BlogGang.com : : scimovie : นิสสัน ทีด้า โฉมใหม่ ขยายร่างลุยตลาดคอมแพกต์

นิสสัน ทีด้า โฉมใหม่ ขยายร่างลุยตลาดคอมแพกต์

นิสสัน ทีด้า โฉมใหม่ ขยายร่างลุยตลาดคอมแพกต์

สำหรับแฟนๆ ของนิสสัน ในตอนนี้เตรียมเงินกันให้พร้อม เพราะว่าโฉมใหม่ของทีด้ากำลังจะมาแล้ว และก็อย่าแปลกใจเช่นกันถ้าได้เห็นทีด้าคันจริงสำหรับขายในตลาดแล้ว คิดว่านี่มัน LEAF ไม่ใช่หรือ เพราะว่าทีมออกแบบของนิสสันนำส่วนเว้นส่วนโค้งของรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมรุ่นนี้มาเป็นร่างต้นแบบในการสร้างสรรค์ แต่ไม่ใช่รถยนต์คันเดียวกันอย่างแน่นอน

ทีด้าเป็นเนมเพลทใหม่ที่นิสสันนำมาเปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 เพื่อเข้ามาแทนที่ซันนี่ซึ่งถูกปลดออกจากตลาดหลังจากสิ้นยุครหัสตัวถัง B15 ซึ่งในบ้านเราไม่มีเข้ามาขาย (เพราะหันไปนำอัลมีราในยุโรปมาขายแทนในชื่อซันนี่ นีโอ และซันนี่ อัลมีรา) โดยทีด้าที่เปิดตัวในตอนนั้นมี 2 ตัวถัง คือ แฮทช์แบ็ก 5 ประตู และซีดาน 4 ประตูที่มากับชื่อลาติโอ (Latio)

แม้จะเป็นชื่อใหม่ แต่ดูเหมือนว่าทีด้าจะค่อนข้างมีปัญหาในการประกบกับคู่แข่งในตลาดเวลาที่จะต้องเจอกันในตลาดนอกญี่ปุ่นที่โมเดลรถยนต์ของนิสสันไม่หลากหลายมากนัก เพราะด้วยตัวถังที่เน้นความกะทัดรัดตามสไตล์ซันนี่ แถมเครื่องยนต์ยังมีให้เลือกแค่ 1600 และ 1800 ซีซี ทำให้ไม่สามารถประชันกับคู่แข่งได้

เนื่องจากในยุคปลายทศวรรษที่ 1990 บรรดาคอมแพ็กต์คาร์สัญชาติญี่ปุ่นที่ในอดีตเคยเป็นคู่ปรับโดยตรงของซันนี่ต่างขยับตัวถังหนีขึ้นไป เพื่อเน้นการขายในตลาดนอกญี่ปุ่นเป็นหลัก ด้วยมิติที่ใหญ่ขึ้น และมีทางเลือของเครื่องยนต์ครอบคลุมถึง 2000 ซีซี

จึงไม่น่าแปลกใจที่ในญี่ปุ่นหน้าที่ในการประกบกับฮอนด้า ซีวิค, มิตซูบิชิ กาแลนท์ ฟอร์ติส (หรือแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ในบ้านเรา), มาสด้า 3 และซูบารุ อิมเพรซา จะตกเป็นงานของบลูเบิร์ด ซิลฟี ขณะที่ทีด้ายังจำกัดวงอยู่กับตลาดเดิมและเป็นคู่แข่งของโตโยต้า โคโรลล่า JDM ที่ยังไม่ได้อัปสเกลของหน้าตาและตัวถังเหมือนกับเวอร์ชันตลาดโลก

นอกจากนั้น นิสสันยังส่งทีด้าไปขายในตลาดอเมริกาเหนือด้วย โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อเวอร์ซา ก็ทำตลาดในระดับที่ต่ำกว่าคอมแพกต์ เพราะหน้าที่ของตลาดกลุ่มนี้ในตลาดแห่งนี้เป็นงานของรถยนต์ตระกูลเซนทรา อีกทั้งในโมเดลใหม่ที่มีการเปลี่ยนโฉมนี้ มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเวอร์ซาด้วย

เพราะคันจริงของเวอร์ซาใหม่ที่ถูกเปิดตัวออกมาในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา มากับตัวถัง 4 ประตู และเป็นคันเดียวกับซันนี่ใหม่ ซึ่งนิสสันปัดฝุ่นนำชื่อนี้กลับมาใช้อีกครั้งในตลาด และเผยโฉมคันจำหน่ายจริงไปในงานกวางเจา มอเตอร์โชว์ เมื่อปลายปี 2010 และแสดงตัวทำตลาดคลาสคอมแพกต์อย่างชัดเจนด้วยเครื่องยนต์ 1500 ซีซี ส่วนเวอร์ซาใหม่ในเมืองลุงแซมจะขยับใช้เครื่องยนต์ 1600 ซีซีรุ่นใหม่

ถ้ามองกันตามนี้ มีความเป็นไปได้ว่า ทีด้าใหม่จะมีความเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งทางการตลาด (หรือเปล่า?) เพราะงานซับคอมแพกต์จะเป็นหน้าที่ของซันนี่ใหม่ซึ่งถูกพัฒนาบนพื้นตัวถัง V Platform เหมือนกับมาร์ช ขณะที่ทีด้าจะถูกอัปตลาดขึ้นไปสู่การรุกในกลุ่มคอมแพกต์พันธุ์แท้จริงๆ เสียที

ตรงนี้มีความเป็นไปได้ เพราะว่าเมื่อนำภาพของซันนี่ใหม่กับทีด้าใหม่มาเปรียบเทียบ หน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอก แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัจจัยที่บ่งบอกว่าเป็นรถยนต์คนละคัน 100% มากเท่ากับฟอร์มโดยรวมของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นแนวเส้นประตู และเสาหลังคาด้านหน้า หรือ A-Pillar อีกทั้งแผงมาตรวัด และแผงหน้าปัดในห้องโดยสารก็เป็นคนละดีไซน์

นอกจากนั้น ในเอกสารข่าวของนิสสันยังระบุว่า ทีด้าใหม่จะมากับขนาดที่ใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับระยะฐานล้อที่ถูกขยายอีก 100 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่าระยะฐานล้อของทีด้าใหม่จะมีตัวเลขอยู่ที่ 2,700 มิลลิเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับรถยนต์คอมแพกต์ทั่วไปที่มีอยู่ในตลาด

แต่ที่ติดใจก็คือ เครื่องยนต์ที่ทำตลาดจะเป็นรหัส HR16DE ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองทั้งความประหยัดและเรี่ยวแรงในการขับเคลื่อน ส่วนทางเลือกอื่นๆ ยังไม่ได้บอกกล่าว ยกเว้นในตลาดจีนเห็นว่าจะมีทีด้า เทอร์โบวางขายด้วย ซึ่งถ้ามองตามเทรนด์ตลาดแล้ว ก็น่าจะเอาเครื่องยนต์ 1,600 ซีซีมาเบ่งกล้ามเพิ่มม้าแบบไม่ต้องเพิ่มซีซีตายตัวเหมือนเครื่องยนต์ความจุเยอะ ส่วนหน้าที่ในการส่งกำลังเป็นงานของเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT

ก็ต้องดูกันต่อไปว่างานนี้จะเป็นแค่การเบ่งตัวถัง แต่ไม่เบ่งกล้ามตามด้วยหรือเปล่า

การเปิตดัวของทีด้าใหม่มีขึ้นในงานออโต้ เซี่ยงไฮ้ เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา และจะขายในจีนเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะประกอบที่โรงงานในเมืองกวางโจของ Dongfeng Nissan Haudu ซึ่งในจีน ทีด้ารุ่นที่แล้วได้รับการตอบรับที่ดี กวาดลูกค้าไปได้ 85,000 คันนับจากเริ่มขายในปี 2005

ขณะที่ตลาดอีก 165 ประเทศ รวมถึงบ้านเราก็ต้องรอดูกันต่อไป เพราะกำหนดการเปิดตัวเพื่อขายในตลาดประเทศเหล่านี้มีคิวยาวเหยียดจนถึงปี 2014 โน่น ซึ่งบ้านเราไม่น่าจะรอกันนานถึงขนาดนั้น ปีหน้าก็น่าจะได้เห็นกันแล้ว

ที่มา
//www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000051233

Create Date : 28 เมษายน 2554

Last Update : 28 เมษายน 2554 13:06:03 น.

0 comments

Counter : 759 Pageviews.