|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปู่แสะย่าแสะของคนลัวะ
ปู่แสะย่าแสะของคนลัวะ โดย องค์ บรรจุน ศิลปวัฒนธรรม มกราคม 56
น่าแปลกที่พฤติกรรมการกินของคนเปลี่ยนได้ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ เกิดปรากฏการณ์ “ถ่ายก่อนทาน” แบ่งปันออกสื่อ ยุคที่ใครต่างมีโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือแทบทุกรุ่นก็ล้วนมีฟังก์ชั่นถ่ายภาพ เมื่อพบสิ่งสะดุดท้าทายสายตาก็ยกกล้องขึ้นส่องพรึบพรับ อำนาจของกล้องถ่ายภาพอยู่เหนือความขรึมขลังของพิธีกรรม ทุน แม้แต่ระบบราชการซึ่งเคยสะกดวิญญาณ (spirit) สามัญชนเอาไว้ช้านาน ไม่เว้นแม้แต่พิธีเลี้ยงผี “ปู่แสะย่าแสะ” ที่สืบทอดมาแต่ครั้งบรรพกาล ก็ถูกกำกับจากคนถือกล้องรายรอบลานพิธี รวมทั้งการปรับเปลี่ยนเนื้อหาพิธีกรรมให้สอดรับกับกระแสธารอนุรักษ์ธรรมชาติและท้องถิ่นนิยม
ต้นเดือนมิถุนายน ปี ๒๕๕๒ ผมมีโอกาสเข้าร่วมสังเกตการณ์พิธีกรรม “เลี้ยงดง” หรือ “เลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะ” ที่บ้านแม่เหียะใต้ เชิงดอยคำ หลังสถานีวิจัยเกษตรแม่เหียะ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ผมเคยได้ยินได้ฟังพิธีกรรมเก่าแก่นี้มาบ้างแล้วพอสมควร นั่นคือ แต่เดิมชาวบ้านพร้อมใจกันจัดพิธีกรรมนี้ขึ้นเพื่อเซ่นสังเวยปู่แสะย่าแสะบนลานโล่งใต้ร่มไม้หลายคนโอบสูงชะลูดครึ้มเขียวกลาง “ดง” ซึ่งแดดส่องไม่ถึงดิน แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ การเมืองท้องถิ่นได้เข้าไปยึดครองพื้นที่ อุปถัมภ์ค้ำชูปู่ย่าอย่างเป็นทางการ
ตำนานเชียงใหม่ปางเดิม ของสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บันทึกความเป็นมาของพิธีเลี้ยงดงเอาไว้ว่า ในอดีตย่านนี้เป็นบ้านเมืองของชาวลัวะ ชื่อว่า “บุรพนคร” ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำปิงและดอยอ้อยช้าง (อุจฉุคีรี) อยู่มาวันหนึ่งชาวเมืองได้รับความเดือดร้อนจากยักษ์พ่อแม่ลูก ๓ ตน ที่มาจับชาวเมืองไปกินทุกวัน จนชาวเมืองต้องพากันอพยพหลบหนีไปอยู่ที่อื่น
กล่าวถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับรู้ด้วยพระสัมมาสัมโพธิญาณ เห็นความเดือดร้อนของชาวเมืองบุรพนคร พระองค์พร้อมด้วยเหล่าสาวกจึงเสด็จมาประทับที่ดอยใต้ ได้มีชาวลัวะ ๔ คน เข้าเฝ้าด้วยความเลื่อมใสถวายอาหารที่นำติดตัวมา พระองค์ทรงอนุโมทนาและแสดงธรรมโปรดจนชาวลัวะทั้งสี่เห็นธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์
พระพุทธองค์ได้มีพุทธทำนายว่า ในภายภาคหน้า เมืองของชาวลัวะแห่งนี้จะได้ชื่อว่า “เมืองชีใหม่” (ต่อมาเพี้ยนเป็นเชียงใหม่) โดยเรียกตามเหตุการณ์ที่ชาวลัวะบวชใหม่ (ในอดีตเรียกพระว่าชี) จากนั้นพระพุทธเจ้าได้สนทนากับพระลัวะทั้ง ๔ รูป จนรับรู้ความเดือดร้อนของชาวเมืองโดยตลอด รับสั่งให้พระอานนท์ไปตามยักษ์ทั้ง ๓ ตนมาพบ ทรงแสดงอภินิหารให้เห็นและแสดงธรรมให้ฟังจนเกิดความเลื่อมใส ยักษ์ทั้งสามจึงได้สมาทานศีลห้าด้วยความปีติ
....
คลิกชมภาพและอ่านต่อ.....
Create Date : 15 มกราคม 2556 |
Last Update : 15 มกราคม 2556 6:26:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1475 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |