นายเอนก กล่าวว่า ขี้หรือมูลสัตว์ต่างๆ  มีราคาสามารถขายได้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรม สมมุติว่าขายกระสอบละ 20-25 บาท  เราขายได้ตลอด 365-366 วัน หรือในรอบหนึ่งปี   หากเปรียบเทียบกับการเลือกตั้ง 1 ครั้ง  อยู่ในวาระ 4 ปี   เขามาซื้อเสียงแล้วเราขายสิทธิ์  500-1,000 บาท  เอาจำนวนวันทั้งหมดของ 4 ปี เป็นตัวตั้ง  หารด้วย 1,000 บาท   จะพบว่าเรามีค่าวันละไม่กี่บาท ซึ่งไม่คุ้มค่าต่อตัวเองและครอบครัว  การขายขี้มีศักดิ์ศรีมีเงินมากกว่าขายเสียง   ทั้งนี้  ตนไม่มีเจตนาประชดประชันทางการเมือง  และไม่บังอาจชี้นำชาวบ้าน  เพียงแต่ตั้งความหวังว่าการเลือกตั้งทุกสนามน่าจะบริสุทธิยุติธรรม  แต่ปรากฏว่าเงินเป็นตัวช่วยสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 13 พฤษภาคม จะมีการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 5 แห่ง  การติดตั้งป้ายดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณอะไร  นายเอนก กล่าวว่า  ตนไม่ฝักใฝ่การเมือง ไม่คิดเล่นการเมืองและไม่เคยสนับสนุนผู้สมัครทุกระดับ ดังที่กล่าวแล้วว่าเจตนาตนคือไม่อยากให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง  ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีนัยยะใดแอบแฝง เป็นเจตนาบริสุทธิ์ 

คลิกชมภาพต่อที่นี่....นสพ มติชน