ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
ซาลานุม มะเขือที่ใช้กินใบ



//variety.teenee.com/foodforbrain/img3/125391.jpg


มะเขือกินใบมีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า ซาลานุม ( Sa-lanum) เป็นพืชกลุ่มเดียวกับพริก มันฝรั่ง และมะเขือเทศ ซึ่งอยู่ในวงศ์ solanaceae พบทางภาคใต้ของประเทศไทย จัดเป็นพืชล้มลุก อายุข้ามปี ลำต้นเดี่ยว แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรอบกิ่งก้าน มีขนาดใหญ่ ใบมันและไม่มีขน ส่วนดอกเหมือนกับมะเขือทั่วไป

วิธีการปลูก นำเมล็ดที่ได้ไปเพาะ โดยผลแก่ 1 ผล จะมีเมล็ดมากกว่า 100 เมล็ด กรณีปลูกในกระถางให้เริ่มปลูกจากกระถางเล็กก่อน จากนั้น เปลี่ยนกระถางให้ใหญ่ขึ้นตามขนาดต้น

ดินปลูก ควรผสมปุ๋ยมักจากเศษพืชหรือฟางข้าวเป็นหลัก ใส่ดินในกระถาง ไม่ควรพูนเต็มกระถาง มะเขือกินใบชอบที่ร่มรำไร หากปลูกในกระถาง ควรมีหลังคาตาข่างพรางแสงหรือซาแรน จะปลูกตามโคนต้นไม้ในบ้านหรือสวนก็ได้

มะเขือกินใบ อายุประมาณ 2 เดือน จะเริ่มออกดอก ควรเด็ดยอดเมื่ออายุได้เดือนครึ่ง เพื่อให้แตกยอดใหม่หรือเด็ดดอกทิ้งก่อน เพราะวัตถุประสงค์ต้องการกินใบหรือยอด หรือหากต้องการขยายพันธุ์สามารถทิ้งให้เกิดดอกและผลได้

การปรุงอาหาร เด็ดจากใบล่างขึ้นบน นำมาปรุงแทนผักได้ แต่ต้องทำให้สุกก่อน รสชาติอร่อย ก้านอ่อนนุ่ม กินได้ตั้งแต่ใบอ่อนถึงใบแก่ ยกเว้นแก่จนมีใบเหลือง


นายการุณย์ มะโนใจ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา เล่าให้ฟังถึงพืชสวนครัวต้นนี้ว่า เริ่มต้นได้เมล็ดพันธุ์มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี นำมาปลูกที่จังหวัดพะเยา จนได้เมล็ดพันธุ์จำนวนหนึ่ง และได้แจกจ่ายให้กับผู้อ่านนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านไป 300-400 ราย ที่เขียนจดหมายมาขอทางไปรษณีย์


และขณะนี้ ก็รวบรวมได้อีกจำนวนหนึ่งแล้ว กำลังประสานงานกับทีมงานเพื่อนำไปจำหน่ายที่งาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี เทคโนโลยีชาวบ้าน 2012” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค กรุงเทพมหานคร


นายการุณย์ บอกอีกว่า เคยนำใบจากมะเขือต้นนี้ ไปผัดไฟแดง ผัดน้ำมันหอย ผัดหมูกรอบ กินได้เหมือนผักทั่วไป แต่บางคนทดลองกินดิบเป็นผักสด รสชาติจะออกขมๆ ดังนั้น จึงแนะนำว่า กินสุกดีกว่า



หนังสือพิมพ์มติชน

ที่มา
//variety.teenee.com/foodforbrain/42473.html


Create Date : 28 มกราคม 2555
Last Update : 28 มกราคม 2555 22:16:02 น. 0 comments
Counter : 1301 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.