Group Blog
 
 
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
ฟอไฟฟุดฟิด อังกฤษ อเมริกัน a5

ฟอไฟฟุดฟิด อังกฤษ อเมริกัน

อ้วนไปรึเปล่า (1)

“เป็นอะไรเธอ เดินคอตกมาเชียว”

“ก็โดนผู้จัดการเรียกไปว่าน่ะสิ มารศรี”

“Really? What did you do for him to give you a dressing down?”

“เปล่านะ เขาไม่ได้จับฉันไปถอดเสื้อผ้า แค่เรียกไปดุว่า แต่แค่นี้ก็แย่แล้ว”

“ฉันพูดที่ไหนว่าเขาจับเธอไปถอดเสื้อผ้า อ๋อ เข้าใจแล้ว เธอรู้ว่า dress up แปลว่า แต่งตัวใส่เสื้อผ้าให้เต็มที่ ก็เลยนึกว่า dressing down ต้องมีความหมายตรงข้าม เป็นอย่างนั้นใช่หรือเปล่า”

“อ้าว ตกลง dressing down ที่เธอพูดนั่นไม่ได้แปลว่าดึงเสื้อผ้าลงเหรอ”

“เปล่าจ้ะ to give (someone) a dressing down ไม่เกี่ยวอะไรกับการแต่งตัวหรือเสื้อผ้าเลย แต่แปลว่า ดุว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเจ้านายดุว่าผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วตกลงเธอโดนเจ้านายดุเรื่องอะไร”

“ก็ดี ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่ฉันทำไปมันผิดนักเหรอ เรื่องมันเป็นยังงี้ เมื่อวันก่อนมีลูกค้าเดินเข้ามาในธนาคาร ฉันรู้จักเขาจากทีวี แต่ตัวจริงไม่เหมือนในทีวีเลย ฉันก็เลยทักอย่างยิ้มแย้มว่า คุณฮาร์ทอ้วนไปหน่อยหรือเปล่าคะเนี่ย เขาก็ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบว่าอะไร...เดี๋ยว ๆ ฉันยังเล่าไม่จบ... ฉันแค่ทักลูกค้าด้วยความหวังดี กลัวว่าเขาจะไม่รู้ตัวว่าอ้วน แต่ปรากฏว่าผู้จัดการบังเอิ๊ญยืนอยู่ข้างหลังฉัน ได้ยินเข้า ก็เลยเรียกฉันไปคุย”

“As well he should have. เขาก็สมควรอยู่หรอก เธอไม่โดนไล่ออกโชคดีแค่ไหนแล้ว มีอย่างที่ไหน ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์แต่
ดันพูดจาไม่ดีกับลูกค้า”

“อ้าว ๆ ๆ แทนที่จะเข้าข้างเพื่อน ทำไมต้องซ้ำเติมกันด้วยล่ะ ฉันพูดจาไม่ดีตรงไหน พูดด้วยความจริงใจ ด้วยความหวังดี ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วเธอจะเอาอะไรจากฉันอีก”

“ก็เพื่อนทำไม่ถูกจะให้ฉันบอกว่าถูกได้อย่างไร นี่นะ ฉันจะบอกให้ You don’t go around calling people fat to their faces, no matter how nicely you do it. Where are your manners?”

“มายแมนเหรอ เขาไม่ได้เหน่อนะ ตอนนี้เขาคงอยู่บ้านดูบอลอยู่มั้ง ไม่รู้เหมือนกัน”

“manners (แม้นเหน่อร์ส) เป็นภาษาอังกฤษ แปลว่า มารยาท ฉันถามเธอว่ามารยาทของเธออยู่ไหน ไม่ได้ถามว่าผู้ชายของเธออยู่ไหน”.

หนังสือ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก 600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ. สามเสนใน กท. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com ติดตามได้ทาง Twitter @boonhod

“อ้าว แล้วฉันผิดมารยาทตรงไหนเหรอ”

“ก็อย่างที่ฉันบอกอย่างไรล่ะ การออกความเห็นเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาคนอื่นเป็นการผิดมารยาท เธอคิดหรือว่าคนอ้วนจะไม่รู้ว่าตัวเองอ้วน จนกระทั่งเธอเป็นคนแรกที่ตาแหลมคมพอที่จะสังเกตและไร้มารยาทพอที่จะออกปาก”

“ฉันจ๋อยนะเนี่ย ฉันนึกว่าแค่เป็นคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใช้สร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้า เรียกว่าอะไรนะ little talk ใช่มั้ย ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องเสียหายร้ายแรงอะไร”

“การสนทนาเรื่องเบา ๆ เขาเรียกว่า small talk จ้ะ แต่ในกรณีของเธอไม่ได้มีหน้าที่สนทนากับลูกค้า เพียงแต่ greet = ทักทาย ลูกค้า ไม่ใช่หรือ ไม่ได้มีหน้าที่ตั้งข้อสังเกตหรือวิพากษ์วิจารณ์ว่าลูกค้ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งที่เธอทำไปนั่นถือว่า out of line”

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้นอกแถวเพราะฉันไม่ได้ยืนเข้าแถว มีแต่ลูกค้าที่ยืนเข้าแถว”

“out of line เป็นสำนวน แปลว่า ทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง ผิดมารยาท ผิดแบบแผนขั้นตอนการบังคับบัญชา เช่นผู้น้อยด่าผู้ใหญ่ พนักงานธนาคารวิจารณ์ลูกค้าว่าอ้วน”

“ฉันไม่ได้วิจารณ์ ฉันแค่ทักทายว่าเขาอ้วนไปหน่อยหรือเปล่า แค่นั้นเอง”

“ก็นั่นแหละ เธอไม่ต้องไปเที่ยวทักใคร ๆ ว่าเขาอ้วนจัง ผอมจัง เตี้ยจัง สูงจัง It’s rude.”

“ออกเสียงว่าชลูดจ้ะ ไม่ใช่สรูด ฉันเจอคนสูงก็อยากทักเขาว่าคุณสูงจัง สูงเท่าไหร่เนี่ย”

“It’s rude. = มันเสียมารยาท ฉันไม่ได้พยายามพูดว่า ชลูด แต่ฉันบอกว่าการไปทักรูปร่างลักษณะของคนเป็นการเสียมารยาท”

“แหม ถ้าเขาอ้วนมากฉันก็ไม่กล้าทักหรอก หรือถ้าเขาเตี้ยตะแมะแคะฉันก็ไม่กล้าเหมือนกันแหละ เพราะกลัวเขาจะเสียใจว่ามีคนทักปมด้อย แต่ถ้าอ้วนนิดหน่อย อยู่ในเกณฑ์ที่พอจะลดได้ ฉันก็จะทักด้วยความหวังดี หรือถ้าเขาสูง ฉันก็อยากรู้ว่าสูงเท่าไหร่ และเมื่อรู้ว่าสูงเท่าไหร่แล้วก็อยากรู้ต่อว่าเขาเล่นบาสหรือเปล่า มันผิดนักเหรอ”

“ผิดแล้วยังไม่สำนึกอีก ทั้งหมดนี้เป็นเรื่อง personal (เพ้อร์สั่นหนั่ล) = ส่วนตัว คนที่มีมารยาทจะไม่วิจารณ์เรื่องส่วนตัวของคนอื่น โดยเฉพาะประเด็นที่ sensitive เช่น ความอ้วน ความโทรม ฯลฯ แต่ถ้าทักเขาว่าหล่อหรือดูดีกว่าในทีวีก็ว่าไปอีกอย่าง”.

หนังสือ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก 600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ. สามเสนใน กท. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com ติดตามได้ทาง Twitter @boonhod



Create Date : 23 มกราคม 2555
Last Update : 23 มกราคม 2555 11:39:51 น. 5 comments
Counter : 2050 Pageviews.

 
เรือล่ม (1)
“นี่ มารศรี ขอถามหน่อยดิ ขนาดหมวกแก๊ปมันเกี่ยวอะไรกับเรือล่มด้วย”

“ไม่เห็นจะเกี่ยวนี่ ทำไมเหรอ”

“ก็ฉันอ่านที่คนเขียนวิจารณ์เกี่ยวกับเรือล่มที่อิตาลี เขาเขียนว่า The captain caused the ship to capsize. คล้าย ๆ กับจะแปลว่า กัปตันทำให้เรือมีขนาดเท่าหมวกแก๊ป แต่ฉันว่าคงไม่ใช่แน่เลย”

“อ๋อ capsize (แค็พส่ายส) เป็นกริยาแปลว่า ล่ม ใช้เฉพาะกับเรือ แต่ยังไม่ถึงกับจมนะ ถ้าจมก็จะเรียกว่า sink เช่น The Titanic sank soon after hitting an iceberg. = เรือไททานิกจมไม่นานหลังจากที่ชนภูเขาน้ำแข็ง แต่อย่างเรือ Costa Concordia นั่นกล่าวได้ว่า The Costa Concordia capsized after running aground. = เรือ Costa Concordia ล่มหลังจากที่เกยตื้น”

“running aground แปลว่า เกยตื้น เหรอ ฟังดูยังกะแปลว่า วิ่งบนพื้น”

“ไม่ใช่ running on the ground นะ แต่ running aground (รันนิง อะกร้าวนด) แปลว่า การเกยตื้น เป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้กับเรืออีกเหมือนกัน”

“แล้วนี่อีกอัน เขียนว่ากัปตัน reckless ก็เลยเกิด shipwreck ฉันก็เลยสงสัยว่าไอ้ reck นี่มันคืออะไร ทำไมกัปตันถึงไม่มี แต่ทำให้เรือมีได้”

“เอ่อ ความจริงภาษาอังกฤษแทบจะไม่ใช้คำว่า reck เลย ทั้ง ๆ ที่เป็นศัพท์ที่มีอยู่ในดิก แต่ใช้ reckless (เร็คเหล็ส) เป็นประจำในความหมายเดียว นั่นคือ ประมาท เช่น reckless driving = การขับรถอย่างประมาท ส่วน shipwreck นั่นเป็น wreck (เร่ค) ซึ่งออกเสียงเหมือน reck แต่สะกดต่างกัน ถ้าเป็นนามก็แปลว่า พัง เช่น car wreck (ค้าร์เหร็ค) = รถพัง คือไม่ใช่รถตายนะ แต่พังแบบยับเยินน่ะ หรือถ้าเป็นกริยาก็แปลว่า ทำให้พัง เช่น I wrecked the car. = ฉันทำรถพัง”

“นี่ มารศรี ฉันถามเกี่ยวกับเรือนะจ๊ะ ไม่ได้ถามเกี่ยวกับรถ”

“ใจเย็น ๆ สิ ฉันกำลังจะบอกว่า shipwreck (ชิพเหร็ค) แปลว่า เรือล่ม เป็นนามก็ได้ เช่น There’s a shipwreck just off the coast that’s a popular dive site. = มีเรือล่มนอกชายฝั่งไม่ไกลที่เป็นสถานที่ ที่คนชอบไปดำน้ำกัน หรือจะเป็นกริยาก็ได้ เช่น We were shipwrecked in the middle of the Pacific. = เราเรือล่มกลางมหาสมุทรแปซิฟิก”.

หนังสือ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี, 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ. สามเสนใน กทม. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com ติดตามได้ทาง Twitter @boonhod

ติดตามได้ทุกวัน..หน้าคอมเม้นท์นะขอรับ...เพื่อเป็นการประหยัดพื้นพี่

credit : dailynews


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 24 มกราคม 2555 เวลา:9:52:58 น.  

 
What are the chances of...

คอลัมน์ ฝึกหัดภาษาอังกฤษ
พี่ปู


สวัสดีน้องๆ ที่น่ารักทุกคนจ้า

เมื่อต้องการจะแสดงความประหลาดใจและพูดว่า มีโอกาสสักแค่ไหนกันเชียวที่จะเกิด...ขึ้น เราจะพูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างไร

ประโยคนี้ฝรั่งเขาใช้ว่า What are the chances of + Verb (ing)

ตัวอย่าง What are the chances of getting tickets? จะมีโอกาสได้ตั๋วเหรอเนี่ย

What are the chances of it raining today? มีโอกาสสักแค่ไหนเชียวที่ฝนจะตกวันนี้

What are the chances of winning the lottery? จะมีโอกาสถูกหวยหรือเนี่ย

What are your chances of getting the job? คุณมีโอกาสจะได้งานสักแค่ไหนกัน

ส่งท้ายวันนี้ด้วยวาทะของ เหมา เจ๋อตง (Mao Zedong)

Politics is war carried out without bloodshed, while war is politics carried out with bloodshed. การเมืองคือสงครามที่ดำเนินไปโดยปราศจากการนองเลือด ส่วนสงครามคือการเมืองที่ดำเนินไปพร้อมการนองเลือด

พบกันพุธหน้าจ้า  Credit: www.khaosod.th.com


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:0:30:26 น.  

 
เรือล่ม (2)

“เธอเล่นยิงศัพท์เป็นชุดยังงี้ แล้วฉันจะจำได้ยังไงเนี่ย หา มารศรี เข้าหูซ้ายก็ทะลุหูขวาหมด”

“เธอก็ต้องหัดจดจำสิ จดลงสมุด แล้วกลับบ้านไปก็ Google หาคำนั้น สังเกตว่าเขาใช้ในบริบทอะไรบ้าง แล้วมันก็จะจำได้เองแหละ ยิ่งช่วงนี้ถ้าเธออยากรู้ศัพท์สำนวนเกี่ยวกับเรือล่มด้วย แค่อ่านข่าวกับบทความเกี่ยวกับเรือ Costa Concordia ก็มีให้จำเพียบแล้ว”

“ฟังดูน่าเหนื่อยจังเลย ฉันอยากเก่งภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องเหนื่อยไม่ได้เหรอ คือแบบว่าเธอก็ป้อนศัพท์สำนวนให้ฉันบ่อย ๆ ให้มันซึมเข้าไปในสมองเองไง”

“ถ้าเธอไม่ใช้สมอง ความรู้มันก็ไม่ซึมเข้าไปหรอก การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ active ไม่ใช่ passive เธอจะนั่งนอนเฉย ๆ แล้วให้ความรู้ทะลวงกะโหลกหนา ๆ ของเธอเข้าไปอยู่ในสมองนั่นเป็นไปไม่ได้ ความจริงเธอก็ไม่ต้องเหนื่อยหรอก แค่ทำอย่างที่ฉันว่าก็พอ คือจดก่อน รวบรวมเอาไว้ แล้วตกเย็นก็เข้าไปค้นคว้าคำที่รวบรวมไว้ประจำวันนั้นใน Google แล้ววันเสาร์ก็หยิบรายการศัพท์สำนวนที่จดไว้ตลอดสัปดาห์มาทบทวนดูว่าจำความหมายและวิธีใช้ได้หรือเปล่า ฝึกให้เป็นนิสัย ทำไปไม่กี่ปีก็จะพบว่าเธอเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว”

“เออ แล้วฉันจะลองทำดู แต่ฉันว่าศัพท์สำนวนเกี่ยวกับเรือนี่คงมีเยอะน่าดูนะ”

“ใช่สิ แม้แต่ฝรั่งเองก็ยังงงเลยกับภาษาเรือ เพราะแค่จะบอกว่าเรือด้านซ้ายด้านขวาด้านหน้าหรือด้านหลังก็ต้องใช้คำพิเศษแล้ว คือด้านซ้ายของเรือไม่เรียกว่า left นะ แต่ต้องเรียกว่า port (พอร์ท) ส่วนด้านขวาก็ต้องเรียกว่า starboard (สต๊าร์เบิร์ด) โดยยึดหลักว่าซ้ายขวาในที่นี้คือเมื่อหันหน้าไปทางด้านหน้าของเรือ ซึ่งเรียกว่า bow (บาว) ไม่ใช่หันหน้าไปทางด้านหลัง ซึ่งเรียกว่า aft (แอ้ฟท)”

“โห ยังงี้เวลาฉุกเฉินผู้โดยสารจะไม่งงแย่เหรอ เช่นกัปตันบอกว่าให้ไปลงเรือชูชีพด้าน port นี่มันหมายถึงด้านซ้ายหรือขวานะ กว่าจะรู้เรื่องก็อาจจะจมไปครึ่งลำแล้ว”

“แหม ฉันคิดว่าคนจะลงเรือทั้งทีคงจำได้กระมังว่าด้านไหนเรียกว่าอย่างไร”

“เอ้อ แล้วอยากถามเธอนานแล้วว่าเวลาเรืออับปางทำไมถึงต้องส่งสัญญาณ S.O.S. ด้วย มันย่อจากอะไร อย่างในหนังเรื่องไทแทนิกน่ะ แหม เคาะใหญ่เลย ทำไมไม่ส่งสัญญาณว่า HELP หรืออะไรทำนองนั้น เอ้อ แล้วไหน ๆ ถามเรื่องนี้แล้ว ทำไมในหนังเวลาเครื่องบินกำลังจะตก ต้องบอกหอบังคับการว่า May Day ด้วย มันเกี่ยวอะไรกับเดือนพฤษภาคมเหรอ”.

หนังสือ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก 600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ. สามเสนใน กท. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com ติดตามได้ทาง Twitter @boonhod
//www.dailynews.co.th/article/42/9010


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:13:16:25 น.  

 
เรือล่ม (3)

“เวลาเรือล่ม ทางกัปตันและลูกเรือจะต้องเคาะ S.O.S. เป็น Morse code = รหัสมอร์ส ถึงชายฝั่ง จำง่ายๆ คือ สั้นสามเคาะ ยาวสามเคาะ แล้วก็สั้นอีกสามเคาะ ย่อมาจาก Save Our Ship หรือ Save Our Souls แล้วแต่ว่าเรือยังอยู่ในสภาพที่จะช่วยได้หรือเปล่า ถ้าเรือเสียหายเกินกว่าที่จะช่วยได้ก็ต้องช่วยคนที่อยู่บนเรือให้รอดชีวิต แต่สรุปก็คือแปลว่า ช่วยเราด้วย”

“ดีจัง มารศรี ฉันฟังเพลง S.O.S. ของ Abba มาตั้งนานแต่ไม่เคยรู้ความหมาย แต่ทำไมเวลาเครื่องบินใกล้จะตกนักบินถึงไม่ตะโกนว่า S.O.S. แต่กลับตะโกนว่า May Day! ล่ะ”

“อันนี้ก็เป็นภาษาของนักบิน เล่ากันว่ามีรากจากภาษาฝรั่งเศสว่า M’aidez! (เมเด) = ช่วยฉันด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วเวลาชาวฝรั่งเศสร้องให้คนช่วยจะร้องว่า Au secours! (โอสกูร) มากกว่า แต่ในทางปฏิบัตินักบินที่พูดภาษาอังกฤษจะใช้ว่า Mayday! Mayday! (เม้ย์เด่ย์ เม้ย์เด่ย์) เวลาเครื่องบินของตัวเองกำลังร่วง”

“แล้วมีศัพท์สำนวนอะไรที่มาจากวงการเดินเรือแต่มานิยมใช้ในภาษาทั่วไปมั้ย”

“ก็เวลาทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย คำหนึ่งที่อาจใช้เรียกก็คือ shipshape (ชิพเฉพ) ฟังดูเหมือนกับจะแปลว่า รูปร่างเป็นเรือ แต่ความหมายคือ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเป๊ะ ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือผิดที่ผิดทาง”

“แสดงว่าเรือต้องเป็นอะไรที่ผิดเพี้ยนไม่ได้เลยสิ แล้วที่มีใครบอกว่าเวลาเรือล่มกัปตันก็ต้องจมน้ำตายไปกับเรือด้วยนั่นจริงรึเปล่า เป็นอย่างในหนังเรื่องไทแทนิคเลยรึเปล่า”

“ก็ธรรมเนียมฝรั่งถือว่า A captain must go down with his ship. = กัปตันต้องลงไปพร้อมกับเรือของเขา คือมีหน้าที่ช่วยคนอื่นให้รอด ส่วนตัวเองต้องจมไปพร้อมกับเรือ เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ซึ่งบังเอิญว่ากัปตันของเรือ Costa Concordia ไม่มี ก็เลยเอาตัวรอดก่อนแล้วปล่อยให้ผู้โดยสารช่วยตัวเองตามมีตามเกิด”

“เออ นั่นสินะ แปลกจัง เห็นว่าแกโฉบใกล้ฝั่งเพื่ออวดสาวๆ ทั้งๆ ที่มันอันตราย นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็กลัวตาย รีบลงเรือชูชีพก่อนใครเลย”

“หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษเลยขนานนามว่าแกเป็น chicken of the sea ซึ่งปกติเป็นยี่ห้อปลาทูน่ากระป๋อง แต่ในที่นี้ใช้แปลว่าไอ้ขี้ขลาดแห่งทะเล”.

หนังสือ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก 600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ.สามเสนใน กท. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com ติดตามได้ทาง Twitter @boonhod
//www.dailynews.co.th/article/42/9201


โดย: คนจัยดี (ขุนเพชรขุนราม ) วันที่: 27 มกราคม 2555 เวลา:19:18:47 น.  

 
มุมมอง (1)

ละครบรอดเวย์ที่ดังที่สุดเรื่องหนึ่งในปัจจุบันคือ Wicked (วิคขิด) ซึ่งตามลำพังอาจจะไม่ดังมากนัก แต่มีจุดขายแปลกตรงที่เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ในมุมมองของ “ตัวร้าย”

เรื่องเก่าในที่นี้คือภาพยนตร์เรื่อง The Wizard of Oz ภาพยนตร์สำหรับเด็กซึ่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเรื่องด้วยภาพขาวดำแล้วกลายเป็น Technicolor หรือประโยค There’s no place like home. = ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน ที่นางเอกท่องเพื่อกลับบ้าน หรือเพลง Over the Rainbow ซึ่ง Judy Garland ผู้เป็นนางเอกร้องอย่างไพเราะ แต่คนรุ่นใหม่รู้จักในฐานะ
ผลงานของ Israel Kamakawiwo’ole นักร้องหุ่นปลาวาฬจากฮาวายผู้ล่วงลับไปแล้ว

ภาพยนตร์นี้สร้างมาจากนิทานของ Frank L. Baum เรื่อง The Wonderful Wizard of Oz ซึ่งมีรายละเอียดบางอย่างถูกเปลี่ยนไปในภาพยนตร์ เช่นในหนังสือรองเท้าวิเศษเป็นสีเงิน แต่ในหนังเป็นสีแดงสด (เพื่อใช้ประโยชน์เต็มที่จากกระบวนการ Technicolor)

เนื้อเรื่อง The Wizard of Oz เกี่ยวกับเด็กหญิงชื่อ Dorothy (ด๊อหระถี่) และสุนัขของเธอชื่อ Toto ผู้ถูกลมพายุหมุนพัดจากKansas ไปยังดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า Oz แล้วผจญภัยสารพัด รวมถึงการเผชิญกับ Wicked Witch of the West = แม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก ผู้ถูก Dorothy ปราบโดยสาดน้ำใส่โดยบังเอิญ ซึ่งทำให้แม่มดละลาย และได้รับความช่วยเหลือจาก Glinda theGood Witch = Glinda แม่มดฝ่ายธรรมะ

เมื่อปี ค.ศ. 1995 หนังสือเรื่อง Wicked: The Life and Times of the Wicked Witch of the West ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกจากฝีมือการประพันธ์ของ Gregory Maguire เป็นการนำตัวละครและเค้าโครงจาก The Wizard of Oz มาเสนอใหม่ในลักษณะนิยายสำหรับผู้ใหญ่ โดยเท้าความถึงแม่มดชั่วร้ายว่าก่อนที่เธอจะได้รับสมญานามนั้นเธอมีความเป็นมาอย่างไร

การที่เล่าเรื่องจาก perspective = แง่มุม ของแม่มดชั่วร้ายทำให้ผู้อ่านพบว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นคนชั่วร้ายเลย มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่จิตใจดีงามรักความยุติธรรมยิ่งกว่าแม่มดฝ่ายธรรมะที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วยซ้ำ แต่ความที่เธอเป็นคนแข็งไม่ยอมสยบต่ออำนาจที่เธอเห็นว่าไม่เป็นธรรมจึงค่อย ๆ กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาบ้านเมือง.

หนังสือ “ฟอไฟฟุดฟิดอังกฤษอเมริกัน” เล่ม 1-6 รวมซีดี ลดจาก 600 เหลือ 550 บาท หรือถ้าไม่เอาซีดีก็เพียง 480 บาท ส่ง EMS ฟรี ส่งธนาณัติสั่งจ่ายนายเสาวพจน์ ศรีวลี 20/1 ซอยอินทามระ 7 ป.ณ. สามเสนใน กท. 10400 หรือเข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ หมายเลข 111-4-02764-0 แฟกซ์ใบสั่งจ่ายไปที่ 0-2616-8215 อย่าลืมเขียนชื่อ-ที่อยู่นะครับ เว็บไซต์ผม //boonhod.com อีเมลผม boonhod@hotmail.com ติดตามได้ทาง Twitter @boonhod

credit ://www.dailynews.co.th/article/42/10022


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:18:29:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.