Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
8 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
18 เมษายน อาลัยถึง นักวิทยาศาสตร์ยอดอัจฉริยะที่สุดของยุด คศ 20 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์


ภาพถ่ายของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ขณะมีอายุ 42 ปี


อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein - อัลแบร์ท ไอน์ชไตน์) (14 มีนาคม พ.ศ. 2422 - 18 เมษายน พ.ศ. 2498) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2464


จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก "การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี"
หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ในปี พ.ศ. 2458 เขาก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยธรรมดานักสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง

ในปีต่อ ๆ มา ชื่อเสียงของเขาได้ขยายออกไปมากกว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" ให้เป็นเครื่องหมายการค้า


ตัวไอน์สไตน์เองมีความระลึกถึงผลกระทบทางสังคม ซึ่งมีผลมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน


 ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้ ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ


ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ด้วยโรคหัวใจ
ผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิสิกส์มีมากมาย ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่ง:


ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ซึ่งนำกลศาสตร์มาประยุกต์รวมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า


ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นไปตาม equivalence principle
วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาล


ขยายแนวความคิดยุคหลังนิวตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวพุธได้อย่างลึกซึ้ง
ทำนายการหักเหของแสงอันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง
อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว


ริเริ่มทฤษฎีการแกว่งตัวอย่างกระจายซึ่งอธิบายการเคลื่อนที่ของบราวน์ของโมเลกุล
ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนาจากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง


ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมในของแข็ง
Zero-point energy
อธิบายรูปแบบย่อยของสมการของชเรอดิงเงอร์
EPR paradox
ริเริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ


ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น ปี พ.ศ. 2542 นิตยสารไทมส์ ยกย่องให้เขาเป็น "บุรุษแห่งศตวรรษ" ผู้เขียนชีวประวัติของเขาเอ่ยถึงเขาว่า "สำหรับความหมายในทางวิทยาศาสตร์ และต่อมาเป็นความหมายต่อสาธารณะ ไอน์สไตน์ มีความหมายเดียวกันกับ อัจฉริยะ"



ภาพถ่ายไอน์สไตน์ในวัยเด็ก ถ่ายเมื่อปี พ.ศ. 2436

วัยเด็กและในวิทยาลัย

ไอน์สไตน์เกิดในเมืองอูล์ม ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก สมัยจักรวรรดิเยอรมัน ห่างจากเมืองชตุทท์การ์ทไปทางตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันคือรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาชื่อว่า แฮร์มานน์ ไอน์สไตน์ เป็นพนักงานขายทั่วไปซึ่งกำลังทำการทดลองเกี่ยวกับเคมีไฟฟ้า มารดาชื่อว่า พอลลีน โดยมีคนรับใช้หนึ่งคนชื่อ คอช ทั้งคู่แต่งงานกันในโบสถ์ในสตุ๊ทการ์ท (เยอรมัน: Stuttgart-Bad Cannstatt) ครอบครัวของเขาเป็นชาวยิว (แต่ไม่เคร่งครัดนัก) อัลเบิร์ตเข้าเรียนในโรงเรียนประถมคาธอลิก และเข้าเรียนไวโอลิน ตามความต้องการของแม่ของเขาที่ยืนยันให้เขาได้เรียน


มื่อเขาอายุได้ห้าขวบ พ่อของเขานำเข็มทิศพกพามาให้เล่น และทำให้ไอน์สไตน์รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างในพื้นที่ที่ว่างเปล่า ซึ่งส่งแรงผลักเข็มทิศให้เปลี่ยนทิศไป เขาได้อธิบายในภายหลังว่าประสบการณ์เหล่านี้คือหนึ่งในส่วนที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เขาในชีวิต แม้ว่าเขาชอบที่จะสร้างแบบจำลองและอุปกรณ์กลได้ในเวลาว่าง


เขาถือเป็นผู้ที่เรียนรู้ได้ช้า สาเหตุอาจเกิดจากการที่เขามีความพิการทางการอ่านหรือเขียน (dyslexia) ความเขินอายซึ่งพบได้ทั่วไป หรือการที่เขามีโครงสร้างสมองที่ไม่ปกติและหาได้ยากมาก (จากการชันสูตรสมองของเขาหลังจากที่ไอน์สไตน์เสียชีวิต) เขายกความดีความชอบในการพัฒนาทฤษฎีของเขาว่าเป็นผลมาจากความเชื่องช้าของเขาเอง โดยกล่าวว่าเขามีเวลาครุ่นคิดถึงอวกาศและเวลามากกว่าเด็กคนอื่น ๆ เขาจึงสามารถสามารถพัฒนาทฤษฎีเหล่านี้ได้ โดยการที่เขาสามารถรับความรู้เชิงปัญญาได้มากกว่าและนานกว่าคนอื่น ๆ



ไอน์สไตน์เริ่มเรียนคณิตศาสตร์เมื่อประมาณอายุ 12 ปี โดยที่ลุงของเขาทั้งสองคนเป็นผู้อุปถัมถ์ความสนใจเชิงปัญญาของเขาในช่วงย่างเข้าวัยรุ่นและวัยรุ่น โดยการแนะนำและให้ยืมหนังสือซึ่งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์


ใน พ.ศ. 2437 เนื่องมาจากความล้มเหลวในธุรกิจเคมีไฟฟ้าของพ่อของเขา ทำให้ครอบครัวไอน์สไตน์ย้ายจากเมืองมิวนิค ไปยังเมืองพาเวีย (ใกล้กับเมืองมิลาน) ประเทศอิตาลี ในปีเดียวกัน เขาได้เขียนผลงานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมา (คือ "การศึกษาสถานะของอีเธอร์ในสนามแม่เหล็ก") โดยที่ไอน์สไตน์ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักในมิวนิคอยู่จนเรียนจบจากโรงเรียน

 โดยเรียนเสร็จไปแค่ภาคเรียนเดียวก่อนจะลาออกจากโรงเรียนมัธยมศึกษา กลางฤดูใบไม้ผลิ ในปี พ.ศ. 2438 แล้วจึงตามครอบครัวของเขาไปอาศัยอยู่ในเมืองพาเวีย เขาลาออกโดยไม่บอกพ่อแม่ของเขา และโดยไม่ผ่านการเรียนหนึ่งปีครึ่งรวมถึงการสอบไล่ ไอน์สไตน์เกลี้ยกล่อมโรงเรียนให้ปล่อยตัวเขาออกมา

โดยกล่าวว่าจะไปศึกษาเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัดตามคำเชิญจากเพื่อนผู้เป็นแพทย์ของเขาเอง โรงเรียนยินยอมให้เขาลาออก แต่นี่หมายถึงเขาจะไม่ได้รับใบรับรองการศึกษาชั้นเรียนมัธยม
แม้ว่าเขาจะมีความสามารถชั้นเลิศในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ แต่การที่เขาไร้ความรู้ใด ๆ ทางด้านศิลปศาสตร์ ทำให้เขาไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิสในเมืองซูริค (เยอรมัน: Eidgenössische Technische Hochschule หรือ ETH) ทำให้ครอบครัวเขาต้องส่งเขากลับไปเรียนมัธยมศึกษาให้จบที่อารอในสวิตเซอร์แลนด์ เขาสำเร็จการศึกษาและได้รับใบอนุปริญญาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2439 และสอบเข้า ETH ได้ในเดือนตุลาคม แล้วจึงย้ายมาอาศัยอยู่ในเมืองซูริค ในปีเดียวกัน เขากลับมาที่บ้านเกิดของเขาเพื่อเพิกถอนภาวะการเป็นพลเมืองของเขาในเวอร์เทมบูรก์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ไร้สัญชาติ
ใน พ.ศ. 2443 เขาได้รับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสมาพันธรัฐสวิส และได้รับสิทธิ์พลเมืองสวิสในปี พ.ศ. 2444



านในสำนักงานสิทธิบัตร


หลังจากจบการศึกษา ไอน์สไตน์ไม่สามารถหางานสอนหนังสือได้ หลังจากเพียรพยายามอยู่เกือบสองปี พ่อของอดีตเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งก็ช่วยให้เขาได้งานทำที่สำนักงานสิทธิบัตรในกรุงเบิร์น   ในตำแหน่งผู้ช่วยตรวจสอบเอกสาร หน้าที่ของเขาคือการตรวจประเมินใบสมัครของสิทธิบัตรในหมวดหมู่อุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้า ในปี พ.ศ. 2446 ไอน์สไตน์ก็ได้บรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ หลังจากถูกมองข้ามมานานจนกระทั่งกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรกล



ไอน์สไตน์กับเพื่อนหลายคนที่รู้จักกันในเบิร์น ได้รวมกลุ่มกันเป็นชมรมเล็กๆ สำหรับคุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์และปรัชญา ตั้งชื่อกลุ่มอย่างล้อเลียนว่า "The Olympia Academy" พวกเขาอ่านหนังสือร่วมกันเช่น งานของปวงกาเร แม็ค และฮูม ซึ่งส่งอิทธิพลต่อแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์และปรัชญาของไอน์สไตน์มาก


ตลอดช่วงเวลาเหล่านี้ ไอน์สไตน์แทบจะไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวใดๆ กับชุมชนทางฟิสิกส์เลย งานที่สำนักงานสิทธิบัตรของเขาโดยมากจะเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการส่งสัญญาณไฟฟ้าและการซิงโครไนซ์ทางเวลาระหว่างระบบไฟฟ้ากับระบบทางกล ซึ่งเป็นสองปัญหาหลักทางเทคนิคอันเป็นจุดสนใจของการทดลองในความคิดยุคนั้น ซึ่งในเวลาต่อมาได้ชักนำให้ไอน์สไตน์ไปสู่ผลสรุปอันลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและความเกี่ยวพันพื้นฐานระหว่างอวกาศกับเวลา





มิเลวา มาริค ภรรยาของไอน์สไตน์

ชีวิตครอบครัว


มิเลวา มาริค ภรรยาของไอน์สไตน์
ไอน์สไตน์มีบุตรสาวหนึ่งคนกับมิเลวา มาริค ชื่อว่า ไลแซล (Lieserl) คาดว่าเกิดในตอนต้นปี พ.ศ. 2445 ที่เมือง Novi Sad


ไอน์สไตน์แต่งงานกับมิเลวาเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2446 แม้จะถูกมารดาคัดค้านเพราะนางมีอคติกับชาวเซิร์บ และคิดว่ามาริคนั้น "แก่เกินไป" ทั้งยัง "หน้าตาอัปลักษณ์" ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวและเป็นคู่ชีวิตที่มีสติปัญญา ในจดหมายฉบับหนึ่งถึงหล่อน ไอน์สไตน์เรียกมาริคว่า "สิ่งมีชีวิตที่เสมอกันกับผม ผู้ซึ่งแข็งแรงและมีอิสระเฉกเช่นเดียวกัน"  มีการถกเถียงกันอยู่เป็นบางคราวว่า มาริคมีอิทธิพลต่องานของไอน์สไตน์บ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์ต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่มี บุตรคนแรกของไอน์สไตน์กับมิเลวา คือ ฮันส์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บุตรคนที่สองคือ เอดูอาร์ด เกิดที่ซูริคเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2453


อัลเบิร์ตกับมาริคหย่ากันเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2462 หลังจากแยกกันอยู่ 5 ปี ในวันที่ 2 มิถุนายนปีเดียวกันนั้น ไอน์สไตน์แต่งงานกับ เอลซา โลเวนธาล (นี ไอน์สไตน์) นางพยาบาลที่ช่วยดูแลอภิบาลระหว่างที่เขาป่วย เอลซาเป็นญาติห่างๆ ทั้งทางฝั่งพ่อและฝั่งแม่ของไอน์สไตน์ ครอบครัวไอน์สไตน์ช่วยกันเลี้ยงดู มาร์ก็อต และ อิลเซ ลูกสาวของเอลซาจากการแต่งงานครั้งแรกของเธอ  แต่ทั้งสองคนไม่มีลูกด้วยกัน


วาระสุดท้ายของชีวิต

18 เมษายน พ.ศ. 2498 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย ที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา

งานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การคิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ

ปี พ.ศ. 2448 ขณะที่ไอน์สไตน์ทำงานอยู่ที่สำนักงานสิทธิบัตร ก็ได้ตีพิมพ์บทความ 4 เรื่องใน Annalen der Physik ซึ่งเป็นวารสารทางฟิสิกส์ชั้นนำของเยอรมัน บทความทั้งสี่นี้ในเวลาต่อมาเรียกชื่อรวมกันว่า "Annus Mirabilis Papers"


บทความเกี่ยวกับธรรมชาติเฉพาะตัวของแสง นำไปสู่แนวคิดที่ส่งผลต่อการทดลองที่มีชื่อเสียง คือปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก หลักการง่ายๆ ก็คือ แสงมีปฏิกิริยากับสสารในรูปแบบของ "ก้อน" พลังงาน (ควอนตา) เป็นห้วงๆ แนวคิดนี้เคยนำเสนอมาก่อนหน้านี้แล้วโดย แมกซ์ พลังค์ ในปี พ.ศ. 2443 ซึ่งเป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับทฤษฎีเกี่ยวกับคลื่นแสงที่เชื่อกันอยู่ในยุคสมัยนั้น


บทความเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของบราวน์ อธิบายถึงการเคลื่อนไหวแบบสุ่มของวัตถุขนาดเล็กมากๆ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของโมเลกุล แนวคิดนี้สนับสนุนต่อทฤษฎีอะตอม


บทความเกี่ยวกับอิเล็กโตรไดนามิกส์ของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ เป็นกำเนิดของทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ แสดงให้เห็นว่าความเร็วของแสงที่กำลังสังเกตอย่างอิสระ ณ สภาวะการเคลื่อนที่ของผู้สังเกตจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานไปเหมือนๆ กัน ผลสืบเนื่องจากแนวคิดนี้รวมถึงกรอบของกาล-อวกาศของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่จะช้าลงและหดสั้นลง (ตามทิศทางของการเคลื่อนที่) โดยสัมพัทธ์กับกรอบของผู้สังเกต บทความนี้ยังโต้แย้งแนวคิดเกี่ยวกับ luminiferous aether ซึ่งเป็นเสาหลักทางฟิสิกส์ทฤษฎีในยุคนั้น ว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น


บทความว่าด้วยสมดุลของมวล-พลังงาน (ซึ่งก่อนหน้านี้เชื่อว่ามันไม่เกี่ยวข้องกันเลย) ไอน์สไตน์ปรับปรุงสมการสัมพัทธภาพพิเศษของเขาจนกลายมาเป็นสมการอันโด่งดังที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 คือ E = mc2 ซึ่งบอกว่า มวลขนาดเล็กจิ๋วสามารถแปลงไปเป็นพลังงานปริมาณมหาศาลได้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดการพัฒนาของพลังงานนิวเคลียร์


แสง กับทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป

ปี พ.ศ. 2449 สำนักงานสิทธิบัตรเลื่อนขั้นให้ไอน์สไตน์เป็น Technical Examiner Second Class แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งงานด้านวิชาการ ปี พ.ศ. 2451 เขาได้เข้าเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเบิร์น พ.ศ. 2453 เขาเขียนบทความอธิบายถึงผลสะสมของแสงที่กระจายตัวโดยโมเลกุลเดี่ยวๆ ในบรรยากาศ ซึ่งเป็นการอธิบายว่า เหตุใดท้องฟ้าจึงเป็นสีน้ำเงิน


ระหว่าง พ.ศ. 2452 ไอน์สไตน์ตีพิมพ์บทความ "Über die Entwicklung unserer Anschauungen über das Wesen und die Konstitution der Strahlung" (พัฒนาการของมุมมองเกี่ยวกับองค์ประกอบและหัวใจสำคัญของการแผ่รังสี) ว่าด้วยการพิจารณาแสงในเชิงปริมาณ ในบทความนี้ รวมถึงอีกบทความหนึ่งก่อนหน้านั้นในปีเดียวกัน ไอน์สไตน์ได้แสดงว่า พลังงานควอนตัมของมักซ์ พลังค์ จะต้องมีโมเมนตัมที่แน่นอนและแสดงตัวในลักษณะที่คล้ายคลึงกับอนุภาคที่เป็นจุด บทความนี้ได้พูดถึงแนวคิดเริ่มต้นเกี่ยวกับโฟตอน (แม้ในเวลานั้นจะยังไม่ได้เรียกด้วยคำนี้ ผู้ตั้งชื่อ 'โฟตอน' คือ กิลเบิร์ต เอ็น. ลิวอิส ในปี พ.ศ. 2469) และให้แรงบันดาลใจเกี่ยวกับความเกี่ยวพันกันระหว่างคลื่นกับอนุภาค ในวิชากลศาสตร์ควอนตัม



พ.ศ. 2454 ไอน์สไตน์ได้เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยซูริค แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยอมรับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยชาร์ลส์-เฟอร์ดินานด์ ของเยอรมันที่ตั้งอยู่ในกรุงปราก ที่นี่ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับผลกระทบของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อแสง ซึ่งก็คือการเคลื่อนไปทางแดงเนื่องจากแรงโน้มถ่วง และการหักเหของแสงเนื่องจากแรงโน้มถ่วง บทความนี้ช่วยแนะแนวทางแก่นักดาราศาสตร์ในการตรวจสอบการหักเหของแสงระหว่างการเกิดสุริยคราส นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมัน เออร์วิน ฟินเลย์-ฟรอนด์ลิค ได้เผยแพร่ข้อท้าทายของไอน์สไตน์นี้ไปยังนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก


พ.ศ. 2455 ไอน์สไตน์กลับมายังสวิตเซอร์แลนด์และรับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดิมที่เขาเป็นศิษย์เก่า คือ ETH เขาได้พบกับนักคณิตศาสตร์ มาร์เซล กรอสมานน์ ซึ่งช่วยให้เขารู้จักกับเรขาคณิตของรีมานน์และเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ และโดยการแนะนำของทุลลิโอ เลวี-ซิวิตา นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ไอน์สไตน์จึงได้เริ่มใช้ประโยชน์จากความแปรปรวนร่วมเข้ามาประยุกต์ในทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขา มีช่วงหนึ่งที่ไอน์สไตน์รู้สึกว่าแนวทางนี้ไม่น่าจะใช้ได้ แต่เขาก็หันกลับมาใช้อีก และในปลายปี พ.ศ. 2458 ไอน์สไตน์จึงได้เผยแพร่ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปซึ่งยังคงใช้อยู่ตราบถึงปัจจุบัน ทฤษฎีนี้อธิบายถึงแรงโน้มถ่วงว่าเป็นการบิดเบี้ยวของโครงสร้างกาลอวกาศโดยวัตถุที่ส่งผลเป็นแรงเฉื่อยต่อวัตถุอื่น



ทฤษฎีแรงเอกภาพ

งานวิจัยของไอน์สไตน์หลังจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปมีหัวใจหลักอยู่ที่การพยายามทำให้ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงสามารถอธิบายคุณสมบัติของแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ปี พ.ศ. 2493 เขาได้พูดถึงแนวคิดเรื่อง "ทฤษฎีแรงเอกภาพ" ในวารสาร Scientific American ในบทความชื่อว่า "On the Generalized Theory of Gravitation" แม้เขาจะได้รับความยกย่องอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนในการวิจัยเรื่องนี้ และความทุ่มเทส่วนใหญ่ของเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ


ในความพยายามของไอน์สไตน์ที่จะรวมแรงพื้นฐานทั้งหมดเข้าในกฎเดียวกัน เขาได้ละเลยการพัฒนากระแสหลักในทางฟิสิกส์ไปบางส่วน ที่สำคัญคือแรงนิวเคลียร์อย่างเข้มและแรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน ซึ่งไม่มีใครเข้าใจมากนักตราบจนอีกหลายปีผ่านไปหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว ขณะเดียวกัน แนวทางพัฒนาฟิสิกส์กระแสหลักเองก็ละเลยแนวคิดของไอน์สไตน์เกี่ยวกับการรวมแรงเช่นเดียวกัน ครั้นต่อมาความฝันของไอน์สไตน์ในการรวมกฎฟิสิกส์ทั้งหลายเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงจึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญต่อแนวทางศึกษาฟิสิกส์ยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทฤษฎีแห่งสรรพสิ่งและทฤษฎีสตริง ขณะที่มีความตื่นตัวมากขึ้นในสาขากลศาสตร์ควอนตัมด้วย


แบบจำลองแก๊สของชเรอดิงเงอร์


ไอน์สไตน์แนะนำให้แอร์วิน ชเรอดิงเงอร์นำเอาแนวคิดของมักซ์ พลังค์ไปใช้ ที่มองระดับพลังงานของแก๊สในภาพรวมมากกว่าจะมองเป็นโมเลกุลเดี่ยวๆ ชเรอดิงเงอร์ประยุกต์แนวคิดนี้ในบทความวิจัยโดยใช้การกระจายตัวของโบลทซ์มันน์เพื่อหาคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ของแก๊สอุดมคติกึ่งคลาสสิก ชเรอดิงเงอร์ขออนุญาตใส่ชื่อไอน์สไตน์เป็นผู้เขียนบทความร่วม แต่ต่อมาไอน์สไตน์ปฏิเสธคำเชิญนั้น


ตู้เย็นไอน์สไตน์


พ.ศ. 2469 ไอน์สไตน์กับลูกศิษย์เก่าคนหนึ่งคือ ลีโอ ซีลาร์ด นักฟิสิกส์ชาวฮังการีผู้ต่อมาได้ร่วมในโครงการแมนฮัตตัน และได้รับยกย่องในฐานะผู้ค้นพบห่วงโซ่ปฏิกิริยา ทั้งสองได้ร่วมกันประดิษฐ์ ตู้เย็นไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวเลย และใช้พลังงานนำเข้าเพียงอย่างเดียวคือพลังงานความร้อน สิ่งประดิษฐ์นี้ได้จดสิทธิบัตรในปี พ.ศ. 2473


บอร์กับไอน์สไตน์

ราวคริสต์ทศวรรษ 1920 มีการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัมให้เป็นทฤษฎีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไอน์สไตน์ไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการตีความโคเปนเฮเกนว่าด้วยทฤษฎีควอนตัม ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย นีลส์ บอร์ กับ แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก ซึ่งอธิบายปรากฏการณ์ทางควอนตัมว่าเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น ที่จะส่งผลต่อเพียงอันตรกิริยาในระบบแบบดั้งเดิม มีการโต้วาทีสาธารณะระหว่างไอน์สไตน์กับบอร์สืบต่อมาเป็นเวลายาวนานหลายปี (รวมถึงในระหว่างการประชุมซอลเวย์ด้วย) ไอน์สไตน์สร้างการทดลองในจินตนาการขึ้นเพื่อโต้แย้งการตีความโคเปนเฮเกน แต่ภายหลังก็ถูกบอร์พิสูจน์แย้งได้ ในจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งไอน์สไตน์เขียนถึง มักซ์ บอร์น ในปี พ.ศ. 2469 เขาบอกว่า "ผมเชื่อว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างสรรพสิ่งด้วยการทอยเต๋า"


ไอน์สไตน์ไม่เคยพอใจกับสิ่งที่เขาได้รับรู้เกี่ยวกับการอธิบายถึงธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์ในทฤษฎีควอนตัม ในปี พ.ศ. 2478 เขาค้นคว้าเพิ่มเติมในประเด็นเหล่านี้ร่วมกับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน คือ บอริส โพโดลสกี และ นาธาน โรเซน และตั้งข้อสังเกตว่า ทฤษฎีดังกล่าวดูจะต้องอาศัยอันตรกิริยาแบบไม่แบ่งแยกถิ่น ต่อมาเรียกข้อโต้แย้งนี้ว่า EPR พาราด็อกซ์ (มาจากนามสกุลของไอน์สไตน์ โพโดลสกี และโรเซน) การทดลอง EPR ได้จัดทำขึ้นในเวลาต่อมา และได้ผลลัพธ์ที่ช่วยยืนยันการคาดการณ์ตามทฤษฎีควอนตัม


สิ่งที่ไอน์สไตน์ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของบอร์เกี่ยวพันกับแนวคิดพื้นฐานในการพรรณนาถึงวิทยาศาสตร์ ด้วยเหตุนี้การโต้วาทีระหว่างไอน์สไตน์กับบอร์จึงได้ส่งผลสืบเนื่องออกไปเป็นการวิวาทะในเชิงปรัชญาด้วย



รางวัลโนเบล

พ.ศ. 2465 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2464 ในฐานะที่ "ได้อุทิศตนแก่ฟิสิกส์ทฤษฎี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบกฎที่อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก" ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงงานเขียนของเขาในปี 2448 "โดยใช้มุมมองจากจิตสำนึกเกี่ยวกับการเกิดและการแปรรูปของแสง" แนวคิดของเขาได้รับการพิสูจน์อย่างหนักแน่นจากผลการทดลองมากมายในยุคนั้น สุนทรพจน์ในการมอบรางวัลยังระบุไว้ว่า "ทฤษฎีสัมพัทธภาพของเขาเป็นหัวข้อถกเถียงที่น่าสนใจที่สุดในวงวิชาการ (และ) มีความหมายในทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ซึ่งประยุกต์ใช้อย่างชัดเจนในปัจจุบัน"



เชื่อกันมานานว่าไอน์สไตน์มอบเงินรางวัลจากโนเบลทั้งหมดให้แก่ภรรยาคนแรก คือมิเลวา มาริค สำหรับการหย่าขาดจากกันในปี พ.ศ. 2462 แต่จดหมายส่วนตัวที่เพิ่งเปิดเผยขึ้นในปี พ.ศ. 2549 บ่งบอกว่าเขานำไปลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา และสูญเงินไปเกือบหมดจากเหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่



ไอน์สไตน์เดินทางไปนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรก เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2464 เมื่อมีผู้ถามว่า เขาได้แนวคิดทางวิทยาศาสตร์มาจากไหน ไอน์สไตน์อธิบายว่า เขาเชื่อว่างานทางวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าได้จากการทดลองทางกายภาพและการค้นหาความจริงที่ซ่อนเอาไว้ โดยมีคำอธิบายที่สอดคล้องกันได้ในทุกสภาวการณ์โดยไม่ขัดแย้งกันเอง ไอน์สไตน์ยังสนับสนุนทฤษฎีที่ค้นหาผลลัพธ์ในจินตนาการด้วย


มรดก

ระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยว ไอน์สไตน์ได้เขียนบันทึกประจำวันส่งให้ภรรยาของเขา คือเอลซา กับบุตรบุญธรรมอีกสองคนคือมาร์ก็อตและอิลซา จดหมายเหล่านี้รวมอยู่ในเอกสารที่ยกให้แก่มหาวิทยาลัยฮีบรู มาร์ก็อต ไอน์สไตน์ อนุญาตให้เผยแพร่จดหมายส่วนตัวแก่สาธารณชนได้ แต่จะต้องเป็นเวลา 20 ปีหลังจากเธอเสียชีวิตแล้วเท่านั้น (มาร์ก็อตเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2529....บาร์บารา โวลฟ์ ผู้ดูแลรักษาเอกสารของไอน์สไตน์ที่มหาวิทยาลัยฮีบรู ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า มีจดหมายติดต่อส่วนตัวระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2455-2498 เป็นจำนวนมากกว่า 3,500 หน้า


สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดสร้างรูปปั้นอนุสรณ์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นทองแดงและหินอ่อนและสลักโดยโรเบิร์ต เบิร์คส์ ในปี พ.ศ. 2522 ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ใกล้กับ National Mall

ไอน์สไตน์ทำพินัยกรรมยกลิขสิทธิ์การใช้งานภาพของเขาทั้งหมดให้แก่มหาวิทยาลัยฮีบรู กรุงเยรูซาเล็ม ต่อมา บริษัท คอร์บิส คอร์ปอเรชั่น ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อและภาพต่างๆ ของเขา ในฐานะตัวแทนผู้มีอำนาจแทนมหาวิทยาลัยฮีบรู


ป้ายอนุสรณ์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในกรุงเบอร์ลิน

เกียรติคุณและอนุสรณ์

พ.ศ. 2542 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้รับยกย่องเป็น "บุคคลแห่งศตวรรษ" โดยนิตยสารไทมส์.... กัลลัพโพล ได้บันทึกว่าเขาเป็นบุคคลผู้ได้รับการยกย่องสูงที่สุดอันดับ 4 แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 และจากการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้มีอิทธิพลอย่างสูงในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์เป็น "นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 และหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะตลอดกาล"


ต่อไปนี้เป็นรายชื่ออนุสรณ์ส่วนหนึ่ง

สหพันธ์นานาชาติฟิสิกส์บริสุทธิ์และฟิสิกส์ประยุกต์ ได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2548 เป็น "ปีฟิสิกส์โลก" เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 100 ปีครบรอบการตีพิมพ์ Annus Mirabilis Papers

สถาบันอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

อนุสรณ์สถานอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ โดย โรเบิร์ต เบิร์คส์
หน่วยวัดในวิชาโฟโตเคมี ชื่อว่า ไอน์สไตน์

เคมีธาตุลำดับที่ 99 ชื่อ ไอน์สไตเนียม (einsteinium)

ดาวเคราะห์น้อย 2001 ไอน์สไตน์

รางวัลไอน์สไตน์

รางวัลสันติภาพไอน์สไตน์

ปี พ.ศ. 2533 ได้มีการจารึกชื่อของไอน์สไตน์เข้าไว้ใน วิหารวัลฮัลลา หอเกียรติยศซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูป ประเทศเยอรมัน

.................
ขอบคุณ วิกิพีเดีย
ขอบคุณพิเศษสำหรับผู้ที่เขียนแลัค้นคว้าบทความนี้ขึ้นมา

  • นอกจากเนื้อหาข้างต้น....Smiley

ท่านขุนฯ เคยได้อ่านข้อความ หรือ บท ความ ...ปริศนาคำพูดของอัลเบิร์ต ไอสไตล์ กล่าวถึงพระพุทธศาสนาก่อนเสียชีวิต เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง....


ถึงแม้อัลเบิร์ต ไอสไตล์ ได้จากโลกนี้ไปโดยที่เขายังไม่สามารถค้นพบตำตอบตามที่เขากำลังต้องการก็ตาม แต่ไอสไตล์ได้ทิ้งคำพูดที่เป็นปริศนาที่สำคัญมากให้กับมนุษยชาติ ในช่วงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขา อัลเบิร์ตได้เริ่มสงสัยแล้วว่า พระพุทธศาสนา อาจจะเป็นศาสนาที่ให้คำตอบต่อคำถามที่เขากำลังพยายามค้นหา ในช่วง 1 ปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้น มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน ได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาชื่อเรื่อง " The Human Side " ซึ่งนักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า

The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein)

"ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา"

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพันธภาพ

คำพูดของไอสไตล์นั้นมีความนัยที่สำคัญซ่อนอยู่และรอคอยการค้นพบ และทฤษฎีเอกภาพหรือทฤษฎีสรรพสิ่งที่ต้องการค้นหานั้น ที่จริงพระพุทธเจ้าได้ตอบให้เบ็ดเสร็จก่อนหน้านั้น 2500 ปี


..........................

  • บล็อกเนื้อหาหมวด " วิทยาศาสตร์" นะขอรับ



Create Date : 08 เมษายน 2556
Last Update : 29 เมษายน 2556 4:59:46 น. 53 comments
Counter : 2604 Pageviews.

 
ได้ทราบประวัติไอน์สไตน์เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog


โดย: ALDI วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:3:48:30 น.  

 
สวัสดีขอรับ คุณตอง (คุณ ALDI ) ขอบคุณขอรับ สำหรับคะแนนโหวตมากๆนะขอรับ ...วันนี้ท่านขุนฯ นำบุญมฝากคุณ ตอง(คุณ ALDI)และเพื่อนๆบล็อกทุกท่านด้วยขอรับ เนื่องจากว่าวันหยุดเกือบทุกสัปดาห์มักจะนัดเพื่อนๆไปเจอกันที่วัด (มีสาวสวยชาวเอเชียเยอะดีก๊าก)ม่ายช่ายขอรับ ก็เพื่อนๆชาวพุทธด้วยกัน ...ส่วนบุญ ก็มีนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม และวันนี้ ท่านขุนฯ เป็นประธานร่วมกับเพื่อนชายชาวอเมริกา ซึ่งเป็นประธานนำกล่าวถวายภัตตาหาร (เพื่อนฝรั่ง)อ่านภาษาบาลี ..ส่วนท่านขุนฯอ่านภาษาไทย(ถนัดดี)อิอิ ..และก็ตักบาตร ถวายภัตตาหาร แด่พระภิกษุสงฆ์...ก็ขอแบ่งบุญให้เพื่อนชาวบล็อกแก๊งทุกท่านนะขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:4:35:48 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาฝากครับ

วันนี้ตั้งใจมาโหวต และไลค์ ส่งกำลังใจไปให้ท่านขุนฯด้วยนะครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog

........................................................

" วันนี้ท่านขุนฯ นำบุญมฝาก ... เพื่อนๆบล็อทุกท่านด้วยขอรับ "

อนุโมทนาบุญกับท่านขุนฯด้วยครับ




โดย: **mp5** วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:7:21:08 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: I'm Albert Einstein (Opey ) วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:7:44:25 น.  

 
>

สุดยอดแห่งความรู้เลยค่ะ เคยอ่านในหนังสือมาบ้าง ดีค่ะ เอามาลงเสริมอีก

วันนี้เชียงใหม่ไม่ร้อน เหมือนฝนจะตกเลย


โดย: Pikake วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:8:47:38 น.  

 
แวะมาอ่านเก็บตกประวัตินักวิทย์ฯ อีกท่านที่สำคัญระดับโลกค่ะ...ตอนเด็กๆ เคยเรียนเคยท่อง เคนอ่านผ่านสายาเน๊อะ แต่...เดี๋ยวนี้ก็ลืมมั่งอะไรมั่งตามประสาคนแรมน้อยค่ะ มีสารพัดสิ่งอย่างให้เปลืองพื้นที่ในสมองอยู่เสมอ หุหุ

ขอให้มีความสุขในวันดีๆ อีกวันนะคะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:9:12:46 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมโมเสสและแม่โมเสมอค่ะ
เช้าวันจันทร์อีกแล้ว แต่ก็ร้อนอีกตามเคย เอ๊ะ ! ยังไง
สวัสดีค่า


โดย: mariabamboo วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:10:26:07 น.  

 
55555 แหม เห็นซะแระ เขินจังเลย แหะๆ
ลมคงพัดไม่ไหวหรอกค่ะ ตัวหนักซะขนาดนี้ โน่นต้องไอ้คนที่นอนแกร่วอยู่บนเตียง ตอนนี้เหลือแต่กระดูก ต้องบำรุงหนักๆ

น่าอิจฉาจังเลยค่ะ ได้อยู่ท่ามกลางอากาศเย็นๆ และได้สัมผัสหิมะของจริงด้วย อยากเห็นมั่งจังเลย

ที่นี่ร้อนมากกกกกก เหมือนจะร้อนกว่าทุกๆ ปีด้วยค่ะ ขนาดกลางคืนยังร้อนจนแทบทนไม่ไหว ไม่อยากจะออกแดด อยากจะขุดรูอยู่แทนค่ะ

แวะมาทักทายยามใกล้เที่ยง (ของที่นี่) ค่ะ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:11:19:24 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับชีวประวัติ
และผลงานของนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกทึ่งจริงๆที่คนที่เรียนรู้ได้ช้ากลายมาเป็นนักวิทยาศาสตร์
ที่สร้างคุณูปการให้แก่โลกนี้อย่างมากมาย ทั้งหมดนี้คงเกิดจากความเพียรโดยแท้ค่ะ

ขอบคุณที่แวะทักทายเสมอและขอบคุณสำหรับอาหารสมองค่ะ






โดย: ฝากเธอ วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:12:07:08 น.  

 
"ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา"
...............................................................................................................................

นอกจากท่านจะศึกษาทางวิทยาศาสตร์จนเชี่ยวชาญแล้ว
ยังสนใจศึกษาทางด้านศาสนาด้วยนะคะ น่ายกย่องจริงๆค่ะ


โดย: ฝากเธอ วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:12:10:06 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ^^

อัจฉริยะจริงๆ ไม่ใช่ใครก็ทำได้ อิอิ



โดย: lovereason วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:16:19:49 น.  

 
สวัสดีค่ะ ท่านคุณ

เวลาไปงานวิทยาศาสตร์ จะ้้ต้องมีหุ่นขี้ผึ้งของท่านอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มาตั้งอยู่ในงานด้วย
แต่ไม่มีชีวประวัติให้อ่านโดยละเอียดเหมือนที่บ้านท่านขุนเลยค่ะ
(สงสัยเอามาตั้งให้ถ่ายรูปกันลืมใบหน้าของท่านเฉยๆ)

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมามอบให้นะคะ

...

*ระยะนี้นอนหลับไม่่ค่อยสบาย อากาศร้อนจัดจริงๆ ค่ะ
มีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นบ่อยมาก บ่อยจนระแวงหมดเลย



โดย: มัดใจ วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:16:23:45 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ
ขนมถ้วยจีนหรือจุ๋ยก้วยนี้ ปรกติจะทำเป็นสีขาวค่ะ
แต่หน้าตาจะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ แต่น้ำดอกไม้จะหอม ๆ หวาน ๆ ค่ะ
ส่วนขนมถ้วยจีนจะจืดสนิทค่ะ ต้องทานกับไส้ซึ่งมีรสขาดเค็ม ๆ หวาน ๆ ค่ะ
พอดีงานนี้ทำส่งการบ้าน 3F ค่ะก็เลยต้องมีการเปลียนสีกันเล็กน้อยค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:16:38:46 น.  

 
ขอบใจที่แวะไปทักทายกันจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:20:28:29 น.  

 
สวัสดียามดึกคะ ท่านขุน
ขอบคุณที่เป็นห่วงกันนะคะ
ทางนี้สถานะการณ์ปกติคะ ทางคนเกาหลีเอง
ก็ไม่แตกตื่นเท่าไหร่ อาจเป็ฯเพราะที่จริงแล้วข่าวทำนองอีก
ออกเป็นประจำคะ เพราะงั้นเลยปล่อยคะ ไม่รู้จะเกิดสงครามหรืออะไรจริงๆเมื่อไหร่ มีแค่ผลทางเศรษฐกิจมากหน่อยเพราะข่าวออกแบบนี้เงินวอนราคาล่วงนะคะ ส่งเงินให้พ่อแม่ที กลุ้มเลยคะ


โดย: Clannad วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:21:11:42 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่ะ

แวะมาโหวตให้นะคะ
มีความสุขกับการทำงานวันแรกของสัปดาห์ค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
schnuggy Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog








โดย: ฝากเธอ2 วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:21:37:56 น.  

 
น่าทึ่งกับชีวิตของนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ครับ
โหวตให้ครับ ท่านขุน
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:8:06:12 น.  

 


เมื่อครู่นี้ไปอ่าน MSN ปิดตัวมา แต่ไม่มีเม้น
เลยเข้ามาใหม่ค่ะ ปกติก็ยังเล่นได้อยู่นะ


โดย: Pikake วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:10:08:26 น.  

 
สวัสดีค่ะ ท่านขุน

อ้าวเหลือบขึ้นไปเห็นเม้นท์ของน้องโปร์ Pikake
MSN ปิดตัวจริงๆ หรอคะ


งั้นต้องหันกลับมาใช้นกพิราบสื่อสารกันเนาะ
บินไปกลับ ไทย-เมกา 3 เดือนไหวมั้ยคะนี่



โดย: มัดใจ วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:11:18:26 น.  

 
เข้าไปอ่านเรื่อง MSN มาแล้วค่ะ
รู้สึกเศร้าๆเหมือนกันที่ต้องปิดตัวลง
เพราะตัวเองใช้เน็ตเป็นและคล่องจนทุกวันนี้ก็เริ่มที่ MSN
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นไม่ได้ใช้มาร่วม 4-5 ปีแล้ว
แต่ก็ยังเข้าไปเช็คเมล์ทาง MSN อยู่เสมอค่ะ

ขอบคุณที่แวะชมบล็อกแกงไตปลานะคะ
ไม่คิดว่าคุณจะเคยทานด้วย เพราะแกงแบบใส่กะทิออกจะหาทานยาก

นอนหลับฝันดี ตื่นมาพบเช้าวันใหม่ที่สดชื่นค่ะ







โดย: ฝากเธอ วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:13:26:15 น.  

 
ขอบคุณสำหรับโหวตค่าท่านขุน


โดย: schnuggy วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:15:09:42 น.  

 
เคยศึกษาประวัติของท่านเมื่อหลายปีก่อน
เนื่องจากผมชอบฟิสิกส์มาก เลยพลอยชอบท่านไปด้วย

เคยเขียนเปรียบเทียบใน blog ว่า " ไอน์สไตน์" คือ นักตีดาบ ขึ้นอยู่กับคนซื้อไปใช้ว่าจะทำไปใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดี...


โดย: อัสติสะ วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:21:14:11 น.  

 
ขอบใจที่แวะไปทักทายกันเสมอจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:21:40:18 น.  

 
ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ

สวัสดีตอนดึกๆ นะคะ


โดย: สมุดบันทึกสีเทา วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:23:31:13 น.  

 
สวัสดีค่ะท่านขุน

ข้าน้อยกลับมารายงานตัวแล้วค่ะ
หลายวันที่ผ่านมา มิได้ห่างหายไปไหนหรอคก่ะ
มัวแต่ติดภารกิจในการเคลียร์งานเคลียร์คิวค่ะ
ยังมิได้หนีไปเมืองนอกหรอกคร๊าาา แต่พรุ่งนี้จะบินแระ ฮ่าๆ
ท่านขุนเนี่ย เดาได้แม่นยำยิ่งนักค่ะ ขอนับถือๆๆๆ

ยังไงก็ฝากบ้านฝากช่องด้วยนะคะ
กลับมาแล้วจะนำภาพมาฝากคร๊าาา

ใกล้สงกรานต์แล้ว ขอให้มีความสุขในวันหยุดยาวนะคะ
หากเดินทางไปไหน ขอให้ปลอดภัยทั้งไปและกลับค่ะ



โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:8:59:45 น.  

 
วันนี้แม่โมว่าง แวะมาบ้านท่านขุนซะหน่อย ทักทายนะคะ


โดย: mariabamboo วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:9:10:47 น.  

 
อัจฉริยะ
เพราะงานของเค้าเสียงดังทีุ่สุดอ่ะเนอะคุณพ่อขุนฯ อิอิ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:14:15:50 น.  

 
โอว้ ท่านขุนอย่าพูดเยี่ยงนี้สิค่ะ
อยากเจออากาศร้อนๆ ก็บินกลับมาเมืองไทยสิค่ะ
ตอนนี้ 40 องศาแล้วคร๊า



ท่านขุนอยู่เมกาเหรอค่ะ
คิดว่าอยู่เมืองไทยเสียอีก แฮ่ๆ
มีทั้งหิมะ และพายุพร้อมๆ กัน
ยังไงก็ระวังสุขภาพด้วยนะคะ

กลับมาเมืองไทยบ้างหรือป่าวค่ะ
ปอยไปต่างประเทศหลายวันไม่ได้ค่ะ คิดถึงอาหารเมืองไทย
ไปที่ไหน ก็สู้บ้านเราไม่ได้เนาะท่านขุน



โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:18:44:27 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะท่านขุน
วันนี้ได้รู้เกี่ยวกับไอน์สไตน์แบบเต็มๆ

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ


โดย: pantawan วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:23:13:43 น.  

 
สวัสดีค่ะท่านขุน

มาอ่านประวัตินักวิทยาศาสตร์คนดังค่ะ
มาส่งกำลังใจให้ท่านขุนด้วยค่ะ

ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog


รักษาสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:1:20:19 น.  

 
สวัสดียามบ่ายคะท่านขุน
ว่าแต่ที่โน่นมีตั๋วไปเกาหลีเหนือด้วหรอคะ
เคยเหนในกระทู้พันทิปเห็นมีแต่จากจีนไปเกาหลีเหนือ


ว่าแต่ที่โน้นคุยเรื่องเกาหลีเหนือ ว่าอย่างไรบ้างคะ เก็บมาเม้ามอยให้ทางนี้ฟังบ้างอยากรุว่าแต่ละที่มีคามคิด้ห็นอย่างไร
ปล..ดูแลสุขภาพเช่นกันนะคะ


โดย: Clannad วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:10:39:08 น.  

 


ใกล้ปีใหม่แล้ว ไปแอ่วไหนกันค่ะ สาดน้ำแถวไหนเอ่ย.........


โดย: Pikake วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:10:48:17 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาทักทายแต่เช้านะคะ
สงกรานต์ไปเที่ยวไหนหรือเปล่าคะ
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:11:21:42 น.  

 
หวัดดีค่า เชียงใหม่คึกคักแล้ว เที่ยวสงกานต์ที่ไหนคะ


โดย: mariabamboo วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:12:03:20 น.  

 
มีดอกไม้มาฝาก
หยุดหลายวันไปเที่ยวไหนครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:13:09:24 น.  

 


โดย: Handmade วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:21:00:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ ท่านขุน

ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณท่านขุนสำหรับโหวตด้วยนะคะ
มัดใจโหวตให้ท่านขุนและเพื่อนอีกหลายท่าน แต่ไม่ได้แจ้งใครเลยค่ะ
ฮ่าๆๆ ดักซุ่มหลังบ้าน

พูดถึงเรื่องเทศกาลประเพณีสงกรานต์
คนยุคนี้ว่าสนุก มันสุดเหวี่ยงยังไง
แต่หารู้ไม่ ศิริมงคล เริ่มจางหายจากตัว ยังไม่รู้กันอีกนะคะ




โดย: มัดใจ วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:21:55:00 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:22:14:56 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
และขอให้มีความสุขมากๆค่ะ


โดย: Suessapple วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:0:51:35 น.  

 
มาอ่านประวัติและมาโหวตให้ด้วยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:8:20:28 น.  

 
สวัสดีวันปีใหม่ไทย(ล่วงหน้าค่ะ)

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้...ท่านขุนและครอบครัว
จงประสบพบเจอแต่สิ่งดีงาม
มีความสุขความเจริญ ก้าวหน้าทั้งกายและใจ

มีพลังในการคิดดี...ทำดี...

มีพลังในการต่อสู้กับการงานและหน้าที่

มีพลังในการดำเนินชีวิตอย่างมั่นคงแข็งแรงด้วยเทอญ

...สาธุ...


โดย: มัดใจ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:10:02:30 น.  

 


สวัสดีคะ ทักทายวันศุกร์สุขใจจ้า


โดย: Pikake วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:11:24:30 น.  

 






ขอให้มีความสุขมากๆในปีใหม่ไทย 2556 นี้นะขอรับ


เดินเยี่ยมหลายบล็อก..คงไม่ทั่วแน่ๆ..แปะหน้าบล็อกของตัวเอง..มั่ง...มอบเป็นของขวัญของระลึกแด่เพื่อนๆทุกท่านนะขอรับ

วันนี้ช่วงเช้าออกบ้านไปทำงาน พายุหิมะ .. หนักอย่างมากมองไม่เห็นทาง... จนขับรถเลยบริษัท ... ที่แรกกะจะกลับบ้าน แต่ก็กลับไม่ได้ ไม่กล้าเลี้ยวรถ มันอันตราย เอาแต่ขับไปข้างหน้าลูกเดียว....อืมม์ง่วงแล้วล่ะ... ช่วงนี้ยุ่งๆ จะค่อยๆเยี่ยมหาเพื่อนๆ..ไม่ว่ากันนะขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:12:19:49 น.  

 
สวัสดีค่ะท่านขุน
ทางนี้หิมะยังตกอยู่อีกเหรอคะ
ทางเมืองไทยร้อนจริงๆ อยากขอแบ่งหิมะบ้างอ่ะค่ะ
แต่เมื่อวานดีหน่อยมีฝนตกลงมาพอชื่นใจ ช่วยคลายร้อนได้บ้าง

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ





โดย: ฝากเธอ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:12:51:11 น.  

 
ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยไม่มีรูปและเวลามาอัพบล๊อคเลยค่ะ

สงกรานต์นี้อากาศที่นี่ยังเย็นต่ำกว่าสิบองศา
ถ้าออกไปเล่นคงเป็นหวัดแน่ๆเลย
คงได้แต่นั่งดูเพื่อนๆเล่นสงกรานต์กันในเนตนี่แหละค่่ะ

สุขสันต์วันสงกรานต์และสวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะท่านขุน



โดย: Suessapple วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:13:29:37 น.  

 
สุขสงกานต์นะคะ


โดย: mariabamboo วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:14:20:41 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: หอมกร วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:22:08:21 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ท่านขุน


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:23:54:57 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ไทยจ้า

แถวบ้านท่านขุนจัดงานสงกรานต์หรือป่าวค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:0:52:37 น.  

 
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ ดึกแล้วยังไม่นอนรึค่ะ บล๊อกคุณเต็มไปด้วยความรู้เลยนะค่ะเนี่ย ยินดีที่ใด้รู้จักค่ะ


โดย: DiMs (Yellow-Acoustic-Girl ) วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:1:54:58 น.  

 
คุณ ข้ามขอบฟ้า ขอรับ.. สงกรานต์ งานมีจัดขอรับ จัดกันที่วัดไทย ชาวพุทธเราก็จะมาเจอกันรวมตัวกันที่นั้น... ช่วงเช้าทำบุญตักบาตร นั่งสมาธิ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ...รับประทานอาหารร่วมกัน ภาคบ่าย รดน้ำพระ... สวมมาลัยดอกไม้แด่ผู้สุงวัยพร้อมขอขมา... พิธีการ เด็กๆกราบเท้าขอขมาคุณพ่อคุณแม่ ..บรรยากาศ ล้วนเต็มไปด้วยบุญขอรับ... ไม่มีเรื่องของกิเลส หากจะมีก็จะเพียงกิเลสให้สร้างความดี...ต่อ...แต่ก็นั้นแหละ..มนุษย์เราๆยังต้องขัดเกลาอีกเยอะอีกหลายชาติ...นับหรือคำนวน?ไม่ได้...ก็ยังเป็นเรื่องที่คนอย่างเราๆท่านๆต้องฝึกฝนกันต่อไป... สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:1:57:41 น.  

 
แถวนี้มันยังไม่ดึกนะค่ะ อิอิ


โดย: DiMs (Yellow-Acoustic-Girl ) วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:3:11:38 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^

อากาศร้อนแบบนี้ สาดน้ำนิดหน่อยก็คงจะเย็นขึ้นบ้าง

มีความสุขมากๆ นะคะ ^^


โดย: สมุดบันทึกสีเทา วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:3:37:17 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.