Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
10 กลยุทธ์สู้บ้านเล็ก

โดย: น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์



เขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้มาก็เยอะแล้ว ท่านผู้อ่านหลายๆ คนอยากให้เขียนเรื่องที่ตรงจุด โดนใจจริงๆ เพราะหลายๆ บ้านมีปัญหาเรื่องนี้ แล้วก็มีกันมากเสียด้วย ปัญหาเล็กปัญหาน้อยที่เคยว่ากันมา ยังไงเสียก็ไม่มีเรื่องไหนใหญ่หลวงเท่ากับเรื่องนี้ ก็จริงนะครับ ในชีวิตครอบครัว ไม่มีเรื่องไหนที่จะใหญ่ไปกว่า...เมื่อรู้ว่าสามีมีเมียน้อย!


รู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นอื่น

เรื่องนี้ อย่างน้อยคนที่เราแต่งงานอยู่กินกันมา เราก็คงรู้จักนิสัย กิจวัตรของเขาค่อนข้างดี ยิ่งถ้าอยู่บ้านเดียวกัน ต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน ยิ่งจับได้ไม่ยาก หากอยู่กันคนละบ้าน ทำงานต่างจังหวัด นานๆ กลับบ้านที อย่างนี้ก็ลำบากหน่อย...แต่ความลับก็ไม่มีในโลก สักวันก็คงเผลอพิรุธออกมาเจอจนได้แหละครับ โดยผ่านสิ่งต่างๆ เหล่านี้

* มีช่วงเวลาที่หายไป

หายไปโดยไม่มีใครรู้ไม่ได้ไปทำงาน ไม่ได้กลับบ้าน แล้วก็อธิบายไม่ได้ว่าไปไหน...คุณแม่บ้านบางคนเคยเล่าให้ฟังว่า ทุกคืนต้องแอบไปจดเลขไมล์บนหน้าปัดรถ แล้วมาจับได้เมื่อตอนสามีบอกว่าไปทำงานไม่ได้ไปไหนเล้ย..ที่ไหนได้เลขไมล์ขึ้นแค่ระยะหน้าปากซอยนี่เอง

* เริ่มมีความลับ

คนที่แต่งงานอยู่กินกันมาโดยมาก ไม่ค่อยมีเรื่องต้องปิดบังอะไรกันหรอกครับ แต่หากมีอาการลับๆ ล่อๆ แอบโทรศัพท์ไม่ให้เรารู้ แอบซื้อของมาแต่ไม่ให้เราเห็น แอบมีพวงกุญแจแปลกๆ ที่ไม่ใช่กุญแจที่ใช้ในบ้าน หรือแอบทำอะไรโดยที่ไม่อยากให้เราเห็น...อาการอย่างนี้ก็ต้องจับตาดูให้ดี

* หัดโกหก

คนบางคนพอพูดโกหก สายตาและสีหน้าจะบอกว่ากำลังโกหกอยู่ ยกเว้นบางคนที่แสดงละครได้แนบเนียนอาจจะรอดตัว...หากจับได้ว่าสามีพูดโกหก ลองติดตามเรื่องต่อไปได้ว่าโกหกเรื่องอะไร เพราะอะไร เดี๋ยวเจอดีเอง

* ความรักจืดจาง

ในเมื่อเขาต้องแบ่งปันความรักไปให้คนอื่นด้วย ใจเขาก็ไม่ได้อยู่ที่เราคนเดียว ตัวอยู่กับเรา ใจอาจไปไหนๆ แล้วก็ได้ การดูแลครอบครัวจะน้อยลง ความรับผิดชอบจะลดลง บางทีบางคนอาจจะเห็นอะไรในบ้านมันน่าเบื่อไปหมด...น้ำพริกถ้วยเก่ามันก็เซ็งเป็นธรรมดา จะไปสดเหมือนน้ำพริกถ้วยใหม่ได้ยังไงล่ะครับ

แต่อาการทั้งหมดนี้เป็นแค่ลางเฉยๆ นะครับ จะไปสรุปเหมารวมเลยคงไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะว่าอ่านคอลัมน์หมออานนท์แล้วระแวงกันไปเกินกว่าเหตุ...ต้องจับได้คาหนังคาเขาถึงจะชัวร์
มีเมียน้อยแน่แท้ สามีฉัน

พอสรุปได้ดังนี้..อันดับแรกก็ต้องใจเย็นๆ ไว้ก่อน แล้วลองทำตามนี้ก็แล้วกัน

1.ทำใจกับข่าวร้าย
ตื่นเช้ามาก็ยังดีๆ อยู่ ใครจะไปรู้ว่าวันนี้จะได้ข่าวใหญ่ในชีวิต มันก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกันนะครับ เมื่อได้ข่าวร้าย ต้องมั่นใจก่อนว่าไม่ใช่ข่าวปล่อยของผู้ไม่หวังดี บางทีอารมณ์ชั่ววูบก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงกว่าเก่า ขอเวลาให้ตัวเองสักครู่ ทบทวนทางเลือกของชีวิตให้ดี เรื่องนี้กระทบอะไร กับใครบ้าง ต้องคิดให้ดี ยิ่งมีลูก ยิ่งต้องคิดเผื่ออนาคตลูกไว้ด้วย เรื่องแบ่งสมบัติเอาไว้คิดทีหลัง

ที่บอกว่าต้องใจเย็นๆ เพราะผู้หญิงบางคนอารมณ์ร้อน ใจร้อน เอะอะ โวยวาย ชวนทะเลาะเสียงดัง บางครั้งถึงลงไม้ลงมือ ถ้าถึงขั้นนี้ บางครั้งมันก็ไม่สามารถแก้ไขกลับมาให้ดีได้เหมือนเก่า


หากใจเย็น ตั้งสติไว้ แล้วท่องคาถาไว้แค่ว่า "อย่าให้อะไรมันเลวร้ายลงมากกว่านี้"
ค่อยๆ พูดกัน หาทางแก้ไขปัญหาโดยวิธีสันติ ดีกว่าการประกาศสงคราม หากอยากจะร้องไห้ อยากจะระบายก็ต้องให้คุณสามีตัวดีรับรู้ด้วยว่าเราไม่ได้อ่อนแอ เพียงแค่เสียใจที่คนที่เรารักทำอย่างนี้กับเราเท่านั้นเอง

2.สำรวจตัวเอง
จากนั้นต้องดูตัวเองเป็นอันดับแรกแหละครับ เราจะไปรู้จักคนอื่นได้ดีได้อย่างไร หากไม่รู้จักตัวเองให้ดีเสียก่อน ดูว่าเราเปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิมบ้าง คนที่สามีเรารักและแต่งงานด้วยกับตอนนี้มีอะไรที่ต่างกันหรือเปล่า เราเป็นฝ่ายเปลี่ยนไป ซึ่งทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป หรือว่าเรายังคงเหมือนเดิม แต่เขาเป็นคนเปลี่ยนไปเอง

ที่ให้สำรวจตัวเองก่อน เพราะบางครั้งเราไม่เคยรู้จักตัวเองเลยว่า ขี้โมโห เอาแต่ใจตัวเองยังไง จนกระทั่งวันที่เขาไปมีคนอื่น...ถึงตอนนี้ต้องหันกลับมาดูตัวเองแล้วว่ามีอะไรดี ไม่ดี มีอะไรเปลี่ยนไปจากคนที่เขาเคยรักบ้าง


ทำตัวให้เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยรัก เคยขอแต่งงาน...ดีกว่าไปนั่งพูดเสียดสี กระแนะกระแหนให้ต้องทะเลาะกันเป็นไหนๆ


3.ทำความรู้จักสามีของตัวเองให้ดีขึ้น
ผู้หญิงบางคนแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานการของสามีเลย เพื่อนฝูงของสามีก็ไม่รู้จัก บอกเอาไว้ก่อนว่ากรณีอย่างนี้เพื่อนฝูงตัวดีนี่แหละที่จะหาเมียน้อยมาให้สามีเรา การที่เราไปสังคมกับเพื่อนๆ ของสามีบ้าง เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง อย่างน้อยเห็นหน้ากันบ่อยๆ จะได้เกรงใจกันบ้าง หรือบางทีหากสามีเราว่อกแว่กไปปิ๊งสาวคนไหน เพื่อนของสามีอาจจะรีบส่งข่าวให้เรา จะได้รีบตัดไฟเสียแต่ต้นลมสบายใจไป

4.หลายหัวดีกว่าหัวเดียว
เรื่องละเอียดอ่อนอย่างนี้ บางครั้งการได้คุยได้ปรึกษากับคนใกล้ชิดที่ไว้ใจ อาจจะช่วยอะไรได้มาก หลายคนอาจมีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน ในช่วงเวลาอย่างนี้ การปลอบโยน การให้กำลังใจ การช่วยเหลือจากคนรอบข้างจะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นขึ้นได้ ดีกว่าต้องนั่งอมทุกข์อยู่คนเดียว หลายๆ คนอาจจะอายที่ต้องบอกเรื่องนี้กับคนอื่น ถึงตอนนี้แล้วคำแนะนำจากใครสักคนน่าจะดีกว่า

5.คิดให้ดี จะทำอะไรต้องคิดก่อนล่ะครับ ความดีของเขาที่เคยดูแล ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาแต่กาลก่อน ก็เยอะเหมือนกัน
ความผิดพลาดแค่ครั้งเดียว ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ บางครั้งการแก้ปัญหาโดยการให้อภัยจะเป็นผลดีต่อครอบครัวมากกว่า...แต่ต้องกำชับให้มั่นใจนะว่า "ต้องไม่มีครั้งต่อไปอีก"

หากมีปัญหาในชีวิตครอบครัว ให้นึกถึงคำพระที่ท่านให้ไว้ตอนแต่งงานว่า "ให้ร่วมทุกข์ ร่วมสุข อดทน และให้อภัย" ไว้

การคิดแก้ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ต้องคิดในแง่ดีไว้ก่อนเสมอ นั่นคือ
"ทำอย่างไรให้ครอบครัวกลับมาอบอุ่นมีความสุขเหมือนเดิม" ลองเอาคำนี้เป็นจุดตั้งต้น แล้วค่อยๆ หาแนวทางที่จะทำให้เป็นไปได้ ที่จริงก็ยากนะ ที่จะประสานแก้วที่มันร้าวให้กลับเป็นแก้วสวยสดใสดังเดิม แต่ก็ควรพยายามเชื่อมประสานแก้วให้ไร้ร้อยให้มากที่สุด เพื่อความสุขของตัวเองและลูก นอกจากมันจะสุดปลายมือจริงๆ ที่จะรักษาแก้วนี้ไว้...มันก็จะตกแตกกระจาย..ไร้ค่าแปดเปื้อนธุลีดิน

6.ใช้ชีวิตร่วมกันให้มากขึ้น บางครั้งถ้าไม่เกิดปัญหา คนเราก็ไม่เคยหันมามองตัวเองหรอกครับ
บางคู่อยู่บ้านเดียวกัน เจอหน้ากันแต่ไม่เคยได้คุยกันจริงๆ จังๆ เลยก็มี ยิ่งเดี๋ยวนี้ผู้หญิงทำงานนอกบ้านกันมากขึ้นยิ่งทำให้รู้สึกห่างเหินห่างไกลกันไปใหญ่ บางคู่ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันมา 4-5 ปีแล้วก็มี พอสามีไปมีบ้านเล็ก บางคนอาจจะสมน้ำหน้าตัวเองก็ได้ การได้มีเวลาอยู่ร่วมกันก็จะทำให้เราเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ได้พูดกัน คุยกัน ทำความเข้าใจกัน ประสานร้อยร้าว ความขัดแย้งที่มีต่อกันได้
ถึงตอนนี้คงต้องเลือกเอาครอบครัวเป็นหลักมากกว่าเรื่องงานแล้วล่ะครับ พยายามกลับบ้านให้เร็วขึ้น ทำกับข้าวตั้งโต๊ะกินพร้อมกัน พออิ่มแล้วก็นั่งเล่นเปิดเพลงฟัง คุยกันถึงเรื่องเก่าๆ ที่ทำให้มีความสุข อย่าได้มีการพูดประชดประชัน หรือขุดเรื่องร้ายๆ เก่าๆ มาตอกย้ำเป็นอันขาด ไม่ว่าจะคันปากสักเพียงไหน ต้องยึดหลักง่ายๆ ไว้อย่างเดียวว่า "อย่าให้อะไรมันเลวร้ายลงมากกว่านี้"

ลองเอารูปเก่าๆ รูปวันแต่งงาน รูปที่เคยไปเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุขมาดูทำไมตอนนี้ถึงกลับไปมีความสุขอย่างนั้นไม่ได้ล่ะ

7.หาแนวร่วม
ตอนนี้ตัวเราคนเดียวอาจไม่มีพลังความสามารถพอที่จะประสานรอยร้าวนี้ได้ ลองชวนกันไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายของเขา ไปเยี่ยมพ่อแม่สามีสักทีก็ยังดี ยังไงผู้ใหญ่เหล่านี้ก็เป็นคนเจิมหน้าผากรดน้ำให้ อาจช่วยเราได้บ้าง กลยุทธ์นี้บางทีก็เป็นไม้เด็ด...คุณสามีหัวหด กลายเป็นเด็กดีเลยเชียวล่ะ

▼เพื่อนฝูงของครอบครัว เพื่อนของสามีคบไว้เหอะดี เพราะบางคนพอมีปัญหาอาจจะคุยกับเพื่อนมากกว่าคุยกับเมียตัวเองเสียอีก...หลักง่ายๆ ของข้อนี้ก็คือ สร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเขาให้อยู่ข้างเรา

8.ประเมินคู่ต่อสู้ รู้จักศัตรูย่อมมีชัยเหนือศัตรู
แต่บางทีก็ยากเหมือนกันนะที่จะสืบเสาะหาข้อมูลของคู่ต่อสู้ แต่ถึงยากยังไงก็ต้องทำ จะได้รู้ว่าในสายตาของสามี เราเป็นนางเอกหรือเป็นนางร้าย หากฝ่ายโน้นเป็นนางเอก เอาอกเอาใจ เวลาสามีมีปัญหาไปอยู่ด้วยแล้วสบายใจ กลับบ้านทีไรก็เจอนางร้ายคอยบ่นคอยว่าอย่างนี้เห็นจะลำบาก

▼บางครั้งฝ่ายโน้นอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่อยู่ด้วยมีลูกมีเมียมาก่อนแล้ว อย่างนี้ถ้าได้ลองคุยกัน เจรจาด้วยสันติดูก่อน หัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน คงคุยกันได้บ้างเป็นบางราย แต่บางคนทั้งที่รู้ว่ามีลูกมีเมียก็ยังเอา บางทีโทร.มาว่าเมียหลวงถึงบ้านก็มี เมื่อเรารู้จักคู่ต่อสู้ดีแล้ว ต้องสร้างบทให้เราเป็นนางเอกของเรื่องให้ได้ เพราะนางร้ายมักตายตอนจบทุกที!

9.สนใจเรื่องบนเตียงบ้าง บางครั้งเหตุที่สามีไปมีเมียน้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไปมีรักใหม่หรอกนะครับ
ส่วนมากมักจะเป็นเรื่องอย่างว่าเสียมากกว่า บางครั้งอยู่กับเมียหลวงเหมือนนอนกับท่อนไม้ ไม่มีจริตมารยา ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกที่ดี พอไปได้ลองเจอสาวๆ ที่มีดีกว่า ก็ติดใจในกามรส ทั้งๆ ที่ไม่ได้รักมากมายไปกว่าเราหรอกครับ

▲ดังนั้น นางเอกของเรื่องนี้ก็ต้องปรับปรุงตัวเอง ลดน้ำหนักให้เอวเล็กเอวบางลงหน่อย เมื่ออยู่กับคุณสามีต้องดูดึงดูดบ้าง ไม่ใช่เจอแต่ม้วนโรลอยู่เต็มหัว แถมพอกหน้าก่อนนอน ดูแล้วหมดอารมณ์

10.สร้างพื้นฐานของครอบครัวที่ดี
ครอบครัวที่มีความสุขย่อมเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาเหล่านี้ แม้มีปัญหา ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะสามารถเหนี่ยวรั้งเขากลับมาได้ เราต้องพยายามสร้างครอบครัวที่มีความรักระหว่างกันอย่างสมบูรณ์ คือมีทั้ง พ่อรักแม่ แม่รักพ่อ พ่อรักลูก ลูกรักพ่อ แม่รักลูก และลูกรักแม่ เส้นใยความรักในครอบครัว มีพลังมหาศาลที่จะช่วยทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

ขออวยพรให้ทุกครอบครัวมีความสุข ปราศจากส่วนเกินในชีวิต...ส่วนคนที่หลงผิด ขอให้คิดดูอีกทีว่า ไม่มีใครรักเราไปมากกว่าลูกกับเมียหรอกครับ

Source 
Credit : momypedia


Create Date : 22 ตุลาคม 2554
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 8:05:46 น. 0 comments
Counter : 496 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.