้ว เนื้อจะเนียน มีรสหวาน กลิ่นหอม และมีสีแดงตามธรรมชาติ เราจะหมักไว้ 2-3 เดือน ซึ่งปกติ 3-4 วันสามารถรับประทานได้แล้ว แต่ยิ่งเก็บไว้นานเป็นปียิ่งอร่อยแต่ต้องอัดให้แน่นในถังที่บรรจุไม่ให้อากาศเข้า ไม่อย่างนั้นเนื้อกะปิจะเหลวอ่อนมีน้ำจากตัวเคยออกมา จากนั้นจะบรรจุกระปุกจำหน่าย กระปุกละครึ่งกิโลกรัม ขายปลีกกิโลกรัมละ 160-170 บาท เก็บไว้นอกตู้เย็นได้นานถึง 3-4 ปี ถ้าในตู้เย็นเก็บได้ตลอดไม่มีเสีย” คุณชุติมา เจ้าของกะปิลุงแดง กล่าว

คุณชุติมา วัย 58 ปี เล่าว่า ทำกะปิเป็นอาชีพสืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ที่เกาะช้าง ที่บ้านเจ๊กแบ๊ หมู่ 3 ตำบลเกาะช้างใต้ มานาน 45 ปี ระยะแรกสามี คุณสมศักดิ์ ขุนสนธิ ออกไปหาเคยแต่ตอนนี้มีลูกชายมาช่วย แต่ละปีหาเคยได้ปริมาณไม่เท่ากัน มากบ้างน้อยบ้าง เฉลี่ยปีละ 2-3 ตัน บางปีได้ 1 ตันเท่านั้น แล้วแต่สภาพฟ้าฝน ถ้าจะให้มีเคยมากสภาพอากาศต้องตกตามฤดูกาล กะปิเกาะช้างทำแล้วจะขายหมดทุกปีเพราะระยะหลังมีรีสอร์ตเกิดขึ้นหลายแห่ง รีสอร์ตนิยมมาซื้อเหมาไปครั้งละหลายร้อยกิโลกรัม เพื่อนำไปแจกผู้ใหญ่ กรรมการ หุ้นส่วนในบริษัทที่มาประชุม

เมื่อ 2 ปีที่แล้วนำไปคัดสรรผลิตภัณฑ์ก็ได้ OTOP ด้วยบรรจุผลิตภัณฑ์แบบง่ายๆ เมื่อทางผู้จัดการ ธ.ก.ส. มาซื้อเหมาเป็น 1-2 ตัน ได้เงินก้อน 200,000-300,000 บาท จึงดีใจมาก เพราะสามารถนำไปผ่อนเงินกู้ หรือลงทุนเรือทำอย่างอื่นได้

จริงๆ แล้วกะปิเกาะช้างคุณภาพดีเหมือนกันหมด เพราะตัวเคยทะเลที่นี่สะอาด รสชาติดี แต่การนำออกจากถังหมักไปบรรจุถุงทิ้งไว้ 2-3 วันทำให้น้ำเคยออกมา เนื้อกะปินิ่ม ไม่แห้ง ซึ่งเป็นปัญหาการทำกะปิซองปั้นเป็นก้อนไม่ได้ ทางที่ดีเมื่อเอาออกจากถังเก็บกะปิต้องบรรจุซองทันทีอย่าทิ้งไว้ค้างคืนไม่เช่นนั้นเมื่อสัมผัสอากาศนานๆ น้ำตัวเคยจะออก
ลุ้น ธ.ก.ส. สนับสนุนสมาชิก

ทำโรงงานมาตรฐาน GMP

คุณชัยวัฒน์ ปริ่มผล ผู้จัดการ บริษัท ผลอำไพฟรุตตี้ไทย จำกัด เล่าว่า กว่าจะถึงจุดลงตัวกะปิทองเกาะช้าง การออกแบบทำแพ็กเกจมีจุดสำคัญที่ต้องทดลองแล้วทดลองอีก 2 จุด คือ ปริมาณบรรจุได้ทดลอง 20-25-30 กรัม และมาลงตัวที่ 25 กรัม ที่น้ำพริก 1 ถ้วย รับประทานได้ 4-5 คน จากนั้นได้ทดลองทำรูปร่างกะปิ กลม แท่ง และมาลงตัวที่ก้อนสี่เหลี่ยมด้านขนานที่มีความหนาพอประมาณ ซึ่งมีข้อจำกัดที่ตัวเนื้อกะปิต้องไม่อ่อนตัวหรือแข็งตัวเกินไป

จากนั้นจึงทำบล็อกสี่เหลี่ยมตามขนาดที่ใช้อัดกะปิเป็นรูปสี่เหลี่ยม และบรรจุซองที่ติดสติ๊กเกอร์เรียบร้อยแล้ว ซีลด้วยระบบสุญญากาศ ซึ่งยังต้องใช้มือทำอยู่ เพราะปีนี้ทำเพียง 30,000 ซอง หากมีตลาดกว้างปริมาณมากส่งต่างประเทศ หรือวางขายในสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ จะต้องเป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรที่ได้รับการรับรอง GMP ซึ่งน่าจะทำได้หาก ธ.ก.ส. มีนโยบายที่จะช่วยเหลือสมาชิกให้กู้เงินมาลงทุนประเภทโรงงาน เพราะที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ยังไม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนเรื่องโรงงานมาตรฐาน น่าจะปรับให้เข้ากับสถานการณ์ของสมาชิกในปัจจุบัน ถ้ามีโรงงานมาตรฐานที่ยอมรับจะช่วยส่งเสริมการตลาดกะปิเกาะช้างหรือกะปิดีๆ ของไทยสู่ตลาดได้อย่างกว้างไกลแน่นอน

หากเป็นไปได้การต่อยอดให้ “กะปิเกาะช้าง...โกอาเซียนหรือโกอินเตอร์” วันนั้นกะปิเกาะช้าง หรือแม้แต่กะปิไทยทั่วไปจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ผลิตกะปิ ผู้ประกอบการโรงงานแพ็กเกจ ได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว...“ทั่วโลกจะได้รู้จักน้ำพริกกะปิแสนอร่อยของไทย”

สนใจสอบถาม คุณมานพ ทองศรีสมบูรณ์ โทรศัพท์ (089) 939-4308 หรือ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส. (สกต.ตราด จำกัด) โทรศัพท์ (081) 377-7076 และคุณชุติมา ขุนสนธิ โทรศัพท์ (089) 936-6962

.....

ที่มา นสพ มติชน

Create Date : 25 ธันวาคม 2555

Last Update : 25 ธันวาคม 2555 6:50:50 น.

0 comments

Counter : 1621 Pageviews.