|
อุลักลาโว้ย..คนทะเล
หากใครไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะแล้วเห็นชาวประมงพื้นบ้านร่างกายกำยำพากันออกเรือหาปลาในท้องทะเลกว้าง พวกเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นชาวอุลักลาโว้ย คนท้องถิ่นดั้งเดิมในเกาะหลีเป๊ะนั่นเอง ซึ่งอุลักลาโว้ยมีความหมายว่า คนทะเล
ในอดีตชาวอุลักลาโว้ยอาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาฆูนุงฌึไร แถบชายฝั่งทะเลในรัฐเกดะห์ (ไทรบุรี) จากนั้นเข้ามาสู่น่านน้ำไทยแถบทะเลอันดามัน ในช่วงแรกมีวิถีชีวิตแบบเร่ร่อน อาศัยเรือไม้ระกำเป็นที่อยู่และพาหนะ โดยใช้กายักหรือแฝกสำหรับมุงหลังคาเป็นเพิงอาศัยบนเรือ หรือเพิงพักชั่วคราวตามชายหาดในฤดูมรสุม
ชาวอุลักลาโว้ยยังชีพด้วยการท่องเรือตามหมู่เกาะกลุ่มละ 5-6 ลำ บางครั้งขึ้นเกาะเพื่อหาของป่า แต่ส่วนใหญ่จะล่าสัตว์ทะเลด้วยเครื่องมือง่ายๆอย่างฉมวก สามง่าม เบ็ด มีความสามารถในการดำทะเลลึกเพื่อแทงปลาหรือจับกุ้งมังกรด้วยมือเปล่าและดำน้ำเก็บหอยจากก้นทะเล
ตามตำนานเล่าว่า ชาวอุลักลาโว้ยมีบรรพบุรุษเดียวกับชาวมอแกน และเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เร่ร่อนในทะเลมานาน ใช้ภาษาอุลักลาโว้ยเป็นภาษาพูด เชื่อกันว่าเกาะลันตาเป็นสถานที่แรกที่ชาวอุลักลาโว้ยตั้งถิ่นฐาน เปรียบเสมือนเมืองหลวงของพวกเขา แต่ก็ยังอพยพเร่ร่อนอยู่เรื่อยๆ โดยโยกย้ายไปตามหมู่เกาะต่างๆ ตั้งถิ่นฐานที่เกาะนั้นๆ และกลับมาที่เดิม แต่ทุกกลุ่มยังมีความสัมพันธ์ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ถือเป็นสังคมเครือญาติใหญ่
ปัจจุบันชาวอุลักลาโว้ยตั้งถิ่นฐานบริเวณเกาะสิเหร่ หาดราไวย์ แหลมหลาเหนือ และบ้านสะปำ ในจังหวัดภูเก็ต เกาะพีพี เกาะจำ เกาะปู เกาะไหว และเกาะลันตาใหญ่ ในจังหวัดกระบี่ ไปจนถึงเกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ะ เกาะบุโหลน และเกาะราวี จังหวัดสตูล
ชาวอุลักลาโว้ยใช้ชีวิตครอบครัวแบบผัวเดียวเมียเดียว โดยฝ่ายชายจะเข้าอยู่กับครัวเรือนฝ่ายหญิงชั่วคราวก่อนแยกเป็นครอบครัวเดี่ยวเมื่อถึงเวลาสมควร นับถือผีบรรพบุรุษและสิ่งเหนือธรรมชาติว่ามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต โดย โต๊ะหมอ จะเป็นผู้นำในการทำพิธีกรรมต่างๆ เช่น พิธีลอยเรือ พิธีแก้บน เป็นต้น
ทุกครึ่งปีในเดือนหกและเดือนสิบเอ็ด ไม่ว่าชาวอุลักลาโว้ยอยู่ที่ใดก็จะกลับมายังถิ่นฐานเดิมเพื่อเข้าร่วมในพิธีลอยเรือ หรือ เปอลาจั๊ก ซึ่งจะมีการบรรเลงรำมะนา การร้องเพลง การร้องรำ การเล่นรองเง็ง ตลอดจนการดื่มฉลอง
มีตำนานเรื่องหนึ่งจากคำบอกเล่าของชาวเลวัย 60-70 ปี ที่อาศัยอยู่บนเกาะอาดังว่า พระเจ้าได้ส่งนะบีโน๊ะมาชักชวนให้บรรพบุรุษของเขานับถือพระเจ้า แต่ถูกปฏิเสธ จึงสาปแช่งให้พวกเขาต้องเคลื่อนย้ายลงมายังชายฝั่งเชิงเขา บ้างก็เข้าป่าเป็นคนป่า บ้างก็กลายเป็นลิง บ้างก็เป็นกระรอก บ้างก็เป็นอูลักลาโว้ย
ชาวเลกลุ่มแรกอาศัยเรือ jukok หรือ เรือเป็ด ไหลลอยขึ้นมา บ้างก็ตั้งถิ่นฐานในป่าเกดะห์ บ้างก็ตั้งถิ่นฐานที่เกาะลันตา ทั้งนี้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่กล่าวกันว่า เกาะลันตาเป็นดินแดนแห่งแรกในประเทศไทยที่ชาวอุลักลาโว้ยเปลี่ยนวิถีชีวิต อย่างไรก็ตาม จากความเชื่อนี้สะท้อนให้เห็นว่าชาวอุลักลาโว้ยในอดีตได้รับอิทธิพลของศาสนาอิสลามเช่นเดียวกับชนชาติในตระกูลมาลายิกทั้งหลาย นอกจากนี้ภาษาอุลักลาโว้ยก็ยังใกล้เคียงกับภาษามาเลย์ด้วย
หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 13 ฉบับที่ 3199 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555 คอลัมน์ วัฒนธรรมบ้านเรา โดย กรวี
credit : dailyworld
Create Date : 11 มกราคม 2555 |
Last Update : 11 มกราคม 2555 20:26:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1029 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |