|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
※※ "ดลจิต" ลดความอ้วน ..
"ดลจิต" เป็นวิธีการปรับเปลี่ยนหรือสร้างพฤติกรรมที่ดีในระดับของจิตใต้สำนึก (Subconscious Level or Unconscious Level) ที่คิดค้นขึ้นโดย ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ซึ่งแตกต่างกับการสะกดจิต เพราะจะใช้บรรยากาศสิ่งแวดล้อม คือ แสง สี เสียง และกลิ่น เข้ามาช่วยเหนี่ยวนำให้คนที่ถูกดลจิตเข้าสู่ภวังค์ได้เร็วขึ้น และในขณะที่มีคลื่นสมองระดับอัลฟา (Alpha) คือ สมองอยู่ในช่วงพักผ่อนหรือกำลังทำสมาธิ ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถเกิดความคิดสร้างสรรค์หรือเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นักดลจิตจะป้อนโค้ดคำสั่งพฤติกรรมที่เราต้องการ (My Code) เพื่อเข้าไปเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วน โดยจะต้องทำทั้งหมด 21 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที 3 วันแรกจะต้องทำติดต่อกัน 3 ครั้ง ส่วนที่เหลือนำกลับไปทำด้วยตนเองได้จนครบ 21 ครั้ง
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จิตแพทย์กรมสุขภาพจิตและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า "ในด้านจิตเวชศาสตร์จะมีวิธีการทำจิตบำบัดหลากหลายรูปแบบ และการดลจิตเป็นวิธีการหนึ่งที่นำมาใช้ เพื่อจัดการความคิดและพฤติกรรม ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดี แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการป้อนข้อมูลให้กับจิตใต้สำนึกด้วย คือ ต้องเลือกใช้คำที่ถูกต้องและปลอดภัยแก่ผู้รับการบำบัด ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการออกกำลังกายและเรียนรู้หลักโภชนาการร่วมด้วยจึงจะสามารถลดน้ำหนักได้"
ดลจิตเหมาะกับใคร....
วิธีดลจิตถือเป็นจุดเริ่มต้นในการลดน้ำหนัก ใช้ร่วมกับการนับแคลอรี่ จัดอาหาร และการออกกำลังกาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะดูแลรูปร่างตัวเอง แต่มีข้อเสียคือขาดวินัยและความมุ่งมั่นจนไม่อาจปรับเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมที่ทำให้อ้วนได้
ก่อนเข้ารับการบำบัดคุณจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนแก่นักดลจิตเพื่อนำไปสร้างโค้ดที่เหมาะสม โดยการทำแบบสอบถามเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเป็นเรื่องพฤติกรรมการกิน เช่น ชอบกินอาหารประเภทไขมัน แป้ง หรือกินปริมาณมากเกินไป เมื่อเห็นปัญหาของแต่ละคนแล้ว นักดลจิตจะนำมาสร้างโค้ดเพื่อป้อนคำสั่งในการดลจิต โดยเลี่ยงคำว่า ไม่ อย่า ห้าม เพราะจิตใต้สำนึกจะต่อต้านคำสั่งดังกล่าว
เมื่อจิตใต้สำนึกได้รับคำสั่งที่ถูกต้องและตอบสนองต่อคำสั่ง ผู้ที่ลดน้ำหนักจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากภายในโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสร้างนิสัยการกินที่ถูกต้อง การออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยลดความอ้วนได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ค่อนข้างถาวร และไม่มีผลข้างเคียง
อย่างไรก็ตามการดลจิตลดความอ้วนมีข้อจำกัดอยู่ที่ การยอมรับและความเชื่อของตัวผู้รับการบำบัด หากมีอคติ ไม่เชื่อ หรือไม่มีความตั้งใจแน่วแน่ วิธีนี้ก็จะใช้ไม่ได้ผล
ปัจจุบันนอกจากการดลจิตลดความอ้วนแล้ว ยังมีการสะกดจิตลดความอ้วน ซึ่งทำโดยกลุ่มนักจิตวิทยาหรือกลุ่มคนที่สนใจที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มหรือชมรม ซึ่งต้องระมัดระวังอาจมีบุคคลที่ขาดจริยธรรมในวิชาชีพ ป้อนคำสั่งผิดในขณะที่เราไม่รู้ตัวจะทำให้เกิดอันตรายได้ ก่อนเข้ารับการบำบัดไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ควรตรวจสอบว่านักจิตวิทยาคนนั้นได้รับใบประกอบวิชาชีพจากกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ และหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ
credit : Beauty นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 8 ฉบับที่ : 85 เดือน : กุมภาพันธ์ 2551
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2555 18:43:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 878 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |