Bloggang.com : Rain_sk : 125 ปีกระทรวงกลาโหม กับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ

125 ปีกระทรวงกลาโหม กับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ

125 ปีกระทรวงกลาโหม กับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ

ชูชาติ แก้วเก่า/รายงาน

นับตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.2430 อันเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนากรมยุทธนาธิการขึ้นที่บริเวณโรงทหารหน้า ปัจจุบันคือศาลาว่าการกลาโหม

นับเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินกิจการทหารสมัยใหม่ให้มีความเป็นสากลทัดเทียมนานาอารยประเทศ และรองรับการเผชิญภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจในยุคล่าอาณานิคม โดยพัฒนาทั้งในเรื่องของการจัดส่วนราชการ โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และภารกิจอย่างต่อเนื่อง จนเป็น กระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 125 ปีที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมฟันฝ่าปัญหาและสิ่งท้าทายนานัปการ ตั้งแต่ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นภายในประเทศหรือสิ่งที่ท้าทายที่เป็นผลกระทบอันเกิดจากปัจจัยภายนอกประเทศ ปัญหาภัยธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่ภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น

ส่งผลให้ต้องปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนกระบวน การทางความคิดและวิธีการทำงาน จึงเป็นปัจจัยสำคัญให้กระทรวงกลาโหมและกิจการทหารไทยต้องปรับตัวและมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

"ภารกิจในการป้องกันและรักษาความมั่นคงจากภัยคุกคามทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงการรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของประชาชน เป็นที่รวมของทหารทั้งสามเหล่าทัพ คือ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมได้ปรับปรุงโครงสร้างยุทธศาสตร์ของกองทัพให้สอดคล้องกับภัยคุกคามคู่ไปกับการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะบูรณาการเชิงรุกตามนโย บายรัฐบาล" พล.อ.อ. สุกำพลกล่าว

กระทรวงกลาโหมกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศเชิงรุกควบคู่ไปกับการพัฒนาความพร้อมรบในทุกมิติเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยน แปลง โดยยึดหลักการพึ่งพาตนเอง กระทรวงกลาโหมจัดทำยุทธ ศาสตร์ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย

ด้านการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

ทั้งในฐานะที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศและทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์คงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทย และเป็นสถาบันหลักที่สำคัญยิ่งของชาติ ทั้งในการถวายพระเกียรติและถวายความปลอดภัย รวมถึงการดำเนินการและปฏิบัติงานร่วมกับส่วนราชการต่างๆ

สนับสนุนการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การดำเนินการตามพระราชประสงค์ ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบัน ป้องปรามและป้องกันการล่วงละเมิดสถาบัน

ด้านการป้องกันประเทศให้มีความพร้อมในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ของชาติ

เสริมสร้างศักยภาพของกองทัพให้สอดคล้องกับพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงทางทหารของโลกในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาความพร้อมด้วยการใช้ปฏิบัติการในลักษณะการรบร่วมเป็นหลัก รวมถึงการพัฒนาคุณภาพของกำลังพล การพัฒนางานด้านการข่าวให้ปฏิบัติภารกิจของกองทัพได้ในทุกระดับ ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีทางทหาร

โดยสนับสนุนให้มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาเทคโน โลยีทั้งในกองทัพ ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมภายในประเทศ เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองและพัฒนาไปสู่การผลิตเพื่อการค้า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการสำรองยุทโธปกรณ์และพลังงานเพื่อความมั่นคง เพื่อการปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ

ด้านการรักษาความมั่นคงแห่งรัฐ

พัฒนาการผนึกกำลังกับทุกส่วนของสังคมด้วยการนำพลังอำนาจแห่งชาติทุกด้านมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงร่วมกับกระทรวงกลาโหม โดยในยามปกติกระทรวงกลาโหมจะต้องใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย การสนับสนุนการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดและการเร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

รวมทั้งสนับสนุนการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ การพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง การช่วยเหลือประชาชน การแก้ไขปัญหาทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาภัยพิบัติโดยเฉพาะปัญหาอุทกภัย การร่วมจัดการ กับปัญหาก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ ปัญหายาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมืองและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ การกระทำอันเป็นโจรสลัดและภัยจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน มิตรประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ

เสริมสร้างทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและจัดระเบียบสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ สร้างสันติ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความก้าวหน้าและความสงบสุขร่วมกัน และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการนำไปสู่การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปีพ.ศ.2558

การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพในกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียนและกองทัพของมิตรประเทศ เพื่อลดโอกาสของการใช้กำลังระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งเรื่องพรมแดนทั้งทางบกและทางทะเล ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของกองทัพในภารกิจระหว่างประเทศ เพื่อให้กองทัพขยายบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ อันจะมีการเสริมสร้างเกียรติภูมิของ กองทัพและของประเทศ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทในการรักษาสันติภาพ ของโลกภายใต้กรอบสหประชาชาติ

ด้านการพัฒนาประเทศและสนับสนุนงานที่สำคัญของชาติ

นับเป็นหน้าที่และบทบาทสำคัญของกระทรวงกลาโหมควบคู่ไปกับการป้องกันรักษาเอกราชอธิปไตยและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ โดย ใช้ศักยภาพของกำลังพลตลอดจนยุทโธปกรณ์ พร้อมช่วยพัฒนาและเสริมสร้างความมั่นคงในมิติต่างๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ อาทิ ปัญหายาเสพติด การสร้างความสัมพันธ์และ ความปรองดองของคนในชาติ การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

สถาบันพระมหากษัตริย์ ทหาร และสังคมไทย มีความผูกพันเกี่ยวข้องดำรงอยู่คู่กันมาตั้งแต่การสร้างชาติ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการพัฒนาให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมตั้งแต่ต้นรัชกาล โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจในฐานะ "องค์จอมทัพไทย" ที่ทรงให้ทหารตระหนักถึงภาระหน้าที่อันกว้างขวาง ใช้ศักยภาพของกองทัพให้เข้ามามีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ นอกเหนือจากภาระหน้าที่หลักในการปกป้องรักษาอธิปไตยของบ้านเมือง

กระแสการพัฒนากลายมาเป็นอุดมการณ์ใหม่ ที่มีการผสมผสานยุทธศาสตร์ของการอยู่รอดกับการอยู่ดี ซึ่งสอดคล้องกับคาถาที่ปรากฏอยู่บริเวณหน้าจั่วด้านหน้าศาลาว่าการกลาโหมที่ว่า "วิเชตฺวา พลตาภูปํ รฏเฐสาเธตุ วุฑฺฒิโย" ที่ส่อความหมายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญมีใจความ "ขอให้พระ มหากษัตริย์เจ้าพร้อมด้วยปวงทหาร จงมีชัยชนะ ยังความเจริญสำเร็จในแผ่นดินเทอญ"

ที่มา นสพ ข่าวสด

Create Date : 08 เมษายน 2555

Last Update : 8 เมษายน 2555 10:28:19 น.

0 comments

Counter : 1821 Pageviews.