Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
2 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
เลือกสิ่งที่ใช่ เรียนอย่างที่ชอบ ครูแนะแนวแรงผลักสำคัญ



เรียนอย่างที่ชอบ ครูแนะแนวแรงผลักสำคัญ
เลือกสิ่งที่ใช่

การสอบเข้ามหาวิทยาลัยถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของ นักเรียนชั้น ม.6 เพราะการสอบนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสอบเพื่อศึกษาต่ออย่างเดียวเท่านั้น แต่ผลลัพธ์จากการสอบอาจกำหนดอาชีพในอนาคต ซึ่งการให้ได้มาซึ่งหนทางที่ต้องการจำเป็นต้องได้รับการแนะแนวอย่างเป็นระบบ ฉะนั้น ครูแนะแนวจึงมีส่วนเป็นอย่างยิ่งในการทำให้นักเรียนได้เรียนตามความสนใจ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ และเสริมสร้างอาชีพในอนาคต

ส่วนหนึ่งจากการสัมมนาทางวิชาการอาจารย์แนะแนวทั่วประเทศ ประจำปี 2555 ของ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงบทบาทครู แนะแนวเพื่ออนาคตเด็กไทยกับทิศทางแอดมิชชั่น ซึ่งมี " รศ.ดร.รุ่งแสง อรุณ ไพโรจน์" นายกสมาคมแนะแนวแห่งประเทศไทยมาให้ข้อเสนอแนะ

"รศ.ดร.รุ่งแสง" บอกว่า ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สิ่งที่นำมาประมวลผลคือคะแนนสอบ GPAX, O-NET, GAT/ PAT ซึ่งคะแนน GPAX, O-NET ครูแนะแนวมีส่วนช่วยได้มาก โดยคะแนนจาก GPAX เป็นคะแนนที่เกิดจากโรงเรียน อันมาจากคะแนนสองส่วน
คือ ความสามารถของนักเรียนในการสอบ และคะแนนจิตพิสัย แต่ละโรงเรียนให้ค่าน้ำหนักสัดส่วนที่ต่างกัน ดังนั้น ครูแนะแนวไม่ควรดูแต่คะแนนรวม แต่ต้องดูว่าแท้จริงคะแนนของนักเรียนเป็นอย่างไร เพื่อทราบว่าคะแนนความสามารถที่แท้จริงอยู่ด้านไหน

สำหรับการสอบ O-NET ส่วนใหญ่พบว่าแม้จะสอบเหมือนกัน แต่เนื้อหาการสอนของแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกัน ฉะนั้น ต้องทำให้นักเรียนมีโอกาสเข้าถึงข้อสอบ โดยสามารถเข้าไปดูข้อสอบเก่าทางอินเทอร์เน็ตได้ ให้เด็กได้ฝึกฝนตลอดเวลา ขณะเดียวกัน รูปแบบหรือลักษณะการตอบข้อสอบก็ปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อเตรียมพร้อมความเข้าใจให้กับนักเรียน ด้านการสอบ GAT/PAT หากให้เกิดผลดีจะต้องเริ่มที่ครูแต่ละวิชาต้องเข้าใจและรู้ว่าสาระที่นักเรียนต้องทราบมีอะไรบ้าง เป็นการเตรียมตัวให้นักเรียนอย่างถูกทาง

"การสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนต้องเลือกเรียนให้เหมาะสมกับสาขาวิชาที่ต้องการ ทำให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข ไม่หวาดผวาเมื่อถึงเวลาเรียน นำไปสู่การประกอบอาชีพที่ใช่ โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นตัวกลางในการพัฒนาเด็กเข้าสู่อาชีพ ซึ่งครูแนะแนวจะทราบอยู่แล้วว่าระบบการเข้ามหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร ทำให้เด็กเข้าคณะที่ต้องการ ได้จริง โอกาสในการเปลี่ยนคณะหรือ ลาออกก็จะมีน้อย ไม่ถึง 2%"

อย่างไรก็ตาม มองว่าระบบสอบเข้ายังมีปัญหาอยู่ และเชื่อว่าปัญหานี้จะไม่หมดไป เพราะไม่ว่าจะกำหนดรูปแบบ วิธีการสอบแบบใด ก็ไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาการลาออกกลางคัน เนื่องจากเด็กเลือกคณะไม่ตรงกับตัวตนของตัวเอง รวมถึงนักเรียนบางส่วนไม่สามารถเข้าเรียนสาขาที่ตนต้องการได้ เพราะไม่ได้รับข้อมูลการสอบที่มากพอ ทั้งยังมีบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพตามสาขาที่ตนจบ จึงทำให้คนอื่นที่อยากเรียนสาขานั้นไม่ได้เรียนตามที่หวัง

นอกจากนั้น "รศ.ดร.รุ่งแสง" ยัง กล่าวถึงองค์ประกอบการตัดสินใจในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยว่าประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ 1.ผู้ปกครอง ซึ่งได้รับการตีกรอบความคิดจากสังคม ครูแนะแนวจึงต้องสื่อสารให้ผู้ปกครอง เข้าใจเรื่องการศึกษาต่อ และการเข้าสู่อาชีพของบุตรหลาน โดยต้องเตรียมข้อมูลที่ดี มีหลักฐาน เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถร่วมตัดสินใจกับบุตรหลานได้

2.ข้อมูลอัตราการแข่งขัน ควรเปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูล

3.ตัวนักเรียน มีแรงกดดันจากหลายด้าน ถ้านักเรียนมีข้อมูล จะทำให้สามารถตัดสินใจเลือกเรียนได้ตามความสามารถ ความสนใจ และความถนัด อย่างถูกต้องชัดเจน

"กระทรวงศึกษาธิการควรให้ความสำคัญกับระบบการแนะแนวในโรงเรียน เพราะเรื่องของบุคลิกภาพ หรือการวัดแววอาชีพของนักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าครูไม่ได้รับการอบรมที่ดีมาก่อน หรือไม่มีความเข้าใจ นักเรียนจะไม่มั่นใจ และแม้ปัจจุบัน ครูแนะแนวได้รับการอบรมเยอะขึ้น แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ 5 ปี จากนี้ไป คนที่ได้รับการอบรมเป็นอย่างดีเริ่มถึง วัยเกษียณอายุกันแล้ว หากเราไม่มีการผลิตบุคลากรขึ้นมาทดแทนจะเกิด ช่องว่าง ดังนั้น รัฐบาลควรมีนโยบายออกมาว่า ให้แต่ละโรงเรียนมีครูที่จบแนะแนวโดยตรง"

เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ชัดเจน จะมีการวัดผลครูแนะแนวจากงานที่ทำ ตอนนี้มีเกณฑ์มาตรฐานการประเมินออกมาแล้ว กำลังจะประกาศใช้ เป็นเกณฑ์ที่ระบุถึงสิ่งที่ครูแนะแนวจะต้องทำ การวัดผลงานแนะแนวจากนักเรียน ซึ่งจะมีการประเมินภายในจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาด้วย โดยเกณฑ์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คาดว่าไม่เกิน ปีการศึกษา 2555 จะออกบังคับใช้ได้

เมื่อมีการบังคับใช้กฎเกณฑ์ก็จะช่วยลดความสูญเสียทรัพยากรมนุษย์และด้านเศรษฐกิจที่ต้องลงทุนเพื่อให้ได้คนที่มีประสิทธิภาพ กล่าวได้อย่างหนึ่งว่า ถ้ามีครูแนะแนวจะช่วยให้นักเรียนได้เลือกเรียนในสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง ต่อเนื่องไปถึงการประกอบอาชีพอย่างมีความสุข ทำให้ประเทศได้บุคลากรคุณภาพออกมาขับเคลื่อนสังคม

credit :  prachachat news



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 28 มิถุนายน 2559 4:59:51 น. 0 comments
Counter : 4620 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.