ที่อังกฤษมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ผู้คนกว่า 5 แสนราย ประสบปัญหาการนอนด้วยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เฉลี่ยมากกว่า 100 ครั้งต่อคืน ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับวัยกลางคน และผู้ชายตัวอ้วน โดยคนเหล่านี้ตอนนอนหลับ กล้ามเนื้อในบริเวณทางเดินหายใจยุบตัวลงและไปขัดขวางการหายใจราว 10 วินาทีหรือมากกว่านั้น ทว่าเมื่อเกิดภาวะดังกล่าว สมองจะมีกลไกป้องกัน ด้วยการส่งสัญญาณให้กล้ามเนื้อยกตัวขึ้นก่อนเกิดอันตรายถึงชีวิต แต่ใครจะรู้ว่ากลไกที่ว่านี้จะช่วยชีวิตได้ทันทุกครั้งหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม เมื่อบรรดานักวิทยาศาสตร์จากอีกโพ้นทะเลรับทราบสถิติข้างต้น ก็ทำวิจัยหาหนทางแก้ไขปัญหาการนอนดังกล่าว โดยทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยฮอบกินส์ สหรัฐ ลงมือศึกษาจากคนอ้วนที่ป่วยเป็นเบาหวานประเภทที่สอง และคนอ้วนที่มีแนวโน้มเป็นเบาหวาน รวม 77 คน แล้วแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกให้ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของเทรนเนอร์อย่างเคร่งครัด ส่วนอีกกลุ่มแค่ดูแลโภชนาการให้เหมาะสม
ทั้งนี้ก่อนเริ่มการควบคุมน้ำหนัก กลุ่มตัวอย่างเล่าปัญหาการนอนหลับที่มีความแตกต่างกันในแต่ละคน บางคนหยุดหายใจขณะหลับ บ้างก็อ่อนเพลียตอนกลางวัน เป็นโรคนอนไม่หลับ นอนกระสับกระส่าย นอนหลับนานเกินไป ง่วงนอนมากผิดปกติ หรือต้องพึ่งยานอนหลับเป็นประจำ และเมื่อได้รู้สภาพปัญหา ทีมวิจัยก็ยังได้วัดดัชนีมวลกายและไขมันในช่องท้องอีกด้วย
ครั้นผ่านช่วงลดน้ำหนักในโปรแกรมไปแล้ว ทีมวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มมีน้ำหนักลดลงเฉลี่ย 15 ปอนด์ แถมรอบเอวก็ยังลดลงซึ่งเห็นได้ชัดจากการทำ MRI หรือสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และถึงแม้จะพบปัญหาการนอนที่แตกต่างกัน แต่ในภาพรวมทางทีมวิจัยชี้ว่า น้ำหนักและรอบเอวที่หายไปเป็นผลให้คุณภาพการนอนดีขึ้น โดยไม่เกี่ยวกับวัย เพศ วิธีลดน้ำหนัก
ฉะนั้น ทีมวิจัยจึงแนะให้คนอ้วนๆ พยายามลดน้ำหนัก โดยเฉพาะพุง เพื่อลดปัญหาการนอน ลดความเสี่ยงหลุดหายใจขณะหลับ ที่จะทำให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูง หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจเต้นผิดปกติได้อีกต่อหนึ่ง.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com
ที่มา นสพ เดลินิวส์