Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ธรรมะ
เจ้าที่
จิตใจ
จิปาถะ
วรรณกรรม
แขกบ้าน
หนังสือ
ความรู้ทั่วไป
ประวัติศาสตร์
การเรียน A
การเรียนA2
การเรียน A3
งานเขียน
ต้นไม้
สัตว์เลียง
ททท1
ททท2
กวี
การเมือง
แวดวงสมาชิก
เพลง
ร้านอาหาร
ร้านอาหาร
อาหารการกิน
อาหารการกิน
สูตรอาหาร
สูตรอาหาร
ข่าวเด่น
ข่าวเด่น
ความรัก
แฟชั่น
ครอบครัว
ซีรีย์ที่ชอบ
สุขภาพ
สุขภาพ
ลดน้ำหนัก
ดนตรี
การจัดดอกไม้
ดวงดีมีบุญ
งานอดิเรก
งานฝีมือ
ภาพถ่าย
การ์ตูน
การ์ตูน
ศิลปะ
ศิลปะ
เอื้องไม้
วิทยาศาสตร์
สังคม
ข่าวทั่วไป
ชวนดูนก
ยานยนต์
ไอที2018
Top News
ครอบครัว
กฏหมายน่ารู้
เทนนิส 2020
อเมริกาฟุตบอล
Diary
ชินจัง
วัชพืช
มีตะพาบ
Science2023
Game
<<
มีนาคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
10 มีนาคม 2555
▶แกะสลักหิมะเผยแพร่วัฒนธรรม หนึ่งกลยุทธ์ดึงต่างชาติเที่ยวไทย
All Blogs
เที่ยว คลองผดุงกรุงเกษม
ครั้งแรกในชีวิต สัมผัสวิถีชีวิตชาวเชียงตุง...โดย พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต
สองแควชวนล่องแก่งลำน้ำเข็ก
ความอิ่มเอมที่ได้พบเห็นปราสาทขอมชื่อ “ตาควาย” กับสายตาตัวเอง
“พระราชวังบ้านปืน” ความงดงาม ความทรงจำ และความโรแมนติก
7หาดไทยติดโผน่าเที่ยวสุดในเอเชีย
ครอบครัวสุขสันต์ เที่ยวประจวบฯ เช้าไปเย็นกลับ
เที่ยวเมืองกรุงเก่าหลังน้ำลด เสน่ห์วัฒนธรรมไม่เคยจาง
เกาะช้าง แดนสวรรค์ทะเลตะวันออก
▶All Seasons สีสันเวียงพิงค์●●
▶แกะสลักหิมะเผยแพร่วัฒนธรรม หนึ่งกลยุทธ์ดึงต่างชาติเที่ยวไทย
เชิญเที่ยวงานกินปลา - กาชาดสิงห์บุรี อิ่มท้องกับอาการต้นตำรับแม่ครัวหัวป่าสมัย ร.5
เกาะล้าน..สุขสำราญจริงหนอ
แห่ชมแสงอาทิตย์ลอดช่องพนมรุ้ง
12 สถานที่น่าละเหี่ยใจที่สุดในโลก..
ปีนเขาคิชฌกูฏ ไหว้"พระบาทพลวง"อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
▶▷ค้นหาความจริง “หาดทรายดำ” จ.ตราด ความอัศจรรย์ 1 ใน 5 แห่งของโลก..
▶ทุ่งโปรงทอง มหัศจรรย์ป่าชายเลน ปากน้ำประแส ..
▶ต่างชาติจับตา 'สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ก' แห่งแรกของโลกที่พัทยา
▶ นั่งรถไฟไปแม่กลอง..
▶ เด็กบ้านสันปง เรียนรู้?เดือยหิน?
▶▶เมืองสวยในหุบเขา/ พังงาแสนโรแมนติค..
▶ ทัวร์เมืองนารายณ์ เจาะเบื้องหลังการ'ปฏิวัติ'..
▷▷เที่ยว 'อ่างขาง' เพลินชมพูบานสะพรั่ง หลากสีสันจากยอดดอย...สู่เมือง
♤♥▷...แม่กลองชวนเที่ยว"อุทยาน ร.2"...◁◁
▷▷นั่งรถไฟฟ้าตะลุยป่าคอนกรีต ชมสวนนานาชาติในเมืองกรุง ◁◁
▷▷▷..เรือกอและของดีชายแดนใต้..
งานดอกเสี้ยวบาน /มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว/แห่มาลัยข้าวตอก
ชมสวน ''บลูซัลเวีย'' ใจกลางกรุง ..
'เจดีย์ลอย' ตำนานศักดิ์สิทธิ์ มรดกล้ำค่าคู่เพชรบูรณ์
บ้านดิน มดแดง เทคนิค วิธีการสร้างบ้านดิน จังหวัด ลพบุรี
เมืองพี่หลวงพระบาง เมืองน้องวังเวียง..
ปฏิทินท่องโลก..ศูนย์เหรียญ..ทางไดโนเสาร์..เทศกาลว่าวไทย.."วังน้ำเขียว"..สวรรค์ของนกน้ำ
'ช่องเขาขาด' อดีตเศร้าเชลยศึกสงครามโลก ..
เที่ยว กระบี่ 72 ชั่วโมง เพลินทะเลสีครามยามฝนพรำ
ทะเลตรังในวันแห่งความรัก
ท่องเที่ยวสวยงาม 'ท่าสองยาง' อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เปิดเมืองลับแล ชมวิถีวัฒนธรรม
ถนนยิ้มได้ เพชรบุรี...ดีจัง
ท่องประวัติศาสตร์ใน "พระราชวังสนามจันทร์"
ท่อง"ภูทับเบิก" ดูดาวเกลื่อนดิน
8-12 มี.ค.55 นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วิ่งจากขั้วโลกเหนือไปยังขั้วโลกใต้
วัฒนธรรมไทยวน อ.เสาไห้
ม.รังสิตผุดไอเดียเนรมิตสวนอวตาร
อุลักลาโว้ย..คนทะเล
องค์การนาซา นำหินดวงจันทร์อายุ 3,300 ปี ร่วมแสดงงาน บีโอไอแฟร์ 2011
อาบแสงจันทร์บนลานผา เขาใหญ่
ทูน โฮเต็ลส์รุกธุรกิจโรงแรมทั่วโลก
เที่ยวจังหวัดสนุก....ข้ามโขงเยือนลาว+เวียดนาม
แลชีวิตที่ลันตา วิถีเด็ก"อูรักลาโว้ย"
เยี่ยมชมบ้านแห่งประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯจัดงาน มหกรรมในหลวงรักเรา
จากอ่าวปัตตานี ถึงผืนป่ามรดกโลก
ไปเที่ยววันเด็กท่ี พิพิธภัณฑ์เจษฎาเทคนิคมิวเซียม
เปิดตลาดท่องเที่ยวรัสเซีย-พัทยา
ชูนั่งช้างชมเมือง-เข้าถึงวิถีตรัง
นักท่องเที่ยวแห่ดูแม่คะนิ้งภูหินร่องกล้า
บ้านไม้สไตล์ล้านนา บ้านร่มไม้ใกล้เวียง จ.เชียงใหม่
ตะลึงเริ่ด! ลานฟักทองหมื่นลูก เคียงทุ่งทานตะวันและคอสมอสหลากสี@"จิมทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2554"
'ตราด' ก่อนรับศักราชใหม่เกาะช้าง
เปิดฟ้าอันดามัน/สุดขอบสวรรค์สตูล (1)
ชมภาพ แม่คะนิ้งสะพรั่งพรึ่บ! ณ ภูหินร่องกล้า หนาวยะเยือกติดลบ 1องศา
'สุโขทัย' 'พัฒนาชุมชน' บนเส้นทางวัฒนธรรม
เมืองตาก...อารยธรรมเก่าๆ ที่ยังคงปรากฏ
ส่งตะวันลาลับฟ้าวันดอกหญ้าบานที่ผาแต้ม
ชวนเที่ยวสังขละบุรีในสายหมอก เดินชมสะพานไม้มอญ-ไหว้หลวงพ่ออุตตมะ
"เที่ยววัด-ชมวัง" ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง
แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 'เดินกินถิ่นนาเกลือ 'พัทยา จ.ชลบุรี
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ยุโรปสไตล์ล้านนา ที่ อินสดา รีสอร์ท
บัวตองบาน บนดอยแม่อูคอ
อีโค บูติก โฮเต็ลแห่งเอเชีย
แห่สัมผัสหนาว'ฟ้าห่มปก'เชียงใหม่
เกาะราชาใหญ่สวรรค์อันดามัน ของเกาะภูเก็ต
ดอกไม้ในสายหมอก ณ ภูสอยดาว หนึ่งในยอดดอยที่เป็นจุดหมายที่หมายปอง
น้ำตกเก่าแก่ของสระแก้ว แม้ไม่ใช่น้ำตกใหญ่โตแต่ก็ไม่ธรรมดา!!
"แหลมแม่พิมพ์" แกลง ระยอง แวะนมัสการ "หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร" วัดวังหว้า
"ปากเกร็ด" มหานครไม่ยอม "จม" ชาวบ้านเสียสละ..."รักษาพื้นที่แห้ง"
นักท่องเที่ยวแห่ชมแม่คะนิ้งยอดดอยอิทนนท์
เยี่ยม4วัดสำคัญ-ฝั่งธนฯ รับมือน้ำหนุน-น้ำเหนือ
ท่องทุ่งบัวตอง เยือนถิ่นกะเหรี่ยง
2485-2554 ความเหมือนที่แตกต่าง เมื่อน้ำท่วมกรุงเทพฯ 2485
เที่ยวคลายทุกข์ 'กลุ่มจังหวัดสนุก'นครพนม สกลนคร มุกดาหาร
เผยภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบไทยก่อน-หลังน้ำท่วม
ห่มผ้าบรมบรรพตภูเขาทอง สะเดาะเคราะห์บ้านเมือง
หัวหินยอดฮิต-คนกรุงหนีน้ำท่วม ททท.ล่อใจหั่นราคาที่พัก-เทศบาลสั่งคุมสินค้า
ผจญภัยล่องแก่งที่ลำน้ำเข็ก/แวะไหว้พระธาตุที่ผาซ่อนแก้ว
จังหวัดกระบี่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามติดอันดับโลก
ศรีสะเกษ ดินแดนแห่งอารยธรรม
ปั้น-ยิ้ม ....โดย : ตามตะวัน
ณ บ้านพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวลิเบียหลังสิ้นเสียงปืน
ตรังเมืองน่ารัก สำหรับคนรักการกิน
เพลินตาธรรมชาติ ''เขาขนาบน้ำ'' ชมความมหัศจรรย์หินงอกหินย้อย
เยือนบุรีรัมย์ ถิ่นความงามอีสานใต้
สตุตการ์ท (Stuttgart) บาดหัวใจ
สุดซึ้ง กษัติร์ย"จิ๊กมี"ทรงจุมพิต"พระราชินีเจ็ตสัน"เป็นครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชน
อลาบามา : คืนดาวตกแสนโรแมนติค
40ปีดิสนีย์ เวิลด์
หนาวมาเยื่อนอีกแล้ว..สงสารผักที่ปลูกไว้จังเลย
"ปากีสถาน" ที่ไม่เคยเห็น ...โดย อุศนา ทองใบ
ผจญภัยแดนเพื่อนบ้าน ''แขวงคำม่วน'' อัศจรรย์ ''ถ้ำนางแอ่น'' ธรรมชาติสร้าง
"ปราก" เมืองในฝันสวรรค์บนดิน
อดีต'ครู'สานอาชีพ ปั้นโอ่งดินบ้านเชียงเครือ
โต้คลื่นทะเลไทย แหล่งเซิร์ฟนานาชาติ
หมู่บ้านไทยในดูไบ-หวังบูมส่งออก
คู่มือเที่ยว'อุษาคเนย์'อู่อารยธรรม มอร็อกอู เมืองพุกาม เมืองพะโคะเก่า เมืองศรีเกษตร ประเทศพม่า
เปิดแล้ว'น้ำตกคลองพลู'เกาะช้าง เพิ่มทางเลือกใหม่'สปีดโบ๊ต'บริการข้ามฝั่ง
▶แกะสลักหิมะเผยแพร่วัฒนธรรม หนึ่งกลยุทธ์ดึงต่างชาติเที่ยวไทย
ในช่วงฤดูหนาว ราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มักอบอุ่นคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศที่พร้อมใจกันเดินทางมาเที่ยวชมงานเทศกาลหิมะสุดยิ่งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 63
งานเทศกาลหิมะซัปโปโร ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1950 โดยความร่วมมือของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวซัปโปโร และเขตซัปโปโร
โดยการจัดงานเทศกาลหิมะครั้งแรกนั้น ด้วยความที่ไม่มีใครเคยสร้างรูปปั้นหิมะมาก่อน คณะกรรมการจัดงานจึงขอให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายในเมืองซัปโปโรมาร่วมกันก่อรูปปั้นหิมะขึ้นจนได้รูปปั้นจำนวน 6 ชิ้น จัดแสดง ณ บริเวณลานสวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเดิมใช้เป็นที่ทิ้งหิมะ
รูปปั้นหิมะที่เกิดขึ้นในรุ่นแรกๆ นั้นมีความสูงอย่างมากไม่เกิน 7 เมตร
ต่อมาในการจัดงานครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ.1953 เริ่มมีการสร้างรูปปั้นที่มีความสูงถึง 15 เมตร ซึ่งต้องใช้หิมะจำนวนมาก จึงมีการใช้รถบรรทุกและรถดันดินมาช่วยในการสร้าง และนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรูปปั้นหิมะขนาดใหญ่ดังเช่นปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นับจากนั้นเป็นต้นมาในทุกๆ ปีก็เริ่มมีผลงานของชาวเมืองซัปโปโรเข้าร่วมแสดงในงานเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งปี ค.ศ.1972 เมื่อญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว งานเทศกาลหิมะจึงถูกแนะนำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก กลายเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วมชมงานปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน
สีสันน่าสนใจภายในงานเทศกาลหิมะซัปโปโร นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสชื่นชมประติมากรรมสวยงามหลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็น
รูปปั้นตัวการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น รูปปั้นสถานที่สำคัญ
หรือรูปปั้นบุคคลสำคัญแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจและถือเป็นไฮไลต์โดดเด่นภายในงานก็เห็นจะเป็น การแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติซึ่งเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1974 โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 39
ในการจัดการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติทุกๆ ปีจะมีทีมนักแกะสลักหิมะจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขันมากมาย เฉกเช่นเดียวกับการแข่งขันในปีนี้ที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ มีทีมนักแกะสลักหิมะฝีมือเยี่ยมลงแข่งขัน
ทั้งสิ้น 16 ประเทศ ประกอบไปด้วย จีน รัสเซีย เกาหลี ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา สวีเดน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ลิทัวเนีย มาเลเซีย เยอรมนี อินเดีย ไต้หวัน และไทย
โดยทีมนักแกะสลักจากประเทศไทยนั้น ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดส่งเข้าร่วมการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านี้ก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศติดต่อกันมาแล้วถึง 3 ปีซ้อน (ระหว่างปี ค.ศ.2008-2010) ในผลงานชุดช้างพ่อ แม่ ลูก,ครุฑกับพญานาค และไกรทองกับชาละวัน ขณะที่ปีนี้ทีมไทยได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 จากผลงานรูปแกะสลัก
“มโนราห์”
ส่วนที่หนึ่งเป็นของฮ่องกง จากผลงานการแกะสลักรูป
“มังกร”
ในงานเทศกาลหิมะซัปโปโรปีนี้ นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. พร้อมคณะ ได้เดินทางมาให้กำลังใจทีมนักแกะสลักจากประเทศไทย และเข้าร่วมในพิธีประกาศผลการแข่งขัน จากนั้นได้เข้าเยี่ยมคารวะรองผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด เพื่อเจรจาขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน พร้อมกันนั้นยังได้พบปะกับสื่อมวลชนญี่ปุ่นเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของไทยในตลาดญี่ปุ่นด้วย
“การมาเข้าร่วมแข่งขันแกะสลักหิมะของประเทศไทยในแต่ละปี นอกจากเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้รู้จักมากขึ้น โดยผ่านงานฝีมือเชิงช่างที่วิจิตรประณีตงดงาม เนื่องจากงานเทศกาลหิมะซัปโปโร เป็นเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจ โดยนอกจากจะมีผู้เข้าร่วมชมงานวันละหลายแสนคนแล้ว ยังมีการถ่ายทอดสดและนำเสนอข่าวทางสื่อชั้นนำของญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น สถานีโทรทัศน์ NHK รวมถึงสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อวิทยุ และสื่อออนไลน์ต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น”
ผู้ว่าการ ททท. แสดงทรรศนะ พร้อมกล่าวถึงผลการแข่งขันล่าสุดที่ทีมไทยได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 ว่า ถึงแม้เราจะไม่ได้แชมป์แต่ก็ถือว่าติด 1 ใน 5 และถือว่าการแข่งขันแกะสลักหิมะนั้นเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพ ช่วยทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้จักวัฒนธรรมไทย รู้จักประเทศไทยมากกว่าการเป็นเมืองที่มีอาหารอร่อย มีรอยยิ้มประทับใจ โดยที่ผ่านมา ททท.ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ มาส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตขึ้นตามลำดับ
ด้านนายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวเสริมว่า ญี่ปุ่นนับเป็นตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ เ
ป็นตลาดที่ทำได้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน คู่รัก หรือวัยสูงอายุ เพราะต่างชอบท่องเที่ยวคนละแบบ ผู้ใหญ่วัยสูงอายุมักชอบมาเที่ยววัดบ้านเรา อย่างเช่น ที่อยุธยา หรือคนวัยทำงานมักจะมาเที่ยวทะเลหัวหิน สมุย กระบี่ ที่นอกจากจะได้ชมทะเลสวยแล้ว ยังได้ชิมอาหารอร่อย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยปีละประมาณ 1.1-1.2 ล้านคน ซึ่งแม้ไม่มากเหมือนจีน แต่ก็นับว่าเป็นนักท่องเที่ยวชั้นดี มีคุณภาพ และในอนาคตอันใกล้น่าจะมีการเปิดให้บริการเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ มาฮอกไกโด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น
นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ช่วยปลุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นให้กลับมาเที่ยวไทยอย่างคึกคักอีกครั้ง หลังจากต้องเจอกับวิกฤติปัญหาทั้งด้านการเมือง และภัยธรรรมชาติ ที่ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวหดหายไปเยอะ!
▶▶
รู้จักฮอกไกโด
ฮอกไกโด (Hokkaido) มีลักษณะเป็นเกาะ เกาะฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น อาชีพหลักของชาวฮอกไกโด คือ อาชีพเกษตรปลูกข้าว ปลูกมันฝรั่งและอื่นๆ เกาะฮอกไกโดได้ชื่อว่าเป็นปากท้องของญี่ปุ่น
เมืองหลวงของฮอกไกโดมีชื่อว่า เมืองซัปโปโร
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงโตเกียวโดยเครื่องบิน 1 ชั่วโมง 25 นาที เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม เปรียบเสมือนประตูสู่จังหวัดฮอกไกโด ผังเมืองของซัปโปโรค่อนข้างเป็นระเบียบเหมือนตารางหมากรุกซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น หัวใจหลักของเมืองนี้อยู่ที่สวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองทอดตัวจากด้านตะวันออกไปจรดฝั่งตะวันตกของตัวเมือง สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ถนนสายหลักในตัวเมืองจะเรียงรายไปด้วยน้ำพุและสวนโอโดริ (Odori Koen) ซึ่งถนนสายหลักนี้จะเป็นที่จัดงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงของซัปโปโร ในงานมีการแสดงรูปปั้นหิมะและรูปแกะสลักน้ำแข็งของทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นตั้งตระหง่านให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ภูมิอากาศของฮอกไกโด จังหวัดฮอกไกโด
ด้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีฤดูร้อนที่เย็นสบายที่สุด ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีหิมะมากและจะหนาวนานอยู่ประมาณครึ่งปี (ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนเมษายน) โดยอุณหภูมิเฉลี่ยของฮอกไกโดจะอยู่ที่ 22 ํC แต่ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปีจะเป็นช่วงที่อุณหภูมิต่ำมากประมาณ-12 ํC ถึง -4 ํC
credit :
dailynews
Create Date : 10 มีนาคม 2555
Last Update : 10 มีนาคม 2555 4:09:19 น.
0 comments
Counter : 3126 Pageviews.
Share
Tweet
Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [
?
]
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557