ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
เนื้อปลา สารพัดคุณค่าชั้นยอดที่ร่างกายต้องการ



เนื้อปลา สารพัดคุณค่าชั้นยอดที่ร่างกายต้องการ

ปลา ถือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว เพราะในเนื้อปลาที่ทานเข้าไปนั้น นอกจากจะมีสารอาหารจำเป็นที่เสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกายแล้ว ยังช่วยให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง และเหมาะมาก ๆ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก นอกจากนี้แล้วยังมีประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ ซึ่งในวันนี้เราจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปิดเผยให้คุณได้ทราบกัน

1. ป้องกันโรคหัวใจ

ข้อมูลจากการศึกษาในหลายสถาบันนั้นพบว่าการทานเนื้อปลาทุกสัปดาห์สามารถป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลันด้วย และเป็นที่รู้กันดีกว่าน้ำมันปลาช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อนด้วย

2. ป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

ผลจากการศึกษาในประเทศสวีเดนเปิดเผยว่า เนื้อปลาส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารเซเลเนียม แร่ธาตุที่ช่วยต่อสู้กับเนื้อร้ายในร่างกายของคุณ เพราะฉะนั้นหมายความว่า ผู้ชายที่ทานเนื้อปลามีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าผู้ชายที่ไม่ทานเนื้อปลาหรือทานน้อยนั่นเอง และยิ่งทานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเท่านั้น หลังจากนี้อย่าลืมทานเนื้อปลากันเยอะ ๆ นะครับ


3. ลดความเครียด

นอกจากนี้ข้อมูลจากการศึกษาในประเทศสวีเดนยังพบอีกว่า กรดไขมันจำเป็นอย่าง โอเมก้า 3 ที่อยู่ในเนื้อปลานั้นยังช่วยลดระดับของสารเซโรโทนินในสมองของคนเราด้วย ซึ่งเท่ากับว่าหลังจากที่คุณทานปลาเข้าไปแล้ว ไม่เพียงแต่จะทำให้สมองของคุณปลอดโปร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้น อีกทั้งลดความเครียด และความกังวลลงไปด้วย

4. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

ความดันเลือดสูงคือหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากมีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์ประสาทในสมองถูกทำลาย ทั้งนี้คุณสามารถป้องกันอาการเหล่านั้นได้โดยการทานปลา เพราะในเนื้อปลานั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการ ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้นี่เองที่ช่วยกระตุ้นให้มีการส่งเลือดไปยังสมองมากขึ้น อีกทั้งสามารถป้องกันและลดอาการอัลไซเมอร์ได้เยอะเลยทีเดียว

5. ป้องกันโรคข้อต่ออักเสบ

กรดไขมันจำเป็นอย่าง โอเมก้า 3 ที่ประกอบอยู่ในเนื้อปลา โดยเฉพาะในเนื้อปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาเทราต์ และอื่น ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันการเกิดโรคข้อต่ออักเสบเท่านั้น แต่โอเมก้า 3 ยังช่วยลดอาการอักเสบในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย


6. คืนสภาพผิวใหม่

เนื้อปลานอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อระบบการทำงานภายในร่างกายแล้ว ยังทำให้ผิวภายนอกดูดีและชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแล้ว ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดรอยเหี่ยวย่น ซึ่งช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ลงไปอีกหลายปีเลยล่ะ

7. ป้องกันโรคหอบหืด

ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ควรให้พวกเขาทานปลาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนอกจากเนื้อปลาจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดในเด็กแล้ว เนื้อปลายังประกอบด้วยสารอาหารหลัก อย่างเช่น โปรตีน มีผลต่อการการเจริญเติบโตที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสมบูรณ์อีกด้วย

ฉะนั้นหากคุณต้องการจะทานอาหารที่ประกอบไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอื่น ๆ อย่างครบถ้วนในหนึ่งเดียวแล้วล่ะก็ ในอาหารแต่ละมื้ออย่าลืมเพิ่มเนื้อปลาเข้าไปด้วยนะครับ แค่อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอที่จะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะคนที่ต้องการไดเอต เพราะเนื้อปลาจะช่วยให้คุณมีรูปร่างดี และมีร่างกายที่แข็งแรงไปพร้อมกันด้วย


ที่มา
//men.kapook.com/view55023.html


Create Date : 25 มกราคม 2556
Last Update : 25 มกราคม 2556 7:37:53 น. 0 comments
Counter : 1209 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.