BlogGang.com : : scimovie : ชี้ช่องทาง....สปาไทย เจาะลึก 3 ตลาดอนาคตไกล

ชี้ช่องทาง....สปาไทย เจาะลึก 3 ตลาดอนาคตไกล

ชี้ช่องทาง....สปาไทย เจาะลึก 3 ตลาดอนาคตไกล

แม้ว่าสปาจะเป็นธุรกิจประเภทสุขภาพและความงามที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน ขณะที่สปาไทยก็มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลกมากขึ้น แต่การเจาะตลาดต่างประเทศจะสำเร็จได้ต้องไปด้วยความพร้อมและกลยุทธ์ ล่าสุดสมาคมสปาไทยมองโอกาสธุรกิจ-เปิดเทคนิคการเจรจาใน 3 ประเทศใกล้บ้าน เพื่อผู้ประกอบการสปาไทย

การได้เดินทางไปเจาะตลาดใน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ อ่องกง และเวียดนาม ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ประกอบการสปาทั้ง 45 ราย ซึ่งได้เข้าโครงการกิจกรรมย่อยสนับสนุนเงินทุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ Capacity Building Program ภายใต้โครงการดำเนินงานตามภารกิจพื้นฐานสำนักงานการขยายตลาดและสร้างเครือข่ายความร่วมมือภาคธุรกิจสปาโดยสมาคมสปาไทย โครงการดังกล่าวยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการสปาไทยโดยรวมที่มองหาและมีความต้องการที่จะมุ่งสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ 3 ตลาดดังกล่าว เพราะทำให้ได้รู้ลึกถึงข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจและเทคนิคการเจรจาเพื่อให้ผู้ประกอบการสปามีความพร้อมมากขึ้น

ภัททิราพร เขียวสนั่น ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ สมาคมสปาไทย กล่าวว่า เนื่องจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ผู้สนับสนุนโครงการ ต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการให้ขยายธุรกิจไปในตลาดอาเซียนได้มากขึ้น ตามทิศทางของประเทศไทยที่จะเข้าสู่การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปีพ.ศ.2558 ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน ทางสมาคมฯ จึงเลือกประเทศที่น่าสนใจในการเข้าไปเจาะตลาดโดยเลือกจากโอกาสทางธุรกิจและความเป็นไปได้ของตลาด ขณะที่ คัดเลือกผู้ประกอบการสปาไทยที่มีคุณภาพและความพร้อม ทั้งประเภทที่เพิ่งจะเริ่มต้นออกสู่ตลาดต่างประเทศกับประเภทที่เคยออกไปรุกตลาดมาแล้ว โดยให้การสนับสนุนประเทศละ 15 รายๆละ 1ประเทศ

สำหรับโอกาสของธุรกิจสปาในประเทศสิงคโปร์ นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจของต่างชาติ ในปัจจุบัน ยังมีสภาวะเศรษฐกิจที่ดี มีการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมทั้งรีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ จึงเป็นโอกาสของสปาที่จะขยายตัวตามไปได้ด้วย แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ด้วยผู้คนโดยส่วนมากมักจะเคร่งเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตในประจำวัน ทำให้ชื่นชอบในเรื่องของสปา ซึ่งสปากลิ่นไทยๆ ก็เป็นที่ถูกใจของคนที่นั่น นอกจากนี้ ชื่อเสียงของสปาไทยที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ก็ทำให้สปาทั้งประเภท Destination Spa, Medical Spa และ Original Spa Thai ก็มีโอกาสที่ดีด้วย รวมทั้ง การมีสปาไทยที่มีคุณภาพอย่าง HARNN และTHANN ไปเปิดร้านก็ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของสปาไทยอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ตลาดในสิงคโปร์ต้องเน้นในเรื่องของ “คุณภาพ” เป็นหลัก สินค้าที่มีโอกาสจึงอยู่ในระดับกลางและบน แม้ว่าคนสิงคโปร์จะมีไลฟ์สไตล์ที่เรียบง่าย ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ไม่ค่อยใช้ชีวิตกลางคืน แต่พฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ชอบในแบบ ”ใช้ง่าย-เห็นผลเร็ว” เช่น การใช้เครื่องมือแทนการนวดด้วยมือเพื่อช่วยให้ไม่ต้องใช้เวลานาน นอกจากนี้ ยังชอบ“กลิ่นอ่อน” ไม่ฉุน โดย”ความเป็นธรรมชาติ” โดยเฉพาะสมุนไพรยังได้รับความนิยมอย่างดี เช่น ลูกประคบที่ออกแบบให้ใช้ได้ง่ายขึ้นโดยการสามารถทำให้ร้อนด้วยไมโครเวฟแทนการนึ่งแบบเดิม แต่การมีใบรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้และผลการวิจัยรองรับยังเป็นจุดขายสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเม็ดลำไย ซึ่งเป็นวัตถุดิบใหม่ที่พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถชะลอริ้วรอยและกระชับผิว เป็นต้น

ในด้านการแข่งขัน สำหรับสินค้าในระดับพรีเมียมจะต้องแข่งขันกับสินค้าจากยุโรปและอเมริกา แต่อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่เปิดรับและมองไทยเป็นทางเลือกใหม่ ให้การตอบรับความเป็นเอเชียมากขึ้น ทั้งนี้ ด้วยความคุ้นเคยและมีความรู้อย่างมากเกี่ยวกับสินค้าสปา ทำให้ผู้ประกอบการต้องเตรียมข้อมูลอย่างดีเพื่อสามารถตอบคำถามได้อย่างละเอียดลงลึก ประกอบกับการชอบความรวดเร็ว ดังนั้น ในการติดต่อและเจรจากันจึงต้องทำอย่างรวดเร็วและชัดเจน

๐ฮ่องกง แนะโฟกัส“ความเป็นธรรมชาติ”

ส่วนฮ่องกงเนื่องจากตลาดมีความหลากหลายมาก ในส่วนของงานแฟร์เป็นงานระดับนานาชาติ ทำให้มีลูกค้าจากประเทศอื่นๆ เข้ามาอีกด้วย แม้ว่าการแข่งขันที่นี่จะสูง โอกาสก็มีมาก โอกาสธุรกิจในฮ่องกงนั้น ยังขยายไปถึงตลาดจีนอีกด้วย เนื่องจากมีลูกค้าจากจีนเข้ามามาก นอกเหนือจากลูกค้าฮ่องกง ดังนั้น เพื่อให้การเจาะตลาดเป็นไปอย่างได้ผลมากที่สุด โครงการฯ จึงเน้นเจาะตลาดที่มีจุดขายอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติเพื่อสร้างแรงดึงดูดให้มีความโดดเด่นในแบบ “โฟกัส” และมองว่าผู้ประกอบการสปาที่สนใจมุ่งสู่ตลาดนี้จะมีโอกาสอีกมาก

จากวิถีชีวิตของคนฮ่องกงที่ชอบความคึกคักและการใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน รวมทั้ง การช้อปปิ้ง และให้ความสำคัญในเรื่องของความสวยความงาม กับการดูแลสุขภาพร่างกาย ซึ่งปัจจุบันมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่รวมถึงผลิตภัณฑ์สปาถึง 8,000-9,000 ร้าน บ่งบอกถึงโอกาสที่มีมากได้ระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าเดิมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลูกเล่นใหม่ๆ เช่น แทนที่จะน้ำมันนวดแบบเดิมๆ ก็มีการนำมาทำเป็นเทียนเมื่อต้องการนวดจะใช้การจุดให้ละลายซึ่งเป็นการช่วยให้เกิดความร้อนได้อย่างรวดเร็วขึ้น หรือการพัฒนารองเท้าที่ให้ความอุ่นเป็นพิเศษ ซึ่งเหมาะกับการใช้ในเมืองหนาว หรือการทำให้สครับขัดผิวมีความสนุกสนานในการใช้มากขึ้น ด้วยการใส่ลูกเล่นเมื่อขัดผิวแล้วออกเป็นสีทองๆ หรือมาสก์หน้าที่ทำมาจากวุ้นมะพร้าวโดยมีใบรองรับว่ามีความปลอดภัยในระดับ food grade รวมทั้ง ความเป็นธรรมชาติที่ชูจุดขายว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ได้รับความสนใจมากเช่นกัน

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สปาที่ทำจากน้ำมันมะพร้าว ยังได้รับความสนใจมาก เช่น การใส่น้ำมันะพร้าวเข้าไปในลูกประคบ แทนที่จะใส่สมุนไพรต่างๆ แบบเดิม หรือกานำมาทำเป็นบาล์ม หรือการใช้กากมะพร้าวผสมกับน้ำมันมะพร้าวแทนเกลือเพื่อนำมาขัดผิว เป็นต้น

ในเรื่องของเทคนิคการเจรจานั้น นอกเหนือจากการที่ต้องเตรียมความพร้อมในด้านของข้อมูลและเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับสิงคโปร์แล้ว ภาษายังเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสปาไทยต้องให้ความสำคัญ แม้ว่าผู้ประกอบการหรือลูกค้าฮ่องกงจะพูดภาษาอังกฤษ แต่เนื่องจากยังมีอีกไม่น้อยที่ใช้้ภาษาจีนในการติดต่อสื่อสาร ดังนั้น การจัดเตรียมล่ามเพื่อช่วยเหลือในการเจรจา รวมทั้ง การมีบุคลากรที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้จะยิ่งช่วยให้โอกาสทางธุรกิจประสบผลสำเร็จมากขึ้น

๐ เวียดนาม เร่งช่วยวางมาตรฐาน
สำหรับเวียนนามนั้น ถือว่าเป็นตลาดใหม่ของผู้ประกอบการสปาไทย ตลาดเปิดกว้างทุกระดับตั้งแต่ระดับล่างจนถึงไฮเอนด์ เนื่องจากธุรกิจสปาในเวียดนามนั้นยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ขณะที่ คนเวียดนามสนใจในเรื่องความงามและสปามากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะชนชั้นกลางและคนที่ร่ำรวยจะมีนเท่านั้น แต่เป็นเพราะการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของเวียดนามอีกด้วย ทำให้โอกาสทางธุรกิจสปามีเพิ่มขึ้น

ในส่วนของการยอมรับนอกจากจะใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์สปาจากยุโรปและอเมริกา ยังมีส่วนที่สนใจผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นและเกาหลีด้วย เพราะมองว่าเป็นสินค้าจากเอเชียน่าจะใช้ได้เหมาะกว่า และให้ความสนใจสปาไทยเพราะมีชื่อเสียงไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม จากการที่ธุรกิจสปาของเวียดนามยังต้องพัฒนาอีกมาก เพราะยังไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้ง ไม่มีกฎหมายควบคุมดูแล ปัจจุบันจึงเป็นการเติบโตแบบไร้ทิศทาง แต่มองอีกด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีของผู้ประกอบการไทย ด้วยการเข้าไปร่วมบุกเบิก วางรากฐานที่ดี โดยการไปเปิดโรงเรียนและการเป็นที่ปรึกษา ในขณะที่อุปสรรคในการเจาะตลาดเวียดนามคือภาษา เพราะยังไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ รวมทั้ง ความสะดวกในการนำเข้าและการดำเนินการในเรื่องเอกสารยังมีกฎระเบียบ รายละเอียด และขั้นตอนยุ่งยาก ดังนั้น จึงมองว่าการหาตัวแทนจำหน่ายเพื่อเป็นตัวกลางในการติดต่อเจรจาและช่วยดำเนินการด้านเอกสารจะทำให้ได้ผลสำเร็จง่ายกว่า

ที่มา
//www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9530000166206

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 25 พฤศจิกายน 2553 12:38:03 น.

0 comments

Counter : 779 Pageviews.