เชิญเที่ยวงานกินปลา - กาชาดสิงห์บุรี อิ่มท้องกับอาการต้นตำรับแม่ครัวหัวป่าสมัย ร.5
จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจังหวัดเล็ก ๆ จังหวัดหนึ่งในภาคกลาง มีแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดมากมายนับตั้งแต่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำลพบุรี แล้วยังมีลำคลอง หนอง บึง อีก 177 แห่ง ในบรรดาแหล่งน้ำที่มีความสำคัญที่เป็นแหล่งกำเนิดปลาพันธุ์รสชาติดี ได้แก่ “ลำแม่ลา” เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่านเขต ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี , ต.แม่ลา อ.บางระจัน และ ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิด “ปลาช่อน” ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสิงห์บุรีในด้านรสชาติอร่อย ยากที่จะหาปลาช่อนในท้องถิ่นอื่นมาเปรียบเทียบได้
คนสิงห์บุรีจึงสันทัดจัดเจนในการประกอบอาหารที่ทำจากปลา เช่น ปลาช่อนเผา ปลาแดดเดียว ขนมจีนน้ำยา ห่อหมก ฯลฯ จึงมีรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค นอกจากอาหารที่ทำจากปลาแล้ว คนสิงห์บุรียังมีฝีมือในการทำอาหารอย่างอื่นจนเป็นที่เลื่องลือกล่าวขานมาแต่สมัยโบราณ นั่นก็คือเป็นต้นกำเนิดของคำว่า ’แม่ครัวหัวป่า“ โดยเมื่อปี พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ทางจังหวัดจึงจัดส่งแม่ครัวฝีมือเยี่ยมให้มาปรุงอาหารทั้งคาวหวาน สำหรับเครื่องเสวยพระองค์ทรงโปรดฝีมือการปรุงเครื่องเสวยของคณะแม่ครัวของสิงห์บุรี จึงได้พระราชทานชื่อคณะแม่ครัวว่า ’แม่ครัวหัวป่า“
คำว่า “แม่ลา” เป็นชื่อของลำน้ำธรรมชาติสายหนึ่ง อยู่ในท้องที่ของ อ.อินทร์บุรี อ.บางระจัน และ อ.เมืองสิงห์บุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ 1. ลำแม่ลาตอนเหนือ อยู่ในเขตพื้นที่ อ.อินทร์บุรี เป็นลำแม่ลาฝั่งตะวันออก เริ่มต้นจากหมู่ที่ 12 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี ต่อจากลำการ้องที่เรียกว่าบ้านดอนแฝก ไหลคดเคี้ยวผ่านหมู่ที่ 10 บ้านแหลมทอง, บ้านเชิงอ้าย, ผ่านหมู่ที่ 9 บ้านโรงปลา, บ้านคลองใหม่ และมาสิ้นสุดที่หมู่ที่ 7 บ้านป่ากา เป็นที่ตั้งของอุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ 2. ลำแม่ลาตอนกลางฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งชุมชน หมู่ที่ 1-3 ต.แม่ลา อ.บางระจัน และฝั่งตะวันออกอยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 7-9 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี 3. ลำแม่ลาตอนใต้ ที่เรียกว่าบ้านท้ายน้ำ (วัดสะเดา) อยู่ในเขต หมู่ที่ 6-7 ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรีลำแม่ลาตอนกลางระหว่างฝายทำนบคันดินกั้นน้ำตอนเหนือหน้าวัดแหลมคาง ต.แม่ลา อ.บางระจัน ถึงฝายน้ำล้นหน้าวัดสะเดา ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี มีพื้นที่ประมาณ 273 ไร่ ยาว 4,370 เมตร กว้างประมาณ 80-100 เมตร ลึกเฉลี่ย 4 เมตร พื้นที่แห่งนี้แหละที่ทำให้ปลาช่อนที่นี่มีรสชาติอร่อยกว่าปลาช่อนจากที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นดินโคลนสีดำ ไม่ใช่ดินทราย หรือดินดานเหมือนที่อื่น ๆ ลักษณะดินโคลนเช่นนี้เหมาะสำหรับเป็นที่อาศัยของปลามาก การที่มีน้ำนิ่งและพืชน้ำ พร้อมทั้งอาหารที่สมบูรณ์ ปลาทุกตัวจึงกินอิ่ม ทำให้ปลาในลำแม่ลาตัวอ้วน เนื้อมัน รสหวาน อร่อย น่ารับประทาน
จากการที่ปลาช่อนในลำแม่ลามีรสชาติอร่อยพิเศษกว่าปลาในถิ่นอื่นนี้เอง ทางจังหวัดจึงมีโครงการที่จะเผยแพร่ชื่อเสียงของปลาช่อนแม่ลาและจังหวัดสิงห์บุรีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้ของประชาชนในจังหวัด จังหวัดสิงห์บุรีจึงได้จัดงานประเพณีประจำจังหวัดขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “งานประเพณีเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี”
นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า งานประเพณีเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี จัดเป็นครั้งแรกในสมัยที่ นายวิพัฒน์ คงมาลัย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันที่ 19–21 เมษายน 2539 ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีจังหวัดสิงห์บุรี โดยใช้ชื่องานว่า “เทศกาลกินปลาเฉลิมฉลองสิงห์บุรี 100 ปี” และจัดเป็นครั้งที่ 2 ในปีเดียวกัน เมื่อวันที่ 27-31 ธันวาคม 2539 โดยผนวกกับงานกาชาดเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการหารายได้ให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรีนำไปช่วยเหลือสาธารณกุศล และบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประสบภัยต่าง ๆ โดยใช้ชื่องานครั้งที่ 2 นี้ว่า “งานประเพณีเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี” หลังจากนั้นจังหวัดสิงห์บุรีก็จัดงานติดต่อกันมาทุกปี ซึ่งการจัดงานทุกปีที่ผ่านมา กำหนดจัดงานในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมของปีถัดไป แต่ในปี 2554 ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีและอีกหลายจังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ภาคราชการ ภาคเอกชน และเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรีต้องระดมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จึงทำให้ไม่สามารถจัดงานในห้วงดังกล่าวได้
นายวัฒนพงษ์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดลพบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสิงห์บุรีได้จัดงานประเพณีเทศกาลกินปลาและงานกาชาดมาแล้ว 16 ครั้ง สำหรับปีนี้เป็นปีที่ 17 จังหวัดสิงห์บุรีร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี, สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดลพบุรี และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี กำหนดจัดงาน “ประเพณีเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ประจำปี 2555” ขึ้น ตั้งแต่วันที่ 9-18 มีนาคม 2555 ณ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อให้ประชาชนได้ท่องเที่ยว พักผ่อน รื่นเริง สนุกสนาน หลังจากประสบอุทกภัย และสร้างรายได้ให้กับสินค้าโอทอป รวมถึงการสนับสนุนกิจการของเหล่ากาชาดจังหวัดด้วย
สำหรับกิจกรรมในวันงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.30 น. วันที่ 9 มีนาคม ชมขบวนแห่หุ่นปลาสวยงาม ของ 6 อำเภอ โดยขบวนจะเริ่มต้นจากหน้าวัดโพธิ์แก้วนพคุณมาตามถนนขุนสรรค์ แล้วเลี้ยวตรงสามแยกไฟแดงหน้าโรงแรมแกรนด์ลีโอ มาตามถนนสายบางพาน แล้วเลี้ยวเข้าศาลากลางจังหวัดมายังเวทีกลาง, เวลา 19.30 น. จะเป็นพิธีเปิดงาน โดย นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิด, การประกวดหุ่นปลาสวยงาม และหุ่นปลาโคมไฟ เวทีกลางจะมีการแสดงสื่อผสม แสง สี เสียง ภายใต้แนวคิด สิงห์บุรีวิถีน้ำ วิถีชีวิต วิถีไทย แบ่งการแสดงออกเป็น 4 องก์ คือ ทวารวดี เมืองโบราณ, สืบสานตำนานวีรชน, ยินยลแหล่งวัฒนธรรม ที่สอดคล้องกับประวัติความเป็นมาของจังหวัดสิงห์บุรี, ชมการจุดพลุ ตะไล ไฟพะเนียง ที่สวยงามตระการตา, การแสดงของนักเรียน, การประกวดอาหารที่ทำจากปลา, ลิ้มรสอาหารที่ทำจากปลาบนถนนสายปลาของชมรมร้านอาหารสิงห์บุรี 40 กว่าร้าน, อาหารต้นตำรับแม่ครัวหัวป่า สมัยรัชกาลที่ 5, เลือกซื้อปลาช่อนแดดเดียว, ปลาช่อนเผา, การจัดนิทรรศการของส่วนราชการ, นิทรรศการปลาสวยงามและปลาหายากจากกรมประมง, ซื้อสินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว และของดีเมืองสิงห์, ร่วมรำวงย้อนยุค, ชมคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดังทุกคืน, การประกวดแข่งขันมากมาย จึงขอเชิญทุกท่านได้มาเที่ยวชมงานโดยทั่วกัน โดยชมฟรีไม่เสียค่าผ่านประตูแต่อย่างใด.
ประเมิน สุขเจริญ / อำนาจ สุขเย็น
คลิกชมอ่านและชมภาพต่อ...ที่นี่ขอรับ
| Create Date : 09 มีนาคม 2555 |
| Last Update : 9 มีนาคม 2555 12:20:53 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1916 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [