Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
ข้าวแช่ (ตอนที่ 2)▶คอลัมน์ ทำกินกันเอง▶สุคนธ์ จันทรางศุ



●ข้าวแช่ (ตอนที่ 2)● คอลัมน์ ทำกินกันเอง▶

●โดยมากหยิบฉวยอะไรในครัวได้ก็กะๆ เอาตามความเคยชิน แล้วก็อาศัย "ลิ้น"

ที่เคยเป็นนักชิมมาแต่เยาว์วัยดังที่เคยเล่าให้ฟัง

อาหารแทบทุกชนิดจึงกล้อมแกล้มออกมาพอรับประทานได้สุคนธ์ จันทรางศุ●



>>ทีนี้ก็ถึงตอนของลูกกะปิคุณย่ากันล่ะค่ะความที่ผู้เขียนเป็นคนที่ไม่ค่อยรักความเป็นมาตรฐานสุคนธ์ จันทรางศุ●



>>ทีนี้ก็ถึงตอนของลูกกะปิคุณย่ากันล่ะค่ะความที่ผู้เขียนเป็นคนที่ไม่ค่อยรักความเป็นมาตรฐานโดยมากหยิบฉวยอะไรในครัวได้ก็กะๆ เอาตามความเคยชิน แล้วก็อาศัย "ลิ้น"

ที่เคยเป็นนักชิมมาแต่เยาว์วัยดังที่เคยเล่าให้ฟัง

อาหารแทบทุกชนิดจึงกล้อมแกล้มออกมาพอรับประทานได้

ตอนจะมาเขียนตำรากับข้าวนี่แหละค่ะ เพื่อนๆ

ของลูกที่สนิทสนมไปมาหาสู่เข้าถึงก้นครัวได้ก็มาขอร้องว่า ผู้เขียนจะบอกตำราอะไร

>>>ขอให้ออกมาเป็นสูตรว่ากี่ถ้วยตวง กี่ช้อนชา กี่ช้อนโต๊ะ ก็เธอเป็นสาวสมัยใหม่นี่คะ

จะให้บอกมาแต่เพียงว่าใส่น้ำปลา น้ำตาล "พอสมควร"นั้น มันทำให้เธอปวดหัวใจค่ะ

สมัยนี้มันเป็นยุคของคอมพิวเตอร์ สมัยอินเตอร์เน็ตแล้วนี่คะ

จะมาบอกว่าให้ใส่กะปิลงไปเท่ามูลโคนี่เธอทนไม่ด๊าย..ทนไม่ได้ค่ะ

>>>ผู้เขียนก็เลยต้องมาตั้งสติให้ดีว่าจะหาอะไรมาเป็นสูตรให้ลูกสาวคนนี้ดีหนอ

พอดี๊พอดีวันนั้นเหลียวไปเหลียวมาไปเจอเอาถ้วยสีขาว

ขนาดเท่าถ้วยลายผักชีที่เขาใช้ใส่กับข้าวตามวัดเข้า อารามมือกำลังเปื้อนหมูบด

ขี้เกียจวิ่งไปหยิบถ้วยตวง (ตอนนี้ก็ชักวิ่งไม่ค่อยจะไหวแล้วค่ะ

ตั้งแต่อายุเลยเลขเจ็ดมานี่) ก็เลยคว้าเอาถ้วยที่ว่านี้มาใช้

ตั้งใจจะบอกลูกสาวคนนี้ภายหลังค่ะ

ว่าถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจมาตราจะแถมถ้วยสีขาวที่ว่านี้ให้อีกหนึ่งใบค่ะ

ต่อไปนำตะไคร้ประมาณ 3 ต้นมาหั่นให้ละเอียดรวมกันกับข่า 6 แว่น ให้ถ้วยขาว

>>>(เริ่มมาตราถ้วยขาวแล้วไง) กระชายขูดเปลือกล้างน้ำให้สะอาดหั่นซอย 1 ถ้วยขาว

>>>หอมแดงปอกเปลือกแล้ว 3 หัว หั่นหยาบ

>>>ก่อนอื่นคุณนำพริกไทย 30 เม็ดลงป่นในครกก่อนให้ละเอียด

>>>แล้วจึงใส่เครื่องที่บอกมาข้างต้น แล้วสลับกันไประหว่างตะไคร้กับกระชาย

มิฉะนั้นจะกระเด็นออกสักครึ่งครกกว่าจะตำเสร็จ

>>>พอทุกอย่างละเอียดดีแล้วก็ใส่กะปิดีลงไป 2 ช้อนอย่าลืมคำว่า "ดี"นะคะ

ต่อไปทุกอย่างจะได้ "ดี"และอร่อย

>>>ทีนี้ก็มาถึงเวลาของน้ำตาลทรายแล้วล่ะค่ะ เราใช้น้ำตาลทราย ถ้วยขาวกับเกลือป่น 3

>>>ช้อนชาค่ะ ค่อยๆ ใส่ทีละน้อย ระวังน้ำตาลจะละลายเป็นน้ำและกระเด็นเวลาโขลก

ตอนนี้คุณจะต้องค่อยๆ ใส่หมูบดลงไปสลับกับน้ำตาลจนหมดหมูอีก 2 ถ้วยขาวก็ใช้ได้ค่ะ

จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันนิดหน่อย

ตักเครื่องปรุงที่ผสมไว้ใส่ลงไปสักครึ่งช้อนชา ทอดจนสุก ทดลองชิมดูก่อน

ถ้าอ่อนหวานหรืออ่อนเค็มก็เติมน้ำตาลหรือเกลือลงไปอีก ทอดชิมดูจนรสถูกใจ

จึงลงมือปั้นใส่จานเรียงไว้จนหมดหมู

เวลาจะทอด เทน้ำมันพืชใส่ลงในกระทะให้มากสักหน่อย

พอน้ำมันร้อนก็หยิบหมูที่ปั้นไว้ลงชุบไข่ที่ดีเตรียมไว้ในชามใส่ลงไปในกระทะ

พอเหลืองก็กลับอีกด้านหนึ่งลงให้สุกสวยดีจึงช้อนขึ้นใส่จาน ทำไปจดหมดหมูที่ปั้นไว้

(ถ้าน้ำมันดำขยันเปลี่ยนน้ำมันนะคะ ลูกกะปิจะได้สวย)

จบเรื่องลูกกะปิแล้วก็ยังมีเครื่องข้าวแช่อีกชนิดหนึ่งที่เด็กๆ ชอบรับประทานกันคือ

หัวไชโป๊ผัดไข่ ค่ะ รู้สึกว่าหัวไชโป๊ผัดหวานทางเมืองเพชรจะใส่แต่น้ำตาล

ไม่ใส่ไข่นะคะ

ผิดถูกอย่างไรก็อภัยให้คนแก่ด้วยเถอะค่ะ

แต่ที่บ้านผู้เขียนชอบรับประทานกันชนิดใส่ไข่ค่ะ ก็เลยนำมาเขียนไว้ให้ด้วย

ผู้เขียนชอบไปเดินซื้อหัวไชโป๊มาจากตลาดสดค่ะ เข้าใจว่าเขาจะดองหรือหมักไว้ในไหค่ะ

แล้วเขาก็ล้างออกมาใส่ในถังพลาสติกเสียบ้าง เพื่อให้คนซื้อเลือกตามความพอใจ

ผู้เขียนจะไปเลือกซื้อหัวไชโป๊ชนิดหวานค่ะ ใช้มือนั่นแหละค่ะหยิบหัวไชโป๊ขึ้นมาบีบๆ

ดู ถ้านุ่มทั้งหัวก็เป็นอันใช้ได้ ถ้าแข็งๆ อย่าไปเลือกมาเชียวนะคะ

มิฉะนั้นเวลาเอามาหั่นผัด รับประทานมันจะแข็งกระด้าง รับประทานไม่อร่อยเลยค่ะ

คนขายหัวไชโป๊ชินกับผู้เขียนดี ปล่อยให้เลือกตามสบาย

เขาคงจะคุ้นกับยายแก่จู้จี้คนนี้ดีจนไม่อยากเข้ามาตอแย

พอกลับมาถึงบ้าน เราก็หยิบหัวไชโป๊ออกมาหั่นแฉลบๆ เป็นแว่นบางๆ บนเขียงทีละหัว

พอหั่นเสร็จก็ใช้มือดึงหัวไชโป๊ตามขวางให้มันยืดออกวางซ้อนกันเข้าเป็นตั้ง

(หัวไชโป๊ชนิดแข็งจะยืดไม่ออกค่ะ เราไม่เลือกซื้อมาเพราะเหตุนี้

เรื่องเลือกหัวไชโป๊นี้ก็ไม่เคยมีคนสอนวิธีเลือกให้ผู้เขียนเลยค่ะ

ทำไมถึงเลือกเป็นก็ไม่ทราบ แปลกแท้ๆ เข้าใจว่าคงสืบกันมาทางสายโลหิตกระมังคะ)

แล้วทีนี้เราก็ใช้มีดซอยตามขวางอีกทีหนึ่ง

เราก็จะได้หัวไชโป๊ที่ซอยละเอียดเรียงเป็นเส้นสวยดี

ต่อไปนำไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วบีบให้แห้งค่ะ ทำเช่นนี้สักสองครั้งแล้วพักไว้

ทีนี้คุณก็นำหอมแดงและกระเทียมมาปอกเปลือกออกสับให้ละเอียดอย่างละเท่าๆ กัน

กะว่าหัวไชโป๊ซอยแล้วสัก 1 ถ้วย ก็ใช้หอมและกระเทียมสับอย่างละช้อนโต๊ะพูนค่ะ

ต่อไปคุณนำหอมสับลงเจียวในกระทะก่อนนะคะ พอหอมเริ่มเหลืองจึงใส่กระเทียมสับลงไป

(ถ้าเจียวพร้อมกัน กระเทียมจะไหม้ก่อนหอมค่ะ) กระเทียมเหลืองดี

คุณก็ใส่หัวไชโป๊ลงไป คนให้กระจายทั่วกระทะ

ผัดไปสักครู่ก็ใส่น้ำตาลปี๊บตามลงไปสักช้อนโต๊ะพูน

พอน้ำตาลเริ่มแห้งเติมน้ำตาลทรายลงไปกะให้หวานกำลังดี

ที่ไม่บอกให้ใส่น้ำตาลปี๊บเพียงอย่างเดียวเพราะไม่อยากให้หัวไชโป๊แฉะจนเกินไป

และที่ไม่ได้บอกให้เติมเกลือเพราะหัวไชโป๊ชนิดที่ว่านี้

หั่นแล้วล้างสองครั้งจะได้รสเค็มกำลังดี โดยไม่ต้องเติมเค็มลงไปอีก

แต่ถ้าคุณโชคร้าย เผอิญไปเลือกซื้ออย่างเค็มมาเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ก็ไม่ต้องไปโยนทิ้งนะคะ แต่นำมาล้างน้ำสัก 7 หรือ 8 หน จึงจะใช้ได้

หัวไชโป๊ยังมีหลายสีอีกแน่ะ!

สีออกแดงๆ อย่าซื้อค่ะ ไม่ทราบไปทำอะไรมาจึงสีประหลาดอย่างนั้น

แต่สีออกน้ำตาลเข้มราวกับช็อกโกแลตก็อย่าไปเลือกมาอีกค่ะ

หัวไชโป๊ชนิดนี้ก็เค็มราวกับเกลือในมหาสมุทร

คุณต้องซื้อชนิดที่มีสีน้ำตาลพอดีๆ

ยังพูดค้างถึงตอนใส่น้ำตาลลงในกระทะอยู่เลยค่ะ คุณลองชิมดูหรือถ้ารสถูกใจแล้ว

ตอนนี้ก็จัดแจงต่อยไข่ใส่ลงไปแล้วคนให้ไข่กระจายไปทั่วกระทะ

ใส่ไข่ลงไปสักสองฟองก็พอ ผัดไปจนไข่แห้งก็ตักขึ้นใส่จาน

ทีนี้คุณก็จะมี "กับ"ไว้รับประทานกับข้าวแช่ถึงสองอย่างแล้วสิคะ

คราวหน้านี้ล่ะค่ะ ก็จะถึงคิว "ลูกปลาแห้งของคุณยาย"กันละ

"ลูกปลาแห้ง"เป็นของโปรดของผู้เขียนค่ะ ถ้าคุณอยากจะทราบว่า

"ลูกปลาของผู้เขียนจะมีรสชาติเป็นอย่างไร ก็ต้องคอยติดตามตอนต่อไปละค่ะ

แล้วลองดูสิคะ ว่าคุณจะใจเดียวกับผู้เขียนหรือเปล่า!

▼▲ข้าวแช่ (ตอนที่ 1) ▷▷คอลัมน์ ทำกินกันเอง

credit : khaosodnews


Create Date : 18 มีนาคม 2555
Last Update : 18 มีนาคม 2555 3:22:39 น. 0 comments
Counter : 1127 Pageviews.

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.