BlogGang.com : : scimovie : หอคอยที่สูงที่สุดในโลกคือที่ใด

หอคอยที่สูงที่สุดในโลกคือที่ใด

คำถาม :
หอคอยที่สูงที่สุดในโลกคือที่ใด

คำตอบ :
หอเอฟเฟล ประเทศฝรั่งเศส

หอเอฟเฟล

ฝรั่งเศสจัดงานเอ็กซ์โปนานาชาติ ในปี 1889 เพื่อฉลอง 100 ปีของการปฏิวัติฝรั่งเศส ในการนี้รัฐประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างถาวร จึงมอบหมายให้กุสตาฟ เอฟเฟล (Gustave Eiffel) เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ วิศวกรผู้นี้เคยมีผลงานนับร้อย ชิ้นที่ทำด้วยโลหะ ดังเช่นโครงสร้างภายในของอนุสาวรีย์เสรีภาพในกรุงนิวยอร์ก

หอเอฟเฟลที่สูง 324 เมตร หนัก 10,000 ตัน เริ่มสร้างในเดือนมกราคม 1887 และเสร็จในเดือนมีนาคม 1889 ใช้วิศวกร 50 คน และกรรมกร 221 คน ทั้งนี้มีเพียง 121 คนเท่านั้น ที่มีส่วนร่วมในการประกอบตัวหอ โดยใช้เหล็ก 18,038 ชิ้นและหมุด 2,500,000 ตัว เหล็กทั้งหมดหล่อที่โรงงานของกุสตาฟ เอฟเฟลเองในเลอวัลลัวส์-แปเรต์ (Levallois-Perret) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีสนัก

เมื่อสร้างเสร็จ หอเอฟเฟลได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาก อันที่จริงการต่อต้านหอสูงของกุสตาฟ เอฟเฟล เริ่มตั้งแต่ปี 1887 หนังสือพิมพ์เลอ ตองปส์ (Le Temps) พิมพ์บทความที่อาร์ติสต์และนักเขียนดังในยุคนั้นร่วมลงนาม เช่น นักแต่งเพลงอย่างชาร์ลส์ กูโนด์ (Charles Gounod) นักเขียนและกวีอย่างกี เดอ โมปาสซองต์ (Guy de Maupassant) อเล็กซองดร์ ดูมาส์ (Alexandre Dumas) ฟรองซัวส์ กอปเป (Fran"ois Coppee) เลอกงต์ เดอ ลิส์ล (Leconte de Lysle) ประณามความอัปลักษณ์ของหอเหล็กที่ดำทะมึนราวกับโรงงาน ยังให้ความงามของกรุงปารีสมีมลทิน ทว่าคนดังเหล่านี้ต่างคาดการณ์ผิด ด้วยว่าประชาชนต้อนรับอนุสาวรีย์ใหม่อย่างคับคั่ง เฉพาะระหว่างงานเอ็กซ์โปครั้งนั้น มีคนเข้าชมถึงสองล้านคน หลังจากนั้นหอเอฟเฟลกลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวในปี 1957 ลูกหลานของกุสตาฟ เอฟเฟลได้มอบรถแก่นักท่องเที่ยวคนที่ 35 ล้านที่ขึ้นไปชมหอ ต่อมาในปี 1983 บริษัทซีโตรเอ็น (Citroen) มอบรถแก่นักท่องเที่ยวคนที่ 100 ล้าน จนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2002 มีคนขึ้นไปชมหอเอฟเฟล 200 ล้านคน

หอเหล็กตั้งตระหง่านกลางกรุงที่เคยมีคนรังเกียจ กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสที่นักท่องเที่ยวทุกชาติมุ่งไป และเป็นอนุสาวรีย์หนึ่งในไม่กี่แห่งที่ทำรายได้สูง สวยสง่าด้วยภูมิสถาปัตย์ชั้นยอด ด้วยว่าไม่มีอาคารสูงที่มาเบียดบัง แถมเป็นอนุสาวรีย์ที่รัฐใช้งานมากที่สุดด้วย เช่นการฉลองวันชาติในวันที่ 14 กรกฎาคม จะมีการจุดดอกไม้ไฟที่นี่ การตามไฟนับถอยหลังวันที่ย่างสู่ศตวรรษใหม่ปี 2000 การติดไฟสีแดงเพื่อรับรองการมาเยือนของผู้นำจีนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปีจีนในฝรั่งเศสเป็นต้น

แต่แรกนั้น กรุงปารีสมอบที่ดินแก่กุสตาฟ เอฟเฟล เพื่อสร้างหอโดยวิศวกรผู้นี้เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และให้สิทธิในการแสวงหาประโยชน์จากหอนี้เป็นเวลา 10 ปี กุสตาฟ เอฟเฟล คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาชม 500,000 คน ปรากฏว่ามีนับล้านคน เขาจึงได้ทุนคืนในปีแรกที่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม กุสตาฟ เอฟเฟลถึงแก่กรรมในปี 1923 ทว่าทายาทของเขาไม่สนใจที่จะสานงานต่อ ประกอบกับขาดการทำนุบำรุง หอเอฟเฟลจึงทรุดโทรม เทศบาลกรุงปารีสเข้าบริหารหอเอฟเฟลในปี 1979 โดยผ่านบริษัท SAGI ซึ่งฌอง-โคล้ด โจแลง (Jean-Claude Jolain) เป็นประธาน อันว่าฌอง-โคล้ด โจแลงนั้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของศาลากลางกรุงปารีสสมัยฌาคส์ ชีรัก (Jaques Chirac) เป็นนายกเทศมนตรี อันว่า SAGI เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเทศบาลกรุงปารีสและเอกชนโดยที่รัฐถือหุ้นน้อยกว่า แตกหน่อบริษัทลูกชื่อ Societe nouvelle d'exploitation de la tour Eiffel (SNTE) ให้บริหารหอเอฟเฟล ผู้บริหารของ SNTE ล้วนเป็นคนใกล้ชิดของฌาคส์ ชีรัก เมื่อครั้งเป็นนายกเทศมนตรีกรุงปารีสทั้งสิ้น หอเอฟเฟลจึงได้รับการทำนุบำรุงขนานใหญ่ โดยลดน้ำหนักหอลง 1,000 ตัน ในปี 1980 นับแต่นั้นจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี

ในเดือนเมษายน 2002 แบร์นารด์ เดอลาโนเอ (Bernard Delanoe) นายกเทศมนตรีกรุงปารีสคนปัจจุบัน ซึ่งสังกัดพรรคสังคมนิยมได้รับรายงานของผู้ตรวจราชการ รายงานนั้นไม่ได้บ่งรายได้ของผู้บริหารของบริษัท แต่แจงถึงเบี้ยเลี้ยงและเงินชดเชยต่างๆ ที่บรรดาลูกจ้างและผู้บริหารได้รับ จำนวนเงินขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยว

อันว่าบริษัท SNTE ได้รับสัมปทานแสวงหาประโยชน์จากหอเอฟเฟลเป็นเวลา 25 ปี และสัญญาจะสิ้นสุดลงปลายปี 2005 ผู้บริหารกรุงปารีสชุดปัจจุบัน ไม่พึงประสงค์ต่อสัญญากับบริษัทนี้เพราะมีปัญหาขัดแย้งกันตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา จึงหมายที่จะตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนขึ้นใหม่เพื่อบริหารหอเอฟเฟล เป็นเหตุให้พนักงานจำนวน 260 คน กริ่งเกรงว่าผลประโยชน์ของตนจะได้รับผลกระทบกระเทือนจากการ "ปฏิรูป" การบริหาร จึงพากันผละงานเป็นเวลาสามวันในเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้

พนักงาน 260 คนของเทศบาลกรุงปารีสย่อมพอใจในสถานะของตนและรายได้ที่ได้รับ อีกทั้งยังถือไพ่เหนือกว่าผู้บริหาร ด้วยว่ามีไม้ตายคือการผละงาน ผู้บริหารที่ได้รับการเลือกตั้งมาจึงจำต้องดำเนินการอย่างนุ่มนวล ที่สุดหลังจากที่ฌอง-แบร์นารด์ บรอส (Jean-Bernard Bros) ผู้ช่วยนายกเทศมนตรีฝ่ายกิจการท่องเที่ยว ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานของบริษัท SNTE ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2001 ให้ความมั่นใจว่าสถานภาพของพนักงาน ไม่เปลี่ยนแปลงหลังการจัดระเบียบใหม่ พนักงานทั้งมวลเข้าใจได้โดยไม่ยากว่าเทศบาลต้องการปลดแอกจากบริษัท SAGI จึงกลับไปทำงานตามปกติ

ข้อมูลโดย สุภาพิมพ์ ธนะพรพันธุ์
//www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=27525
ภาพ
//movie.mthai.com/wp-content/uploads/2009/08/52_big.jpg

Create Date : 23 ตุลาคม 2552

Last Update : 23 ตุลาคม 2552 3:04:02 น.

0 comments

Counter : 1302 Pageviews.