[REVIEW] สบู่ 5 แบรนด์ในไทย รีวิวสบู่5 แบรนด์ในไทย
สวัสดีค่ะก่อนอื่นต้องขอเล่าที่มาที่ไปในการรีวิวครั้งนี้ก่อนนะค่ะ พอดีเอฟได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ลาว ด้วยความบังเอิญเอฟก็ไปเจอสบู่ยี่ห้อหนึ่งที่มีตัวหนังสือเขียนเป็นภาษาไทยซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นสินค้าที่มาจากไทยแน่เลย แต่สินค้าแบรนด์นี้เอฟเองยอมรับเลยว่าก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนตอนที่เดินผ่านหน้าร้านนี้ไปมาหลายรอบ ในใจก็คิดว่าจะซื้อดีไหมหรือจะแค่ลองถามแม่ค้าดูก่อนดีว่าสบู่ยี่ห้อนี้รับมาจากไหนใช่ที่ไทยรึป่าว เผื่อจะได้สอยเอาไปอวดเพื่อนๆที่ไทย แล้วก็มีเสียงแว้วๆมาว่า แม่ค้า :สบายดี สนใจสินค้าตัวไหนถามได้โดย - ส่วนตัวเรา ก็ยังงงกับคำว่าโดยอะไร (โดยแปลว่าค่ะหรือครับ) เอฟ: สบู่แบรนด์นี้นำเข้ามาจากไทยใช่ไหมค่ะ แม่ค้า: โดย สบู่หอยหากนี้ กำลังดัง แล้วกะขายดี ในหมู่สาวๆวัยรุ่นที่ลาวเอาเข้ามาขายได้บ่ถึงเดือน แต่เป็นกระแสแฮงมากโดย เอฟ: ราคาก้อนละเท่าไรค่ะ แม่ค้า: 30,000 กีบ โดย - (เราเลยหยิบโทรศัพท์มาคำนวณดูราคาอยู่ประมาณ 130 บาท ในใจเรายังคิดอยู่ว่า โอ้ยตั้ง 130 บาท คนลาวกล้าซื้อได้ไงแต่เมื่อเทียบกับราคากับข้าวที่ขายในลาว ราคาก็ไม่ต่างกันมาก 5555 ) เราเลยลองต่อราคาดู เอฟ: ลดราคาได้ไหมค่ะ อยากซื้อไปลองใช้ค่ะ แม่ค้า: บ่ได้แล้วกำไรน้อยโดย แล้วก็ยิ้มหวานๆให้เรา เอฟ: ด้วยความอยากรู้อยากลองของเราเลยจัดมาซะ 1 ก้อน
เมื่อกลับมาไทยเอฟก็ไม่รอช้าที่จะมารีวิวทดลองสบู่แบรนด์นี้ว่าแตกต่างจากแบรนด์ไทยทั่วไปอย่างไรทำไมถึงสามารถนำไปขายในตลาดลาวได้ ทั้งที่เราก็ไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้มาก่อนแถมดังในลาวด้วย เดี๋ยวเอฟจะเอาสบู่ 4 แบรนด์ดังที่ไทยมาลองเปรียบเทียบกันดูซึ่งคิดว่าเราคนไทยเกือบทุกคนรู้จักแน่นอน อิงอร & เบนเนท& โพรเทค & โอโม่ไวท์พลัส และ สบู่แอริน่า(ในลาว)ที่คิดว่าน้อยคนจะรู้จัก โดยการรีวิวจะประกอบไปด้วย 1.ราคา/2.ขนาด/3.แพ็คเก็จการบรรจุภัณฑ์/4.ความถนัดในการจับ/5.กลิ่น/6.ฟองแฟ๊บ/7.ฟองครีบ/8.การทำความสะอาด(เอฟจะใช้ดินสอเขียนคิ้วในการทดลองเพื่อดูการชะล้างสิ่งสกปรก)/9.ความกระจ่างใส/10.ความชุ่มชื้นของผิวหลังใช้/11.การระคายเคืองผิวหลังใช้ข้อมูลต่อไปนี้ที่กล่าวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ ^^ เริ่มต้นกันที่ 1.สบู่อิงอรน้ำนมข้าว ราคา 30 บาท 130 กรัม ราคาต่อหน่วย0.23บาท/กรัม แพ็คเก็จแบบประหยัดไม่เน้นการบรรจุภัณฑ์ แต่เน้นปริมาณและความคุ้มค่า ในราคา 30บาท แต่ให้มาถึง 130กรัม ถือว่าให้คุ้มเลยทีเดียวเรื่องราคาให้ไปเลย 5 คะแนนเต็ม แต่แพ็คเก็จให้อยู่ที่1คะแนนค่ะ แต่ก็ยังมีการสลักชื่อแบรนด์บนตัวสบู่เลยให้เพิ่มอีก 1คะแนนเป็น 2 คะแนนค่ะ ความถนัดในการจับสบู่มีลักษณะกลมมน จับถนัดมือมาก ให้ไปเลย 5 คะแนนเต็มค่ะ
มาที่เรื่องของกลิ่นบ้างค่ะ กลิ่น สบู่อิงอรจะมีกลิ่นหอมน้ำนมข้าวแบบอ่อนๆ ไม่ฉุนมาก ให้ที่ 3 คะแนน การให้ฟองแฟ็บอยู่ในระดับ 2 คะแนน การให้ฟองครีบให้ที่3คะแนน อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อถูแล้วจะเกิดฟองแบบนุ่มๆค่ะ การชำระล้างสิ่งสกปรกให้ 4คะแนนค่ะ ความกระจ่างใสให้ 3คะแนนค่ะ ความชุ่มชื้นของผิวให้ 3คะแนน การระคายเคืองผิวให้4คะแนน สรุปผล ข้อดีคือ - ราคาประหยัด - จับกระชับมือ - ชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดี ข้อด้อยคือ - แพ็คเก็จ - การให้ฟองแฟ็บน้อย - หลังใช้สบู่รุ้สึกผิวแห้งๆ ขาดความชุ่มชื้น
. มาต่อกันที่ 2.สบู่เบนเนทเอ็กซ์ตร้า ไวท์ ราคา 55 บาท 130 กรัม ราคาต่อหน่วย0.42บาท/กรัม ในเรื่องของ แพ็คเก็จสบู่เบนเนทถือว่าลงทุนเลยที่เดียว กล่องหนาแถมเคลือบสีเงินค่ะ ซองพลาสติกด้านในเป็นสีใสและมีสกรีนชื่อแบรนด์ที่ซองด้วยแต่ตัวสบู่ไม่มีการสลักชื่อแบรนด์ ถือว่าสบู่ที่พี่บุ๋มเป็นพรีเซ็นเตอร์ เขากล้าลงทุนจริงๆทั้งที่ส่วนตัวคิดว่า กล่องสบู่ไม่ได้ใช้ประโยนช์อะไร แต่ก็อย่างว่าละค่ะการที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ขายดี แพ็คเก็จต้องดูสวยงามไว้ก่อน ในเรื่องของแพ็คเก็จให้สบู่พี่ปุ๋มไปเลย4คะแนนค่ะ ส่วนในเรื่องความถนัดในการจับ สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ จับไม่ค่อยถนัดมือ ให้ที่ 3 คะแนน (เพราะส่วนตัวชอบสบู่แบบกลมมากกว่าจับแล้วไม่ค่อยหลุดมือค่ะ)
มาต่อกันที่เรื่องของกลิ่นบ้างค่ะ กลิ่น สบู่เบนเนทให้กลิ่นหอมสมุนไพรมาก คล้ายๆกลิ่นโสม แค่แกะซองพลาสติกออกมายังหอมเลย ให้ไปเลย5คะแนนเต็มค่ะ การให้ฟองแฟ็บเอาไปเลย5คะแนนค่ะอยู่ในระดับที่ดีมาก ถูแรงๆเกิดเป็นฟอง bubble ด้วยค่ะ การให้ฟองครีบให้ที่1คะแนน ฟองมีความละเอียดน้อยไปหน่อย การชำระล้างสิ่งสกปรกให้3คะแนนค่ะ เพราะยังเหลือคราบ ดินสอเขียนคิ้วบางส่วน ความกระจ่างใสให้4คะแนน หลังถูเสร็จผิวดูกระจ่างใสขึ้น ความชุ่มชื้นของผิวให้1คะแนนผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่ การระคายเคืองผิวให้3คะแนนถ้าถูแรงเกิน จะมีการอาการแสบนิดๆหลังใช้เสร็จ สรุปผล ข้อดีคือ - แพ็คเก็จดูน่าใช้ - ฟองแฟ็บมากถูแรงๆเกิดเป็นฟอง bubble ด้วยค่ะ - ความกระจ่างใสหลังถูเสร็จผิวดูกระจ่างใสขึ้น ข้อด้อยคือ - ผิวขาดความชุ่มชื้นรู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่ - การชำระล้างสิ่งสกปรกยังน้อยเพราะยังเหลือคราบ ดินสอเขียนคิ้วบางส่วน - สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆจับไม่ค่อยถนัดมือ
.
ต่อไปเป็น 3.สบู่โพรเทคมะขาม ขมิ้น ทานาคา ราคา 48 บาท 130 กรัม ราคาต่อหน่วย0.37บาท/กรัม มาดูแพ็คเก็จกันค่ะ แพ็คเก็จเป็นกล่องพลาสติกแบบใสเห็นเนื้อสบู่ด้านในได้ชัดเจนว่าเป็นรูปทรงไหนและสีอะไร คิดว่าเป็นตั้งใจของแบรนด์โพรเทคเพื่อที่จะสื่อให้เห็นภาพลักษณ์ด้านในของสบู่ แต่ก็ทำให้นึกถึงสบู่แบรนด์หนึ่งที่ชื่อก๊กเลี้ยง ที่มีลักษณะกล่องที่คล้ายๆกัน มาต่อกันที่ซองพลาสติกด้านในค่ะ จะเป็นซองสีใสมีสกรีนชื่อแบรนด์แต่ตัวสบู่ไม่มีการสลักชื่อแบรนด์ไว้ค่ะ ในราคา 48 บาท แล้วให้สบู่มาถึงขนาด 130 กรัม ถือว่าให้คุ้มเลยทีเดียวเช่นกันแพ็คเก็จให้ที่ 3 คะแนนนะค่ะ ส่วนในเรื่อง ความถนัดในการจับสบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ จับไม่ค่อยถนัดมือ แต่ก็เป็นเหลี่ยมน้อยกว่า สบู่เบนเนท เลยให้ที่4 คะแนน ส่วนกลิ่นยังไม่ทิ้งความเป็น Protex ยังมีกลิ่นเหมือนสบู่ Protexทั่วไป อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการคงความเป็นเอกลักษณ์ของเขาไว้ถึงแม้จะไม่สัญลักษณ์บอกที่ตัวก้อนว่าเป็นสบู่ Protex แต่ก็ยังมีกลิ่นติดไว้ไม่ว่าใครที่ใช้สบู่ก้อนนี้ ก็สามารถรู้ได้เลยว่าเป็น Protex ถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์นี้จริงๆเรื่องกลิ่นหอมให้ไป 3 คะแนนแต่บวกกับความเป็นเอกลักษณ์ให้อีก 1 คะแนน รวมเป็น 1 คะแนน ยอมให้ 4 แต้มเพราะมีความเป็นเอกลักษณ์เรื่องกลิ่นเลยค่ะ การให้ฟองแฟ็บเอาไปเลย4 คะแนนค่ะ อยู่ในระดับที่ดีมาก การให้ฟองครีบให้ที่2 คะแนน ฟองมีความละเอียดน้อยไปหน่อย การชำระล้างสิ่งสกปรกให้ 5 คะแนนค่ะ บอกเลยว่า เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆการการชำระล้างสิ่งสกปรกดีเยี่ยม แค่ถูนิดเดียวคราบดินสอเขียนคิ้วออกหมดเลย ความกระจ่างใสให้3คะแนน ความกระจางใส อยู่ในระดับปานกลาง มองเห็นได้ไม่ชัดเจน ความชุ่มชื้นของผิวให้1 คะแนน ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่ การระคายเคืองผิวให้3 แต้ม ถ้าถูแรงเกิน จะมีการอาการแสบนิดๆหลังใช้เสร็จ สรุปผล ข้อดีคือ - ราคาประหยัด - ชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดีมาก - ฟองแฟ็บมาก อยู่ในระดับที่ดีมาก - กลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ ข้อด้อยคือ - แพ็คเก็จใช้พลาสติกเยอะไป เป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ - ผิวขาดความชุ่มชื้นรู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่ - เนื้อฟองสบู่ไม่ค่อยละเอียด
มาถึงรีวิวที่4กันแล้วนะค่ะ 4.สบู่โอโม่ไวทพลัส ราคา 159 บาท 100 กรัม ราคาต่อหน่วย1.59บาท/กรัม
แพ็คเก็จ กล่องบางกว่าสบู่ของพี่บุ๋มมีการเล่นสีบนกล่องเป็นสายรุ้ง ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของสบู่แบรนด์โอโม่พลัส ซองด้านในเป็นพลาสติกสีใสมีสกรีนชื่อแบรนด์ด้วยตัวสบู่มีการสลักชื่อ ถือว่าลงทุนเช่นกันลดความหนากระดาษกล่อง แต่มาเพิ่มพิมพ์ชื่อบนสบู่แทนงานนี้ต่างคนต่างงัดไม้เด็ดมาแข่งกัน ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วละค่ะว่า จะชอบสไตล์ไหน ราคาสบู่โอโม่พลัสอยู่ที่159 บาทในขนาด 100 กรัม ถือว่าแพงเลยทีเดียวแต่เมื่อเทียบกับสบู่ที่ขายในตลาดออนไลน์ราคาก็ไม่ต่างกันมากถือว่าถูกกว่าบางแบรนด์ สำหรับแพ็คเก็จเราให้อยู่ที่4 คะแนนค่ะ สบู่มีลักษณะก้อนกลมจับถนัดมือดี ให้ไป 5 คะแนนค่ะ
มาต่อกันที่เรื่องของกลิ่นบ้างนะค่ะ กลิ่น สบู่โอโม่พลัสมีกลิ่นเป็น ฟรุ๊ตตี้ หอมกลิ่นผลไม้ ความหอมให้ 4 คะแนน ฟองแฟ็บให้ 5 แต้ม อยู่ในระดับที่ดีมาก แต่สีของฟองมี สีฟ้าเหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวแฟนตาซี แต่สำหรับคนรักสุขภาพก็อาจจะหวั่นๆนิดว่าทำไมมีสีจริงๆแล้วคงเป็นเพราะแบรนด์นี้ต้องการให้ฟองสบู่ออกมาเป็นสีฟ้า อาจเพราะต้องการสื่อถึงความเป็นฟรุ๊ตตี้ก็คงเหมือนสบู่ชาโคลที่มีฟองเป็นสีดำค่ะ การให้ฟองครีบให้ที่1 คะแนน มีความละเอียดของฟองน้อย การชำระล้างสิ่งสกปรกให้ 4แต้ม สามารถชำระล้างได้ดี ความกระจ่างใสให้4 คะแนน หลังถูเสร็จผิวดูกระจ่างใสขึ้น ความชุ่มชื้นของผิวให้1 คะแนน ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่ การระคายเคืองผิวให้3 คะแนน ถ้าถูแรงเกิน จะมีการอาการแสบนิดๆหลังใช้เสร็จ สรุปผล ข้อดีคือ -สบู่มีลักษณะก้อนกลม จับถนัดมือดี - ฟองแฟ็บมากถ้าถูแรงๆเกิดเป็นฟอง bubble - การชำระล้างสิ่งสกปรกให้ 4 แต้ม สามารถชำระล้างได้ดี ข้อด้อยคือ - ผิวขาดความชุ่มชื้นรู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่ - ราคาค่อนข้างสูง - เนื้อฟองสบู่ไม่ค่อยละเอียด
.
ถึงคิวสบู่ที่เราไปสอยมาจากเวียงจันทร์แล้วค่ะ 5.สบู่แอริน่ากลูต้าสเนล สูตรยืดได้ ราคา 130 บาท 100 กรัม(ในไทยแค่ 100บาทค่ะ) ราคาต่อหน่วย1 บาท/กรัม ราคาสบู่อยู่ที่30,000กีบ หรือ 130 บาทในลาวค่ะ แต่ในไทย 100บาท คิดที่ราคาในไทยแล้วกันค่ะ 30 บาทถือเป็นค่าวิชาของคนรีวิวแล้วกันค่ะ555 ขนาดก้อน 100กรัม ถือว่าพอสู้ไหวราคาไหว ไม่แพงมาก หยิบง่ายจ่ายคล่อง มาดูแพ็คเก็จของแบรนด์นี้กันต่อค่ะ แพ็คเก็จถือว่าลงทุนเลยที่เดียว กล่องหนา ซองพลาสติกด้านในเป็นสีขาวขุ่น เคลือบสองชั้นดูมีเกรดขึ้นมาเลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีการสกรีนที่ซองพลาสติกและที่ตัวสบู่ แต่ทีเด็ดของแบรนด์นี้คือมีการใส่ใบโบรชัวร์มาให้ในกล่องด้วย อธิบายถึงสรรพคุณและสารสกัดต่างๆที่ใส่ไปถือว่ากล้าลงทุนมากสำหรับแบรนด์นี้ คืออย่างที่บอกค่ะ ทั้งที่กล่องไม่ได้ใช่ประโยนช์อะไรแต่การที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ขายดี แพ็คเก็จต้องสวยและดูดีก่อน ลองอ่านในใบโบรชัวร์ก็จะมีช่องทางการติดต่อหลายๆช่องทางถือว่าเป็นการตลาดอีกชนิดหนึ่งที่จะดึงดูดลูกค้าของแบรนด์นี้เลยทีเดียว แพ็คเก็จเราให้5คะแนนเต็มเลยค่ะ ถือว่ากล้าลงทุนมาก แค่ดูกล่องก็น่าใช้แล้วค่ะทำให้นึกถึงโฟมล้างหน้าแบรนด์ระดับโลกอย่าง Chanel เลยค่ะ เพราะมีสีกล่องคล้ายๆกันแต่ไม่รู้คุณภาพจะเป็นยังไง มาดูกันต่อค่ะ สบู่มีลักษณะก้อนสี่เหลี่ยมจับไม่ค่อยถนัดมือ เราให้ที่ 2 คะแนนนะค่ะ
ส่วนกลิ่นต้องบอกว่าหอมกลิ่นน้ำนมข้าวมาก แค่แกะซองพลาสติกออกมายังหอมเลย ให้คะแนนที่ 5คะแนน ฟองแฟ็บให้ 1 คะแนน ฟองละเอียดมากไม่ค่อยมีฟองแฟ็บ ฟองครีบให้ 5 คะแนน ฟองมีลักษณะเป็นครีบยืดๆ ถูๆไปสักพักจะเกิดวีปครีมแล้วสามารถยืดได้ เหมือนที่ข้างกล่องเขียนไว้ค่ะ การชำระล้างสิ่งสกปรกให้ 5แต้ม สามารถชำระล้างได้ดี เพราะฟองละเอียดมาก ความกระจ่างใสให้3แต้ม ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างมากนัก ในครั้งแรกที่ใช้ ความชุ่มชื้นของผิวให้5แต้ม ทั้งที่ล้างสบู่แต่กับเหมือนล้างโฟมล้างหน้าล้างเสร็จผิวยังชุ่มชื้นค่ะ การระคายเคืองผิวให้4 แต้ม ถ้าถูแรงๆเกิน ก็เกิดการอาการแสบนิดๆหลังใช้เสร็จเหมือนกัน สรุปผล ข้อดีคือ - แพ็คเก็จดูน่าใช้ ดูเหมาะสมกับราคา - กลิ่นหอมน้ำนมข้าวมาก - ฟองละเอียดมากคล้ายๆวิปครีมสามารถดึงสิ่งสกปรกได้ดี - หลังใช้ผิวมีความชุ่มชื้นมากทั้งที่ล้างสบู่แต่กับเหมือนล้างโฟมล้างหน้า
ข้อด้อยคือ - สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆจับไม่ค่อยถนัดมือ - ฟองแฟ็บน้อยเกินไป - สบู่มีลักษณะยืดๆซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ส่วนตัวเราชอบค่ะ เพราะถูแล้วทำให้ผิวเราชุ่มชื้นค่ะ
หลังจากที่รีวิวก็คิดในใจว่าทำไมสินค้าบางอย่าง กับขายดีในต่างประเทศ อาจเป็นเพราะสินค้าทุกอย่างที่จะนำออกไปขายก็ต้องทำให้ดีทุสุด เพราะถือเป็นหน้าเป็นหน้าของคนไทย ฟังแล้วรู้สึกภาคภูมิใจแทนคนไทยใช่ไหมค่ะ แต่ถ้าคิดกลับกัน เราจะรู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ผลไม้ไทยเกรดดีๆคนไทยไม่ได้กิน เพราะส่งออกไปขายต่างประเทศ ข้าวดีๆเกรดพรีเมี่ยมคนไทยไม่ได้กิน เพราะส่งออกไปขายต่างประเทศ อาหารทะเลเกรดพรีเมี่ยมคนไทยไม่ได้กิน เพราะส่งออกไปขายต่างประเทศ สินค้าเกรดพรีเมี่ยมหลายๆแบรนด์ฝีมือคนไทยแต่คนไทยไม่ได้ใช้ เพราะส่งออกไปขายต่างประเทศ คิดแล้วก็น่าน้อยใจนะค่ะนอกเรื่องไปไกลแล้วค่ะ 555 เดี๋ยวเรามาสรุปคะแนนกันต่อดีกว่าค่ะว่าแบรนด์ไหนที่คือ 1 ในใจเราวันนี้ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ)
คะแนนเต็ม 5 จากความคิดเห็นส่วนตัวคะแนนรวมทั้งหมด 50 คะแนน สบู่ที่ได้คะแนนเต็มแต่ละหัวข้อ 1.เรื่องราคาต้องยกให้ทั้ง 3 แบรนด์นี้ àสบู่อิงอร, สบู่เบนเนท, สบู่โพรเทค 2.เรื่องแพ็คเก็จต้องยกให้ à สบู่แอริน่า 3.เรื่องความถนัดในการจับต้องยกให้ à สบู่อิงอร, สบู่โอโม่ไวท์พลัส 4.เรื่องกลิ่นต้องยกให้ à สบู่เบนเนท,สบู่แอริน่า 5.เรื่องฟองแฟ็บต้องยกให้ à สบู่เบนเนท, สบู่โอโม่ไวท์พลัส 6.เรื่องฟองครีบต้องยกให้ à สบู่แอริน่า 7.เรื่องการทำความสะอาดต้องยกให้ à สบู่โพรเทค, สบู่แอริน่า 8.เรื่องผิวกระจ่างใส่มี 2 แบรนด์ที่ใกล้ 5 คะแนนมากที่สุดคือ à สบู่เบนเนท, สบู่โอโม่ไวท์พลัส 9.เรื่องความชุ่มชื้นผิวต้องยกให้ à สบู่แอริน่า 10.เรื่องการระคายเคืองผิวน้อยที่สุดต้องยกให้ à สบู่อิงอร, สบู่แอริน่า
เมื่อสรุปผลแล้วก็จะเห็นความแตกต่างของแต่ละแบรนด์ค่ะ แต่ละแบรนด์มีทั้งข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป ซึ่ง 10 ข้อหัวที่เรายกมารีวิวนี้ไม่สามารถตัดสินได้ว่าสบู่ไหนดีที่สุดขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าชอบเอกลักษณ์ด้านไหนของแต่แบรนด์ บอกก่อนเลยว่าการรีวิวครั้งนี้ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ บ๊ายๆค่ะ ไว้เจอกันรีวิวถัดไปคอยดูกันว่า เอฟจะหยิบสินค้าไหนมารีวิวกันค่ะ |
สมาชิกหมายเลข 3396350
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Group Blog All Blog
| |||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |